ตอนที่ 813 ไม่จำเป็นต้องอธิบายมาก
“ดูเหมือนเจ้าไม่ค่อยดีใจ?เป็นอะไรไปหรือเปล่า?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเอากระจกทนทุกข์ให้เย่ว์หยางนางคิดว่าเด็กหนุ่มจะกระโดดตัวลอยมีความสุข ถ้าคนไม่รู้จักเขามาก่อน คงจะนั่งลงมองดูเหมือนกับคนโง่
“ข้าไม่เข้าใจ, แต่เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ ในช่วงเวลาสั้นๆ ดูเหมือน...”
เย่ว์หยางบอกไม่ได้ว่าทำไม
แต่เขามีความรู้สึกอย่างหนึ่งในใจของเขา เขาคิดอย่างนี้ว่ากระจกทนทุกข์ไม่ใช่ของดี มันเหมือนกับของวิเศษต้องคำสาปหรือมีใครบางคนทำสัญลักษณ์ในนั้น ยกเว้นเจ้าของที่สร้างมันขึ้นมา ไม่มีใครอื่นที่กลายเป็นเจ้าของมันได้ ถ้ามันสามารถชำระได้ด้วยเพลิงอมฤต มีแต่จะทำลายมันในช่วงเวลาสั้นเย่ว์หยางมีความรู้สึกที่อันตรายอยู่ในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน มันก็คงยากจะรับมือ เขาอยากจะโยนมันลงพื้นเหมือนกับเป็นเผือกร้อนและโยนมันออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ ตราบเท่าที่จะไม่เกิดเรื่องยุ่งยาก
บุรุษผมงูฉางฟงเห็นได้ชัดว่าเป็นมนุษย์ ความจริงแล้วเขากลายเป็นลักษณะเช่นนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลีส่วนใหญ่เป็นเพราะคำสาปของกระจกทนทุกข์ ถ้านางพญาเฟ่ยเหวินหลีต้องการสาปแช่งบุรุษผมงูฉางฟง เขาคงตายไปนานแล้วเป็นไปไม่ได้ที่ยังจะรอดอยู่
นอกจากนี้เย่ว์หยางสงสัยว่าเป็นเพราะจอมปีศาจลี่ตี้ใช้กระจกทนทุกข์แม้ว่าจะพ้นไปจากผนึกได้เอง แต่พลังก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูได้ เพราะมันคือกระจกทนทุกข์
เรื่องเหล่านี้ไม่มีหลักฐานโดยตรง แต่เย่ว์หยางไม่กล้าพูดว่าไม่มี
กระจกทนทุกข์ใช้แล้วจะมีผลอย่างไร?
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฉลาด เมื่อเย่ว์หยางมีท่าทีผิดปกตินางตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางหยิบฉวยเอาสิ่งที่น่ากลัวออกมา
และโยนมันออกไป
แม้ว่านางหวังจะช่วยเย่ว์หยางอย่างเต็มที่ แต่นางไม่ต้องการให้เย่ว์หยางได้รับผลกระทบกระเทือน
โลกมีของวิเศษมากมายที่ไม่เหมาะกับการใช้ไม่มีความแน่นอน ตัวอย่างเช่นจอมปีศาจลี่ตี้มีขวานปีศาจดินและเกราะปีศาจฟ้านั่นไม่ใช่ว่าจะเหมาะสมกับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกราะปีศาจฟ้าที่ต้องหล่อเลี้ยงด้วยปราณปีศาจ มิฉะนั้นคนธรรมดาสวมใส่ใช้สอยอาจถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นปีศาจร้ายตนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามถ้าขวานปีศาจดินและเกราะปีศาจฟ้าเป็นของดีจริงและเย่ว์หยางใช้มันไม่ได้ เขายังสามารถมอบให้ฮุยไท่หลางได้หลอมรวมและใช้งาน สำหรับฮุยไท่หลางยิ่งเป็นของที่มีพลังปราณปีศาจมาก มันยิ่งหลอมรวมใช้ได้ง่ายและพลังของมันจะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น
