ตอนที่แล้วตอนที่ 809 การตัดสินใจของตู้ซินหวี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 811 ข่าวของเหวินกัง

ตอนที่ 810 ความคิดเล็กน้อยที่น่ากลัวของจงหลีไป๋


“ถังห้าวกำลังสร้างกลยุทธบ้าอะไรอีก?”

อาโมรี่มองดูที่จุดดำเล็กๆด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาพึมพำกับตนเองเนื่องจากคลื่นพลังที่กระจายออกมาจากระยะไกลนั้นรุนแรงมาก  ไม่มีใครใส่ใจเขา  เนื่องจากทุกคนกำลังตั้งสมาธิ ไม่ใช่ครั้งแรกของพวกเขาที่เห็นการฝึกของกองทัพเกราะเทพเจ้า  แต่ทุกครั้งที่พวกเขาเห็นพวกเขาสามารถได้รับประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น

รังสีเจิดจ้าที่ปลดปล่อยออกมาทำให้เกิดความตื่นตะลึงกับชาวแดนบาป  แต่สำหรับคนจากสวรรค์วิถี ไม่มีอะไรมาก ในสวรรค์วิถีความฉลาดรอบรู้จากวิทยายุทธมีความงดงามมากกว่า  แต่ในสายตาของทุกคน  นั่นยังไม่ใช่ความสามารถ พวกเขากำลังมองดู แต่พลังที่ปลดปล่อยออกมาจากจุดดำก็ทำให้พวกเขาหนังศีรษะชาได้

สายตาของซือหม่าเซี่ยวไม่เคยคลาดไปจากพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของถังเทียน  หัวใจของเขาถูกความตกใจครอบงำ

‘ในช่วงเวลาสั้นๆนี้คนผู้นี้ก้าวหน้าไปมากมายขนาดไหนกัน?’

ประสบการณ์ในแดนบาปเป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับซือหม่าเซี่ยว  ความสามารถในการต่อสู้ของเขาลดลงเหลือศูนย์ และเขาสูญเสียการติดต่อกับสมบัติจ้าวแมงป่องไป  จ้าวแมงป่องได้รับการยกย่องอย่างดีในสวรรค์วิถีกลับอยู่ในสภาพตกต่ำ แต่เขาเป็นคนที่เริ่มมาจากไม่มีอะไรและความเพียรของเขาเหนือกว่าคนธรรมดาสามารถทะเยอทะยานและเป็นผู้เหี้ยมหาญได้ ไหวพริบปฏิภาณของเขาโดดเด่นทำให้เขาเป็นอิสระได้ไว

สถานการณ์ของเขาดีกว่าคนอื่นหลายคนมาก  แต่เขายังไม่พอใจ  และเขาหมกมุ่นกับการฝึกฝน

‘แต่เทียบกับเจ้านั่นแล้ว...’

ซือหม่าเซี่ยวรู้สึกถึงอารมณ์ทุกรูปแบบ  แม้ว่าเขาจะลงเรือลำเดียวกับถังเทียน  แต่สถานะของเขาอ่อนไหวมากกว่า  เขาไม่นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มถังเทียนและในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาอาจเป็นพันธมิตรกัน แต่ในช่วงเวลายาวนาน ยังเป็นคู่แข่ง

เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขาเติบโตอย่างมาก ขณะที่ตัวเขาเองสะดุดทำให้เขารู้สึกเช่นนั้น  ตอนแรกเขาพอใจกับความก้าวหน้าของตนเอง  แต่เมื่อเห็นกระบวนการของถังเทียนเขาเข้าใจความรู้สึกถึงอารมณ์ของสมาพันธ์ชาวยุทธทันที

หินลับมีดของสมาพันธ์ชาวยุทธนั่นคือฉายาที่สมาพันธ์ชาวยุทธเคยให้ถังเทียนมาก่อน  เนื่องจากพวกเขายังประเมินเขาต่ำไป  แต่พอเวลาผ่านไป หินลับมีดยังคงเดิม  แต่ไม่มีกระบี่อีกต่อไปแล้ว  ‘ถ้าสมาพันธ์ชาวยุทธเผชิญกับฉายานี้อีก  พวกเขาต้องรู้สึกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อนมากกว่าข้า’

เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นแล้วความรู้สึกทรมานใจของซือหม่าเซี่ยวลดลงมากมาย แต่เมื่อเขาคิดถึงอีกว่าถ้าพลังปัจจุบันของถังเทียนเป็นอย่างนี้ตอนกลับไปยังสวรรค์วิถี  ใครจะสามารถสู้กับเขาได้?  ลึกลงไปในดวงตาของเขามีประกายที่น่ากลัว

ขณะที่มองคู่แข่งของเขาอย่างจนใจเขากำลังครองความเป็นใหญ่ ยิ่งทิ้งเขาไว้เบื้องหลังทุกที เขาไม่รู้สึกสบายใจเป็นธรรมดา  มีเป็นบางครั้งที่ความรู้สึกจนใจผุดขึ้นมาในใจของเขาเหมือนกัน

แต่นอกจากซือหม่าเซี่ยวแล้ว  ทุกคนตกใจแต่ก็เต็มไปด้วยความยินดี

เนื่องจากยิ่งถังเทียนแข็งแกร่งมากขึ้น  ก็หมายความว่าอนาคตของพวกเขาสว่างไสวขึ้น

กองพลเกราะเทพเจ้าของถังเทียนไม่เพียงแต่ทำให้ตู้เค่อ,ตู้ซินหวี่และซือหม่าเซี่ยวต้องกดดันเท่านั้น แต่ยังทำให้เนี่ยชิวและจงหลีไป๋กดดันมากเหมือนกัน

กองพลเกราะเทพเจ้าปลุกรูปแบบวิธีการต่อสู้ใหม่  และเป็นกองทัพที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่

เนี่ยชิงและจงหลีไป๋เจอแรงกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  นี่พังทลายทุกอย่างที่พวกเขาได้เรียนรู้  และยังทำให้พวกเขาต้องลงมือพร้อมกัน  ครั้งล่าสุดทั้งสองคนทำงานร่วมกันเมื่อตอนที่พวกเขากำลังคิดหลักสูตรในการฝึกหน่วยสุญญตา

ทั้งสองคนพูดคุยปรึกษากันถึงสองวันและมีการทะเลาะอย่างรุนแรง

“เหตุผลเพราะเกราะเทพเจ้าเป็นเพราะการสะท้อนผิวกฎธรรมชาติ  เรามีอะไรที่ได้เปรียบบ้างเล่า?”

“เว้นแต่เราหาคนอื่นมาตอบเรื่องนี้  เท่าที่ดูวิธีการของนายท่านไม่น่าจะมีการแพร่หลายออกไป

“ถ้าไม่ใช่ผิวกฎธรรมชาติ  แล้วสายใยกฎล่ะเป็นยังไงบ้าง?  สามารถเอามาสะท้อนบ้างได้ไหม?”

“ก็น่าจะถูกปล่อยออกมาได้  แต่พลังของมันจะอ่อนเกินไปและไม่มีค่าพอจะฝึกฝน”

“แม่ทัพทหารของสวรรค์วิถีใช้การควบคุมรัศมีเพื่อควบคุมการสู้รบอีกที เราสามารถใช้ความรู้ด้านนี้เพื่อหาทางบรรลุระดับใหม่ได้ไหม?”

“ในทฤษฎี,เราสามารถทำได้ แต่ความต้องการของแม่ทัพจะสูงมาก ในขณะที่เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้”

….

