ตอนที่ 8 เผชิญหน้ากับความตาย
ตอนที่ 8 เผชิญหน้ากับความตาย
นี่เป็นครั้งที่สามของ เกาจิ้ง ที่เข้าสู่โลกใบใหญ่
เพื่อสำรวจโลกมหัศจรรย์นี้ เขาลงทุนไปทั้งหมดเกือบ 30,000
ไม่มาก แต่มากกว่าเงินออมทั้งหมดของเขา
เป็นผลให้เขาไม่สามารถหาเงินกลับมาได้ในตอนนี้ และสูญเสียสินทรัพย์อุปกรณ์ไปครึ่งหนึ่งในพริบตา
แต่นั่นไม่ได้มีผลกระทบกับ โกคยอง (มุกตลกฝืดๆของจีน)
การสูญเสียที่ต้องมาบ่นพึมพำในการเปรียบเทียบคืออะไร?
ในเมื่อเขาพร้อมที่จะตายในโลกใบนี้
สิ่งสำคัญที่สุดคือภาพที่ส่งกลับมาโดย มาวิค2 ในนาทีสุดท้ายชี้ให้เห็นทิศทางในการตัดสินใจของ เกาจิ้ง
ด้านทิศตะวันตกและทิศใต้เป็นป่าดิบชื้นไร้ขอบเขต
ไปสองทางนี้ประมาณว่าชีวิตนี้ท่านคงออกไปจากป่าไม่ได้เป็นแน่แท้
ทางเหนือเป็นภูเขาสูงใหญ่ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นของท้องฟ้าสำหรับ เกาจิ้ง
ทางตะวันออกเท่านั้น เกาจิ้ง มองเห็นที่ราบขนาดใหญ่และแม่น้ำที่คดเคี้ยวเหมือนงู
อันที่จริงตำแหน่งปัจจุบันของเขาอยู่ที่บริเวณเขตชายป่าอยู่แล้ว
ความจริงแล้วเขาไม่ได้อยู่ในเขตป่าที่ลึกมาก
ดังนั้นการเสียสละของ มาวิค2 จึงคุ้มค่าอย่างยิ่ง
มิฉะนั้น หาก เกาจิ้ง ยังคงเดินไปในทิศทางเดิม เขาก็จะยิ่งลึกเข้าไปในป่าที่อันตรายมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อใส่รีโมตคอนโทรลกลับเข้าไปในกระเป๋าเป้ เขาไม่ได้มุ่งหน้าไปทางตะวันออกในทันที
เพราะฟ้าเริ่มมืดแล้ว และในป่าทึบเช่นนี้เพียงแค่หมดแสงของดวงตะวัน ป่าทั้งป่าก็คงจะมืดมิดจนมองอะไรไม่เห็น
มันไม่เป็นการสมควรเลยจริงๆที่อยากจะออกจากป่าก่อนมืด และ เกาจิ้ง ไม่มีความกล้าที่จะเดินทางตอนกลางคืน
เวลาของทั้งสองโลกนั้นค่อนข้างคงที่ และไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงคืนที่อันตรายเพื่อกลับไปที่โลกหลัก เพราะถ้าเขากลับมาใหม่ก็จะเป็นเวลาเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น โอกาสในการเทเลพอร์ตก็จะน้อยลงไปอีก
การพักค้างคืนที่นี่จึงกลายเป็นหนทางที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้
เกาจิ้ง เลือกที่จะปีนต้นไม้
เถาวัลย์หนาที่พันรอบต้นไม้สูงตระหง่านกลายเป็นเครื่องมือปีนป่ายที่ดีที่สุด เกาจิ้ง ปีนขึ้นไปได้สูงถึงห้าสิบหรือหกสิบเมตรด้วยทักษะและร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา
ทุกสิ่งในโลกนี้ใหญ่กว่าสิบเท่า หากปราศจากความสูงเช่นนี้ ก็รู้สึกไม่มีความปลอดภัยพอ
เมื่อเขาปีนขึ้นมาถึงจุดหมายที่คิดว่าเหมาะสมแล้ว มันก็เริ่มมืดพอดี
พอมืดแล้ว ป่าใหญ่ก็ปรากฏโฉมที่แตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง
มันไม่มืด ต้นไม้และดอกไม้หลายชนิดเปล่งแสงพร่ามัว หลากหลายสี สีแดงสีน้ำเงินสีม่วงสีเหลือง แสงหลากสีที่พันกันเหมือนชั้นของหมอกในความฝันที่ปกคลุมป่า
มันเป็นภาพที่สวยงามมาก
มีแสงจากหิ่งห้อยที่บินมาปรากฏตัว
พวกมันบินออกจากพงหญ้าที่พวกมันอาศัยอยู่และดูเหมือนเต้นรำเบา ๆ ในอากาศ
กลุ่มหิ่งห้อยก่อตัวเป็นแถบแสงเหมือนมังกรว่ายน้ำ และพวกมันบินไปมาระหว่างต้นไม้เหมือนกับการเต้นรำพร้อมกับเสียงแมลงกลางคืนที่ร้องประสานกันดุจดังเสียงดนตรีแห่งป่า
ทุกอย่างดูสวยงามมาก
อี๊ดๆอุ๊ดๆ~
อย่างไรก็ตาม ความงามนี้ก็ถูกทำลายโดยเสียงร้องของสัตว์ร้ายจากระยะไกลแต่ก็ไม่ห่างจากที่เขาอยู่มากนัก!
และยังรู้สึกว่ามีเสียงและการตอบสนองนับร้อย เป็นเสียงหอนแบบเดียวกันแล้วก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาก็เข้าใกล้ในทิศทางตำแหน่งที่ เกาจิ้ง หลบซ่อนอยู่
สิบนาทีต่อมา สัตว์สี่ตัว ตัวใหญ่หนึ่งตัว ตัวเล็กสามตัว ปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในสายตาของเขา
เมื่อมองลงมาจากที่สูงจะดูเหมือนหมูป่า ตัวอ้วนและแข็งแรงวิ่งหอบมา
หมูป่าเหล่านี้มีเขี้ยวที่งอกออกมาจากปากล่างโค้งงอเลยปากบนขึ้นมาสีเทาขาวและขนที่ด้านหลังยาวแข็งเหมือนหนามสีดำคล้ายกับตัวเม่น
หมูป่าที่ใหญ่ที่สุดมีความสูงเกือบ 10 เมตรซึ่งเทียบเท่ากับความสูงของตึก 3 ชั้นและมีความยาวลำตัวเกิน 20 เมตรโดยการตรวจสอบด้วยสายตา มันดูเหมือนภูเขาที่เคลื่อนที่ได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ เกาจิ้ง ได้เห็นสัตว์ร้ายในโลกใบใหญ่ และเขารู้สึกตกใจมาก!
แต่ในเวลาเดียวกัน เกาจิ้ง มีความรู้สึกคล้ายๆกับว่าพวกมันดูเหมือนจะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด จากอะไรบางอย่าง
คำตอบนั้นกำลังจะถูกเปิดเผยเร็วๆ นี้!
เพียงสี่หรือห้านาทีต่อมา ร่างสีดำกลุ่มหนึ่งก็วิ่งกราดไปทั่ว
มันเป็นสัตว์ที่ดูคล้ายหมาป่า
เห็นได้ชัดว่าขนาดของหมาป่าเทียบไม่ได้กับหมูป่าตัวใหญ่ แต่มีอย่างน้อยก็ร้อยตัวขึ้น และพวกมันรวมตัวกันเหมือนกระแสน้ำสีดำที่พุ่งผ่านบริเวณต้นไม้ตำแหน่งที่อยู่ของ เกาจิ้ง!
เกาจิ้ง อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ หัวใจของเขาเต้นแรง ความรู้สึกของเขาแทบอยากจะแทรกเข้าไปในต้นไม้ถ้าทำได้
หมาป่ามาและไปอย่างรวดเร็วและหายไปในป่าลึกในพริบตา
ใช้เวลานานก่อนที่การเต้นแรงของหัวใจ เขา จะกลับสู่ปกติ
อย่างน้อยเขากล้าหาญมาก ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป ก็อาจจะกลัวจนฉี่ราด
หลังจากที่หมาป่าจากไป ความสงบเงียบก็กลับคืนสู่ป่าอีกครั้ง
แต่หิ่งห้อยที่เคยออกมาโชว์แสงประกายวับวาวกลับซ่อนตัวไม่ปรากฏอีกเลย
แสงจันทร์สีขาวเงินส่องผ่านช่องว่างบนยอดไม้ตกกระทบบนร่างของ เกาจิ้ง อย่างเงียบ ๆ
ในโลกนี้มีทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แต่เนื่องจากป่าที่หนาทึบใบไม้ที่บดบัง ทำให้มองไม่เห็นภาพท้องฟ้าทั้งหมด
เขายืนพิงลำต้นตรงคบไม้และแหงนมองท้องฟ้าออกไปไกลจนสุดสายตา
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงสีของชั้นบรรยากาศที่แปลกตา กลุ่มของดวงดาวก็ลักษณะแปลกใหม่
เกาจิ้ง ไม่ได้นอนหลับเลยตอนกลางคืนและรอดชีวิตจากคืนอันยาวนานโดยตื่นพร้อมอยู่ตลอด
