ตอนที่ 61 หมออลัน(อ่านฟรี11/02/2566)
ตอนที่ 61 หมออลัน
หลินลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกมึนที่ศีรษะ เธอใช้มือแตะมันดูก็พบว่ามีเลือดออกที่หางคิ้ว แต่เธอก็ต้องตกใจที่เห็นว่าด้านหน้ามีใบหน้าของผู้ติดเชื้อผิวลอกอยู่ห่างจากหน้าของเธอไม่ถึงคืบ หลินเรียกรูนิกออกมากำลังจะยิง แต่ก็พบว่ามันเป็นเพียงศพเท่านั้น
หลินผลักศพออกไป ก่อนจะเริ่มสำรวจอาการของตนเอง เธอไม่เห็นอะไรมากนอกจากรอยฟกช้ำจากการกระแทก นอกจากหลินแล้วคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันได้สติ
ในตอนนี้ทุกคนอยู่ในรถบัสที่พลิกคว่ำ หลายคนอาการบาดเจ็บต่างกันไป
หลินลุกขึ้นและรีบเดินไปที่หน้ารถ ผู้กองเชนกำลังช่วยหมอคนนั้นลุกขึ้นมา หลินจึงเข้าไปดูลุงบุญที่ติดอยู่กับเบาะรถ โดยมีเข็มขัดนิรภัยรั้งตัวเอาไว้
“ลุงบุญเป็นอะไรไหม”
“ไม่ ไม่เป็นอะไรมาก” ลุงบุญพูดพร้อมกับปลดเข็มขัด ทำให้ตัวเขาตกลงมา
“ร้อยตรี ท่านพลตรีตายแล้ว” ทหารนายหนึ่งกล่าวขึ้นมาด้วยความรู้สึกตื่นตกใจ
“บ้าจริง เขาตายแล้ว พวกเราต้องรีบออกไปเช็คตัวเองและอาวุธ” ร้อยตรีที่มียศสูงสุดในตอนนี้กล่าวขึ้นมา
ตอนนี้เหลือทหารที่รอดกันอยู่แค่ 3 คนเท่านั้น ส่วนพลเรือนนอกจากหมอที่อยู่ผู้กองเชนก็มีรอดอยู่อีก 3 คนเป็นชาย 1 หญิงสองคน
เคล้ง!
ผู้กองเชนใช้เท้าถีบไปที่กระจกหน้าต่างรถบัสที่พังจนจะหลุดอยู่แล้ว พอโดนแรงถีบเข้าไปมันก็หลุดออก คนด้านในใช้ทางนี้ออกมาจากรถบัสที่พลิกคว่ำได้สำเร็จ
“เราต้องหารถไปจากที่นี่” ผู้กองเชนหันซ้ายมองขวา
“ผมมีความคิดดี ๆ รถพวกนั้นน่าจะยังใช้ได้” ทหารที่ขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่มได้กล่าวขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปยังรถหุ้มเกราะล้อยางน้ำหนักเบา 4 ล้อที่จอดอยู่ไกลออกไปทางด้านหนึ่งของถนน
“ไปที่นั่นกัน”
แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะไปที่รถหุ้มเกราะก็มีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นมา มันมาจากหนึ่งในพลเรือนที่รอดชีวิต เธอกำลังโดนผู้ติดเชื้อผิวลอกจับไปที่ผมและลากขึ้นไปด้านบนของรถบัสที่พลิกคว่ำอยู่
“อ่า! ช่วยด้วย” เธอร้องขอความช่วยเหลือ ผู้ชายที่อยู่ใกล้รีบจับขาของเธอไว้ ส่วนหญิงสาวอีกคนก็ถอยออกมาด้วยความตื่นตกใจ
ทหารอีกนายเห็นรีบเข้าไปช่วยดึงขาของเธอ เพื่อไม่ให้โดนผู้ติดเชื้อผิวลอกตัวนั้นลากไปด้านบนได้
ขณะที่ทหารอีกสองคนก็ยิงใส่ตัวของผู้ติดเชื้อจนตาย เป็นผลให้หญิงสาวที่โดนดึงหัวหลุดออกรอดออกมาได้ แต่ทุกคนก็ต้องตกใจ เพราะหนังหัวของเธอโดนดึงออกไปติดอยู่ที่มือของผู้ติดเชื้อที่ตาย
“อ่า!!!” หญิงสาวยิ่งตกใจเมื่อเห็นเลือดจำนวนมากไหลออกมาจากหัวของเธอ
ว๊ากก!!!
