บทที่ 4: วันละหมื่นหยวน!
เมื่อบุกเบิกทั้งสิบสองแปลงดังกล่าวเสร็จแล้วฉินหลินก็สั่งให้ตัวละครเอาเมล็ดแตงโมไปปลูกต่อ
ทว่าก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาบอกว่า ‘เมล็ดไม่พอ!’
เขาถึงกับต้องตบหัวตัวเองเพราะลืมคำนึงถึงเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย
การปลูกผักแม้จะเป็นในเกมก็ยังต้องใช้เมล็ด
เมล็ดมีจำกัด เมื่อใช้หมดแล้วก็ต้องไปซื้อที่ร้านค้า ทว่าก่อนหน้านี้ตอนที่เกมยังอยู่ในมือถือเขาได้ใช้เงินในเกมซื้อเมล็ดแตงโมไปหมดแล้วด้วย
ตามเนื้อหาของเกมปกติแล้วเมื่อปลูกผักได้จะต้องเอาผลผลิตไปขายในเกมเพื่อแลกเงินและนำไปซื้อเมล็ดพันธุ์ชุดใหม่มาปลูกต่อ
จากนั้นก็วนซ้ำ ๆ เดิมอยู่แบบนี้เพื่อสะสมเงินพัฒนาฟาร์มให้เจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ดังนั้นการปลูกแตงโมในเกมแล้วเอาออกมาขายในโลกจริงถึงแม้จะหาเงินจริงได้ แต่ก็ไม่อาจหาเงินในเกมได้ เว้นแต่ว่าเขาจะเอาแตงโมล็อตใหม่ที่พึ่งเก็บเกี่ยวมาได้นี้ขายในเกมซะ แบบนั้นถึงจะมีเงินซื้อเมล็ดพันธุ์ชุดใหม่
แต่จู่ ๆ เขาก็เกิดไอเดียใหม่ขึ้นมาอย่างหนึ่ง นั่นคือหากเอาเมล็ดจากโลกจริงเข้าไปปลูกในเกมล่ะ? ทำได้มั้ย?
แค่คิดอย่างเดียวมันไม่ได้ข้อสรุป สิ่งเดียวที่จะทำให้ได้ข้อสรุปคือทดลองของจริง เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงปิดร้านและไปยังแหล่งรวมเมล็ดพันธุ์ของอำเภอโหยวเฉิงในทันที
เมื่อเดินเข้าร้านไปก็เห็นว่ามีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์เอ่ยปากทักทายอย่างกระตือรือร้นว่า “น้องชาย ๆ หาเมล็ดพันธุ์ไรอยู่เหรอ? ถามเจ๊ได้เลยนะ!”
“มีเมล็ดแตงโมไร้เมล็ดขายมั้ยครับเจ๊?” ฉินหลินถามพลางสอดส่ายสายตามองดูเมล็ดพืชในร้าน
แม้ว่าพื้นที่เลเวลหนึ่งในเกมจะใช้ปลูกผักผลไม้อะไรต่อมิอะไรได้หลากหลายก็จริงอยู่ แต่การค้าแตงโมไร้เมล็ดของเขามันพึ่งจะเริ่มเท่านั้นเอง จู่ ๆ จะตัดทิ้งแล้วเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นซะเฉย ๆ ก็ดูจะไม่เป็นชิ้นเป็นอันเกินไป ดังนั้นเขาจึงต้องเดินหน้าในด้านแตงโมไร้เมล็ดต่อไปก่อน
“มีสิ” อาเจ๊ยิ้มและเสนอราคา “แตงโมไร้เมล็ดจินละแปดสิบหยวน เอาเท่าไหร่ล่ะหืม?”
“ขอสองจินก่อนละกันครับเจ๊” ฉินหลินยังไม่มั่นใจว่าเมล็ดพันธุ์ชนิดนี้สามารถเอาไปปลูกในเกมได้หรือไม่ ดังนั้นจึงซื้อแค่กิโลเดียวก่อน และหลังจากที่กลับไปที่ร้านเขาก็จัดการปิดประตูบานเลื่อนล็อคให้สนิทอีกรอบก่อนจะเข้าโลกในเกมและลองเอาเมล็ดที่ซื้อมาใส่ไว้ในช่องเก็บเมล็ดพันธุ์
เสร็จแล้วก็ออกเกม
พอลองเปิดจอเกมขึ้นมาดูก็พบว่าในกล่องเก็บเมล็ดพันธุ์มีเมล็ดแตงโมอยู่
[เมล็ดของแตงโมไร้เมล็ด: คุณภาพเลเวล 1]
[เมล็ดของแตงโมไร้เมล็ด เมื่อปลูกแล้วจะได้แตงโมไร้เมล็ด!]
ช่างเป็นคำอธิบายที่โคตรหยาบแต่ก็เข้าใจง่าย
ฉินหลินสั่งให้ตัวละครเอาเมล็ดไปลงแปลงทั้งสิบสองแปลงที่พึ่งบุกเบิก
ครู่ต่อมาเขาก็เห็นว่ามีการแจ้งเตือนถึงการใช้งานแปลงปลูกทั้งสิบสองแปลงแล้วจึงได้ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
แปลว่าเมล็ดจากโลกจริงก็สามารถเอาไปปลูกในเกมได้นั่นเอง
เรื่องนี้ช่วยแก้ปัญหาไปได้เปลาะใหญ่เลยทีเดียว
ปัญหาต่อไปก็คือแตงโมที่ปลูกจากเมล็ดโลกจริงจะอร่อยเท่าแตงโมที่ปลูกจากเมล็ดในเกมรึเปล่า?
ช่วงบ่ายในกลุ่มวีแชทได้มีคนสั่งแตงโม ฉินหลินจึงเอาแตงโมที่เหลืออีกสามสิบลูกไปส่ง
ฉินหลินยังขายผักผลไม้ทั้งหมดที่เขาซื้อเมื่อวานนี้ในราคาต่ำและไม่ได้วางแผนที่จะไปหาซื้อของมาเติมเนื่องจากปัจจุบันเขาได้ผันตัวไปเป็นพ่อค้าขายแตงโมอย่างเต็มตัวแล้ว
.....................................................
ยามสนธยามาถึงเขาก็จัดการปิดร้าน ที่บ้านแม่ก็เตรียมข้าวเย็นไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
กินข้าวเย็นเสร็จก็เปิดจอเกมดู
แตงโมสิบสองแปลงแรกมีแมลงรบกวน ส่วนสิบสองแปลงหลังมีหญ้าขึ้นรบกวน ฉินหลินจึงไม่รอช้าสั่งตัวละครจัดการพวกมันทั้งหมด
หลังจากที่จัดการกับพวกตัวรบกวนทั้งหลายเสร็จแล้วเสียงแจ้งเตือนวีแชทก็ดังขึ้น
โม่ชิงเมียพี่ “เสร็จซักที ฉันจะกลับบ่ายพรุ่งนี้นะ มารับที่ที่ทำงาน เอ้อ แล้วก็อยากกินแตงโมด้วย!”
เมื่อเห็นว่าเป็นจ้าวโม่ชิงส่งมาฉินหลินก็พิมพ์ตอบกลับไปทันที “เคจ้าเมียจ๋า”
โมชิงเองก็เหมือนเขา คือหลังจากเรียนจบมหาลัยแล้วก็กลับมาที่อำเภอโหยวเฉิง ต่างก็ตรงที่โม่ชิงมีญาติทำงานในสำนักงานจัดเก็บภาษีของทางอำเภอ ดังนั้นเธอจึงสามารถเข้าทำงานเป็นข้าราชการในสำนักงานจัดเก็บภาษีได้
และช่วงไม่กี่วันมานี้ดูเหมือนว่ามีหลาย ๆ กลุ่มองค์กรรวย ๆ ในเมืองครอบครองทรัพย์สินที่มีพิรุธ ว่ากันว่าผู้บริหารบริษัทแห่งหนึ่งดันถูกถ่ายภาพตอนที่ตัวเองกำลังกินข้าวนั่งโม้กันอยู่ที่บ้านพักตากอากาศแห่งหนึ่งเข้าและโดนโพสต์ภาพดังกล่าวนั้นลงโซเชียล และมันได้ทำให้ดวงที่กำลังรุ่งของคนเหล่านั้นถึงขั้นร่วงตุ้บลงเหว
เบื้องบนจึงได้นำคณะผู้ตรวจสอบภาษีซึ่งมีโม่ชิงอยู่ด้วยเข้าตรวจสอบพวกมันอย่างละเอียด
ฉินหลินกับโม่ชิงคุยวีแชทกันจนดึกดื่น
...................................…
วันรุ่งขึ้น
ฉินหลินตื่นเช้าขึ้นมาก็ไม่รอช้ารีบเปิดจอเกม ผลคือแตงโมทั้งยี่สิบสี่แปลงสุกหมดแล้ว
และที่เขาโฟกัสเป็นพิเศษคือแตงโมที่ปลูกจากเมล็ดโลกจริง มองดูแล้วหน้าตาก็เหมือน ๆ กับลูกที่ปลูกจากเมล็ดในเกมเป๊ะ
เพื่อความชัวร์จึงให้ตัวละครไปเก็บมาดู จากนั้นตัวเขาก็เข้าโลกในเกมไป
เมื่อเดินไปดูที่โกดังเก็บของก็เห็นว่ามีแตงโมที่เก็บมาก่อนหน้านี้วางอยู่สิบหกลูก โดยแต่ละลูกดูจะหนักประมาณสิบกว่าจิน
เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็เห็นข้อความ
[แตงโมไร้เมล็ด: คุณภาพเลเวล 1]
[คำแนะนำ: แม้จะไม่ใช่แตงโมที่วิเศษวิโสอะไรแต่ก็ปลูกโดยเกมจึงดีที่สุดในบรรดาแตงโมทั่วไป]
ดู ๆ แล้วก็เดิม ๆ
ฉินหลินยังคงกังวลอยู่หน่อย ๆ จึงเอามันกลับโลกจริงแล้วเอามันไปผ่าในครัว จากนั้นก็หั่นชิ้นพอดีคำมากิน
รสชาติอร่อยที่ได้ทำให้เขาโล่งอก
แบบนี้ก็แปลว่าการเอาเมล็ดจากโลกจริงเข้าไปปลูกในเกมสามารถทำได้โดยไม่ต้องกลัวว่ารสชาติจะเพี้ยน
“เสี่ยวหลิน ทำไมลูกกินแตงโมแต่เช้าล่ะเนี่ย? เดี๋ยวก็ท้องเสียหรอก” หลินเฟินมาเห็นก็อดจู้จี้กับลูกตัวเองไม่ได้
ฉินหลินยิ้มและอธิบายว่า “แม่ครับ ผมแค่ลองชิมแตงโมเอง กะว่าจากนี้ไปจะเอาไปขาย”
หลินเฟินไม่ได้ว่าอะไรอีกแต่กลับกลับหยิบแตงโมขึ้นมาหนึ่งชิ้นและวางแผนที่จะช่วยให้คำแนะนำแก่ลูกชายซักหน่อย และพอกัดเข้าไปคำเดียวก็ต้องอุทานอย่างตกใจ “โห อร่อยมาก แตงโมที่ร้านจะหารสชาติแบบนี้ถือว่ายากแสนยาก ถ้าทุกลูกอร่อยแบบนี้ล่ะก็ยังไงก็ขายดีแน่นอน”
แม่ค้าที่เปิดร้านขายผักผลไม้มาทั้งชีวิตอย่างหลินเฟินย่อมรู้ดีว่าแตงโมที่กินอยู่นี้ของดีหรือไม่เป็นธรรมดา
ฉินหลินเปิดจอเกมแล้วสั่งให้ตัวละครไปเก็บแตงโมจากทั้งยี่สิบสี่แปลงให้เรียบร้อยจากนั้นก็ให้มันปลูกชุดใหม่เลย
และถ้าปลูกตอนนี้ชุดใหม่ก็จะสุกตอนเย็น
จากนั้นฉินหลินก็กินข้าวเช้ากับแม่ แล้วเขาก็ออกเดินทางไปยังโกดังที่เช่าไว้
เมื่อเขามาถึงโกดังก็ล็อคประตูและเข้าเกมเหมือนเดิม เมื่อเดินเข้าไปในโกดังเก็บของในเกมก็เห็นกล่องข้อความแจ้งเตือนว่า
แตงโมไร้เมล็ด: 418 (เลเวล 1)
เป็นผลผลิตจากยี่สิบสี่อแปลง
ซึ่งก็ธรรมดาชินแล้ว แต่ที่ไม่ชินคือมีแตงโมสามลูกวางแยกจากกองแตงโมก่อนหน้าโดยมีกล่องข้อความกำกับไว้ว่า:
แตงโมไร้เมล็ด: 3 (เลเวล 2)
‘เฮ่ย! มีแตงโมเวลสูงด้วย? ดูจากลายเส้นของมันแล้วเข้มลึกกว่าเวลหนึ่งชัดเจนเลย แถมลูกยังดูกลมกว่าด้วย’
เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็มีกล่องข้อความเด้งขึ้น
[แตงโมไร้เมล็ด: เลเวล 2]
[หมายเหตุ: แตงโมคุณภาพสูงที่ผลิตโดยเกม ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ รสสัมผัส หรือกลิ่น… ล้วนสูงกว่าแตงโมเลเวล 1 เยอะ อาจทำให้ไม่สามารถควบคุมต่อมรับรสได้ อร่อย +2, หวาน +2, รสสัมผัส +2, ติดปาก +2!]
เวลสองทำให้พวกรสชาติความหวานอะไรกลายเป็นบวกสองหมดเลย แถมยังมีติดปากบวกสองด้วย
แล้วยังมีอะไรที่ฟังดูเกินจริงอยู่อีก
อาจไม่สามารถควบคุมต่อมรับรส? อะไรจะปานนั้น
ไม่ใช่อาหารเลิศรสซักกะหน่อย
ฉินหลินเองก็อยากเทสต์ดูเหมือนกันว่าไอ้แตงโมเวลสองที่บวกสองเพียบนี่มันจะเจ๋งอย่างที่คำอธิบายโม้ไว้ซักแค่ไหน ทว่าตอนนี้ยังไม่ได้ ต้องหาเงินก่อน
เขาทำการย้ายแตงโมทั้งสี่ร้อยสิบแปดลูกออกมายังโลกจริงแล้วถ่ายคลิปลงวีแชทพร้อมข้อความเหมือนเดิมคือขายส่งจินละหนึ่งจุดห้าหยวนส่งถึงหน้าบ้าน
ไม่นานหลังจากโพสต์ไปปแล้วฉินหลินก็ขนแตงโมทั้งหมดใส่เจ้ารถบุโรทั่ง และเสียงแจ้งเตือนวีแชทก็ดังขึ้นมา เป็นหลิวต้าเชิ่งที่เร็วสุดสั่งของก่อนเพื่อน
แม้จะแค่แตงโมเลเวลหนึ่ง แต่มันก็ยังอร่อยกว่าแตงโมเดิม ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปมาก ยิ่งเป็นหน้าแตงโมแบบนี้ด้วยแล้วไม่ต้องห่วงเลยว่าจะขายไม่ออก ลูกค้าที่ซื้อไปรอบหนึ่งต้องม้วนตัวกลับมาซื้ออีกรอบอย่างแน่นอน ดังนั้นเถ้าแก่ที่เคยสั่งแตงโมกับเขาจึงประเมินว่าต้องสั่งของเข้าร้านเยอะกว่าเดิมซะแล้ว
ไม่เพียงแค่นั้น เนื่องจากความขายดีของเหล่าเถ้าแก่จ้าวก่อน ๆ แพร่ออกไปทำให้มีเถ้าแก่จ้าวใหม่ ๆ ออเดอร์ผ่านทางวีแชทกันร้านละยี่สิบสามสิบลูก โดยร้านเหล่านั้นถ้าไม่อยู่ฝั่งตะวันออกก็อยู่แถว ๆ ถนนสุ่ยซี
เขาขายแค่สองวันโดยมีผลลัพธ์คือเทน้ำเทท่าย่อมทำให้เถ้าแก่ทั้งหลายในกลุ่มวีแชทต้องรีบเอาด้วยเป็นธรรมดา
ฉินหลินคำนวณดูแล้วพบว่าจำนวนแตงโมที่เถ้าแก่ทั้งหลายออเดอร์มานั้นมีทั้งหมดสามร้อยเก้าสิบห้าลูกซึ่งเกือบหมดชุดแรก
พอรับออเดอร์เสร็จก็ขนแตงโมที่เหลือขึ้นรถต่อและขับกลับเข้าตัวอำเภอ
สาย ๆ เขาก็เอาแตงโมไปส่งให้พวกหลิวต้าเชิ่ง
“มาละเหรอเสี่ยวฉิน” เมื่อหลิวต้าเชิ่งเห็นเขาก็เข้ามาต้อนรับยิ้มแย้มแจ่มใส
“แตงโมขายดีมากวันนี้เลยกะจะสั่งเพิ่มอีกสิบลูก” เขาบอก
“ขอบคุณพี่หลิวที่ช่วยนะครับ” ฉินหลินยิ้มตอบและเริ่มขนแตงโมลงรถ จ่ายเงินจ่ายไรเสร็จเขาก็ไปต่อที่ร้านของเฉินต้าเหอและอ้ายชือนีและอื่น ๆ จากนั้นก็กลับร้านไปพร้อมกับแตงโมที่เหลืออีกยี่สิบสามลูกในตอนเที่ยง
เมื่อคำนวณเงินดูแล้วสามร้อยเก้าสิบห้าลูกเป็นเงินสี่พันสี่ร้อยยี่สิบสี่หยวน เงินในบัญชีตอนนี้มีหกพันหกร้อยสามสิบหกหยวน และถ้าขายแตงโมอีกชุดที่กำลังจะสุกในตอนเย็นนี้ได้ล่ะก็เขาน่าจะหาเงินได้วันละหนึ่งหมื่นหยวน!
กลายเป็นว่าในวันเดียวเขากลับสามารถหาเงินได้เท่ากับที่เขาทำงานขายผักผลไม้อย่างหนักเดิม ๆ ตลอดหนึ่งเดือนเต็ม ๆ