ตอนที่ 19 หลินเฟิงผู้อวดดี
ทำไมฉินเทียนถึงยอมทำตามคำขอของซูเจิ้งหยาง?
เพราะเขารู้ว่าซูเจิ้งหยางไม่เหมือนกับถังเต๋อเสวียน
หลินเฟิงโชคดีมาก
แม้ว่าซูเจิ้งหยางจะไม่ได้ยืนหยัดเพื่อเขา แต่ก็ยังมีวิธีอื่นที่จะลดโทษจำคุกของเขาได้
หากเขาไม่เห็นด้วยก็ไม่ต่างจากการทำลายความสัมพันธ์กับซูเจิ้งหยาง
สิ่งนี้จะผลักตระกูลฉินไปฝั่งตรงข้ามตระกูลซูทันที
ตระกูลฉินไม่กลัวตระกูลซู แต่ตระกูลซูก็ไม่กลัวตระกูลฉินเช่นกัน
ในประเทศนี้ ตราบใดที่ไม่มีใครตาย คดีอื่นๆ ทั้งหมดอาจกลายเป็นเรื่องเล็กๆ
ด้วยอิทธิพลของตระกูลซู การประกันตัวหลินเฟิงออกมาจึงไม่ใช่เรื่องยาก
ผลลัพธ์จะเหมือนกันแม้ว่าฉินเทียนจะเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง
นอกจากนี้ ฉินเทียนต้องการกำหนดเป้าหมายไปที่หลินเฟิงเท่านั้น
ดังนั้น การไม่ต่อต้านตระกูลซูจะง่ายกว่า หรือควรใช้ตระกูลซูจัดการหลินเฟิงเสียเอง
คำตอบชัดเจนมาก
ตอนนี้หลินเฟิงได้ก้าวเช้ามามีส่วนในตระกูลซูแล้ว ฉินเทียนอาจส่งความช่วยเหลืออย่างราบรื่นให้กับซูเจิ้งหยาง
เมื่อได้ยินคำรับปากของฉินเทียน ซูเจิ้งหยางก็มีความสุขมาก
เขารีบโทรหาคนขับรถ และสั่งให้ไปที่สถานีตำรวจเพื่อรับหลินเฟิง
ฉินเทียนก็เร็วมากเช่นกัน
เขาโทรหาหลี่จุน และให้เขาบอกเติ้งจวินชู่ให้หยุดดำเนินคดีกับหลินเฟิง
การดำเนินคดีกับหลินเฟิงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ดังนั้นขณะนี้ หลินเฟิงจึงยังคงถูกควบคุมตัวอยู่
หลังจากได้รับความยินยอมจากฉินเทียนแล้ว เติ้งจวินชู่ก็เริ่มปิดคดีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ในสถานีตำรวจ หลิวรั่วซือก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเช่นกัน
เพราะหากฉินเทียนไม่ยอมความ พวกเธอจะต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อจัดการคดีนี้
ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนสายฝนที่โปรยปรายซึ่งไม่นานก็จะหายไป และคืนท้องฟ้าที่สดใสกลับมา
....
บริเวณทางเข้าสถานีตำรวจ
“ไม่คิดเลยว่าจี้หยกที่ตาแก่มอบให้จะมีประโยชน์ขนาดนี้”
หลินเฟิงที่เดินออกจากสถานีตำรวจมีสีหน้าพอใจ
ตระกูลฉินแล้วไง? ไม่มีทางขวางทางฉันได้
“ไปกันเถอะคุณซูกำลังรอคุณอยู่ที่โรงแรมอิมพีเรียล” คนขับเตือนเขาเสียงเย็น
"ครับ" หลินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขาหันกลับไปมองสถานีตำรวจที่อยู่ข้างหลัง
เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่เสียหน้าต่อหลิวรั่วซือ
ยังไงซะ หลิวรั่วซือเป็นตำรวจสาวที่ดูดี
แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะคิดถึงเรื่องนั้น
เขาต้องไปหาคู่หมั้นก่อน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขานั่งลงบนเบาะหลังของรถที่ซูเจิ้งหยางจัดมาให้ และโบกมือไปทางคนขับ
"ไปได้!"
ด้วยน้ำเสียงของเขา มันสร้างความประทับใจราวกับว่าเขาเป็นผู้นำตระกูลซู
คนขับอารมณ์เสียเล็กน้อย
แต่ไม่สามารถแสดงความไม่พอใจได้ ทำได้เพียงพาหลินเฟิงไปยังโรงแรมอิมพีเรียล
...
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
โรงแรมอิมพีเรียล
ฉินเทียนกินดื่มจนอิ่ม ดังนั้นเขาจึงเริ่มคุยกับคนอื่นๆ
ระหว่างการพูดคุย ฉินเทียนพยายามดูว่าเขาจะได้แต้มวายร้ายเพิ่มบ้างไหม แต่ผลที่ได้ก็คือผิดหวังโดยธรรมชาติ
ลองคิดดูสิ หลังจากความประทับใจในใจของคนอื่นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ครั้งที่สองมันจะเปลี่ยนไปยังไงได้อีก?
