ตอนที่ 814 ประตูบาป
ในท้องฟ้าระยะห่างจู่ๆ ก็มีกลุ่มจุดเล็กๆ ปรากฏ จุดเล็กนั้นมีมากมองดูเหมือนฝูงแตนสีดำมากมายไม่สิ้นสุด
เสียงสั่นสะเทือนดังหึ่งๆเหมือนกับเสียงกระพือปีกของผึ้ง
หลังจากกำหนดตำแหน่งของแหล่งเสียงได้แล้วนี่ไม่ทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจ แต่กลับเกิดความเย็นยะเยียบเสียดกระดูกแล่นตั้งแต่เท้าเบื้องต่ำขึ้นไปบนศีรษะ ร่างกายของพวกเขาแข็งชะงักอย่างรวดเร็ว เหมือนกับเป็นตุ๊กตาน้ำแข็งไม่สามารถขยับได้สักนิ้ว
กึกๆๆเสียงฟันสั่นกระทบกันฟังได้ยิน
เหวินกังพูดทั้งที่ลิ้นสั่นระรัวหน้าของเขาซีดขาวราวกับกระดาษ ตาของเขาเหลือแต่แววหวาดกลัว
‘มีคนอยู่เท่าใดกันนี่?’
‘นับไม่หวาดไม่ไหวแล้ว’
พวกเขาไม่เคยพบกับสถานการณ์เช่นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้เรียกหา ทางผ่านเข้าประตูบาปถูกเรียกว่า ทางมรณะสู่มาตุภูมิ และมีซากศพกองมากมายกลายเป็นเถ้าถ่านสีเทาเมื่อเวลาผ่านไป และตอนนี้เส้นทางมรณะสู่มาตุภูมิกลายเป็นหนทางสีเทา
ในช่วงปีแรกๆที่ถูกผลักดันไปที่แดนบาป มีคนกี่คนต้องตายไปบนเส้นทางสายนี้? นับไม่ถ้วนเลย ขณะนั้นพลเมืองแดนบาปหยิ่งยโสไม่กลัวตาย และบุกเข้าประตูบาปอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนั้นมีกองทหารรักษาการณ์ที่ประตูบาปสองกองทัพ ไม่ใช่กองทัพเดียว
การปราบปรามอย่างนองเลือดทำให้ทางผ่านเต็มไปด้วยกระดูก ชื่อของทางมรณะสู่มาตุภูมิจึงค่อยๆ มีชื่อและหลังจากนั้นพลเมืองที่บุกประตูบาปก็ลดน้อยลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่เหวินกังและพวกเฝ้ารักษาอย่างสบายใจพวกเขาพบกับคนไม่กี่คนที่พยายามผ่านเส้นทาง
พวกเขาสามารถเผชิญฉากภาพที่ตระการตานี้ได้ยังไง?
คนนับไม่ถ้วนจู่ๆก็ปรากฏในก้อนเมฆเป็นคลื่นคลุมทั้งท้องฟ้า
เสียงสั่นสะเทือนหึ่งๆดังใกล้เข้ามาเหมือนคลื่นน้ำ และชัดเจนมากยิ่งขึ้น เป็นเสียงพวกเขากำลังบิน
พร้อมกับเสียงสั่นสะเทือนดังมาพร้อมกับกลองศึก
ตง ตง ตง.....
จากนั้นพวกเขาเห็นกองทัพกำลังห้าพันนายตั้งรูปขบวนอย่างสมบูรณ์แบบทหารทุกคนปลดปล่อยจานใสสุญญากาศทุกย่างก้าว ทั้งห้าพันคนก้าวย่างรวดเร็วราวสายฟ้ากระแทกใส่จานสุญญากาศพร้อมกันทำให้เสียงดังหนักเหมือนกลอง และกระแสอากาศรอบๆ ตัวพวกเขาแหวกกระจายออกแรงกดดันมาจากพวกเขากระจายล้อมประตูบาป
ตู้เค่อมองดูหน่วยสุญญตาด้วยความอิจฉา
อาจกล่าวได้ว่ามันคือกองกำลังโจมตีเต็มรูปแบบไม่เพียงแต่กองทัพของถังเทียนและตู้เค่อเท่านั้นที่เคลื่อนไหวออกมาแม้แต่กองทัพที่เพิ่งก่อตั้งสองสามกองทัพก็ติดตามมาด้วย ถังเทียนไม่สนใจพวกเขา ตู้เค่อไม่ปฏิเสธพวกเขา ตู้เค่อไม่มีแม้แต่ความคิดใช้ฝูงชนระดมเข้าสู้รบ แต่แดนบาปก็ยังเป็นบ้านของเขา เขาหวังว่าการสู้รบจะสามารถนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่แดนบาปที่เสื่อมถอย วิธีที่ดีที่สุดก็คือให้ผู้คนเห็นการสู้รบมากขึ้น
น้อยคนนักจะรู้ว่าตู้เค่อเคยบุกประตูบาปมาครั้งหนึ่งแล้ว ไม่มีใครอื่นที่เข้าใจชัดเจนมากกว่าเขาต่อความยากลำบากในการผ่านประตูบาป แม้ว่าจะได้ความช่วยเหลือของถังเทียนเขาก็ยังทำใจว่าเหมือนกับการสู้รบครั้งสุดท้ายของเขาจะมีชีวิตรอดหลังจากได้ชัยชนะ และตายในการพ่ายแพ้
ตู้เค่อทำใจและเขารู้สึกสงบมากขึ้นและเห็นมามากครั้ง
เขาจับตาดูที่หน่วยสุญญตามากที่สุด การแสดงมาตรฐานของหน่วยสุญญตาอยู่เหนือกองทัพอื่นและตู้เค่อฝันว่าสักวันกองทัพของเขาจะไปถึงระดับนั้นบ้าง
ถังเทียนจับตาดูประตูบาป
ประตูบาปก่อสร้างขึ้นจากลักษณะของภูเขาเป็นผนังกำแพงหนาและตั้งอยู่ในหุบเขาทำให้ประตูใหญ่มหึมาเหมือนกับประตูน้ำกั้นระหว่างหุบเขา กำแพงเมืองถูกสร้างขึ้นด้วยโลหะขาวเหมือนหิมะบนผิวกำแพงมีประติมากรรมสลักเครื่องหมายของทวีปกวงหมิงเป็นรูปดวงอาทิตย์เปล่งแสงแพรวพราวสีขาวเหมือนกับดวงอาทิตย์จริง
“ป้อมกวงหมิง!” หน้าจงหลีไป๋กลายเป็นน่าเกลียดทันที
เมื่อได้ยินเช่นนั้นตู้เค่อถาม “นั่นเกี่ยวกับอะไร?”
“มันเป็นเรื่องลำบากมาก” จงหลีไป๋บ่น
สมาพันธ์ชาวยุทธ(กลุ่มกวงหมิง) เป็นพวกที่น่ากลัวที่สุดสำหรับสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาและเป็นหัวข้อศึกษามากที่สุดของสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา กลุ่มดาวอื่นจะเพ่งความสนใจวิทยายุทธต่างๆของสมาพันธ์ชาวยุทธมากขึ้น แต่กลุ่มดาวราชสีห์ที่เต็มไปด้วยแม่ทัพนายกองที่มีพรสวรรค์ จะค่อนข้างเน้นในเรื่องเกี่ยวกับสงครามของสมาพันธ์ชาวยุทธ และหนึ่งในนั้นก็คือป้อมรบของสมาพันธ์ชาวยุทธ
เนี่ยชิวที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น“สมาพันธ์ชาวยุทธ โอว.. ซึ่งก็คือทวีปกวงหมิงของท่านนั่นแหละป้อมโครงสร้างของพวกเขาเข้าเกณฑ์มาตรฐาน พวกเขามีความรอบคอบมากกับจุดอ่อนเล็กน้อยไม่กี่จุดและคุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดที่มีก็คือใช้สนับสนุนการปราบปราม”
ตู้เค่อสับสน “สนับสนุนปราบปราม?”
“ที่เรียกว่าใช้สนับสนุนการปราบปรามไม่ได้หมายถึงโจมตีเป้าหมายของมันโดยตรง แต่ด้วยวิธีสนับสนุนบางประการมันใช้ยับยั้งและทำให้เป้าหมายของพวกเขาอ่อนแอ” เนี่ยชิวอธิบาย “เครื่องหมายดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่บนประตูเมืองจะปล่อยแสงสีขาวเรียกว่าแสงประจำป้อม และเป็นวิธีจัดการอย่งเดียวสำหรับป้อมพวกกวงหมิง พวกเขาสามารถสร้างความเข้มข้นของพลังงานแสงได้”
ตู้เค่อพึมพำ “ใช่ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น...”
เขาคือบุรุษอันดับหนึ่งของแดนบาปและทำความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับกฎธรรมชาติ ไม่มีใครในแดนบาปเป็นศัตรูกับเขา เขาเข้าใจได้โดยเร็วทำไมผู้คนถึงล้มเหลวทุกครั้งที่พวกเขาโจมตี
“เครื่องหมายนี้มีลักษณะที่มั่นคงซึ่งพอเวลาผ่านไป พลังงานแสงที่มีจะหนาแน่นขึ้น ขณะที่พวกเขาอยู่ในหุบเขาพื้นที่คับแคบ มันเป็นประโยชน์มากกว่าสำหรับการสะสมพลังงานนี่คือจุดแข็งที่สุดของป้อมกวงหมิง ป้อมอื่นมีแต่จะอ่อนแอเมื่อเวลาผ่านไป แต่ป้อมกวงหมิงกลับตรงกันข้าม เราได้ข้อสรุปบางอย่าง ถ้าป้อมกวงหมิงสร้างมานานเกิน 500 ปีกำแพงของพวกเขาจะเข้มแข็งต่อเนื่องโดยมีแสงตกผลึก ป้อมกวงหมิงใดๆที่ตกผลึกจะผ่านเข้าไปไม่ได้”
เนี่ยชิวพูดอย่างใจเย็น แต่ทุกคนรอบตัวเขาสูดหายใจหนาวเหน็บ
จากนั้นจงหลีไป๋เสริมต่อ “และนอกจากนี้การเสริมการปราบปรามของพวกเขาไม่ใช่เพียงแค่นั้น พลังงานแสงที่หนาแน่นจะทำให้เขามีอิสระส่งเสริมการปราบปรามศัตรูได้ วิธีนี้ผสมกับแสง ไม่สามารถตรวจจับได้ง่าย แต่คนที่ล้อมโจมตีจะพบกับปัญหาพลังลดลงไปมาก ตัวอย่างเช่นพลังร่างกายจะหมดไปจากร่าง เราจะเหน็ดเหนื่อยก่อน พลังงานแสงนั้นอาจจะดูเหมือนนุ่มนวล แต่ในความเป็นจริงหลังจากเข้มข้นเกินไปในระดับหนึ่งมันจะมีคุณสมบัติขับพลัง พลังงานที่มีคุณสมบัติอย่างอื่นจะถูกสะกดข่ม และจากที่เห็นลักษณะของมันไม่เพียงแสงพลังงานที่ได้รับผลเท่านั้น แต่กฎธรรมชาติก็ได้รับผลเช่นกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นสวี่เย่และคนที่เหลือรอบตัวถังเทียนทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนไปพลังของเนี่ยชิวและจงหลีไป๋ได้รับการยอมรับจากทุกคน แต่สวี่เย่และพวกที่เหลือชินกับการแข่งขันของทั้งคู่ดีและนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นกับตาว่าทั้งสองต่างพูดคนละประโยคแต่สนับสนุนกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตู้ซินหวี่และพวกก็ประหลาดใจเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดฝีมือในทำเนียบนักสู้ทุกคนพยายามกระตุ้นกฎธรรมชาติของพวกเขา แต่หลังจากนั้นสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทุกคน
พวกเขาตระหนักว่ามีบางอย่างขัดขวางไม่ให้เขาสร้างผิวกฎธรรมชาติได้
การคาดเดาของตู้เค่อถูกต้อง แต่เขาไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น ความเข้าใจในกฎธรรมชาติของเขาลึกซึ้งที่สุด แต่เขาเหมือนแปลกหน้าต่อพลังงาน ประตูบาปปล่อยรัศมีที่เขาไม่ชอบและเขาคิดว่าเป็นเพราะความตายที่เกิดขึ้น เขาไม่เคยคิดว่าแสงที่นุ่มนวลจะเป็นหายนะของแดนบาปจริงๆ
แต่แม้ว่าเขาจะรู้สาเหตุมาจากแสงสีขาว แต่เขาไม่รู้ว่าจะคลี่คลายยังไง สนามพลังกฎธรรมชาติของเขาไม่ได้รับผลของแสงสีขาวมากนัก แต่เขารู้ว่ากำแพงนั้นแข็งแกร่งทนทานเพียงไหน
ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้อิทธิพลก็รุนแรงเท่านั้น
ตู้เค่อเงยหน้า “เจ้าทั้งสองมีแผนอะไรบ้างไหม?”
เนี่ยชิวพูด“ไม่ใช่ว่าข้าไม่มีอะไร แต่มันจะส่งผลหรือไม่ เราได้แต่ทดลองจึงจะรู้ ข้าได้ยินว่าท่านตู้ก็เคยบุกประตูบาปมาครั้งหนึ่ง ท่านพอจะบอกสถานการณ์ให้เราทราบบ้างได้หรือไม่”
ถังเทียนแปลกหน้าไม่คุ้นเคยต่อการควบคุมการสู้รบ ถ้าปิงอยู่ที่นี่เขาคงจะทำเรื่องต่างๆสำเร็จก่อนจะเคลื่อนกำลังออกไป
“ไม่มีปัญหา” ตู้เค่อพูดอย่างเยือกเย็น
ตู้ซินหวี่และพวกที่เหลือตกใจ พวกเขาไม่เคยรู้ว่าตู้เค่อพยายามบุกประตูบาปมาก่อน
*********************
เหวินกังและพวกตื่นตระหนกในตอนแรกแต่ก็สงบใจได้อย่างรวดเร็ว ในตอนแรกเพื่อป้องกันแดนบาปป้อมของพวกเขาถูกสร้างขึ้นมาด้วยมาตรฐานที่สูงส่ง และเวลานั้นเป็นเพราะศัตรูมีจำนวนมาก เนื่องจากมีคนมากมายถูกจองจำในแดนบาป เป็นเหตุให้ป้อมอ่อนแอมากในสมัยนั้น
ปัจจุบันนี้ป้อมกวงหมิงที่ถูกสร้างมานานเกินกว่า 200 ปีผ่านกระแสเวลากลายเป็นป้อมแข็งแกร่งขึ้นมาก ประตูบาปเป็นเหมือนกุญแจล่ามคอแดนบาป
มีกองพลสองกองทัพประจำการอยู่ในตอนแรกและลดลงเหลือหนึ่ง และกองกำลังหลักดั้งเดิมกลายเป็นกองกำลังธรรมดา
ทุกอย่างเป็นเพราะป้อมมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจก็คือจำนวนพลเมืองแดนบาป เหวินกังและพวกตื่นจากฝันร้าย และรายงานสถานการณ์ทันทีทหารที่ลืมตัวในตอนแรกเริ่มมุ่งหน้าไปที่กำแพงเมือง
อู่ซวนมึนเมาลงมาที่กำแพงและเมื่อเขาเห็นกองทัพใหญ่ข้างล่าง เขาตื่นจากอาการตกตะลึง
แต่เมื่อเขาเห็นกลุ่มพวกนั้นเริ่มถอย เขาก็ใจเย็นลงได้
เมื่อคิดถึงป้อมที่ทรงพลังที่เขากำลังยืนอยู่ ความกลัวของเขาหายไปหมด ประตูบาปมีประวัติศาสตร์มานานและอยู่มานานเกิน200 ปี แม้ว่าจะเป็นอีก 200ปีข้างที่ตกผลึก แต่มันก็จะยิ่งทรงพลัง ตัวอย่างเช่น แสงของป้อมตอนนี้คลุมพื้นที่มากกว่า 60 กิโลเมตร เมื่อตอนแรกที่สร้างมันคลุมพื้นที่ไม่ถึง 5กิโลเมตร
และแสงของป้อมในตอนแรกเริ่มเพิ่มไปถึงระดับกลางแล้วพลังของมันอาจเพิ่มคุณภาพได้เช่นกัน
แสงของป้อมปราการยังไม่ถือว่าเด็ดขาดร้ายกาจ แต่ภายในพื้นที่ซึ่งแสงล้อมรอบกฎธรรมชาติจะถูกข่มลงโดยพลังงานแสง ที่หนาแน่น
แม้ว่าอู่ซวนจะถูกบังคับให้มาประจำอยู่ที่นี่ แต่เขาก็ยังมีมาตรฐานฝีมือ เขารู้ว่าตราบใดที่กฎธรรมชาติได้รับผลกระทบกองทัพเบื้องล่างเขาจะอ่อนแอเหมือนลูกไก่ นอกจากฆ่าพวกเขา พวกเขาไม่มีทางออกอื่น
“นายท่าน, นี่คือโอกาส” นายทหารผู้ช่วยพูดขึ้นทันที
“หือ?” อู่ซวนไม่เข้าใจ
ตาของผู้ช่วยนายทหารมีแววตื่นเต้น “นายท่าน, สี่คือโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต! มีพลเมืองแดนบาปมากเกินไป กี่ปีมาแล้วที่พวกเขาเคยมาอย่างนั้น? นี่คือความดีความชอบจริง! เรื่องในอดีตผ่านไปนานแล้วและอาจมีผู้เคราะห์ร้ายที่ลืมมันไปแล้ว เราควรจะคว้าความดีความชอบนี้หาคนมาช่วยพูด บางทีอาจได้กลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์”
อู่ซวนร่างชะงักค้างเขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งทันที “ใช่แล้ว! ตราบใดที่เราฆ่าพวกมันให้หมดเราจะได้ความดีความชอบครั้งใหญ่!”
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ยิ่งตื่นเต้น ยิ่งเขาตื่นเต้นเขายิ่งหัวเราะหนักกว่าเดิม
เขาเบื่อกับการอยู่กับสถานที่เก่าและถูกทอดทิ้งมานานเต็มที!
ตราบใดที่เขาทำความดีความชอบได้สำเร็จ เขาจะมีข้ออ้างให้จากไป อู่ซวนแยกอารมณ์และความคิดของเขาออกจากกัน คิดถึงเครือข่ายที่เขาสามารถระดมได้ แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนรั้วกำแพงมาเป็นเวลานาน เขาสามารถหาเครือข่ายได้ ในอดีตเขาไม่มีข้ออ้าง และไม่มีประโยชน์ที่เขาจะใช้เครือข่ายติดต่อ แต่ตอนนี้โอกาสอยู่ต่อหน้าต่อตาเขา
เขาไม่รู้ว่าบางคนกำลังจ้องมองทางเขา