มันคือตัวแทนแห่งการทำลายล้าง หมาป่าปีศาจล้างโลก! วิหารปีศาจดินนอกจากจะส่งเสริมให้ทุกคนได้เลื่อนระดับแล้ว การเก็บเกี่ยวสมบัติวิเศษก็ได้เช่นกัน อย่างตะปูตรึงวิญญาณจำเป็นต้องได้รับการกลั่นชำระจากเพลิงอมฤต
การตั้งค่าการใช้ตะปูตรึงวิญญาณยังคงถูกผนึก
ถ้าเย่ว์หยางสามารถปลดปล่อยและได้รับการยอมรับจากนั้นเขาจะได้รับสมบัติเทพที่มีสุดยอดพลังชิ้นหนึ่ง
ด้วยของวิเศษชิ้นนี้เย่ว์หยางจะค่อนข้างสบายขึ้น
แน่นอนว่าสมบัติวิเศษไม่ใช่หัวกะหล่ำปลีมันไม่ยอมให้ถูกใช้ง่ายๆ เย่ว์หยางต้องพยายามอย่างหนักจึงได้รับการยอมรับจากตะปูตรึงวิญญาณ
“แม้ว่ายังไม่สามารถใช้มันได้ในตอนนี้แต่เราน่าจะเอาออกไปด้วยและถามจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนหรือผนึกเอาไว้ในสถานที่พิเศษแห่งหนึ่ง เราจะไม่ทิ้งเอาไว้ในซากหักพังของวิหารปีศาจดิน มิฉะนั้นคนอื่นจะได้มันไป ข้าเกรงว่ามันจะกลายเป็นหายนะ” เสวี่ยอู๋เสียคิดอยู่ชั่วขณะและให้เทพขุนพลวายุเก็บกระจกทนทุกข์กลับคืนมาส่งให้เย่ว์หยางเขาเก็บไว้ในเจดีย์ปราบปีศาจและผนึกไว้ชั่วคราว
“ดูเหมือนบางครั้งผลกำไรก็เล็กน้อยก็ยากจะยอมรับ” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทำท่าแหวะมองเห็นลิ้นน้อยๆที่น่ารัก เป็นลักษณะท่าทางยากจะได้เห็น สักวันเขาจะต้องลิ้มรสลิ้นแม่เสือสาว แต่ครั้งนี้เขาได้สู้ต่อหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและวิหารปีศาจดินพังทลายเหลือแต่ซาก เย่ว์หยาง เสวี่ยอู๋เสีย และองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพักครู่หนึ่ง
รอจนฟื้นฟูกำลังกันทั้งหมดแล้ว ขุนพลเทพธิดาวายุและฮุยไท่หลางพอได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบพื้นที่และต้องไม่พลาดสมบัติมีค่าทุกอย่าง
เกราะปีศาจฟ้าและขวานปีศาจดินเหลือไว้ให้ฮุยไท่หลางใช้หลอมรวม
ของดีๆ แบบนี้ยกให้สุนัขเฝ้าบ้านผู้ซื่อสัตย์
แม้ว่าเย่ว์หยางจะชอบแกล้งทุบตีเตะต่อยฮุยไท่หลางอยู่หลายครั้งหรือเรียกมันด้วยคำที่หยาบ แต่อย่างน้อยก็มักมอบสิ่งของดีๆ ให้มันเสมอฮุยไท่หลางมีความสุข ของวิเศษเหล่านี้ล้วนหายากทั้งนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกราะปีศาจฟ้าเป็นของชั้นดีที่สุดเป็นรองแค่สมบัติชั้นเทพเท่านั้น ถ้าจ้าวนรกอย่างปีศาจเบรุธฮาซินและจ้าวปีศาจอื่นรู้ว่าเย่ว์หยางมอบให้ฮุยไท่หลางพวกเขาคงจะทำสีหน้าอึดอัดแน่นอน
ฮุยไท่หลางฉลาด มันเข้าใจในสิ่งที่เรียกว่าฝันในราตรีที่ยาวนาน
มันไม่ได้ไปจากซากหักพังวิหารปีศาจดินแต่เริ่มหลอมรวมขวานปีศาจดินและเกราะปีศาจฟ้า
ราชาปีศาจนรกเห็นเข้าคงร้องไห้แทบตาย
เย่ว์หยางเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับมาพื้นที่ลาวาดำ เห็นเจ้าอ้วนไห่ เย่คงและเสวี่ยทันหลางกำลังสู้กับยักษ์พฤกษาปีศาจตัวมหึมา
ถ้าไม่มีพลังกฎสวรรค์ของยักษ์ทองกดดันเมื่อครู่นี้มันคงทุบเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นกระจายได้ง่ายอยู่แล้ว แม้ว่ามันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แต่พลังของมันสูงถึงปราณฟ้าระดับห้า ในที่อย่างนี้ที่ซึ่งมากไปด้วยไอปีศาจ มันเป็นความคงอยู่ที่ไร้เทียมทาน
โชคดีที่พลังกดดันของยักษ์ทองทำให้มันประสบความพ่ายแพ้อย่างหนักพลังงานปีศาจที่อยู่รอบด้านอ่อนลงไปมาก
ที่สำคัญที่สุดกลยุทธของเจ้าอ้วนไห่และพวกพ้องล้วนเจ้าเล่ห์
เสวี่ยทันหลางบุรุษน้ำแข็งจะเป็นกำลังหลัก องค์ชายเทียนหลัวและเย่คงกับคนอื่นคอยตรึงมันไว้ นกนางนวลสายลมของเจ้าอ้วนไห่รับหน้าที่โจมตีจากระยะไกลและพี่น้องตระกูลหลี่คอยกำจัดปีศาจที่คอยกดดันอยู่รอบๆ พฤกษาปีศาจและปีศาจส่งเสียงคร่ำครวญ ทุกคนมีการแบ่งงานและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และหัวหน้าใหญ่ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ พวกเขาใช้กลยุทธ์มนุษย์ว่าวเพื่อตัดไม้ใหญ่
ปราณฟ้าระดับห้าสามารถตั้งรับต้านทานได้ดีและมันได้รับความเสียหายได้ถ้าพวกมันถูกโจมตี
ตราบใดที่ความเร็วในการฟื้นฟูน้อยกว่าความเร็วในการโจมตี อย่างนั้นมันจะต้องร่วงพลาดท่าได้สักวัน
“ไม่เลว”เย่ว์หยางมองดูอยู่ชั่วขณะและเขาเป็นคนที่ชมคนได้ยาก เสวี่ยทันหลางที่พูดและต่อสู้ด้วยความกังวลพบว่าเย่ว์หยางออกมาแล้วรู้สึกดีใจและกำลังใจของเขาเพิ่มมากขึ้นความคิดสร้างสรรของเขาก็มีไม่สิ้นสุด
“ระวังพลังกดดันด้วย ตราบใดที่พวกเจ้าเข้าไปในระยะ100 เมตรความสามารถสนามพลังของมันสามารถทำให้พวกเจ้าไม่อาจเคลื่อนไหวได้ช่วงเวลาหนึ่ง และฆ่าพวกเจ้าได้ทันทีในตอนนั้นเรื่องเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้ เราต้องให้ความสนใจรักษาระยะห่างให้ดีจะดีที่สุดจงทำความเข้าใจถึงขอบเขตของปราณราชันย์ให้ดีตราบใดที่ปณิธานปราณราชันย์ของพวกเจ้าแข็งแกร่งมากพอ พลังกดดันของมันจะอ่อนแอลงมากอีกจุดหนึ่งก็คือมันสามารถฟื้นใหม่ได้อีกครั้งที่ใต้รากของมันจะมีแก่นไม้มีขนาดเท่าหน้าที่ด้านบนแม้ว่าต้นไม้ที่ด้านบนจะถูกพวกเจ้าโจมตีระเบิดเสียหายแต่มันก็มีพลังเพียงพอต่อการสร้างต้นไม้ปีศาจใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง...เสวี่ยอู๋เสียเปิดคัมภีร์แห่งสัจจะ ชี้ให้ทุกคนได้เห็น โดยเฉพาะเสวี่ยทันหลางน้องชายนางผู้เป็นหลักในการโจมตีเมื่อได้รับคำเตือนที่สำคัญจะทำให้ทุกคนไม่ประมาทศัตรู ที่สำคัญพลังปราณฟ้าระดับห้าไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะโค่นมันลงได้
“เข้าใจแล้ว” เสวี่ยทันหลางพยักหน้า
“ถ้าพวกเจ้าสามารถเอาชนะปีศาจพฤกษาอัปลักษณ์นี่ได้จะยืนยันได้ถึงการเลื่อนระดับพลังในการต่อสู้ของพวกเจ้า คู่ต่อสู้ที่สำคัญแบบนี้หาได้ยากมาก!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกำชับแต่วันนี้นางมีความอดทนมากขึ้น
เหตุผลหลักที่ทำให้ปีศาจพฤกษานี้พิเศษขึ้นบ้างก็คือรากของมันอยู่ที่นี่
ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้นั่นคือต้องตายแน่
ถ้ามันสามารถเดินวิ่งหนีเหมือนพญาไม้ไตตันของเย่ว์ปิง เจ้าอ้วนไห่และพวกคงต้านทานได้ไม่นาน
ก่อนที่เย่ว์หยางจะออกไป เขาพูด“ดูเหมือนแก่นปีศาจในต้นไม้นี้เป็นของไม่เลว จำเอาไว้ ให้นำกลับมาด้วยข้าจะใช้ประโยชน์จากมัน” เจ้าอ้วนไห่ได้ยินแล้วถึงกับทุบหินแตก นี่เป็นลูกพี่ประสาอะไรกัน ปล่อยให้ลูกน้องทำงานกันอย่างหนัก ไม่สิ ใครเป็นลูกพี่กัน ลูกพี่ผู้ทรงเกียรติ?”
เขาแค่ต่อรองแลกเปลี่ยนสมบัติกับเย่ว์หยางแต่เย่ว์หยางไม่ให้โอกาสเขาและควงสองสาวเดินจากไป
เย่คงเตะเจ้าอ้วนไห่พร้อมกับด่าทอ“เจ้าก็แค่หมูตัวหนึ่ง?”
เจ้าอ้วนไห่เตรียมจะตอบโต้กลับแต่ทันใดนั้นเขาเห็นว่าเขายืนอยู่ในเขตมรณะใกล้รากไม้เขากลัวว่าจะงีบหลับไป การไขว้เขวในสนามรบเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายโชคดีที่เจ้าลิงนี้ยังรู้ความอยู่บ้าง
“ลูกพี่ลิง, เจ้าเป็นคนดีที่หนึ่งเลย” เจ้าอ้วนไห่ใช้การ์ดคนดีกับเย่คง
“เจ้าต้องให้ข้าตายหรือไง?” เย่คงเมื่อได้ยินก็ทำหน้าเบ้พวกเขาไม่ต้องการทะเลาะกันต่อไป
หุบเขาทราย พื้นทรายเงียบสงัดคงที่
เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียและเชี่ยนเชี่ยนสองสาวไปตามเส้นทางที่ผู้เฒ่าอวี่ป๋อและผู้เฒ่าฟงป๋อแนะนำไว้และได้พบกับแม่เฒ่าซาติดอยู่ในระเบียงทรายตามที่ระบุไว้ในแผนที่ กลับเป็นว่าเย่ว์หยางคิดว่า“แม่เฒ่าซาซึ่งผู้เฒ่าฟงป๋อเรียกว่าซาลามัน คงเหมือนแม่เฒ่าใจดีอายุมาก ใครจะคิดกันว่า แม่เฒ่าซาจะน่าทึ่งไม่มีความแก่เลยสักนิดดูเหมือนว่านางมีอายุไม่เกินสี่สิบปี เป็นสตรีวัยกลางคนที่ดูแล้วมีความเป็นผู้ใหญ่เทียบกับแม่สี่แล้ว นางดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเล็กน้อย ค่อนข้างอ่อนโยนเหมือนกระแสน้ำ
แม่เฒ่าซายืนอยู่ข้างหน้าสระน้ำใสสี่เหลี่ยมนางสวมชุดที่งดงาม
เท้าของนางถูกตรึงอยู่กับพื้นไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย
การลงโทษในหุบเขาทรายก็คือไม่สามารถอาบน้ำได้
ที่น่ากลัวก็คือมีแอ่งสระน้ำใสอยู่ทุกที่แต่นางได้แต่ดู แต่ไม่สามารถตักน้ำมาทำความสะอาดตัวนางเองได้ แม้แต่เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนวักน้ำสาดใส่ร่างของนางแต่ก่อนที่น้ำจะไปถึงร่างนาง ทั้งหมดกลายเป็นละอองสีขาวและหายไป
การลงทัณฑ์เช่นนี้ทำให้เย่ว์หยางพูดไม่ออก...อย่างไรก็ตาม ทั้งเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสะท้อนใจคิดว่าการลงทัณฑ์เช่นนี้เป็นการโหดร้ายมาก
พวกนางคิดว่าสตรีคนหนึ่งจริงจังต่อการชำระร่างและให้ความสำคัญต่อการอาบน้ำ
การลงทัณฑ์แบบนั้นก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าโหดร้ายต่อไป
สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางสงสัยก็คือแม่เฒ่าซานามว่าซาลามันเคยทำผิดอะไรไว้ในอดีต ถึงได้ถูกผนึกขังไว้เป็นเวลาหลายหมื่นปี
“เรื่องในอดีตไม่ต้องพูดถึงอีกแล้ว เจ้าอายุสักเท่าไหนกัน เรื่องบางเรื่องเด็กๆสมัยนี้ไม่ค่อยเข้าใจกัน” แม่เฒ่าซาเคยเห็นอนุชนรุ่นหลังของหอทงเทียนและเห็นเย่ว์หยางและสองสาวเป็นคนรุ่นหลังที่โดดเด่นก็มีความสุขนางยิ้มมีความสุขและกวักมือเรียกโดยไม่ได้สนใจเรื่องที่เย่ว์หยางกำลังแอบนินทา “เจ้าไม่ต้องไปสนใจคำพูดของตาเฒ่าสองคนมากนัก พวกเขาเหมือนสุกร โง่ดักดานที่สุดในสามโลกแล้ว เจ้าโง่พวกนั้นถ้าไม่ใช่เพราะข้ากลัวว่าพวกเขาจะฆ่าตัวตาย ข้าคงตัดใจเลิกคบกับพวกเขาไปแล้วเจ้าคงไม่รู้หรอกว่าเอ่ยชื่อของตาเฒ่าสองคนนับเป็นความซวยที่ยิ่งใหญ่ของข้า ช่างเถอะ, ไม่ต้องไปพูดถึงแล้ว นั่นมันเรื่องส่วนตัวของข้า ว่าแต่เด็กน้อยอย่างพวกเจ้า ข้าอยากจะรู้เรื่องราวของพวกเจ้า หนุ่มน้อย! ว่ากันที่เรื่องของเจ้าก่อน!” ชีวิตของข้านั้นอธิบายได้ด้วยคำสองคำ” เย่ว์หยางพูดถึงชีวิตของเขานั้นเรียบง่าย
“สองคำใด?” แม่เฒ่าซารู้สึกทึ่ง สองคำจะอธิบายได้ทั้งชีวิตเชียวหรือ?
“ใช่แล้ว” เย่ว์หยางอธิบายอย่างจริงจัง