ตอนนั้นเองก็มีผู้ติดเชื้อโผล่มาจากด้านในของรถบัสดึงตัวเธอเข้าไป ทำให้คนอื่น ๆ ตื่นตะลึงกับสิ่งที่เห็น ผู้ติดเชื้อผิวลอกหลายตัวรุมกินเธอทั้งเป็น
ยังมีตัวอื่น ๆ ที่โผล่มามากขึ้น พวกมันหลายตัวยืนอยู่ที่ด้านบนของรถบัสที่พลิกคว่ำและบางตัวก็ออกมาจากทางด้านข้างของรถบัส
ตอนนี้ผู้ติดเชื้อผิวลอกได้ล้อมพวกเขาไว้
ซวยแล้วไง!
ทุกคนตกอยู่ในความหวาดกลัว
ว๊ากกก!!!
ผู้ติดเชื้อร้องคำรามออกมาและกำลังจะโจมตี แต่ว่าก็มีเสียงดนตรีดังขึ้นมาดึงดูดความสนใจของพวกมัน แม้แต่คนอื่น ๆ ก็ด้วย
พวกเขาทุกคนหันไปดูก็พบว่าเป็นรถยนต์คันหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะพุ่งชนใส่ผู้ติดเชื้อผิวลอกตัวหนึ่งอัดเข้ากับรถบัส
“เรน!” หลินตะโกนออกมาด้วยความยินดี
พวกผู้รอดชีวิตจากในค่ายไม่รู้ว่าเรนเป็นใคร จึงมองด้วยความสงสัย
“ไปเร็ว” เรนเปิดประตูรถมาบอกกับทุกคน ตอนนี้รถที่ขี่มานั้นมันจะพังอยู่แล้วเรนจะใช้มันชนใส่ผู้ติดเชื้อสร้างโอกาสหนีให้คนอื่น ๆ
“ไป” ผู้กองเชนพาหมอวิ่งนำไปก่อนในทันที
ลุงบุญและหลินรีบตามไป ทหารคนอื่น ๆ ยังงง แต่พอเห็นคนที่เหลือเริ่มหนีก็หนีไปจากที่นี่เช่นกัน
แต่ดูเหมือนว่าผู้ติดเชื้อผิวลอกเหล่านั้นจะไม่ยอมให้คนอื่น ๆ หนีไปจากตรงนี้ มันกระโดดจากด้านบนของรถบัส หมายจะพุ่งเข้ามากัดหนึ่งในคนรอดชีวิต
แต่ตอนนั้นในมือของเรนก็ปรากฏปืนลูกซองเขายิงใส่ที่ตัวของมันกลางอากาศ ทำให้มันปลิวจนตกไปกับพื้น แม้ไม่ตายก็ทำให้เชื่องช้าลง
ผู้ติดเชื้อผิวลองตัวอื่น ๆ เริ่มโจมตีเช่นกัน
“มาเร็ว” พวกทหารที่วิ่งไปก่อนได้หันกลับมาตะโกนเรียกเรนและคอยยิงสกัดให้ด้วย แต่ว่าเรนไม่ได้วิ่งตามไปด้วย เพราะรู้ว่าถ้าเขาไม่อยู่รั้งท้ายคอยกันไว้ คนอื่น ๆ คงวิ่งไปไม่ถึงรถแน่นอน
“จำลองพลัง” เรนใช้รูนิกหมีดำภูเขาทันทีร่างกายของเขาขยายใหญ่ขึ้นและอัดแน่นไปด้วยพละกำลังของหมี ตอนนี้รูนิกหมีดำคือระดับ 2 แล้วการแสดงพลังของมันนั้นมากกว่าก่อนหน้านี้มากนัก
“มันบ้าอะไร นั้นมันรูนิก!” ทหารทั้งสามพากันตกใจกับสิ่งที่เห็น และไม่คิดว่าจะมีคนนอกที่ใช้พลังของรูนิกได้ นอกจากคนของรัฐบาล
“ตาย!” เรนเข้าไปใช้ฝ่ามือตบไปที่หัวของผู้ติดเชื้อผิวลอกจนหัวโดนมือทั้งสองกระแทกแตกกระจาย เรนหันไปต่อยอีกตัวที่เข้ามาหัวเขาจนใบหน้าของมันแหลก ตัวกระเด็นไปใส่ซากรถ แต่ว่ามันไม่ตายลุกขึ้นมาวิ่งเข้าหาเรนอีกครั้ง
เรนใช้จังหวะนี้ถีบเข้าไปที่หน้าอกของมันอีกครั้งจนกระเด็นกลับไปที่ ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปต่อยซ้ำ ๆ จนหัวของมันหายไป ผู้ติดเชื้อจึงได้หยุดอาละวาด
แต่นี่เป็นแค่สองตัวที่ตายเท่านั้นยังมีเหลืออีก 8-9 ตัวที่โจมตีใส่เรน แถมยังมีผู้ติดเชื้อฝูงใหญ่กำลังมาที่นี่ ไม่ว่าจะมาจากทางค่ายหรือมาจากพวกที่ตามรถของเรนมา เพราะก่อนหน้านั้นเรนได้ไปล่อพวกมันออกไปจากค่าย ซึ่งมันก็ยังไม่ลดละความพยายามในการไล่ล่าเรนจนจะมาถึงบริเวณนี้กันแล้ว
เรนไม่มีเวลาไปฆ่ามันทั้งหมด เขาคว้าเอาของที่ออกมาจากศพของผู้ติดเชื้อและเตรียมจะถอยออกมาเช่นกัน เพราะว่าคนอื่น ๆ นั้นไปถึงที่รถหุ้มเกราะกันแล้ว
เขาซีดพวกผู้ติดเชื้อผิวลองสองสามตัวโจมตีใส่หัวของมันและทำลายการเคลื่อนไหวให้ได้มากที่สุด ก่อนจะหันหลังวิ่งไป โดยมีผู้ติดเชื้อผิวลอกตามมาด้วย
มีรถหุ้มเกราะสองคนอยู่ตรงนั้นทหารรีบแบ่งกันไปขับคนละคัน
ทั้งสองคันขับมาใกล้ ๆ เรน เรนจึงกระโดดเกาะคันหลังไป แต่ตอนนั้นผู้ติดเชื้อผิวลอกก็กระโดดเข้ามาเกาะตามเรนไปด้วย
“เชี่ย!” เรนสบถออกมาอย่างหงุดหงิดกับลูกตื้อของพวกผู้ติดเชื้อผิวลอก เขาใช้หมัดต่อยไปที่หัวของมันซ้ำ ๆ ขณะที่ผู้ติดเชื้อผิวลอกตนนี้ก็พยายามจะกัดเรน
เรนจึงจับไปที่คอของมันทุบเข้ากับประตูหลังของรถหุ้มเกราะซ้ำ ๆ จนหัวมันแหลก เลือดนั้นกระเซ็นไปท่วมประตูหลังรถ
เขาคว้าเอาของจากศพมาและโยนศพมันทิ้งไป
“เรน” ผู้กองเชนเปิดประตูท้ายของรถหุ้มเกราะให้เรนเข้าไป
เรนรีบเข้าไปด้านใน ก่อนจะเอารูนิกคันธนูออกมา เขาเล็งไปที่ผู้ติดเชื้อผิวลองที่วิ่งตามมาเกือบจะถึงรถแล้วก็ยิงใส่หัวของพวกมัน ลูกศรปักเข้าที่เบ้าตา ทำให้มันล้มกลิ้งไปกับพื้น ก่อนที่จะลุกขึ้นมาใหม่
แต่ว่าก็ไม่อาจจะวิ่งตามรถได้ทันแล้ว เรนยิงทุกตัวจนพวกมันไม่สามารถตามความเร็วของรถได้ทัน สุดท้ายรถหุ้มเกราะทั้งสองคันก็สลัดผู้ติดเชื้อจนหลุดได้สำเร็จ
...
