Chapter 94 : ออกเดินทาง
“ขอบคุณที่ช่วยนะคะ ส่วนเรื่องทางออกพวกเราพอจะรู้ทางลับอยู่”
หญิงสาวผู้นี้ไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อยหลังจากได้ยินโจวเฉินเอ่ยว่าให้ดูแลตัวเอง กลับกันเจ้าหล่อนกลับเอ่ยว่าเจ้าหล่อนรู้วิธีที่จะออกจากถ้ำแห่งนี้แบบง่ายๆแทน
“จริงหรอ?”
โจวเฉินเกิดความสนใจขึ้นมาทันทีเนื่องจากกระทั่งตัวเขาเองถ้าอยากจะออกจากถ้ำแห่งนี้ก็คงต้องปวดหัวไม่น้อย
“ค่ะ! แวมไพร์ตนนั้นใช้ทางลับที่ว่าพาฉันเข้ามาที่นี่เมื่อวานนี้!”
หญิงสาวพยักหน้ารับ
“เข้าใจล่ะนำทางไปได้เลย”
โจวเฉินตอบกลับ
“เข้าใจแล้วค่ะกรุณารอซักครู่นะคะ”
จากนั้นหญิงสาวผู้นั้นก็หันไปดึงร่างของหญิงสาววัยเยาอีกสองคนออกมาจากคุมเหล็กและช่วยพยุงหนึ่งในคนที่ดูอ่อนแอและใบหน้าขาวซีดที่สุด
“พวกเรามาจากหมู่บ้านเดียวกันดังนั้นฉันเลยทิ้งพวกเธอไม่ได้น่ะค่ะ”
หญิงสาวอธิบายให้โจวเฉินฟัง
“ฉันเข้าใจ”
โจวเฉินพยักหน้ารับคำ เขารู้สึกว่าหญิงสาวผู้นี้ค่อนข้างซื่อสัตย์พอสมควร
ครึ่งนาทีให้หลังโจวเฉินดึงหินเรืองแสงบนกำแพงออกมาสองก้อนและยื่นมันให้กับหญิงสาวเพื่อใช้ส่องทาง
เขาลองถามอีกฝ่ายดูแล้ว เจ้าหล่อนกล่าวว่าแม้ว่าตอนที่ถูกนำตัวเข้ามาที่นี่จะมองไม่เห็นเส้นทางแต่จากระยะทางและทิศทางในความทรงจำนั้นทำให้พอจะอุปมาตำแหน่งของทางออกได้
ไม่นานนักภายใต้การนำทางของสตรีผู้นั้นคนทั้งกลุ่มก็เดินออกจากห้องของแวมไพร์และมุ่งตรงเข้าไปในส่วนลึกของเส้นทางเดินภายในถ้ำ
“มันน่าจะอยู่ทางนี้แหละระยะทางเองก็น่าจะไม่ไกลมากนัก”
เจ้าหล่อนอาสานำทาง
“หยุดก่อน”
ทันใดนั้นโจวเฉินก็หยุดเธอเอาไว้ก่อน จากนั้นเขาก็ยกหอกขึ้นมาและพุ่งออกไปเบื้องหน้าเจาะทะลวงร่างของมอนสเตอร์ที่มีลักษณะคล้ายกับแมลงสาบตัวเขื่อง
“นำทางต่อได้เลย”
หลังจากจัดการกับภัยคุกคามแล้วเขาก็บอกให้เจ้าหล่อนเดินทางต่อ
หลังจากนั้นสิบนาทีโจวเฉินและคนอื่นๆก็มาหยุดอยู่ที่หน้ากำแพงหินแห่งหนึ่ง
“ฉันจำได้ว่าทางออกมันน่าจะอยู่แถวๆนี้แหละ...”
หญิงสาวพึมพำและมองไปที่กำแพงหินหนารอบกายด้วยสีหน้าสับสน
“น่าจะต้องไปต่ออีกหน่อย”
โจวเฉินเห็นว่าหญิงสาวผู้นี้ดูไม่เหมือนกับคนที่กำลังโกหกอยู่เพียงแต่ประเมินความเร็วของแวมไพร์และระยะทางผิดไปเท่านั้น
โจวเฉินออกเดินทางต่อพร้อมกับคนทั้งสาม ระหว่างทางนั้นเขาสังหารมอนสเตอร์ไปอีกมากมายและในที่สุดหลังจากเดินทางมาได้กว่าพันเมตรพวกเขาก็พบเข้ากับทางแยกจนได้
หนึ่งในทางแยกนั้นค่อนข้างแคบมากแต่นำขึ้นไปด้านบน จากมุมและองศาของมันนั้นแทบจะเรียกได้ว่าขนานกับพื้นเลยก็ว่าได้และยังดูลาดชันยิ่งนัก
“น่าจะเป็นตรงนี้แหละแต่ทำไมถึงได้ชันจังนะ?”
เมื่อสตรีที่เป็นผู้นำทางเห็นว่าเส้นทางนี้อันตรายมากเธอก็เกิดรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาเนื่องจากมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเธอจะปีนขึ้นไปได้
“ไม่ต้องกังวลเดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูก่อน”
โจวเฉินไม่ได้สนใจมากนัก เส้นทางเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากบ่อน้ำลึกๆแห่งหนึ่งที่ต่อให้เขาไม่เปิดใช้ย่างก้าวสายลมก็ยังสามารถไต่ขึ้นไปได้อยู่ดีผ่านการเหยียบไปบนหินที่ยื่นออกมา
กระทั่งกล่องที่เต็มไปด้วยเหรียญทองและอัญมณีเขายังไม่จำเป็นต้องวางลงเลยด้วยซ้ำ
ความเร็วของเขารวดเร็วเป็นอย่างมากและเพียงเสี้ยวพริบตาเดียวเงาร่างของเขาก็หายไปจากสายตาของหญิงสาวทั้งสามคนแล้ว
ขณะที่เคลื่อนที่ขึ้นสู่ด้านบนโจวเฉินสังเกตเห็นว่ามีค้างคาวบางชนิดมารวมตัวกันอยู่ภายในเส้นทางที่มีลักษณะคล้ายกับบ่อน้ำลึกๆแห่งนี้ เขาเปิดใช้งานสกิลติดตัวอย่าง ‘โล่’ ชั่วคราวก่อนจะหยิบขวานออกมาสับพวกมันจนกลายเป็นชิ้นๆ
หลังจากนั้นห้านาทีโจวเฉินก็มาถึงยอดของเส้นทางสายนี้และกระโดดออกมาได้สำเร็จ
ในตอนที่เขาออกมาเขาก็พบว่ารอบๆตัวนั้นเป็นภูเขาหินหัวโล้นทุกหนทุกแห่ง ทางออกนี้อาจจะอยู่ในเขตภูเขาเดียวกับปากทางเข้าถ้ำไร้นามก็เป็นได้ ณ เวลานี้บนท้องฟ้าพระอาทิตย์ถูกแทนที่ด้วยพระจันทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าเวลา ณ ตอนนี้ล่วงเลยมาถึงยามดึกแล้ว
“ไม่คิดเลยว่าไอ้หลุมนี่จะเชื่อมต่อกับถ้ำไร้นาม ถ้ารู้ก่อนก็คงไม่ต้องไปมีปัญหากับการหาวิธีเข้าถ้ำหรอก”
ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางนี้เป็นประโยชน์กับโจวเฉินมากทีเดียว เขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปวุ่นวายหรือเผชิญหน้ากับกองทัพทหารรับจ้างที่อาจจะเจอที่หน้าทางเข้าหลักอีกต่อไป
หลังจากยืนยันได้แล้วว่ารอบๆนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอีกด้วยสกิลติดตัว ‘กระหายเลือด’ โจวเฉินก็ซ่อนกล่องเหรียญทองเอาไว้ใต้ก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง
“ถึงจะหาศิลาหินเขี้ยวหนุมานไม่เจอแต่สกิลติดตัวที่ได้มาก็นับว่าเป็นของดี นอกจากนี้ยังได้เหรียญทองมาอีกเพียบ ตอนนี้พลังกายก็แทบจะหมดหลอดแล้วถ้าฝืนสู้ต่อคงไม่ดี กลับไปพักก่อนดีกว่า”
โจวเฉินอยากจะหยุดการสำรวจเอาไว้แค่นี้เนื่องจากเขาใช้เวลาเกือบทั้งวันไปกับถ้ำอันมืดสนิทแห่งนี้แล้ว นอกจากนี้ยังใช้แรงกายและแรงใจเกือบทั้งหมดไปกับการออกตามล่าและสังหารพวกมอนสเตอร์อีกด้วย เสบียงเพียงน้อยนิดที่นำมาไม่พอให้เขารั้งอยู่ที่นี่ได้นานเป็นแน่
“ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนจากกลุ่มทหารรับจ้างหลายคนที่รอดไปได้ พวกนั้นจะต้องพาคนมาบุกถ้ำต่อแน่ๆ ถ้าเรายังอยู่ในถ้ำต่อไปก็อาจจะถูกล้อมเอาได้ถ้าถูกเจอตัวเข้า นอกจากนี้ฉันไม่เชื่อหรอกว่าการพัฒนาเหมืองทองแบบนี้จะมีแค่กลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มเดียวคอยสนับสนุน”
โจวเฉินตัดสินใจแล้วว่ายิ่งเวลาผ่านไปการเคลื่อนไหวในถ้ำไร้นามก็จะยิ่งเสี่ยงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัยเขาจึงตัดสินใจจะหยุดแค่เท่านี้ก่อน
หลังจากตัดสินใจได้แล้วโจวเฉินก็กระโดดกลับลงไปในหลุม
เขาจะกลับลงไปพาสตรีทั้งสามขึ้นมา เรื่องที่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเรื่องนี้สามารถช่วยชีวิตคนได้อีกถึงสามคนเขาย่อมต้องทำ
หลังจากมาถึงด้านล่างโจวเฉินก็แบกร่างของสตรีคนหนึ่งขึ้นบ่าและอุ้มอีกสองคนเอาไว้ในแขนก่อนจะกระโดดขึ้นไปด้านบนปากหลุมอีกครั้ง หนนี้หลังจากเขาเปิดใช้ ‘ย่างก้าวสายลม’ ความเร็วในการปีนขึ้นสู่ด้านบนจึงเร็วยิ่งกว่ารอบแรกเสียอีก
...
“พวกเราจะไม่ลืมความช่วยเหลือของคุณแน่นอนค่ะ!”
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยพวกเรา!”
“ขอให้องค์จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองท่านตลอดไป!”
หลังจากโจวเฉินพาสตรีทั้งสามขึ้นมาจากหลุม พวกเธอก็ก้มหัวขอบคุณเขายกใหญ่ น้ำเสียงของพวกหล่อนทั้งสั่นเทาและเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
ไม่มีใครรู้หรอกว่าพวกเธอสิ้นหวังเพียงใดเมื่อตอนที่โจวเฉินปีนขึ้นมาคนเดียว พวกเธอคิดว่าพวกเธออาจจะติดอยู่ในถ้ำมืดๆนั่นไปตลอดการแล้วก็ได้แม้จะหลบหนีมาจากถ้ำของปิศาจตนนั้นได้แล้วก็ตาม
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกหล่อนถึงได้ดีใจนักเมื่อเห็นโจวเฉินหวนกลับมา
“พวกเธอรู้ไหมว่าเมืองผาแดงไปทางไหน?”
โจวเฉินมองไปรอบๆแต่ไม่ค่อยมั่นใจนักว่าตำแหน่งปัจจุบันของเขาอยู่ตรงไหน
“น่าจะเป็นทางนั้นค่ะ! ทางทิศของภูเขาลูกนั้น!”
หญิงสาวที่เป็นคนนำทางในคราแรกเอ่ยตอบออกมาทันที
“เข้าใจแล้วถ้างั้นก็ลาก่อนนะ ระหว่างทางกลับก็ระมัดระวังตัวกันด้วยล่ะ”
โจวเฉินรู้จากพฤติกรรมก่อนหน้านี้แล้วว่าหญิงสาวผู้นี้ค่อนข้างมีสัมผัสทางด้านเส้นทางดีเยี่ยมจึงเชื่อคำกล่าวของเจ้าหล่อน หลังจากหยิบกล่องเหรียญทองที่ซ่อนเอาไว้ขึ้นมาเขาก็จากไปทันที
เขาวางแผนว่าจะกลับไปยังโรงแรมป่าอุ่นเพื่อพักผ่อนเสียก่อนแล้วค่อยจัดการกับเหรียญทองและอัญมณีที่ได้มา