หลังจากปรึกษาพูดคุยกันสองวัน  ทั้งสองคนเหนื่อยล้า  แต่พวกเขาทำพื้นที่คลุมเครือให้ชัดเจน

จงหลีไป๋มีเคราเขียวเป็นตอแต่ใบหน้าของเขาแดงด้วยความตื่นเต้นดวงตาเป็นประกาย  “กองพลเกราะเทพเจ้าเป็นกองพลขนาดเล็กระดับสูงเหมือนกับกองกำลังแกะน้ำแข็งเงินในอดีตและยากที่จะทำซ้ำได้ ข้ารู้สึกว่าเราไม่จำเป็นต้องได้ผลกระทบจากพวกเขาเลย  เราควรจะมองภาพรวมสงครามในอนาคตของเราจะอยู่ที่ไหนเล่า? ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และสวรรค์วิถี!  สถานที่เหล่านั้นว่ากันด้วยพลังงานทั้งนั้น ไม่ว่ากฎธรรมชาติจะสามารถปรับใช้ที่นั่นได้หรือไม่  เราจะไม่มีทางรู้  แต่เราจำเป็นต้องคิดอะไรบางอย่าง  ข้ารู้สึกว่าเราสามรถเดินตามเส้นทางเรือรบ  นั่นคือกลยุทธการรบที่เหมาะกับเรา”

“อาวุธจักรกลวิญญาณก็เป็นส่วนเพิ่มเติมที่ดีเช่นกัน”  เนี่ยชิวกล่าว

จงหลีคิดอยู่ชั่วขณะ  และประกายในดวงตาของเขาฉายมากขึ้น  “นั่นก็ถูก เจ้าจำอาวุธจักรกลวิญญาณที่น่าเกลียดนั้นได้ไหม?เจ้าตัวที่เราพบวันแรกที่มาถึงเมืองสามวิญญาณ!”

“จำได้สิ!”  เนี่ยชิวหายใจเร็วขึ้น  เขาจะไม่มีทางลืมรัศมีที่แผ่ออกมาจากจักรกลที่ชื่อว่าสัตว์ประหลาดได้เลย

“ถ้าเรามีอาวุธจักรกลวิญญาณเหล่านั้นใครจะหยุดเราได้?” เมื่อจงหลีไป๋พูดคำเหล่านี้ เขาอดสั่นไม่ได้ เขาถูกความคิดนั้นครอบงำ

เมื่อคิดถึงเจ้าหุ่นกลสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดน่ากลัวที่กวาดมองไปทั่วสนามฝึกอย่างหยิ่งยโส  เขารู้สึกเลือดลมพลุกพล่าน

ส่วนเรือรบเขาโยนความคิดนี้ออกไปจากใจนานแล้ว ใครจะสนใจเรื่องเรือรบเมื่อการโจมตีด้วยอาวุธจักรกลวิญญาณน่าสนุกมากกว่า?

“ความคิดดี!” เนี่ยชิวตื่นเต้นกับคำเสนอแนะนั้น

อาวุธจักรกลวิญญาณที่น่าเกลียดที่คล้ายกับสัตว์ประหลาดดูเหมือนกับว่าทำมาเพื่อจงหลีไป๋โดยเฉพาะ เขาสามารถวาดภาพว่าหลังจากหน่วยจงติดตั้งเครื่องจักรสังหารนั้นพวกเขาจะกลายเป็นผู้ทรงพลังมากเพียงไหน

ในแง่ความรับผิดชอบจงหลีไป๋เป็นต้นแบบสำหรับแม่ทัพทหารของกลุ่มดาวราชสีห์  เขากล้าหาญ เด็ดขาด ด้วยการจู่โจมของเขาเหมือนค้อนที่หวดด้วยพลังรุนแรง

แต่การควบคุมอย่างพิถีพิถันของเขาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เนี่ยชิวไม่เก็บไว้ให้รกหัวเขาและพยายามประคองตนไว้ “ข้าต้องดูก่อนว่าเรือรบจะเหมาะกับหน่วยสุญญตาหรือไม่”

“เรือรบเหมาะกับเจ้ามากกว่า” จงหลีไป๋ยังคงผงกศีรษะขนาดของเรือรบจะใหญ่กว่าและมีอาวุธใช้งานมากกว่าเน้นในเรื่องการร่วมประสาน  สำหรับเนี่ยชิวผู้เป็นคนที่ดูภาพใหญ่เป็นแม่ทัพที่พิถีพิถัน นั่นสมบูรณ์ที่สุดสำหรับเขา

เนี่ยชิวหัวเราะ  “เมื่อเรากลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เราต้องยืนยัน”

จงหลีไป๋ตื่นเต้นกับแนวความคิดที่เขาพูดออกไป  “เมื่อเรารู้ทิศทางการเป็นผู้บัญชาการของเราเราต้องเปลี่ยนรูปแบบการฝึก กฎธรรมชาติจำเป็นต้องใช้เวลาฝึกมาก และเราไม่มีเวลาให้พวกเขากระทำอย่างนั้น เราเตรียมจะลุยผ่านประตูบาป นายท่านจะไม่ยอมหยุดนานแน่ และเราจะต้องกลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์แน่นอนไม่ว่าจะเป็นเรือรบหรือเจ้าสัตว์ประหลาดจักรกล เราต้องเตรียมตัวเราให้พร้อม เราควรจะเน้นภารกิจกับการฝึกฝนดาบมารพิฆาตให้มาก”

การฝึกฝนดาบมารพิฆาตจะช่วยขัดเกลาร่างกายให้เตรียมพร้อมและนอกจากนี้ยังคงได้รับการเสริมพลังจากแก่นต้นกำเนิดชีวิตภายในกรวดเหล็กทอง

สำหรับการตะลุยผ่านประตูบาป เขาไม่สามารถจินตนาการว่าใครจะหยุดกองพลเกราะเทพเจ้าของเจ้านายได้  ต่อให้พวกเขาสามารถหยุดกองพลเกราะเทพเจ้าอย่างนั้นหน่วยสุญญตาและหน่วยจง จะไม่สามารถสู้กับพวกเขาได้ แม้ว่าพวกเขาจะสู้ด้วยก็ตาม

“ถูกแล้วกองทัพของเจ้าจำเป็นต้องฝึกเพิ่ม” เนี่ยชิวเตือนเขาอย่างหวังดี

จงหลีไป๋หน้าดำเป็นก้นหม้อทันที  กำลังส่วนใหญ่ของหน่วยจงของเขาก่อตั้งขึ้นมาจากโจรป่า  และไม่ใช่กลุ่มที่น่าอายแน่นอน โจรป่าเองไม่ได้มีความรู้ในเรื่องกลยุทธแต่อย่างใด แม้ว่าจงหลีไป๋จะเข้าใจและควบคุมเวลาฝึกพวกเขา  แต่จะให้ได้มาตรฐานเหมือนหน่วยสุญญตาในปัจจุบัน  พวกเขายังมีระยะทางอีกยาว

สภาพเร่งด่วนของกลุ่มดาวหมีใหญ่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกองทัพจักรกล ปัจจุบันนี้กองทัพจักรกลไม่ใช่ผลผลิตที่ยากต่อไปในสวรรค์วิถีและสำหรับตระกูลต่างๆที่ยังไม่มีจักรกล พวกเขาสามารถหามาได้เพื่อการค้นคว้าวิจัย

สิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับการสร้างกองทัพจักรกลก็คือทหารจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนในเรื่องกลยุทธอย่างสูง  ในด้านนี้ทหารของกลุ่มดาวหมีใหญ่ขึ้นชื่อมาก

พวกเขามีร่างกายที่ดีด้วยการฝึกดาบมารพิฆาตและกรวดเหล็กทองผนวกกับร่างกายของชาวแดนบาปจะต้องทรงพลังเป็นแน่ นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย

‘โธ่เว้ย!’

‘ข้าต้องมาฝึกเจ้าพวกบัดซบเหล่านี้แทบเป็นแทบตายอีกแล้ว!’

