ตอนที่แล้วตอนที่ 4 เตรียมตัวเดินทางครั้งใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 การเดินทางกับจำนวนที่ลดลง

ตอนที่ 5 ถึงเวลาต้องเลือก


ตอนที่ 5 ถึงเวลาต้องเลือก

"มันอันตรายเกินไป เราต้องกลับเดี๋ยวนี้"

'จะยอมแพ้แบบนี้เหรอ?เจ้าคนปอดแหก! 'โอกาสดีๆ มันอยู่ในมือคุณแล้ว ถ้าไม่คว้าเอาไว้ คุณจะเสียใจไปตลอดชีวิต และจะรู้สึกเสียดายในภายภาคหน้า

"แต่ว่าคุณต้องมีชีวิตอยู่ เพื่อคว้ามันไว้ อย่างไรก็ตาม สมอทองแดงอยู่ในมือคุณแล้วไว้กลับมาใหม่ เมื่อคุณมีการเตรียมการที่ดีมากกว่านี้ในอนาคต"

'คุณยังเหลือการเตรียมการอะไรอีกบ้าง? คนจนพึ่งพาการเปลี่ยนแปลง คนรวยต่อสู้เพื่อเทคโนโลยี คุณสามารถเปลี่ยนแปลงหรือทำเงินได้หรือไม่'

"อย่างไรก็ตาม การมีชีวิตอยู่ก็ดีกว่าสิ่งอื่นใด"

  'ใช่ ใช่ ใช่ งั้นก็ แค่มอบสมอทองแดงให้ประเทศไปเลยสิ ฮ่าฮ่าฮ่า!'

  "ออกไป!"

  ในความรู้สึกของเขาเหมือนมีคนร้ายสองคนเถียงกันในหัวของ  คนหนึ่งพยายามที่จะ เกลี้ยกล่อมให้กลับไป อีกฝ่ายหนึ่งเยาะเย้ยว่าเป็นคนขี้ขลาด

  "พูดพล่อยๆ นั่นจะทำให้เขาปวดหัว"

  “หุบปาก! หยุดเถียงกันทั้งคู่เลย” เกาจิ้ง ที่กำลังหงุดหงิดคำรามออกมา

  เสียงทั้งหมดหายไปทันที

  แต่เขาก็ยังต้องเผชิญกับทางเลือกว่าจะสำรวจต่อหรือกลับไปที่ ดาวโลก

  เกาจิ้ง นั่งลงโดยใช้หลังพิงกับต้นไม้ยักษ์ ในขณะที่พักผ่อนและฟื้นฟูพละกำลัง เขาก็ปล่อยให้ตัวเองมีสมาธิ สร้างความสมดุลอย่างมีเหตุผล ในสภาวะที่สงบเพียงพอ

  เพราะการเลือกของเขาจะกำหนดอนาคตของเขาเอง แม้กระทั่งการมีชีวิตอยู่หรือพบกับความตาย!

  หลังจากพักประมาณ 10 นาที เกาจิ้ง ก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

  ในขณะนี้ไม่มีความลังเลหรือความยุ่งเหยิงเหลืออยู่ในดวงตาของเขา มีเพียงความแน่วแน่และความมุ่งมั่นเท่านั้น

  เขาได้เลือกแล้ว

  นั่นคือการสำรวจโลกใหม่นี้ต่อไปแม้ต้องเสี่ยงชีวิตก็ตาม!

  ในสายตาของหลายๆ คน เกาจิ้ง มีบุคลิกที่อ่อนโยนและอารมณ์ดี และเขาไม่ชอบส่งเสียงดังและใส่ใจคนอื่นเสมอ

  มักถูกมองว่าเป็นคนอ่อนแอ

  แต่ความจริงแล้ว ความเย่อหยิ่งและความดุร้ายของเขา ซ่อนลึกอยู่ในสายเลือดของเขา และโดยปกติแล้วเขาจะไม่แสดงมันออกมาง่ายๆ และจะระเบิดออกมาทันที เมื่อเขาเผชิญกับแรงกดดันที่มหาศาล

  ยืนอยู่ผู้เดียว ไม่มีทรัพย์สินใดๆ ตั้งแต่คุณปู่จากไป เขาไม่มีความกังวลหรือลังเลใจในโลกนี้อีกต่อไป

  ตอนนี้เขาลาออกจากงานแล้ว

  ในเมื่อไม่มีอะไรที่คุณจะแพ้ได้อีกทำไมไม่สู้ให้สุดชีวิต!

  เกาจิ้ง ซึ่งตัดสินใจแล้วเก็บกระเป๋าเป้สะพายหลังและเดินทางต่อไป

  ด้วยการสำรวจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โลกใบใหญ่ที่งดงาม และแปลกประหลาดค่อยๆ เปิดกว้างและต้อนรับการมาของเขา

  ป่าดึกดำบรรพ์ที่ไร้ขอบเขตนั้น นอกจากต้นไม้ยักษ์สูงตระหง่านนับไม่ถ้วนแล้วยังมีดอกไม้และพืชแปลกๆ มากมาย บางครั้งเขาสามารถเห็นกลุ่มเห็ดในมุมมืดและดอกไม้ที่ยื่นออกมาจากเถาวัลย์

  ส่วนใหญ่มีขนาดที่น่าทึ่ง เห็ดบางชนิดสูงเท่ากลับดึกชั้น 1 และดอกไม้ป่าบางชนิดมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าสองเมตร

  เกาจิ้งพยายามหลีกเลี่ยงเห็ดและดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่มีสีสันสดใสและดูดีอย่างระมัดระวัง

  เพราะไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมีอันตรายอะไรบ้าง.

  อันตรายที่พบเห็นได้อย่างชัดเจนคือแมลงที่อาศัยอยู่ในพุ่มไม้ และสัตว์ขาปล้อง เช่น ตะขาบ

  ยุงมีจำนวนมากที่สุด ยุงจุดสีฟ้า ม่วง และขาวดำ อยู่ในป่าเป็นฝูงส่งเสียงดัง หึ่งๆ

  แมลงจำนวนมาก ซ่อนตัวอยู่ใต้รากของเถาวัลย์ใบกว้าง ตกใจกับเสียงฝีเท้าที่เดินผ่านไปของ เกาจิ้ง รีบคลานย้ายตำแหน่งของพวกมันอย่างพลุกพล่าน

ระหว่างเดินทางเกาจิ้งเปิดประสาทสัมผัสของเขาทุกส่วน อย่างพิจารณาจริงจัง

  ด้วงตัวใหญ่เท่าหินโม่แป้ง มดมีขายาวเป็นคืบ ตัวหนอนที่มีขนาดใหญ่เท่าต้นขา

  เขายังพบแมลงเม่าสีเทาที่เทียบได้กับเหยี่ยวบินอยู่เหนือหัวของเขา!

  ในโลกของมนุษย์ เกาจิ้ง สามารถเหยียบมดหลายสิบตัวให้ตายได้ด้วยเท้าข้างเดียว ตบยุงเป็นฝูงได้เป็นกองและถ่มน้ำลายใส่ให้หนอนให้จมน้ำ

  แต่ที่นี่...

  เขาเผชิญหน้ากับหนอนที่ใหญ่กว่าสิบเท่า เขาต้องหลบๆซ่อนๆ แม้ว่าเขาจะถือมีดที่คมกริบอยู่ในมือ

  ความระมัดระวังบวกกับความโชคดีที่ เกาจิ้ง ประสบปัญหาหลายอย่าง แต่ไม่มีสิ่งใดที่เป็นอันตราย

ในหมู่พวกแมลง น้ำยาสเปรย์ฉีดไล่ยุงมีบทบาทสำคัญมาก กลิ่นที่ฉุนนั้นแมลงรังเกียจทำให้ยุง กลัวที่จะเข้าใกล้ และแมลงที่พบ ก็ยังหลีกเลี่ยงออกห่าง

  หลังจากเดินป่าอย่างหนักเป็นเวลาสองหรือสามชั่วโมงในป่าใหญ่ เกาจิ้ง เหงื่อออกมาก ใช้พลังงานส่วนใหญ่หมดไป กับการบุกป่า

  สิ่งสำคัญคือการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ความตึงเครียดสูง จิตใจและร่างกายที่เหนื่อยล้ามาก

  เขาหยุดที่ต้นไม้ยักษ์ ปลดกระเป๋าเป้ออก หยิบอาหารและเครื่องดื่มออกมา แล้วนั่งพิงต้นไม้บนพื้น เพื่อพักผ่อนกินอาหารและพักฟื้น

  เกาจิ้ง เคี้ยวแซนวิชแฮมและมองไปรอบ ๆ

  ป่านี้ใหญ่เกินไป ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนจึงจะออกไปได้

  จนถึงตอนนี้ เขา ยังไม่พบสัตว์ใด ๆ ได้ยินเพียงเสียงคำรามของสัตว์ร้ายบางชนิดจากระยะไกล

  แม้ว่านี่จะยังไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ

  ความไม่รู้จักเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

ในขณะที่พัก ในมุมมองของสายตา ชั่วเสี้ยววินาทีเกาจิ้งเห็นลำแสงสีเงินที่พุ่งตรงมายังเขา

  ก่อนที่ร่างกายและสมองเขาจะทันได้ตอบสนอง ขาขวาของเขาก็ถูกรัดแน่นราวกับว่าเขาถูกเชือกพันธนาการไว้

  ปึ้ง!? เสียงกระชาก พร้อมกับแรงดึง

เฮ้ย!

  เกาจิ้ง ซึ่งไม่ทันตั้งตัวถูกดึงและล้มลงกับพื้น และเขาเลื่อนไปข้างหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

  เกาจิ้ง ที่หวาดกลัวรีบคว้าหญ้าและเถาวัลย์ข้างตัวเขาด้วยมือซ้ายโดยสัญชาตญาณ และรีบคว้ามีดพกด้วยมือขวา

ยังไม่ทันมีเวลาเข้าใจอะไรและมือที่เพิ่งกำด้ามมีดได้ ไม่ทันจะได้ปฏิบัติการอะไรต่อไป หญ้าและเถาวัลย์ที่เขายึดอยู่ด้วยมือซ้ายก็ไม่สามารถรับแรงดึงได้อีกต่อไป จึงได้ขาดผึงออก

  วินาทีต่อมา เขาถูกลากออกไปเป็นระยะทางห้าหรือหกเมตรอย่างกะทันหัน และถูอย่างรุนแรงไปกับพื้นที่มีใบไม้ร่วงหล่นอยู่

  ในช่วงเวลาที่สำคัญ เถาวัลย์ที่ทอดยาวเกะกะไปทั่วพื้นดินได้ช่วยชีวิต เกาจิ้ง ไว้

  เขาพยุงเถาวัลย์ด้วยเท้าซ้ายอย่างมั่นคง พยายามดึงขาขวาเข้ามาอย่างสิ้นหวัง และงอร่างกายท่อนบนด้วยพละกำลัง

  พยายามแกว่งมีด!

  อึ๊บบ!

  สิ่งที่พันรอบขาถูกตัดออก

  เกาจิ้ง ที่หลุดจากพันธนาการก็กระโดดขึ้น และในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็เห็นเจ้าตัวการที่โจมตีเขา!

  มันเป็นแมงมุมสีดำตัวใหญ่

  มันสูงเกือบหนึ่งเมตรและเส้นผ่านศูนย์กลาง ของขายาวทั้งแปดของมันที่เหยียดจากซ้ายไปขวา อย่างน้อย 3 เมตร ท้องกลมเป็นสีดำเงา ส่วนหัวและอกมีขนหนาปกคลุม

  ดวงตาทั้งหกที่อยู่บนหัว จ้องมองมาที่ เกาจิ้ง แต่ละดวงตาจ้องนิ่งมาที่เขานั้น มันเต็มไปด้วยความหิวกระหายเลือด

  ใยแมงมุมสีขาวเงินยาวห้อยลงมาจากส่วนปากของแมงมุมสีดำแทนที่จะเป็นที่ก้น และที่ปากมีเขี้ยว 2 ข้างโค้งงอแหลมคมราวกับมีดพก

  ด้านหลังมีโพรงถ้ำมืดซ่อนอยู่ในพงหญ้า

  ฟู้ๆ!

  เห็นได้ชัดว่าแมงมุมยักษ์จะไม่ยอมพลาดท่า เสียโอกาสกับอาหารอันโอชะ ที่จะปล่อยให้เล็ดลอดออกไปไม่ได้ ดังนั้นมันจึงส่งเสียงร้องแหบแห้งและน่าขนลุก

มันพุ่งเข้าหา เกาจี้ง ทันที

หลังจากที่เขาได้เห็นแมงมุมยักษ์สีดำไปจนถึงการโจมตีครั้งล่าสุดใช้เวลาเพียง 2-3 วินาทีเท่านั้น

  ณตอนนี้ เกาจิ้ง ไม่ได้หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก แต่กัดฟันและเผชิญหน้ากับแมงมุมยักษ์อย่างกล้าหาญ

เปรียบดังการต่อสู้บนถนนแคบๆ ผู้กล้าหาญเท่านั้นที่จะชนะ

  เกาจิ้ง รู้ดีว่าการวิ่งหนีเป็นทางเลือกที่โง่ที่สุด มีเพียงต้องเผชิญหน้าสู้เท่านั้นเขาถึงจะรอดได้

  ด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขา เขาฟันไปที่หัวอันน่าเกลียดของแมงมุมยักษ์สีดำ!

  ฉั๊วะ!

  มีดพกออนแทรีโอกรีดแหวกผ่านอากาศด้วยความรวดเร็ว และฟันเข้าอย่างรุนแรงที่หัวและหน้าอกของแมงมุมยักษ์ตัดลึกสามหรือสี่นิ้ว ตัดเข้าไปเกือบครึ่งหัวของแมงมุมยักษ์

เมือกเหลวๆไหลกระฉอกออกมา

  แมงมุมยักษ์สีดำถูกมีดฟันอย่างแรง

  มันกระตุกและดิ้นรนบนพื้น ขาทั้งแปดเหยียดและหดตัวอย่างต่อเนื่อง และของเหลวสีเขียวจางๆไหลออกมาจากบาดแผลอย่างต่อเนื่อง

  ในไม่นานก็ไม่มีเสียงใดๆ

  หือๆฮ่าๆ! เกาจิ้งหายใจหอบถี่แล้วก็หัวเราะออกมา

  เขา ไม่คาดคิดว่าเขาจะฆ่าคู่ต่อสู้ของเขาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และประสาทของเขาก็ผ่อนคลายลงหลังจากที่ผ่านพ้นเหตุการณ์อันตรายเกือบถึงชีวิตมาได้

  เห็นได้ชัดว่าทางเลือกของเขาถูกต้องมาก

  แมงมุมยักษ์นี้ดูน่ากลัวและข่มขวัญได้ดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว พลังการต่อสู้ของมันไม่สูงนัก และมันก็ไม่มีการป้องกันที่แข็งแกร่ง

  ดังนั้นจึงง่ายต่อการกำจัด

  และชีวิตของเขาก็ยังไม่ถูกพรากไป

  เพราะแมงมุมยักษ์ที่เกือบจะฆ่าเขาเป็นเพียงแมลงตัวเล็ก ๆ เหมือนเม็ดทรายในโลกใบนี้

ถึงแมนว่าแมงมุมยักษ์จะตายไปก็ใช่ว่าปัญหาอื่นๆจะหมดไป

ทั่วทั้งตัวแขนและใบหน้าของเกาจิ้ง เปื้อนไปด้วย เมือกเหลวๆ สีเขียว ของแมงมุมยักษ์ มันมีกลิ่นเหม็นคาวขื่น

     "ไม่รู้ว่ามีพิษหรือเปล่า" เขารีบหันหลังกลับคว้ากระเป๋าเป้ที่พื้น ภาวนาเงียบๆ:

"กลับไป"

ทันใดนั้นเขาก็กลับสู่โลกเดิมทันที  สิ่งแรกที่เขาทำเมื่อกลับมาถึงบ้าน เกาจิ้ง มองไปที่โทรศัพท์บนโต๊ะ แล้วเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาดูที่หน้าจอซึ่งยังคงเปิดอยู่ และแสดงเวลา 8:25 น 12 วินาที

เขาไม่ได้นำโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วยตอนไปสำรวจโลกใหม่ครั้งนี้ เขาเปิดหน้าจอดูนาฬิกาแล้ววางไว้บนโต๊ะก่อนที่เขาจะถูกส่งไปยังอีกโลก

ตอนนี้ เกาจิ้ง มั่นใจว่าเวลาของทั้งสองโลกค่อนข้างคงที่ เมื่อเขาเดินทางไป และก็เดินทางกลับมา จะกลับมา ยังเวลา ที่ออกเดินทาง

สิ่งนี้พิสูจน์การคาดเดาก่อนหน้านี้ของเขาด้วย

  แต่ตอนนี้ เกาจิ้ง ไม่มีเวลาสำรวจความลับของเวลา เขารีบถอดอุปกรณ์และรีบไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ

ขั้นแรกเขาอาบน้ำทั้งเสื้อผ้า เพื่อล้างเมือกเหลว ออกจากเสื้อผ้าที่เปื้อน หลังจากนั้นก็ฉีดพ่นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ก่อนที่จะอาบน้ำอีกรอบ เสร็จแล้วเขาจึงเอาเสื้อผ้าไปแขวน

เขารู้สึกโล่งใจหลังจากแน่ใจว่าล้างเลือดแมงมุมสะอาดแล้วและไม่มีพิษ

  

จบตอน

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด