ตอนที่ 4 เตรียมตัวเดินทางครั้งใหม่
ตอนที่ 4 เตรียมตัวเดินทางครั้งใหม่
ในเช้าวันนี้ขึ้น เกาจิ้ง ขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเขาไปที่ถนน ผู่เต๋อ ทางตอนใต้ของเมือง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในประเทศกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้คนจำนวนมากขึ้นเดินทางโดยรถยนต์และเดินทางไกล ซึ่งขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างแข็งแกร่ง
เมื่อก่อนมีร้านขายสินค้ากลางแจ้งเพียงสองหรือสามร้านบนถนน ผู่เต๋อ แต่ตอนนี้มีร้านที่คล้ายกันเปิดเกือบครึ่งช่วงตึก
หยุนเฉิง เองก็เป็นเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ และมีจุดชมวิวมากมายรอบๆ
รถจักรยานยนต์ของ เกาจิ้ง หยุดที่ประตูทางเข้าเขตร้านกลางแจ้งในโซน [ไวลด์ฮันเตอร์]
เขาลงจากรถและเดินเข้าไปในร้านและทักทายชายวัยกลางคนที่กำลังเช็ดชั้นวางของ:
"ลุงฟาง อรุณสวัสดิ์"
ชายวัยกลางคนหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงนั้น แล้วพูดพร้อมกับ ยิ้ม: "เสี่ยวเกา มาถึงเร็วจัง อา"
เกาจิ้ง ยิ้ม
เมื่อคืนเขาได้นอนแค่สี่หรือห้าชั่วโมงเท่านั้น
[เดอะ เรเวนแนนท์] เป็นหนึ่งในร้านขายสินค้ากลางแจ้งที่แรกๆ บนถนน ผู่เต่อ เกาจิ้ง มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับอีกฝ่ายหนึ่งมาก่อน ดังนั้น เขาจึงได้รู้จักกับเจ้าของร้าน
ลุงฟางไม่พูดไร้สาระ: "ตามผมมาเถอะ ทุกอย่างเตรียมพร้อมสำหรับคุณแล้ว"
เขาล็อคประตูกระจกและนำ เกาจิ้ง ไปที่ห้องด้านในสุดของร้าน
มีหลายอย่างบนโต๊ะในห้องด้านใน ลุงฟางหยิบหน้าไม้ขึ้นมาอันนึงแล้วพูดว่า: "หน้าไม้ล่าสัตว์ประเภท คอมพาวด์ ระยะยิง 120 เมตรพร้อมเลเซอร์ เรด ดอท ขยาย 2 เท่า ของใหม่สำหรับ คุณ 4,500 หยวน พร้อมลูกดอกหน้าไม้ 50 ลูก"
ลุงฟาง วางหน้าไม้ลงแล้วดึงมีดพกเดินป่าสีดำออกมา: "มีดพกออนแทรีโอ อืม เป็นของเลียนแบบ แต่ไม่มีปัญหาในการรับประกันคุณภาพ และเป็นของใหม่ในราคา 1100 "
"ดาบอเนกประสงค์ที่ผลิตในอเมริกาเล่มนี้...ใช้ดีอยู่"
หลังจากแนะนำไอเท็มทั้งหมด ในที่สุดลุงฟาง ก็พูดว่า: "ยอดรวมคือ 12750 สำหรับคุณผมคิดไปแค่ 12700 -
"ตกลง"
เกาจิ้ง หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา: "ผมจะจ่ายให้คุณทาง วีแชท นะ"
เขาโทรหาลุง ฟาง เมื่อคืนที่ผ่านมาและสั่งซื้ออุปกรณ์เดินป่าล่าสัตว์ในผจญภัยครบชุดจากเขา
ตกลงไว้ว่า เช้านี้จะเข้ามารับของ
นอกจากหน้าไม้และมีดพกเดินป่าแล้ว ยังมีของใช้ที่จำเป็น เช่น เสื้อแจ็คเก็ต รองเท้าเดินป่า กระเป๋าเป้ ชุดปฐมพยาบาล เครื่องกรองน้ำ ฯลฯ
แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินกับราคาที่หนักหน่วง แต่จงเตรียมให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญ
รู้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำไม่ใช่การสำรวจธรรมดา
เกาจิ้ง ไม่ต่อรองราคาเพราะ ลุงฟาง เป็นคนซื่อตรงไม่คดโกง
ชื่อเสียงของ ลุงฟาง เป็นที่เลื่องลือในแวดวงนี้
“เสี่ยวเกา”ลุงฟางพูดอย่างจริงจัง: “เล่นได้ แต่ระวังด้วย”
พูดตามตรง หน้าไม้ล่าสัตว์และมีดพกเป็นสินค้าควบคุม และเขาจะไม่ซื้อขายมันถ้าไม่ใช่คนรู้จัก
เมื่อ เกาจิ้ง โทรสั่งเมื่อคืนนี้เขายังถามซ้ำ
"ไม่ต้องกังวลหรอกลุง"
เกาจิ้ง พูดด้วยรอยยิ้ม "ผมแค่ใช้มันเพื่อผ่อนคลาย ในการเดินป่าเท่านั้น"
ข้ออ้างของเขาในการสั่งซื้อสินค้าเหล่านี้คือการลาออกจากงานและกลับไปบ้านเกิดของเขาเพื่อพักผ่อนชั่วขณะหนึ่ง และเขาก็มีโปรแกรมเดินป่าบนภูเขา
ลุงฟาง พยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก
เขารู้จัก เกาจิ้ง มาสามปีแล้ว และเขายังมีความเข้าใจในตัวของ เกาจิ้ง เป็นอย่างดี
เขารู้ว่า เกาจิ้ง ไม่ใช่คนประเภทที่ชอบยุ่งวุ่นวาย
หลังจากจัดกระเป๋าใบใหญ่และใบเล็กที่เบาะหลังของรถมอเตอร์ไซค์แล้ว เกาจิ้ง ก็โบกมือลา ลุงฟาง และกลับไปที่บ้านเช่า
แทนที่จะเร่งรีบไปสำรวจโลกใหม่ เขาหากระดานหนาอีกแผ่นหนึ่งเพื่อใช้เป็นเป้า ฝึกฝนซ้ำๆ ในห้อง และทำความคุ้นเคยให้เชี่ยวชาญในการใช้หน้าไม้ล่าสัตว์
เกาจิ้ง ยังค้นหาเนื้อหาและวิดีโอเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดในป่าบนอินเทอร์เน็ตเพื่อสังเกตและศึกษา
อย่าหลงตัวเองว่ามีฝีมือความสามารถจนมากเกินไป คุณจะหลงตัวเองน้อยลง เมื่อคุณได้เข้าไปในแหล่งความรู้
แม้ว่าสมอทองแดงจะช่วยให้เขากลับมาได้ทุกเมื่อ แต่ก็รับประกันความปลอดภัยที่แน่นอนไม่ได้
แต่การเรียนรู้เพิ่มเติมจะช่วยให้เขาสำรวจโลกใหม่ได้อย่างมั่นใจขึ้น
จนกระทั่งเช้าวันที่ห้าหลังจากได้รับสมอทองแดง เกาจิ้ง ก็เตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดและพร้อมที่จะออกเดินทาง
เกาจิ้ง สัมผัสสมอทองแดงที่แขวนอยู่บนหน้าอกของเขา
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาสวมสร้อยคอนี้ทุกวันและเขาจะไม่ถอดมันออกเลยเมื่อเขาอาบน้ำหรือนอนหลับเขารู้สึกว่าการเชื่อมต่อกับสมอทองแดงนั้นแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ
ความรู้สึกนี้ลึกลับมาก
แม้ว่าสมอทองแดงจะสูญหายไปไกล แต่เขาก็มั่นใจว่ายังหาเจอได้อย่างแม่นยำ
"ไปกันเถอะ!"
เมื่อพูดจบ เกาจิ้ง ก็หายไปทันที
เขาปรากฏตัวอีกครั้งในป่าแห่งโลกที่ไม่รู้จัก
"หือ?"
เกาจิ้งตื่นเต้นไปทั้งตัวและพร้อมที่จะวิ่งหนีเอาชีวิตรอดได้ทุกเมื่อ เกาจิ้งยืนนิ่งไปชั่วขณะ
เมื่อสิ่งที่เขา กังวลมากที่สุดไม่ได้เกิดขึ้น สถานที่นี้ไม่ได้เปลี่ยนเป็นกลางคืน และไม่มีสัตว์ป่าอยู่รอบตัวเขา
ฉากที่อยู่ตรงหน้าเขาช่างคุ้นเคยดี และเป็นสถานที่ที่เขาถูกเทเลพอร์ตเป็นครั้งแรก และเวลาในโลกนี้ดูเหมือนจะหยุดนิ่งในขณะที่เขาจากไปครั้งสุดท้าย และดูเหมือนว่าเวลาจะไม่ได้หมุนไปจนกว่าเขาจะมา อีกครั้ง! หรือว่าเขาย้อนเวลามายังจุดเริ่มต้นตอนที่เริ่มกลับไป
สิ่งนี้น่าสนใจมาก
เกาจิ้ง มองไปที่นาฬิกามัลติฟังก์ชั่นสำหรับปีนเขาในข้อมือของเขา อุณหภูมิ ความกดอากาศ ความสูง และข้อมูลอื่นๆ
แน่นอนว่าไม่มีสัญญาณดาวเทียม มิฉะนั้น เขาคงจะสงสัยในตัวเองขึ้นแน่ ว่านี่ถ้าไม่ใช่ภาพลวงตา เขาก็บ้า
เวลาที่แสดงบนนาฬิกาคือ 08:25:17 น. ในตอนเช้า
เขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวอย่างระมัดระวัง
สภาพแวดล้อมแรงโน้มถ่วงโดยทั่วไปเหมือนกับ ดาวโลก และเขาไม่รู้สึกว่าตัวเองหนักขึ้นหรือเบาลง
เขานำไกเกอร์เคาน์เตอร์ออกมาวัดรังสีอีกครั้ง
ดัชนีชี้วัดเป็นปกติ
เกาจิ้ง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
อากาศที่นี่สดชื่นเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะปริมาณออกซิเจนในป่าค่อนข้างสูง
ดินใต้ฝ่าเท้าของเขาปกคลุมไปด้วยใบไม้ที่ร่วงหล่นและอุดมไปด้วยซากพืช แม้รองเท้าของเขาจะจมลงไปก็ไม่กี่เซนติเมตรเมื่อเขาเหยียบลงไปบนพื้น
และก็ตอนนี้ยังไม่มีผลหรือเหตุการณ์อะไรแสดงออกมาแน่ชัด
เกาจิ้ง วางเคาน์เตอร์ไกเกอร์แล้วเริ่มสำรวจโลกที่แปลกประหลาดนี้อย่างระมัดระวัง
มันไม่ได้เป็นการเริ่มต้นที่ดี
เถาวัลย์หนาทึบครอบครองอาณาเขตในป่าอย่างหนาแน่น รากของต้นไม้สูงพ้นพื้นดินจำนวนนับไม่ถ้วนพาดผ่านไปบนพื้น ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดสำหรับเขาในการก้าวไปข้างหน้า
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องยากสำหรับมีดพกถึงจะคมกริบ แต่ก็ยากที่จะตัดกิ่งเถาวัลย์ที่แข็งแรงออก เพื่อประหยัดพลังงาน เกาจิ้ง ทำได้เพียง พยายามอย่างเต็มที่เพื่อ หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางที่ผ่านได้ลำบากแต่ก็ต้องปีนป่ายข้ามไปโดยไปตามช่องทางที่พอไปได้
เมื่อเขาพลิกตัวและกระโดดลงสู่พื้น ทันใดนั้นก็มีเสียง "หึ่งๆ" ในหูของเขา
เกาจิ้งยิ่งหันหน้าของเขามาทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นแมลงหลาย 10 ตัวมีสีน้ำเงินม่วงบินตรงมายังเขา
"ยุ่งเหรอ! มันเหมือนยุง!แต่?เกาจิ้งตะลึง ด้วยความสงสัย
เป็นเรื่องปกติที่จะพบยุงในป่า แต่ยุงเหล่านี้แต่ละตัวมีขนาดใหญ่กว่ากำปั้นของผู้ใหญ่ในขณะกางปีกบิน
พวกมันสั่นปีก ยื่นส่วนปากที่แหลมยาวออก และชี้ตรงไปที่ เขา
เขาคิดว่า:"เหมือนเครื่องบินขับไล่ขนาดเล็กมากกว่าจะเป็นยุ่ง"
เกาจิ้งตกใจเล็กน้อยที่เจออย่างกระทันหัน
ยุงตัวโตขนาดนี้ถ้าถูกมันรุมดูดเลือดเข้าไปมีหวังได้แห้งเป็นซากมัมมี่แน่
ด้วยการเตรียมพร้อมปฏิกิริยาของ เกาจิ้ง รวดเร็วมากเขาหยิบยากันยุงแบบสเปรย์ในกระเป๋าคาดเอว ออกมาทันทีแล้วฉีดพ่นไปที่ฝูงยุ่ง
ละอองยากันยุงปลูกพ่นฟุ้งไปในอากาศส่งกลิ่นและทำปฏิกิริยาในการขับไล่แมลง
แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่ายากันยุงนี้จะใช้ได้ผลกับยุงในโลกใบนี้หรือไม่ แต่เขาก็นำมันมาด้วยเพื่อเป็นการเตรียมพร้อม
ถือว่าโชคดีที่ยากันยุงทำงานอย่างมีประสิทธิผล ยุงยักษ์สีม่วงเหล่านั้น หวาดกลัวอย่างมากเมื่อได้กลิ่นยากันยุง พวกมันหันกลับและบินหนี บางตัวบินโซเซผิดปกติคงเนื่องมาจาก การถูกละอองยา
เกาจิ้ง ที่อยู่ในภาวะตึงเครียด ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรีบฉีดพ่นยากันยุงใส่เสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว
เผื่อไว้ก่อนล่วงหน้า ในกรณีที่ถูกลอบโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว กลิ่นยากันยุงที่อยู่บนเสื้อผ้าอาจช่วยหยุดและขับไล่มันได้
เขารู้สึกว่ามันค่อนข้างน่ากลัว
หลังจากที่เขาเพิ่งฉีดสเปรย์ไล่ยุงเสร็จ จู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงเสียงผิดปกติบางอย่างดังกรอบแกรบแว่วมาเข้าหู
ดวงตาของ เกาจิ้ง จับจ้องไปที่สิ่งหนึ่งแล้วทันใดนั้น ความตะลึงงันทำให้ร่างกายของเขาแข็งทื่อ! ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
ห่างจากเขาไปเพียงไม่กี่เมตร ตะขาบตัวสีแดงแสด ยังกับถ่านในกองไฟตัวขนาดเท่าฝ่ามือ โผล่ออกมาจากพงหญ้าทึบ
มันคลานส่ายหัวและหาง ขานับสิบสิบคู่เหยียบกิ่งไม้และใบไม้ที่กองอยู่อย่างแน่นขนัด แล้วค่อยๆคลานเข้าไปในโพรงไม้ที่อยู่ข้างๆ ลำตัวยาวไม่ต่ำกว่า 2 เมตร
เกาจิ้งรู้สึกตนเองเหมือน หมาที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้า เกิดอาการหลังแข็งตัวสั่นควบคุมตัวเองไม่ได้ไปชั่วขณะ
ครั้งหนึ่งเขาเคยอ่านบทความบนอินเทอร์เน็ต โดยกล่าวว่าตะขาบยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดบนบโลคนั้นยาวกว่าสี่สิบเซนติเมตรเท่านั้น
เมื่อเทียบกับตะขาบที่เขาเห็นตอนนี้ มันเป็นน้องใหม่ใหญ่ยักษ์ในชั้นเรียนขนาดเล็ก
เกาจิ้ง มองไปที่ต้นไม้สูงตระหง่านรอบตัวเขาอีกครั้ง เขาไม่สามารถปีนป่ายได้ แม้แต่มองด้วยสายตาก็เกือบจะมองไม่เห็นยอด
ต้นไม้ที่เล็กที่สุดที่เขามองเห็นด้วยตาของเขา ก็ต้องใช้ผู้คนมากมายแค่ไหนมายืนถึงจะล้อมรอบได้และรูปแบบการเจริญเติบโตของมันก็แตกต่างจากต้นไม้ใหญ่บนโลกอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อนำมารวมกับเรื่องราวในความฝันกับสิ่งที่เขาเห็น นั่นเป็นอะไรที่เกินคาดเดาอย่างหน้าอัศจรรย์
นั่นคือสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ล้วนมีขนาดใหญ่มาก แม้แต่ยุง มด และแมลงก็ยังใหญ่กว่าดาวโลกถึงสิบเท่า
กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่คือเป็นโลกที่ "ใหญ่
อย่างแท้จริง"
มันเหมือนกับดาวโลกที่ขยายใหญ่ขึ้นสิบเท่า!
และการที่เกาจิ้ง มาปรากฏตัวอยู่ในโลกใบใหญ่นี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะกลายเป็น: มนุษย์ตัวจิ๋ว
การอนุมานนี้ซึ่งน่าจะเป็นความจริงอย่างมาก ทำให้ผมบนหนังศีรษะของ เกาจิ้งถึงกับขนหัวลุกซู่และร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
ความกล้าหาญที่จะสำรวจโลกเกือบจะสูญเสียไป
เพราะอันตรายที่เขาอาจจะพบเจอในโลกใบใหญ่ใบนี้ นั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เขาจินตนาการไว้ถึงสิบเท่าหรือร้อยเท่า!
แม้ว่าสมอทองแดงจะทำให้ เกาจิ้ง กลับสู่ดาวโลกได้ในทันที แต่ก็มีอุบัติเหตุมากมายที่ยากจะคาดเดา
บางทีขณะที่เขากำลังเดินป่าอย่างหนัก จู่ๆ สัตว์ร้ายก็วิ่งผ่านมาโดยไม่ได้ตั้งใจและเหยียบย่ำเขาจมดินตายไปเลยก็ได้ และนั่นมันก็อาจจะสายเกินไปที่ร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาตอบสนองหลบหลีกได้ทัน
แล้วจะทำอย่างไร?
ไม่ว่าจะยอมอยู่สำรวจต่อไปหรือไม่แต่เกาจิ้ง ก็ได้ตกอยู่ในการพัวพันทั้งใหญ่
จบตอน
ป.ล ดาวโลกใบใหม่นี้ใหญ่กว่าโลกเดิม 10 เท่า แต่สิ่งมีชีวิตหรือพืชบนโลกใบใหญ่นี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวพันกับโลกใบเดิมดังนั้นสิ่งมีชีวิตบนโลกใบใหม่นี้จึงมีขนาดและหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ได้ยึดติดรูปลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกใบเดิม