ตอนที่ 810 กำเนิดเทพขุนพลวายุ
พลังงานที่กระจายอยู่ทั่วดาราจักรทางช้างเผือกไหลเข้าไปในร่างของเย่ว์หยางช้าๆ
เขากับคัมภีร์อัญเชิญกลายเป็นศูนย์กลางขนาดใหญ่ กลายเป็นใจกลางแหล่งพลังงานดวงดาวขนาดใหญ่และฉายรัศมีงดงามตระการตาทั่วทั้งวิหารปีศาจดินที่พังทลายกำลังเรืองแสงราวกับเป็นเวลากลางวันการท้าทายอย่างกล้าหาญของเย่ว์หยางประสบความสำเร็จในปัจจุบันนี้อย่างเป็นทางการพลังงานหลักของกฎสวรรค์ในวิหารปีศาจดินทั้งหมดหลังจากยักษ์ทองทำลายสำนึกที่แฝงอยู่ พลังกฎสวรรค์ทั้งหมดจึงปราศจากการควบคุมกลายเป็นอาหารบำรุงสำหรับการเลื่อนระดับของเย่ว์หยางอย่างดีที่สุด
พลังงานของกฎสวรรค์นี้มีขนาดที่ใหญ่โตมหึมามากมายมหาศาล
เย่ว์หยางต้องการดูดซับให้พลังงานทั้งหมดให้เต็มที่แต่ไม่อาจทำได้สำเร็จในชั่วข้ามคืนเดียวแต่เขาไม่จำเป็นต้องดูดซับพลังกฎสวรรค์นี้ให้เต็มที่ก็ได้ แค่ใช้พลังกฎสวรรค์ในการบรรลุพลังระดับปราณราชันย์ และจากนั้นค่อยๆสร้างสำนึกเทพคุณภาพดีก็ยังไม่สาย
อสูรโลกคัมภีร์กำลังดูดซับพลังด้วยเช่นกันทำใหแรงกดดันของเขาลดลง
“อ๊าคคคค...”
จอมปีศาจลี่ตี้ฟื้นขึ้นมาและเขารู้สึกว่าร่างของเขาถูกบดขยี้ กระดูกแทบแตกหักเป็นร้อยๆ ท่อน
เมื่อครู่นี้เขาคิดว่าเขาอาจจะถูกฆ่าตายไปแล้ว
ในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีเขารู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายและวิญญาณของเขาถูกทำร้ายบาดเจ็บอย่างหนักจนยากจะฟื้นฟูได้
ยักษ์ทองไร้เทียมทานนั้นมีพลังกฎสวรรค์ที่น่ากลัวมากกว่ากฎสวรรค์ที่ผนึกเขาเอาไว้ และไม่มีทางต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย
ความจริงวิหารปีศาจดินปล่อยให้ยักษ์ทองทำลายจนกระจายเป็นเปลวไฟและแม้แต่ผนึกที่มีสำนึกเทพแฝงอยู่ด้วยก็ยังถูกทำลายกลายเป็นแหล่งพลังที่ไม่มีสำนึกเทพคุมพลังแบบนี้แม้แต่จอมปีศาจลี่ตี้ก็ยังไม่เคยคิดมาก่อน ตลอดทั้งชีวิตของเขาเขาไม่เคยเผชิญกับศัตรูที่ทรงพลังขนาดนั้นจอมปีศาจลี่ตี้มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจ อาจมีเทพมังกรทองที่มีพลังไร้เทียมทานในตำนานอย่างนี้ก็ได้!
จอมปีศาจลี่ตี้เงยศีรษะจากพื้นอย่างยากลำบากเห็นเย่ว์หยางกำลังลอยตัวอยู่ในอากาศดูดซับพลังกฎสวรรค์อย่างต่อเนื่อง
เขาอดถอนหายใจไม่ได้
น่ากลัวจริงๆ
เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนที่เขาคาดไม่ถึงจริงๆ
จะดีที่สุดคืออย่าโจมตีเขาในขณะนี้ แต่ให้หนีไปอย่างเร็วที่สุด เขาไม่มีทางพรางตัวหนีไปจากที่นี่เพื่อซ่อนตัวได้ตลอดไปจากนั้นก็ปล่อยให้เจ้าเด็กนี่หาตัวพบเจอ
“อิสรภาพ,ข้าไม่เคยคิดว่าข้าจะมีวันที่ได้รับอิสรภาพได้!” ชายชราผมขาวยังคงคลานตัวสั่นอยู่บนพื้น เขาได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน เขาประหลาดใจและยกมือทั้งสองอย่างตื่นเต้น และเขาหลั่งน้ำตานองหน้า กลับกลายเป็นว่าเจ้านายรับการลงโทษจากกฎสวรรค์แทนเขาหนึ่งวันโดยเขาถูกโซ่น้ำแข็งในวิหารปีศาจดินล่ามอยู่ในกลางอากาศหนึ่งวัน เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เขาฟื้นคืนพลังได้ แม้ว่าจักรพรรดิปีศาจไคเทียนจะทำลายผนึกได้ เขาก็คงได้แต่พาเจ้านายของเขาไป เขาคงไม่ใช้พลังอันยิ่งใหญ่เสี่ยงอันตรายต่อการถูกผนึกซ้ำอีกโดยการช่วยเหลืออสูรพิทักษ์ที่รับโทษแทนเจ้านาย
“ไป ไป ที่นี่อันตราย” จอมปีศาจลี่ตี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นในขณะที่เขารีบพูดบอกให้หนีก่อนที่เจ้าเด็กนี่จะดูดซับพลังกฎสวรรค์จนหมดแล้วสร้างวิหารปีศาจดิน
“ได้, ข้าจะเบิกทางให้” ชายชราผมขาวมักจำได้เสมอว่าเขาทำหน้าที่เป็นอสูรพิทักษ์ เขาเรียกคัมภีร์โลหิตออกมา
ขณะที่จอมปีศาจลี่ตี้เตรียมจะหนีออกจากวิหารปีศาจดินที่พังทลายทันใดนั้นมีภาพร่างสามร่างปรากฏอยู่ข้างหน้าเขา
ที่ทางออกมีกำแพงน้ำแข็งหนาเกิดขึ้นโดยพวกเขาไม่รู้ตัว
กำแพงน้ำแข็งเหล่านี้ผสานสร้างโดยพลังความเย็นสุดยะเยือกและสนามพลังสำนึกศักดิ์สิทธิ์ของเสวี่ยอู๋เสียและไม่มีใครผ่านสนามพลังกำแพงน้ำแข็งนี้ไปได้โดยไม่ได้เอาชนะเสวี่ยอู๋เสีย เสวี่ยอู๋เสียมีทักษะแฝงเร้น ‘หัวใจกระจก’และทักษะนี้นางเป็นเจ้าของร่วมกับเย่ว์หยางแต่ละครั้งที่เย่ว์หยางเลื่อนระดับในการต่อสู้ ถ้านางอยู่ในระยะใกล้ นางจะได้รับประโยชน์มากมายจากความสัมพันธ์ของ ‘หัวใจกระจก’ อย่างนั้นนางจะรู้สึกถึงขอบเขตแดนของพลังนาง สามารถหลอมรวมเหมือนกับเป็นคนๆ เดียวกัน
เย่ว์หยางตกใจกับพลังระดับปราณราชันย์ เขาเปิดหน้าต่างแห่งดินแดนจิตวิญญาณของนางที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน
แม้ว่าระดับพลังของนางจะยังไม่ได้เลื่อนขึ้นก็ตาม
แต่พลังของนางและจิตวิญญาณของนางเริ่มเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำดิน
เสวี่ยอู๋เสียชูมือ ในที่ไกลออกไป แหล่งพลังงานที่อยู่แต่ไกลดูเหมือนจะกระจายไปที่ฝ่ามือของนาง
เสี่ยวเหวินหลีและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยืนอยู่รอบตัวนางคอยคุ้มกันนางเพื่อที่ว่าจะได้ดูดซับพลังกฎสวรรค์ที่ไม่มีการควบคุมให้เร็วที่สุด
“ตาย!” ชายชราผมขาวส่งเสียงตวาด นอกจากนี้สาวน้อยผู้รักการอ่านที่ไม่ธรรมดานี้กำลังดูดซับพลังงานของกฎสวรรค์ เมื่อนางทำได้สำเร็จ เจ้านายของเขาจะไม่สามารถหนีไปได้และจะต้องถูกผนึกอย่างทุกข์ทรมานอยู่วิหารปีศาจดินต่อไป
ใจของเขาเต็มไปด้วยรังสีการฆ่าฟันขณะที่เปิดคัมภีร์โบราณ
แม้ว่าจะถูกพลังกดดันจากยักษ์ทองเล่นงานจนบาดเจ็บแต่ชายชราก็ยังมีความแข็งแกร่งเหลือเชื่อ
พลังงานสีดำไม่มีที่สิ้นสุดปะทุออกราวกับคลื่นสึนามิ พื้นหินทั้งหมดลอยขึ้นตามคลื่นพลังที่บ้าคลั่งม้วนตัวพุ่งเข้าหาสตรีทั้งสาม
ที่ไวกว่าบุรุษชราผมขาวก็คือจอมปีศาจลี่ตี้
ขวานปีศาจดินฉายประกายพุ่งมาถึงข้างหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเมื่อไม่มีผนึกของวิหารปีศาจดิน แม้ว่าร่างของเขาจะได้รับบาดเจ็บหนักแม้ว่าเขาจะใช้พลังได้เพียงหนึ่งในสิบของพลังที่เคยสุดยอดแต่นั่นก็เพียงพอจะฆ่านักสู้ปราณฟ้าที่ต่ำกว่าระดับห้าทั้งหมดได้ จอมปีศาจลี่ตี้ขณะที่โจมตีใส่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังคงถือกระจกทนทุกข์ในมือเขาฉายส่งพลังไปที่เสี่ยวเหวินหลีที่กำลังใช้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการกับบุรุษชราผมขาว บุรุษชราแม้จะจะถูกพลังพันธนาการแต่ก็ไม่มีใครทำอะไรได้
ช่วงเวลาเสี้ยววินาทีองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหงายตัวหลบ
ดาบเทพจักรพรรดิอวี้บังอยู่ด้านหน้า
ป้องกันขวานวิเศษได้แต่พลังที่แฝงมากับขวานวิเศษแกร่งกร้าวยิ่งนัก
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเพิ่งล้มกับพื้นก็ยังไถลไปกับพื้นน้ำแข็งเป็นรอยทาง และศีรษะของนางกระแทกกับกำแพงน้ำแข็ง
“เมื่อเรานี้ได้รับอิสรภาพ ก็ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าหลายคนว่าสามารถขัดขวางเราได้หรือเปล่า?” จอมปีศาจลี่ตี้ที่อยู่ในเขตวิหารปีศาจดินยังคงได้รับผลจากพลังกฎสวรรค์ในที่จุดจำเป็นต้องใช้กระจกทนทุกข์และทักษะแฝงเร้นส่งคืนเพื่อกำจัดพลังผนึกตั้งแต่แรกไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงของตนเองได้ ตอนนี้เมื่อเขาได้รับอิสรภาพแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ดึงพลังออกมาใช้ได้เพียงหนึ่งในสิบและพลังที่ไม่ถูกผนึกจำกัดไว้นับว่ารุนแรงมากพอ
“ติง ติง ติง!”
เสี่ยวเหวินหลีฟันโจมตีหลายร้อยดาบแต่จอมปีศาจลี่ตี้คลี่คลายได้ด้วยปลายนิ้ว
เขาสวมเกราะวิเศษปีศาจฟ้าทั้งได้รับอิสรภาพจึงไม่กลัวพลังโจมตีของเสี่ยวเหวินหลีและคลี่คลายพลังโจมตีได้อย่างสบาย
ยกเว้นแต่สมบัติเทพและกฎสวรรค์สำหรับโจมตีและสำนึกเทพการโจมตีอย่างอื่นจอมปีศาจลี่ตี้ไม่เห็นอยู่ในสายตา
คลื่นพลังงานสีดำของบุรุษชราผมขาวกระจายไล่มาอย่างไล่ลดละมาทางเสี่ยวเหวินหลีและสองสาวเสี่ยวเหวินหลีหมอบหลบและเรียกคัมภีร์เพชรออกมากางโล่ป้องกัน โล่พลังงานจากคัมภีร์ป้องกันได้สองวินาทีจอมปีศาจลี่ตี้ก็มาถึงแล้วกระแทกใส่โล่พลังและปัดดาบคู่ของเสี่ยวเหวินหลีไปทางกำแพงน้ำแข็ง
เสี่ยวเหวินหลีเสียหลักล้มในมือของเธออีกสองข้างมีคันธนู
แต่เธอไม่มีเวลาง้างธนูยิงใส่จอมปีศาจลี่ตี้ได้
ไม่ใช่เพราะเธอถูกหมัดต่อยที่หน้า
แต่หางของเสี่ยวเหวินหลีอยู่ในมือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนนางฉุดดึงเสี่ยวเหวินหลีจนพ้นจากสถานการณ์อันตราย เสียงปังดังขึ้นผนังน้ำแข็งแตกร้าวไปทั่วทันที
“ฟู่...” เสวี่ยอู๋เสียที่กำลังดูดซับพลังกฎสวรรค์ร่างนางสั่นเล็กน้อยและกระอักโลหิตทันที
คลื่นพลังงานสีดำล้อมรอบตัวนางเป็นจุดศูนย์กลางหมุนรอบตัวนางอย่างบ้าคลั่ง
คัมภีร์แห่งสัจจะของเสวี่ยอู๋เสียเทวทูตของนางแทรกออกมาจากพื้นด้วยอารมณ์โกรธ และแช่แข็งพลังวังวนคลื่นสีดำ สัตว์ประหลาดใบมีดถูกแช่แข็งเข้าด้วย น้ำแข็งก็คือผลึกน้ำแข็งประกอบเข้าด้วยกันและสลายเป็นผงสีเขียวบิดอยู่รอบตัวเสวี่ยอู๋เสียแต่ไม่สามารถเข้าไปถึงได้
เสวี่ยอู๋เสียที่กระอักโลหิตยังคงสานพลังกฎสวรรค์และนางยกมือซ้าย
มือขวาของนางสั่นเล็กน้อย
วางบนคัมภีร์แห่งสัจจะเปิดเปลี่ยนหน้าอย่างนุ่มนวล
โซ่น้ำแข็งปรากฏบนกำแพงน้ำแข็งมันเหมือนกับมีชีวิตไล่ตามจอมปีศาจลี่ตี้ที่เตรียมจะลงมือทำร้ายองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอย่างกระชั้น
ในสายตาของจอมปีศาจลี่ตี้เป็นประกาย เหมือนกับเห็นผีและเทพเจ้าพร้อมกันเขาสามารถเล่นงานองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้อย่างเด็ดขาด และนางสู้และหลบหลีกอย่างอ่อนล้าแต่นี่คือโซ่กฎสวรรค์ประจำวิหารปีศาจดิน มันเหมือนกัน แต่จำนวนแตกต่าง ถ้าโดนพันธนาการไปอาจพบจุดจบน่าอนาถ
บุรุษผมขาวไม่สามารถโจมตีระยะไกลต่อไปได้ เขาปิดหนังสือและบินไปเผชิญเสวี่ยอู๋เสียต่อหน้า
จอมปีศาจลี่ตี้เพิ่งรู้ว่าเสวี่ยอู๋เสียเป็นศัตรูลำดับสองยังมีพลังน่ากลัวมากกว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้ถือดาบเทพจักรพรรดิอวี้บุรุษผมขาวเผชิญอันตรายข้างหน้าและข้างหลังองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพุ่งไปคว้าเสี่ยวเหวินหลีไว้ในอ้อมอก
เสี่ยวเหวินหลีไล่ตามจอมปีศาจลี่ตี้อย่างกระชั้นแต่ไม่อาจไล่ตามเขาทันเธอใช้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการ จอมปีศาจลี่ตี้และชายชราผมขาวประหลาดใจเมื่อพบว่าความเร็วของพวกเขาช้าลงทุกทีและสุดท้ายแทบจะหยุดนิ่ง
คนทั้งสามลอยช้าๆในอากาศเหมือนกำลังแหวกว่ายเทียบกับเสี่ยวเหวินหลีเธอบินผ่านองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“สายเกินไปแล้ว สายเกินไป!” จอมปีศาจลี่ตี้และพวกคำนวณระยะไว้แล้ว คาดว่าเสี่ยวเหวินหลีจะไล่ตามเขาทันแต่ระยะทางยังขาดไปเล็กน้อย ต่อให้ทันเขาก็ยังมีแรงโจมตีไปข้างหน้าซึ่งไม่มีใครหยุดได้
“น่าขัน” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกางปีก เป็นปีกพญาหงส์ไฟเปลวไฟเต็มไปทั้งวิหารปีศาจดิน
แม้ว่าภายใต้พลังกดดันของอสูรเทพนางยังมีความเร็วราวกับดาวตก
ในพริบตาก็ล้ำหน้าเสี่ยวเหวินหลี
และทันจอมปีศาจลี่ตี้
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้โจมตีศัตรูทันทีแต่วิ่งไปอยู่ข้างหน้าเสวี่ยอู๋เสียถือดาบเทพจักรพรรดิอวี้รวมรั้งพลังของมังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว หงส์เพลิงและเต่าดำฟันดาบใส่บุรุษผมขาวซึ่งถือคัมภีร์โบราณในมือจอมปีศาจลี่ตี้และบุรุษผมขาวเผชิญกับพลังที่น่าทึ่ง แต่ก็ไม่เข้าใจแน่นอนดาบเทพจักรพรรดิอวี้ฟันคัมภีร์ขาดสองท่อน
เสวี่ยอู๋เสียไม่เคลื่อนไหวมาครึ่งนาทีแล้วนางไวกว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
มือซ้าและขวากดอยู่บนคัมภีร์โบราณและคัมภีร์แห่งสัจจะฉายประกายเจิดจ้า
เทวทูตสตรีกรีดเสียงร้องนางมีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในพลังหัวใจกระจกได้เหนี่ยวนำพลังกฎสวรรค์และคัมภีร์โบราณที่มีความรู้อย่างสมบูรณ์ตามที่เสวี่ยอู๋เสียได้รับ นางเลื่อนระดับทันที ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ฉายไปที่สวรรค์ แม้ว่าจะไม่ใช่เทพทางการแต่การเลื่อนพลังระดับขุนพล แต่พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นยิ่งใหญ่ แม้แต่นางก็อยู่ในชายขอบพลังขุนพลเทพชั้นสูง พลังความคุมและสติปัญญาเพียงด้อยกว่าอาหมันที่ได้รับตกทอดพลังเทพแต่พลังวิวัฒนาการเองอย่างนี้ พลังศักดิ์ศรีและศักยภาพจะมีมากกว่า
เมื่อจอมปีศาจลี่ตี้ระเบิดพลังหมดด้วยคิดตั้งใจจะฆ่านางให้ตายในทันที
เทวทูตวายุหญิงที่กำลังเลื่อนระดับพลังเป็นขุนพลเทพวายุก็ระเบิดพลังโกรธเกรี้ยว
คุ้มกัน
พลังเทพทะลักเต็มพื้นที่
นางใช้มือเปล่ารับหมัดของจอมปีศาจลี่ตี้และทุ่มออกไปอย่างไม่ปราณีจอมปีศาจลี่ตี้กระแทกกับกำแพงน้ำแข็งและครูดเป็นทางยาวร้อยเมตรจอมปีศาจลี่ตี้รู้สึกเจ็บปวดเขาใช้กระจกทนทุกข์ถ่ายความเจ็บปวดไปให้ชายชราผมขาวและนั่นคือพลังที่เขาถูกเทพธิดาตบจนกระเด็นออกมาเป็นร้อยเมตร
กระจกทนทุกข์หมุนอยู่ในอากาศและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหมอบหลบ แสงฉายตรงไปที่รูปปั้นหิมะ
รูปปั้นหิมะเจ็บปวดร้องลั่นและกระโดดทันที
เขากุมศีรษะร้องครวญคราง“เราคุณชายกำลังหลับอยู่ดีๆ ทำไมต้องตีเราด้วย!”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพบว่านางเคยเจ็บปวดจากกระจกมาก่อนนั่นเป็นกระจกทนทุกข์จริงๆ นางประหลาดใจที่ไม่โดนทักษะของกระจกทนทุกข์เล่นงาน ขณะที่ดูบุรุษที่เพิ่งตื่นด้วยความงงงวย เพราะนางเห็นบุรุษผมงูคนที่สอง “...”บุรุษผมงูเหมือนกับจอมปีศาจลี่ตี้ หรือว่าจอมปีศาจลี่ตี้มีสองคน?!