ตอนนี้เขาสามารถเอาชนะใจซูหยานหรานได้ก็ถือว่าดีแล้ว
ขณะที่ฉินเทียนกำลังคิดเรื่องไร้สาระ หลินเฟิงซึ่งมีคนขับนำมาก็ผลักประตูเข้ามา
พูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเฟิงได้พบกับใครบางคนจากตระกูลซู นอกเหนือจากคนขับรถ
หลังจากที่เขาเข้ามา ดวงตาของเขาก็กวาดมองไปรอบๆ ภายในห้องส่วนตัวนี้อย่างรวดเร็ว
ในห้องส่วนตัวนี้มีสาวสวยอยู่มากมาย
มู่เตี๋ย ซูหยานหราน และเลขาสาวสวยหลี่หยูถง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นซูหยานหรานนั่งอยู่ข้างๆ ซูเจิ้งหยางเขาก็รู้ตัวตนของเธอได้อย่างรวดเร็ว
และยังเห็นฉินเทียนด้วย
มู่เตี๋ยซึ่งนั่งถัดจากฉินเทียนคือคนที่ทำงานให้กับฉินเทียนแน่นอน
หลี่หยูถงสวมชุดทางการที่คล้ายกับของมู่เตี๋ย ดังนั้นน่าจะเป็นแค่เลขา
นอกจากสามคนนี้แล้ว ในห้องมีเพียงซูเจิ้งหยางและลูกสาวของเขาเท่านั้น
หากเขายังไม่สามารถเดาตัวตนของทั้งสองได้ เขาก็คงไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นตัวเอกในนิยายของเขาเอง
เขาไม่คิดเลยว่าคู่หมั้นของเขาจะสวยขนาดนี้?
พระเจ้า ความสวยของเธอไม่ต่างกับมู่เตี๋ยที่อยู่ถัดจากฉินเทียนสักนิด
ขอบคุณพระเจ้า
การเดินทางลงเขาครั้งนี้ไม่ขาดทุนแน่นอน
“เธอคือหลินเฟิงใช่ไหม?”
เมื่อเห็นหลินเฟิงเข้ามา ซูเจิ้งหยางก็แสดงท่าทีเหมือนผู้อาวุโส
"ครับ"
“เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
หลินเฟิงพยักหน้าเบาๆ “ผมหลินเฟิง สวัสดีครับลุงซู”
"อืม"
หลินเฟิงคาดเดาตัวตนของเขาได้ และด้วยท่าทีที่สุภาพนี้ ซูเจิ้งหยาจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็ไม่แย่อย่างที่คิด
“นั่งก่อนๆ”
ซูเจิ้งหยางชี้ไปที่ที่นั่งว่างข้างๆ เขา
หลินเฟิงนั่งลงอย่างเชื่อฟัง และหลังจากพนักงานก็เริ่มรินชาให้เขา
“เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ฉันขอแนะนำก่อน นี่คือคุณฉิน ฉันคิดว่าเธอคงได้เจอกันแล้ว...”
“แน่นอน เราเคยเจอกัน”
หลังจากที่หลินเฟิงจิบชา รอยยิ้มเหยียดก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา “ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายขยะของเขา ผมจะถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจได้ยังไง?”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมา ยกเว้นฉินเทียน ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก
ซึ่งรวมถึง ซูหยานหรานและมู่เตี๋ย
เด็กคนนี้กำลังพูดอะไร เขาบ้าไปแล้วหรือไง?
ต่อหน้าผู้นำตระกูลใหญ่ทั้งสอง เขาบอกว่าลูกชายของฉินเทียนเป็นขยะ?
นี่ไม่ใช่แค่ตบหน้าฉินเทียนเท่านั้น แต่ยังตบหน้าซูเจิ้งหยางด้วย!
หลังจากที่ซูเจิ้งหยางมองฉินเทียน และพบว่าเขาไม่ได้มีท่าทีอาการโกรธ เขาก็ค่อนข้างประหลาดใจ ขณะที่ก็รีบแก้ไขสถานการณ์ด้วยน้ำเสียงเข้มงวด
“หลินเฟิง เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา?”
“หืม?” เมื่อเห็นใบหน้าของซูเจิ้งหยาง หลินเฟิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดว่า “ลุงซู แน่นอน ผมรู้ตัวว่าผมพูดอะไร”
“ลูกชายของเขาไม่เพียงแต่ทำร้ายผู้หญิงในที่สาธารณะเท่านั้น แต่เขายังพยายามให้บอดี้การ์ดของเขาทำร้ายผม!”
“ถ้าผมไม่ได้รับการฝึกฝน คนที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลตอนนี้คงเป็นผม”
“ลูกชายของเขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อนแต่แพ้ ผิดตรงไหนที่ผมเรียกลูกชายของเขาว่าขยะ”
ปัง!
"หุบปาก” ก่อนที่ฉินเทียนจะทันได้ตอบโต้ ซูเจิ้งหยางก็พุ่งออกไปแล้ว
“เด็กคนนั้นเป็นลูกชายของคุณฉิน เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนั้นที่นี่? ตอนนี้...ไปขอโทษประธานฉินเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าโทษฉันซูเจิ้งหยาง ถ้าฉันจะเป็นฝ่ายแจ้งจับเธอเอง!”