พวกเขาขับต่อกันไปอีกหลายสิบกิโลเมตร ก่อนจะหยุดรถ
เรนในตอนนี้กลับมาอยู่ในสภาพของมนุษย์ปกติแล้วได้ลงมาจากรถพร้อมกับผู้กองเชนและหลิน พร้อมด้วยหมอ ทหารคนอื่น ๆ ก็ลงมาด้วย พวกเขาเริ่มตรวจเช็คคนอื่น ๆ
“พวกเราออกมาแล้ว”
“ไม่คิดว่าจะรอดมาได้จริง ๆ”
ทหาร 2 นายและพลเรือนอีก 2 คนเริ่มพูดคุยกัน ขณะที่ทหารที่ตอนนี้ยศใหญ่สุดในกลุ่มได้เดินเข้ามาหาพวกเรน
“ตามข้อตกลงของพวกเราของที่ได้มาครึ่งหนึ่งเป็นของพวกเราและรวมถึงหมอด้วย” เรนกล่าวขึ้นมาตรง ๆ
“นายคือคนที่ในวิทยุ” ทหารคนนั้นถามขึ้นมา
“ใช่”
“ตามตกลงนายเอาไปได้” ทหารตกลง เพราะนี่คือสิ่งที่พวกเขาตกลงกันไปตั้งแต่แรก
หมอผู้ชายไม่สามารถทำอะไรได้ โดยเฉพาะเมื่อเห็นความสามารถของเรนแล้ว ที่จริงเขาเป็นหมอก็พอจะรู้เรื่องรูนิกที่รัฐบาลกำลังทดลองอยู่ด้วย
“คุณหมอเชิญ” เรนหันไปกล่าว ก่อนจะกำลังกลับไปที่รถ
“เดี๋ยวก่อน” ทหารคนนั้นเรียกเรนให้หยุด
“มีอะไร” เรนหันกลับไปถาม
“พวกนายมีที่พักแถวนี้ใช่ไหม”
ทหารคนนั้นถามถึงที่อยู่ของเรน แต่ว่าเรนไม่ตอบ
“ให้พวกเราไปด้วยได้ไหม พวกเราจะพักสองสามวันก็ได้” ทหารถามเรน
“นั้นไม่ได้อยู่ในข้อตกลง ผมช่วยพวกคุณแล้วและตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว” เรนไม่คิดจะรับใครเข้ามาเพิ่มในตอนนี้
การมีคนเพิ่มหมายถึงปากท้องที่ต้องเลี้ยงมากขึ้นและที่สำคัญเขาไม่ไว้ใจคนนอกมานัก
รถของเรนและพวกขับออกไปจากตรงนี้ในทันที โดยทิ้งทหาร 3 คนและพลเรือนอีก 2 ไว้ตรงนั้น
“เอายังไงต่อ” ผู้กองเชนถาม เขาคือคนที่กำลังขับรถหุ้มเกราะคันนี้อยู่
“กลับกันก่อน” เรนบอกกับผู้กองเชน ก่อนจะหันไปถามหมอผู้ชายคนนั้นว่า
“คุณชื่ออะไร”
“อลัน” หมออลันตอบคำถามของเรน เขาสังเกตว่ากลุ่มนี้เรนเป็นผู้นำ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะมีปัญหาด้วย
“หมอรู้เรื่องค่ายอพยพมากแค่ไหน รวมถึงเรื่องของรูนิกด้วย” เรนถามเขาด้วยท่าทีจริงจัง
หมออลันหรี่ตาลงในทันที
“คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมรู้”
“ที่จริงแล้วผมเคยไปสถานที่หนึ่งมาและในเอกสารเหล่านั้นมีรูปของคุณอยู่” เรนกล่าวขึ้นมา เอกสารที่เรนพูดถึงนั้นแน่นอนว่ามาจากฐานวิจัยลับใต้ดิน เขากวาดพวกมันมาหลายฉบับและก็มีข้อมูลการวิจัยกับทีมวิจัย
ตอนแรกที่เจอหน้าหมออลันเรนรู้สึกคุ้นเคย จนได้มองดี ๆ เขาจึงมั่นใจว่าเป็นคนเดียวกันแน่นอน
หมออลันเองก็รู้สึกตกใจมากที่ได้ยิน
“หมอไม่ต้องตกใจไป ผมไม่ได้จะทำร้ายคุณหรอก ที่จริงข้อมูลเหล่านั้นที่พวกคุณทำช่วยผมไว้พอสมควร” เรนบอกกลับหมออลัน
“แล้วคุณต้องการผมไปทำไม” หมออลันถาม
“คนในกลุ่มของผมบาดเจ็บและต้องการหมอ” เรนกล่าว ก่อนจะไม่ได้พูดอะไรอีก
รถของพวกเขาขับวนไป ก่อนจะย้อนกลับไปอีกเส้นทางหนึ่งถึงคอยไปที่โรงเลื่อยไม้ที่ทำแบบนี้ก็เพราะว่าต้องการปกปิดล่องลอยไม่ให้โดนตามมา