สัตว์หลายชนิดสามารถปีนต้นไม้หรืออาศัยอยู่บนต้นไม้ได้ และแม้ว่าเขาจะไม่พบสัตว์เหล่านี้ แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีอยู่ และก็ยังมีแมลงมีพิษและแมลงที่บินได้เช่นยุง ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท เขาจึงไม่คิดที่จะหลับ
เกาจิ้ง ไม่แน่ใจว่าสเปรย์ฉีดไล่ยุงบนร่างกายของเขาและผงไล่งูที่โรยรอบตัวเขาสามารถจัดการกับงู แมลง ยุงและมดทั้งหมดได้ไหมในโลกใบใหม่โลกนี้
พอรุ่งสาง เขากินอาหารเช้าบนต้นไม้เพื่อให้อิ่มท้อง และดื่มกาแฟที่สามารถอุ่นได้ในตัวเอง
หลังจากปรับสภาวะให้กลับมาเป็นปกติ เกาจิ้ง ก็ปีนกลับลงมาสู่พื้น
มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก
มีรอยเท้ายุ่งเหยิงอยู่ทั่วไปในป่า
นี่คือรอยเท้าที่หมาป่าทิ้งไว้เมื่อคืนนี้พวกมันมาจากทางตะวันออกและอพยพไปทางตะวันตกของป่า
เกาจิ้ง รู้สึกโล่งอกไปได้ส่วนหนึ่ง เพราะฝูงหมาป่ามาจากทางที่เขากำลังจะมุ่งหน้าไป
เกาจิ้ง เดินทางไปทางทิศตะวันออกมาเป็นเวลา 5-6 ชั่วโมง เขาหยุดพักอยู่หลายครั้งระหว่างทาง
ไม่พบสัตว์ร้ายใดๆ
ปัญหาเดียวคือแมงมุมฝังศพ แมงมุมดำขนาดใหญ่ที่ เกาจิ้ง เคยฆ่าเมื่อครั้งล่าสุดนี้
แมงมุมฝังศพถูกตั้งชื่อโดย เกาจิ้ง เอง
พวกมันมักจะซ่อนตัวอยู่ในโพรงที่ซ่อนอยู่อย่างลับๆ พ่นใยแมงมุมเพื่อแอบจับเหยื่อที่เดินผ่านไปมา
เกาจิ้ง ถูกมองว่าเป็นเหยื่ออยู่หลายครั้ง
แต่ เกาจิ้ง ผู้มีประสบการณ์แล้วจึงไม่รู้สึกกลัวแล้วรีบหลบเลี่ยงให้พ้นออกจากใยแมงมุมถ้าไม่ถูกเส้นใยพันธนาการไว้ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
เขากำมีดไว้แน่น
หนึ่ง การโจมตี หนึ่งชีวิตแมงมุม
ในตอนบ่าย ป่าที่เคยทึบแต่เดิม ก็เริ่มบางลง และจำนวนเถาวัลย์และรากไม้ที่ก็ลดลงด้วยเช่นกัน
"อีกนิดเดียว! ฉันก็จะออกจากป่านี่แล้ว"
ประกายแห่งความหวังก็กลับเต็มหัวใจของ เกาจิ้ง และเขาอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
หลังจากเดืนต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง ภูเขาหินก็ขวางทางเขาไว้
ภูเขาสูงสองถึงสามร้อยเมตรและเป็นส่วนหนึ่งของภูเขาทางตอนเหนือ ซึ่งมีหินขรุขระและพืชพรรณขึ้นอยู่ประปราย
ถ้ำน้อยใหญ่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางโขดหินขนาดใหญ่
ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดอยู่ด้านหน้า เกาจิ้ง มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 40 เมตร
มันมืดมาก
ด้านหน้าของถ้ำเต็มไปด้วยรอยเท้าหมาป่า และมีอุจจาระกองโต
ทั้งสดและแห้ง.
เกาจิ้ง คิดว่าถ้ำในแหล่งเขานี้น่าจะเป็นถ้ำหมาป่าซึ่งเป็นที่อยู่ของฝูงหมาป่าที่อาศัยอยู่เมื่อคืนนี้
แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงอพยพหนีเพียงข้ามคืน
แม้ว่าหมาป่าจะจากไปแล้ว แต่ เกาจิ้ง ก็ไม่มีความสนใจที่จะสำรวจถ้ำหมาป่า
เขากำลังจะเดินไปรอบ ๆ ภูเขาหินที่ยากต่อการปีน
อยู่ๆนั้น เกาจิ้ง ก็หยุดเดินหลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว
เขาก็รู้สึกขนลุก จากความกลัวในบางสิ่งที่เขาสัมผัสได้
ความรู้สึกนี้รุนแรงมาก เหมือนกับเหยื่อที่อ่อนแอกำลังถูกสัตว์ดุร้ายจ้องเขม็ง
อันตราย! สัญชาตญาณบางอย่างเตือนเขา
เกาจิ้ง ก้าวถอยหลังอย่างช้าๆทีละก้าว
เขาไม่เห็นแหล่งที่มาของอันตราย แต่ความกลัวยังคงไม่ลดลง
เหงื่อขนาดเท่าเมล็ดถั่วไหลออกมาจากหน้าผากและใบหน้าของเขา
พยายามสงบสติอารมณ์ เขาเก็บมีดพกกลับเข้าไปในฝัก
ถอดหน้าไม้ล่าสัตว์ที่แขวนอยู่บนเป้สะพายหลัง
หน้าไม้นี้มีระยะยิงไกลถึง 120 เมตร และติดตั้งศูนย์เล็งแบบ กล้องเรดดอท ซึ่งมีระยะการหวังผลที่ดี
ก่อนหน้านี้ เกาจิ้ง ได้ฝึกฝนแต่การใช้มันเท่านั้น
ด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เขาค่อยๆขึ้นสายหน้าไม้ พร้อมกับบรรจุลูกดอก
ฟู้วว!
ในขณะนี้ เสียงที่ดูเหมือนจะมาจากโลกใต้พิภพดังมาถึงหูของ เขา
ทันใดนั้น! ภาพที่ปรากฏต่อหน้าเป็น งูสีแดงตัวใหญ่เลื้อยออกมาจากเงามืดของถ้ำหมาป่า
ลำตัวของมันหนาพอๆ กับต้นกล้วยอวบๆ และมีความยาวประมาณ 9-10 เมตร ลำตัวของงูปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีแดงเพลิง
ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ
น่าแปลกที่มีสิ่งที่ลักษณะคล้ายเขาโค้งสีทองสองอันตั้งอยู่บนหัวสามเหลี่ยมสูงตระหง่าน
ดวงตาสีแดงคู่หนึ่งที่มีขนาดเท่าระฆังทองแดงจ้องมองที่ เกาจิ้ง และงูยักษ์ก็อ้าปากที่เปื้อนเลือดของมันและแลบลิ้นยาว 2 แฉกออกมาแปลบ ปลาบ
ฟู้วว!
ทั้งดวงตาและเสียงนั้นเหมือนมีพลังแห่งจิตตนุภาพทำให้ เกาจิ้ง หยุดนิ่ง
อันตราย! หลบ! ! เร็วเข้าฉันต้องหลบให้เร็วที่สุด
สมองของเขาออกคำเตือนอย่างสิ้นหวัง แต่ร่างกายของเขาแข็งทื่อ ราวกับอยู่ภายใต้มนตร์สะกดที่ทำให้กลายเป็นหิน
ขยับไม่ได้ !นี่ทำไมฉันขยับไม่ได้ !
งูยักษ์สีแดงเข้าหา เกาจิ้ง อย่างสงบ ด้วยท่าทางขี้เล่นของแมวที่จับหนูให้อยู่ในความควบคุมของมัน
ในสายตาของมัน เกาจิ้ง เป็นอาหารเย็นที่น่าอร่อยอย่างไม่ต้องสงสัย!
แม้ว่ากลิ่นจะแปลกไปหน่อยสำหรับมัน
และ เกาจิ้ง ที่กำลังจะถูกเขมือบลงไปรู้สึกกำลังจะสิ้นหวัง
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงขยับไม่ได้ ทั้งที่เขาก็รู้ดีว่าความตายใกล้เข้ามาแล้ว
มันเป็นความน่ากลัวอย่างยิ่งระหว่างชีวิตและความตาย!
เกาจิ้ง ผู้กล้าที่จะสำรวจโลกใบใหญ่ไม่กลัวความตาย แต่เขาไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่กับการถูกงูใหญ่กลืนโดยไม่ขัดขืน
แล้วต้องกลายเป็นกองขี้งูสกปรก!
“ไม่!”
เขาคำรามอยู่ในใจ
ในขณะนี้สมอทองแดงที่เกาะอยู่ที่หน้าอกก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
จบตอน