Chapter 95 : ถามทาง - ผู้สืบสายเลือดมังกร
ดวงจันทร์ขนาดใหญ่และส่องสว่างดวงนั้นลอยเด่นอยู่กลางม่านฟ้าทำให้ก้อนหินรอบๆสะท้อนแสงสีขาวจางๆออกมา
โจวเฉินกระโดดไปบนก้อนหินแต่ละก้อนไปเรื่อยๆ เขากระโดดลงและขึ้นไปมาครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อข้ามผ่านพื้นที่ภูเขาแถบนี้ไป
โจวเฉินเดินทางอยู่ในภูเขาเกือบๆชั่วโมงแต่กลับไม่พบสิ่งมีชีวิตใดเลย นอกจากนี้ยังไม่เจอใครที่พอจะถามทางได้ด้วย
หลังจากเดินทางมาอีกครึ่งชั่วโมงโจวเฉินก็สัมผัสได้ถึงบุคคลผู้หนึ่งเบื้องหน้าผ่านสกิลติดตัวอย่าง ‘กระหายเลือด’
คนผู้นี้ค่อนข้างพิเศษอยู่บ้าง สายเลือดของเขาทำให้โจวเฉินรู้สึกมีพลัง เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ใช่คนธรรมดา
ด้วยความสงสัยโจวเฉินจึงค่อยๆย่องเข้าหาคนผู้นั้น
ไม่นานนักเขาก็พบเข้ากับหญิงสาวผมเงินในชุดเกราะเหล็กที่มีดาบสะพายเอาไว้บริเวณเอว จากลักษณะแล้วดูเหมือนเจ้าหล่อนจะมีอายุราวๆยี่สิบปีและมีใบหน้าที่ทั้งสง่างามและงดงามในเวลาเดียวกัน ดวงตาของเจ้าหล่อนเป็นสีทองอร่ามและมีรูปร่างสูงโปร่งดูแข็งแรง
“นี่! เจ้าคนที่ซ่อนอยู่ตรงนั้นน่ะไสหัวออกมาซะ!”
โจวเฉินหลบซ่อนอยู่ในความมืดห่างออกมาราวยี่สิบเมตรเพื่อสังเกตอีกฝ่าย สตรีนักรบผมเงินผู้ที่ออกเดินทางท่ามกลางภูเขาเพียงลำพังผู้นั้นหันมามองทางทิศทางที่โจวเฉินซ่อนตัวอยู่ก่อนจะตะโกนออกมา
“ผมแค่อยากจะถามทางเท่านั้นเอง”
โจวเฉินค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าถูกจับได้แต่เขาก็ยังคงก้าวออกมาและเอ่ยตอบสตรีผู้นั้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“จริงรึ?”
สตรีผมเงินท่าทางองอาจจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาสีทองสุกสกาว
“เจ้าอยากไปที่ไหนล่ะ?”
“เมืองผาแดง ผมอยากจะรู้ตำแหน่งของเมืองผาแดง”
โจวเฉินตอบกลับเสียงเรียบ
“เมืองผาแดง? ข้าพึ่งจะออกมาจากที่นั่น”
หญิงสาวผมเงินยิ้ม
“ข้าคิดว่าเราน่าจะพอตกลงกันได้ เจ้าเคยเห็นแวมไพร์อยู่แถวนี้บ้างไหม?”
เจ้าหล่อนยิงคำถามกลับ
“ไม่”
โจวเฉินตอบกลับทันควัน
“เจ้าโกหก”
หากแต่สตรีผุ้นั้นกลับจับได้ในพริบตา
“ทั้งเจ้าและกล่องตรงนั้นต่างก็มีกลิ่นอายของแวมไพร์อยู่!”
สตรีผู้นั้นดึงดาบออกมาจากที่คาดเอว ใบดาบเล่มนี้ส่องแสงเรืองรองออกมาท่ามกลางแสงจันทร์
“เจ้าคือบริวารของแวมไพร์ตนนั้นสินะ?”
“???”
ใบหน้าของโจวเฉินเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
“คุณผู้หญิงอย่าได้กล่าววาจาเพ้อเจ้อ ผมไม่ใช่บริวารของแวมไพร์ซักหน่อย”
โจวเฉินตอบกลับทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ฮึ่ม ข้าไม่มีวันเชื่อเจ้า”
หญิงสาวแค่นเสียงเย็น จากนั้นเจ้าหล่อนก็สะบัดดาบและพุ่งตรงเข้าใส่เขา
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ดำเนินมาถึงจุดนี้แล้วโจวเฉินจึงไม่มีทางเลือก ในมือของเขาพลันปรากฏหอกยาวออกมาก่อนจะแทงเข้าใส่ลำคอของหญิงสาวผู้นั้นอย่างแรง
พละกำลังและความเร็วของเขาเหนือกว่าคนธรรมดาอย่างทาบไม่ติด แม้ว่าการโจมตีนี้ของเขาจะทั้งเรียบง่ายและตรงไปตรงมาแต่ความเร็วของมันนั้นรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ คนธรรมดาย่อมไม่มีทางหลบได้
หากแต่คู่ต่อสู้ของโจวเฉินเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดา เงาร่างของเจ้าหล่อนวูบไหวและสามารถหลบปลายหอกของโจวเฉินไปได้โดยที่ห่างเพียงไม่กี่มิลลิเมตร จากนั้นเจ้าหล่อนก็พุ่งเข้าใส่โจวเฉินอย่างรวดเร็ว
โจวเฉินรีบชักเท้าถอยกลับและฟาดหอกเข้าใส่ศีรษะของหญิงสาวโดยพลัน บีบให้เจ้าหล่อนต้องเลือกว่าจะหลบหรือโดนโจมตี
หากแต่สิ่งที่สตรีผู้นี้กระทำกลับอยู่เหนือการคาดเดาของโจวเฉิน เจ้าหล่อนเหยียดมือซ้ายออกมาจับด้ามหอกเอาไว้ทำให้โจวเฉินสัมผัสได้ถึงแรงต้านมหาศาล
‘ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้เก่งนัก? ทั้งการมองและความเร็วเองก็โดดเด่น ดูเหมือนเราจะเจอกับคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อแล้วสิ’
โจวเฉินเรียกขวานออกมาในมือซ้ายและยกมันขึ้นมาขวางใบดาบที่กวาดเข้าใส่
ยังไงก็ตามหญิงสาวผู้นั้นกลับหยุดดาบกลางคัน
“เจ้าไม่อ่อนแอ ข้าเชื่อแล้วว่าเจ้าไม่ใช่บริวารของแวมไพร์ตนนั้น”
พอกล่าวจบเจ้าหล่อนก็เก็บดาบเข้าฝักและปล่อยหอกของโจวเฉิน
โจวเฉินคาดการณ์ว่าความแข็งแกร่งของสตรีผู้นี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเขาเลย การจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ย่อมเป็นเรื่องยากดังนั้นเขาจึงหยุดโจมตีและดึงหอกกลับ
“บอกข้ามาว่ากลิ่นอายของแวมไพร์มาจากที่ใด?”
หญิงสาวถาม
“เฮอะๆ ทำไมฉันต้องบอกเธอด้วยไม่ทราบ?”
โจวเฉินพูดไม่ออกไปชั่วขณะ สตรีผู้นี้เมื่อกี้ยังเข้าโจมตีเขาอยู่เลยแต่มาตอนนี้กลับทำทีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเนี่ยนะ? บ้าบอชิบเป๋ง
หญิงสาวชะงักงันไปชั่วครู่เมื่อเห็นสีหน้าของโจวเฉิน จากนั้นเจ้าหล่อนก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เอาเถิด...เมื่อครู่ข้าหุนหันเกิดไปข้าต้องขออภัยด้วย”
“ให้ข้าแนะนำตัวก่อนะเถิด ข้าชื่อวีร่าเป็นผู้สืบสายเลือดมังกรจากแดนเหนือ ข้าค่อนข้างวิตกเล็กน้อยเนื่องจากพึ่งจะรับภารกิจล่าแวมไพร์มาวันนี้ ดังนั้นโปรดยกโทษให้การกระทำอันไร้เหตุผลเมื่อครู่ของข้าด้วย”
“เธอเป็นผู้สืบสายเลือดมังกร?”
โจวเฉินประหลาดใจยิ่งนัก เขาคิดว่าสตรีผู้นี้ทรงพลังแต่กลับไม่คิดเลยว่าเจ้าหล่อนจะมีสถานะเช่นนี้ด้วย
“ใช่แล้ว แดนเหนืออันห่างไกลคือบ้านเกิดของพวกเราเหล่าผู้สืบสายเลือดมังกร เจ้าเคยได้ยินหรือไม่?”
“ไม่เลย...”
โจวเฉินที่ต้องเผชิญกับสายตางุนงงของหญิงสาวกลับยังคงมีสีหน้าสงบนิ่ง เขาพึ่งจะมาที่นี่ได้ไม่กี่วันจึงไม่ค่อยจะรู้อะไรนัก เช่นนี้แล้วเขาจะรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?
“เข้าใจล่ะ...”
หญิงสาวมองไปที่โจวเฉินด้วยสีหน้ายากจะอธิบาย
“โปรดบอกข้าทีเถิดว่าแหล่งที่มาของกลิ่นอายแวมไพร์บนตัวเจ้ามาจากที่ใด”
“ได้..แต่เธอต้องบอกตำแหน่งของเมืองผาแดงมาก่อน”
โจวเฉินรู้สึกว่าเขาไม่อยากจะเสียเวลากับเจ้าหล่อนอีกต่อไปแล้ว
“เมืองผาแดงอยู่ทางทิศนั้น ใช้เวลาเดินทางจากที่นี่เพียงไม่ถึงครึ่งวันก็ถึงแล้ว”
หญิงสาวชี้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
“ตามนั้น...กลิ่นอายบนตัวของฉันมาจากแวมไพร์ที่ฉันพึ่งจะฆ่าทิ้งไปไม่นานนี้ ในหลุมตรงนั้นนั่นแหละ ถ้าเธอรีบไปก็น่าจะยังเจอศพอยู่”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวให้ข้อมูลที่เขาต้องการมาแล้วและดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้หลอกลวงเขา โจวเฉินจึงบอกความจริงเช่นกัน
“แวมไพร์ตนนั้นตายแล้วรึ? ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าก็เป็นไปได้จริงๆ...แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่จริงด้วยเช่นกัน”
หญิงสาวพึมพำ
“ขอบคุณเจ้ามาก ข้าขอตัวไปดูก่อน”
กระแสลมรุนแรงระเบิดออกมาจากร่างกายของเจ้าหล่อน เพียงเสี้ยวพริบตาหลังจากนั้นเงาร่างของเธอก็หายไปจากสายตาของโจวเฉินโดยสมบูรณ์
“เร็วโคตร...นี่เป็นผู้สืบสายเลือดมังกรจริงดิ? แต่ทำไมถึงดูไม่ต่างจากมนุษย์เลย? กระทั่งเขาก็ยังไม่มี”
แม้ว่าหญิงสาวผู้นี้จะเรียกตนเองว่าเป็นผู้สืบสายเลือดมังกรและความแข็งแกร่งเองก็ไม่สามารถดูถูกได้แต่โจวเฉินก็ไม่ค่อยเชื่อนัก เขาคิดว่าเจ้าหล่อนเพียงหลงตัวเองเท่านั้น ยังไงซะพวกผู้สืบสายเลือดมังกรจริงๆก็ไม่น่าจะเผยตัวตนให้กับคนแปลกหน้ารู้ง่ายๆเช่นนี้..เพราะการกระทำเช่นนั้นมันดูงี่เง่าเกินไปหน่อย