ตอนที่ 816 โจมตีสะท้านขวัญ
อู่ซวนเต็มไปด้วยความคิดอยากได้ความดีความชอบและกำลังระดมกำลังทหารไม่เคยคาดว่าจะมีการโจมตีตั้งแต่แรกเริ่ม
ป้อมกวงหมิงอายุ 200ปีมีแสงประจำป้อมส่องยืดระยะออกไป 60 กิโลเมตร แสงของป้อมซึ่งมีรัศมี 60 กิโลเมตรไม่ใช่แค่ลบล้างพลังโจมตีของข้าศึกเท่านั้นแต่ยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังที่มองเห็นได้ ตราบใดที่มีความต้องการ มันเปลี่ยนเป็นแสงป้องกันได้ทันที ต้องการจะโจมตีป้อมกวงหมิงจะต้องผ่านกระดองเต่าที่มีความหนา 60 กิโลเมตร
ด้วยความพยายามครั้งก่อนของเขาตู้เค่อทำได้แต่เพียงโจมตีประตูบาป เพราะพวกเขาเบื่อและพวกเขาตั้งใจจะปล่อยให้เขามาที่ประตูบาปเพื่อเล่นบันเทิง แม้แต่ด้วยพลังความแข็งแกร่งของตู้เค่อ เป็นไปไม่ได้ที่จะทะลุผ่านแสงของป้อมปราการ
ด้วยการป้องกันของแสงประจำป้อมอู่ซวนไม่กังวลเรื่องการลอบโจมตี เขาไม่เคยได้ยินว่ามีการโจมตีใดๆที่สามารถทะลุผ่านแนวป้องกันแสงประจำป้อมระยะ 60 กิโลเมตรได้
ไม่เคยมีใครสักคน และจะไม่มีในอนาคตนั่นคือความมั่นใจที่ทวีปกวงหมิงมี
อู่ซวนเงยหน้าเป็นเพราะเขารู้สึกถึงความปั่นป่วนแต่ไกล เมื่อเขาเห็นหน่วยเล็กๆ 200คนกำลังเตรียมโจมตีในอากาศ เขาแค่นเสียง
ต่อให้มี 2000 คนพวกเขาก็ไม่มีทางคุกคามป้อมกวงหมิงได้
มีสิ่งเดียวที่ดึงดูดความสนใจอู่ซวนก็คือผู้นำ
‘เขายังดูอายุน้อยมากนั่นอาจจะห้าวเกินไปหน่อย’ อู่ซวนอดตื่นเต้นไม่ได้ ใบหน้าอ่อนที่เมื่อหลายปีก่อนอยู่ต่อหน้าเขาทำให้เขาคิดถึงตนเองเมื่อยังอายุเยาว์
‘ดีมากจริงๆ’
อู่ซวนลอบถอนหายใจ และแทบจะหายไปทันที เขาเอาแต่ดื่มเหล้าทุกวันโดยไม่ทำอะไร หลังจากคิดถึงวัยเยาว์ของเขาเมื่อเขายังเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและกำลังใจ เขารู้สึกขมขื่นอย่างช่วยไม่ได้
ตาของเขาว่างเปล่า สีหน้าของเขาฟุ้งซ่าน
ทันใดนั้นความรู้สึกถึงอันตรายรุนแรงบีบหัวใจเขาโดยไม่มีคำเตือน
เขากลับสู่ความสงบแต่ก็ตกใจ
หลังจากงุ่มง่ามอยู่นาน มันทำให้ความสามารถต่อสู้ของเขาแย่ลง เมื่อความระมัดระวังเพิ่มขึ้นจากหัวใจเขา ปฏิกิริยาแรกของเขาคือไม่หลบ แต่เป็นความประหลาดใจ!
‘อันตราย? จะอันตรายได้ยังไง? ข้าอยู่ภายในป้อมหรือว่าจะมีพลังโจมตีที่สามารถทะลุผ่านพลังแสงประจำป้อมได้?’
‘น่าตลก, จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง...’
ก่อนที่รอยยิ้มเยาะเย้ยจะจางไปจากใบหน้าของเขา ม่านตาของเขาพลันหรี่ลง
จุดหิ่งห้อยจุดหนึ่งปรากฏห่างจากเขา 200เมตรทันที!
แสงของป้อมที่กว้างไกลไม่สิ้นสุดเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดยักษ์ที่ถูกปลุกเร้าขึ้นในทันที มันพุ่งและรวมตัวไปทางจุดสีแดง แสงเข้มข้น 60กิโลเมตรของป้อมปราการกลายเป็นหนาแน่น แสงสีขาวแพรวพราวกลายเป็นรูปที่ชัดเจน
ทะเลแสงสีขาวโพลนพลันสว่าง
โดยยืมกฎอวกาศธนูน้ำแข็งที่ยิงเข้าไปในทะเลแสงขาวบางลงเหลือครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับขนาดแต่ก่อน กฎอวกาศของธนูทำให้มันถูกตรวจสอบไม่ได้อย่างสิ้นเชิง และมันพุ่งไปเหมือนสายฟ้าและกระพริบวาบไม่มีสะดุด
แสงสีขาวที่หนาแน่นพุ่งเข้าหาธนูน้ำแข็งและผิวของธนูน้ำแข็งละลายด้วยความเร็วอย่างน่าทึ่ง
หลังจากลูกศรปรากฏ หางที่เป็นรูปร่างก็ปรากฏ
และมันกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
แค่ระยะห่าง 200 เมตรแม้ว่าในพลังแสงของป้อมที่เข้มข้น ก็ไม่สามารถละลายและคลี่คลายลูกศรได้สมบูรณ์!
รัศมีแสงไม่เปล่งประกายเหมือนกับหางของดาวหางต่อไป
ปัง!
สมองของอู่ซวนระเบิดเหมือนกับผลของแตงโม
ธนูน้ำแข็งยังมีพลังแฝงไม่หมดสิ้นยิงทะลุร่างทหารอีกสามคนโดยไม่ใช้พลังอะไร และฝังตัวเองเข้าไปในกำแพงป้อมปราการ
เมื่อเวลาที่ธนูสัมผัสเข้ากับกำแพงมันมีขนาดเท่าเม็ดถั่วแดง มันทิ้งรูขนาดเท่าเม็ดถั่วก็จริงแต่มีรอยราวเหมือนใยแมงมุมขยายออกไป
ร่างไร้ศีรษะของอู่ซวนยังคงยืนอยู่ในท่าเดิม
ทะเลแสงสีขาวที่เกรี้ยวกราดพอสูญเสียเป้าหมายก็พลันสงบลงอีกครั้ง
ป้อมกวงหมิงที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยกันก่อนนั้นพลันเงียบสงบลง
กองทัพใหญ่ที่ยืนห่างออกไป 60กิโลเมตรจากป้อมก็เงียบเช่นกัน
สมรภูมิใหญ่เงียบทำให้เวลาเหมือนหยุดนิ่ง
เนี่ยชิว, จงหลีไป๋ตู้เค่อและพวกที่เหลือมีสีหน้าชะงักค้างทุกคน
ความเงียบราวป่าช้าคงอยู่สามวินาทีก่อนที่จะมีเสียงฮือฮาโห่ร้องดังขึ้นในท้องฟ้าดังกลบทั่วสนามรบทั้งหมด
ตู้เค่อตื่นเต้นจัดวิ่งไปหาถังเทียนและถามทันที “เจ้าทำแบบนั้นได้ยังไง? เจ้าทำแบบนั้นได้ยังไง?”
จงหลีไป๋เอามือทั้งสองกุมศีรษะใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อพูดตะกุกตะกัก “เป็นไปไม่ได้! นั่นเป็นไปไม่ได้! บ้าไปแล้ว! นี่มันบ้าชัดๆ!”
เขาโห่ร้องไปแล้วเมื่อพูดถึงคำว่า ‘บ้าชัดๆ’
เนี่ยชิวเองสูญเสียความเยือกเย็นตามปกติ, เขาไม่ทันสังเกตว่ามือของเขากำลังสั่นอย่างควบคุมไม่ได้อยู่ในแขนเสื้อของเขา หน้าของเขาเหมือนคนสูญเสียวิญญาณ “นั่นไม่สมเหตุสมผลไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย...”
ที่ต่างกับตู้เค่อและสองสามคนที่ลืมตัวตู้ซินหวี่และกองทัพนางยังไม่ฟื้นจากอาการเงียบตะลึง พวกยอดฝีมือในทำเนียบนักสู้ยืนนิ่งงันเหมือนกับรูปปั้น
ความจริง พวกยอดฝีมือในทำเนียบเหล่านี้ดูแคลนหน่วยสุญญตา ทุกคนที่เป็นนักสู้ในทำเนียบนักสู้ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์พิเศษ พวกเขาจำเป็นต้องขัดเกลาผ่านการสู้รบมานับครั้งไม่ถ้วนไปทีละก้าวจนติดอันดับนักสู้ในทำเนียบนักสู้แดนบาป แล้วเขาจะมองยกย่องคนอื่นอย่างนั้นได้ยังไง
พวกได้รับความเชื่อมั่นจากตู้เค่อ พวกเขายังคงยอมรับรูปแบบทหาร แต่พวกเขายังเชื่อหนักแน่นว่าตราบเท่าที่พวกเขาเข้าใจปมของการต่อสู้แบบกองทัพ หน่วยสุญญตาก็จะต้องอยู่ใต้พวกเขา
แต่การโจมตีที่ดูเหมือนจะข่มความคิดของพวกเขาได้นั้นเหมือนกับเอาถังน้ำแข็งราดใส่พวกเขา
จากนั้นพวกเขาตระหนักว่าความเข้าใจของพวกเขาน่าตลกอย่างแท้จริง
ป้อมกวงหมิงระเบิดออกเหมือนกับรังผึ้ง ไม่มีอะไรอื่นที่น่ากลัวเท่ากับเห็นผู้บัญชาการถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายอยู่บนกำแพงป้อม พวกทหารเหมือนแมลงวันไร้หัว หน้าของพวกเขาซีดขาว ตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว พวกเขาแหกปากร้องไม่เป็นถ้อยคำ
หลายคนคุกเข่าทันทีพยายามบังร่างของพวกเขาไว้เบื้องหลังเชิงเทินและกำแพง
ในพริบตาไม่มีใครยืนปรากฏตัวให้เห็นบนกำแพงป้อม ปากของเหวินกังซีดขาวสั่นจนไม่สามารถพูดได้ เขาสั่นตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ไม่ไกลจากเขา หลู่ไคหมอบลงด้านหลังกำแพงมือของเขากอดเข่า ทั้งตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ปากพึมพำอยู่อย่างเดียว
“เราเสร็จแน่...เสร็จแน่...”
ใช่แล้วจบกัน นั่นคือสิ่งที่ทุกคนกำลังคิด
แม้ว่าอู่ซวนจะไม่ได้ทำอะไรในอดีตที่ผ่านมาไม่กี่ปี แต่กองทัพกับเขามีเขาเป็นผู้นำด้วยตัวเอง ศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของเขาฝังลึกอยู่ในใจทหาร แม้ว่าในอดีตไม่กี่ปีมานี้การกระทำของเขาไม่น่ายกย่อง แต่เขาก็ยังเป็นหลักยึดเหนี่ยวทุกคน ไม่ว่าการเลื่อนขั้นหรือความดีความชอบหลุดไปจากหัวของพวกเขาหมดแล้ว
“อาไค,เราจะตายหรือเปล่า?”
เสียงของเหวินกังสั่นสะท้าน เขาไม่เข้าใจว่าสถานการณ์จู่ๆก็กลายเป็นแบบนั้นได้ยังไง
ความตายมาถึงอย่างฉับพลันทันด่วน และใกล้ตัวพวกเขาถึงปานนั้น
หลู่ไคพึมพำซ้ำๆ “ข้าไม่อยากตาย, ข้าไม่อยากตาย”
ความสิ้นหวังเต็มไปทั่วประตูบาป
ความตายของอู่ซวนทำให้ทั่วสนามรบเปลี่ยนไปและเป็นความเคลื่อนไหวที่เด็ดขาดมาก
ในทางตรงกันข้ามกับความสิ้นหวังและกำลังใจตกต่ำของฝ่ายประตูบาป ฝ่ายของถังเทียนเต็มไปด้วยกำลังใจท่วมท้น ก่อนนี้ตู้เค่อเก็บงำความคิดเรื่องความล้มเหลวไว้ แต่ตอนนี้เขาเห็นชัยชนะของการผลักเปิดประตูแล้ว!
“คนที่เพิ่งตายไปน่าจะเป็นผู้บัญชาการใหญ่ของฝ่ายตรงข้าม!” จงหลีไป๋ตื่นเต้นมาก เขาพูดอย่างรวดเร็ว “เนี่ยชิวเพิ่งคำนวณอย่างระมัดระวังแล้วแสงป้อมของประตูบาปอ่อนลง 15% พอเมื่อผู้บัญชาการใหญ่ของป้อมตายสถานการณ์นี้ก็เกิดขึ้น นี่เป็นจุดเด่นของป้อมกวงหมิง มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้บัญชาการและป้อม แม้ว่าทหารธรรมดาจะสามารถควบคุมระดับแสงป้อมได้ แต่ในแง่ขนาดและกำลังปัญญาพวกเขาจำเป็นต้องได้ผู้บัญชาการคอยควบคุมอย่างมิต้องสงสัย”
ทุกคนตื่นเต้นและตั้งใจฟัง ทุกคนรู้ว่าไม่มีใครมีความเข้าใจป้อมกวงหมิงดีกว่าเมื่อเทียบกับสองคนนี้
จากนั้นจงหลีไป๋พูดต่อ “นอกจากนี้ พลังที่ลดลง 15% เป็นแค่เพียงผิวเผิน แต่ในความเป็นจริงมันยังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น กำลังใจของศัตรูจะตกต่ำลงตลอดเวลา ข้าไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ที่ทวีปกวงหมิงจะเป็นยังไง แต่กฎของพวกกวงหมิง (สมาพันธ์ชาวยุทธ)มีว่าเมื่อผู้บัญชาการตายและทหารยังมีชีวิตรอดอยู่ หมายความว่าทหารรบไม่ได้มาตรฐานดังนั้นพวกทหารจะถูกลงโทษ และการลงโทษมักจะมีความรุนแรงมาก”
ถังเทียนพูด“ก็เหมือนกันนั่นแหละสำหรับทวีปกวงหมิง”
หน้าของเขาค่อนข้างซีดขาว การโจมตีเมื่อครู่ใช้พลังไปมากมาย แต่ก็เป็นการจัดการที่ดีเช่นกัน
สายของทุกคนหันไปมองหน้าของถังเทียน พวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพนับถือและเกรงกลัว เด็กหนุ่มอายุเยาว์ผู้นี้ในที่สุดก็ให้ความสำคัญกับพวกมือดีและยอดฝีมือแดนบาป
“ศัตรูจะต้องแตกพ่ายอย่างแน่นอน” สายตาของจงหลีไป๋คมเหมือนดาบ น้ำเสียงคำพูดของเขายังคงมั่นใจ “ด้วยการตายของผู้บัญชาการของพวกเขา พวกเขาย่อมสูญเสียกำลังใจ กับการลงโทษพวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นความหวังได้ ความสิ้นหวังและพ่ายแพ้ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในจุดตกต่ำที่สุด ตราบใดที่เราโจมตีใส่พวกเขา พวกเขาจะร่วงลงเหมือนกับหิมะแค่ได้ยินเสียงก็จะถล่มพังทลาย ดังนั้นเราจะให้โอกาสพวกเขาหายใจไม่ได้ เราควรบุกโจมตีขั้นแตกหักกับพวกเขาเดี๋ยวนี้!”
ตู้เค่อยืนขึ้นโดยไม่ลังเล “ให้เราเอง!”
ตู้ซินหวี่ก็ยืนขึ้นเช่นกัน “ข้าหวังว่าหน่วยของข้าจะเข้าร่วมรบครั้งนี้ได้!”
สายตาทุกคนมองดูถังเทียน มีเพียงจงหลีไป๋และเนี่ยชิวที่มีท่าทีคิด
‘พวกเขาตั้งใจจะเข้าร่วมภายใต้บัญชาการนายท่าน?’
ถังเทียนพูดอย่างไม่ลังเล “ตกลง!”
“นายท่านแค่รอและดูเราสู้ก็พอ!”
ตู้ซินหวี่คำนับให้จงหลีไป๋และเนี่ยชิว แม้ว่าพลังส่วนตัวของนางจะไม่นับว่าแข็งแกร่ง แต่สายตามองการณ์ไกลของนางและกลยุทธของนางนับว่าโดดเด่น แม้ว่านางจะเตรียมแผนไว้นานว่าจะเข้าร่วมภายใต้ร่มธงถังเทียน แต่พวกเขาไม่เปิดเผยแผนการ เพียงแต่ยืมกำลังถังเทียนและชัยชนะก้าวหน้าไปด้วยกัน
ยอดฝีมือในทำเนียบนักสู้ที่อยู่ด้านหลังนางมีท่าทีไตร่ตรอง พวกเขามองหน้ากันเองและไม่มีใครคัดค้าน
ถ้าเราต้องพูดกันว่าก่อนนี้พวกเขาไม่ได้เห็นถังเทียนและพวกอยู่ในสายตาพวกเขาแต่แล้วตอนนี้หลังจากเห็นพลังที่น่ากลัวและเด็ดขาดของกองพลเกราะเทพเจ้ากับตาแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าถังเทียนผู้ที่พวกเขาดูแคลนมีพลังแปลกประหลาด
ในแดนบาปผู้แข็งแกร่งคือเจ้าและขอบเขตพลังของถังเทียน ทำให้แรงต้านในหัวใจของพวกเขาลดลงมากมาย
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับเขาโดยสิ้นเชิง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ปฏิเสธ
ตู้เค่อและตู้ซินหวี่มองหน้ากันเอง ทั้งสองถอนหายใจโล่งอยู่ในใจ พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างกองกำลังแดนบาป แต่เหตุผลเพราะการแตกความสามัคคี
แต่อารมณ์ของพวกเขาจริงจังอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการสู้รบที่ตามมาจะเป็นการเข้าปะทะกันจริงๆ