เมื่อคิดถึงเรื่องที่คลื่นอาวุธจักรกลสัตว์ประหลาดย่ำยีทุกที่ๆพวกมันไป กวาดผ่านไปได้ทุกที่ ความตั้งใจสู้ในตัวจงหลีไป๋ท่วมทะลัก  เขาไม่ต้องการนั่งเฉยอีกต่อไป  เขาลุกขึ้นยืนทันที “ข้าจะดูแลการฝึกของพวกเขา”

เขาออกจากห้องของเนี่ยชิวเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน

ถังเทียนมีความสุขที่ตู้เค่อต้องการเข้าร่วมกับพวกเขาเขายอมรับด้วยความยินดี เขาไม่เคยคิดอะไรมาก หรือคิดว่ามีอะไรผิดปกติ  แต่ฝูเจิ้งจือและจี๋เจ๋อตะลึง  ตู้เค่อเป็นพันธมิตรของถังเทียนแทบจะทำให้ตาพวกเขาถลน  แต่ตู้เค่อเข้าร่วมค่ายถังเทียน นี่.....

ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่เข้าใจ  แต่คนอื่นๆ ก็เช่นกัน  ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลหรืออำนาจ สำหรับแดนบาปถังเทียนและตู้เค่อระดับแตกต่างกันสิ้นเชิง แต่การพัฒนาไปทางนั้นเป็นเรื่องเกินคาดของพวกเขา

คนของถังเทียนย่อมดีใจเป็นธรรมดา  แต่บริวารของตู้เค่อกลับตรงกันข้าม

จากนั้นตู้เค่อประชุมรวมพวกเขาทุกคนและบอกพวกเขาถึงเรื่องที่ตู้ซินหวี่พูดนั่นแหละจึงทำให้พวกเขาเงียบทันที แม้ว่าพวกเขาจะรู้จักคำพูดที่ทรงพลัง แต่เมื่อคิดว่าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์คือต่างแดน  ทุกคนไม่มีความมั่นใจอีกต่อไป

พวกเขาไม่มีกระทั่งความรู้ว่าปัจจุบันเงาของพวกทวีปกวงหมิงดูเหมือนอะไร

พวกเขาเหมือนกับคนที่ถูกปิดประตูขังมานานเกินไป  จู่ๆ ก็ตระหนักว่ามีทางออก  พวกเขามีแต่ความไม่สบายใจและกลัว  นั่นเป็นเรื่องธรรมดา

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนเชื่อมั่นแท้จริงเมื่อเนี่ยชิวมาเยี่ยมและให้การประเมินผลการฝึกฝนอย่างใจกว้างและเน้นไปที่ข้อสนับสนุนกองทัพของตู้ซินหวี่ยอดฝีมือคนหนึ่งอาจจะเป็นที่รู้จักเมื่อแสดงฝีมือของเขา และตู้ซินหวี่และยอดฝีมือในทำเนียบนักสู้แดนบาปที่ตอนแรกคิดว่าพวกเขาเข้าใจว่ากองทัพทำงานอย่างไร ก็ตระหนักได้ว่าพวกเขาไร้เดียงสามากกว่าพวกที่เหลือ

แม่ทัพนายกองทหารของสวรรค์วิถีได้สร้างระบบที่ชาญฉลาดมาอย่างยาวนานซึ่งผ่านประวัติศาสตร์มายาวนานและมีรูปแบบต่างๆ

ข้อแนะนำของเนี่ยชิวดูเหมือนเป็นรายละเอียดเล็กน้อย  แต่เมื่อรายละเอียดที่ดูเหมือนธรรมดานี้ถูกเติมเข้ามาทำให้ตู้ซินหวี่ตระหนักว่าศักยภาพของกองทัพสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกมากมาย

ความพยายามบุกเข้าประตูบาปและกลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ข่าวใหม่อีกต่อไปได้แพร่กระจายไปทั่วแดนบาป และกลายเป็นหัวข้อพูดคุยที่ร้อนแรง

ทุกคนในแดนบาปมีความคิดซับซ้อน กลัว, ตื่นเต้นสูญเสีย และคาดหวังปนกันไป แต่ทุกคนรู้ว่าไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว แดนบาปกำลังจะเปลี่ยนไป

แต่ถังเทียนผู้เป็นหัวใจของพายุกลับสงบมาก  เขาฝึกฝนอย่างอดทนและทดสอบสิ่งใหม่ๆ รอการสู้รบ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด