ตอนที่แล้วบทที่ 8: แอปเทพ ๆ กับการขายทอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10: อาวุธและโรงงานร้างที่จู่ ๆ ก็โผล่มา

บทที่ 9: น้องสาวและพี่ชาย


โรงเรียนของถังหย่าเจี๋ยตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองหลวงซึ่งที่ดินทุกตารางนิ้วมีล้วนมีราคาและตามถนนเต็มไปด้วยร้านค้าที่ตกแต่งอย่างหรูหราและมีรถรับส่งบรรดาคุณหนูคุณชายจอดรออยู่

ระหว่างนั่งรถไปโรงเรียนเขาก็รู้สึกสะเทือนใจอย่างอดไม่ได้กับภาพความจอกแจกจอแจและฝูงชนที่พลุกพล่าน  เพราะหลังจากที่ได้ไปเห็นควาหฤโหดของอีกโลกมาแล้วมันก็ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป  ความอึน ๆ มึน ๆ ลดลงไปหน่อยโดยมีความมั่นใจนิดหน่อยที่เพิ่มขึ้นมาแทน

และเมื่อถึงโรงเรียนแล้วถังเจิ้นก็เห็นถังหย่าเจี๋ยน้องสาวตนยืนรออยู่แล้วที่หน้าประตูโรงเรียน  แถมยังยืนรอการมาถึงของพี่ชายด้วยความตื่นเต้นอีกด้วย!

เพราะตั้งแต่ยังเล็ก ๆ แล้วในสายตาเธอพี่ชายเหมือนฮีโร่เลย  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่ก็จะเข้มแข็งเสมอ

ยามที่เธอโดนรังแกพี่ก็จะเข้าไปช่วย  ต่อให้ต้องโดนรุมทุบตีจนวูบเขาก็ยังดึงดันจนเอาชนะไอ้คนที่มันมารังแกเธอจนต้องเผ่นแนบได้  เมื่อเธอมีปัญหาเรื่องเรียนพี่ที่เรียนโคตรเก่งก็จะคอยช่วยติวไขข้อสงสัยให้  ทว่าเพราะครอบครัวมีปัญหาจึงทำให้เขาไม่อาจเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้  เขาต้องออกไปหางานทำเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวในทันทีที่เรียนจบม.ปลาย

ถังหย่าเจี๋ยรู้สึกมีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจที่มีพี่ชายที่คอยปกป้องมาตั้งแต่เด็ก  แม้ว่าเธอจะรู้มานานแล้วว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด  แต่ถังหย่าเจี๋ยกับถังเจิ้นก็ยังคงมีความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่ลึกซึ้งกว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดซะอีก  โดยทั้งสองได้มองว่าอีกฝ่ายต่างก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของตนกันทั้งสิ้น

ถังหย่าเจี๋ยเป็นเด็กสาวสูง 172 สวมกางเกงยีนส์สีอ่อนรูปร่างหน้าตาดูเป็นสาวหวานและซื่อตรง  เธอที่ยืนอยู่ข้างถนนแบบนี้ทำให้ดูเด่นสะดุดตาคนที่เดินไปเดินมาอย่างยิ่ง  หุ่นดี  หน้าตาดี  เรียนดี  บุคลิกร่าเริงดี  จิตใจดี  ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้คือองค์ประกอบอันเป็นที่สุดของแฟนที่โคตรเพอร์เฟกต์ที่บรรดาหนุ่ม ๆ มากมายต่างไฝ่ฝันถึง

ในเวลานี้เทพธิดาในใจของเด็กชายนับไม่ถ้วนกำลังจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้าไปหา  โดยใบหน้าอันงดงามที่แต่เดิมนิ่งเงียบนั้นได้ปรากฏรอยยิ้มแสนหวานขึ้นมา

“เย่!  พี่มาแล้ว!”

ถังหย่าเจี๋ยโบกมือหยอย ๆ พลางวิ่งกระโดดโลดเต้นไปหาถังเจิ้นและกอดแขนเขาอย่างซุกซนก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ “พี่ล่ะก็  หนูล่ะงงจริง ๆ เลยที่พี่ชายผู้เอาแต่ทำงานตัวเป็นเกลียวขนาดที่อยากจะแยกร่างมาช่วยทำได้ทำไมวันนี้ถึงมีเวลาว่างมาเยี่ยมหนูได้ล่ะหืม?”

“หึ ๆ”

ถังเจิ้นหัวเราะเบา ๆ จ้องมองดวงตาที่สดใสของน้องสาวและพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย “ก็พี่เป็นพี่มาเยี่ยมน้องน่ะเรื่องธรรมดา  ไม่เหมือนเธอหรอกแม่จิ้งจอกน้อย  จะทำอะไรก็ต้องมีอะไรแอบแฝงตลอด!”

ถังหย่าเจี๋ยหยิกเอวของถังเจิ้นและตะคอกด้วยความโกรธ “เป็นพี่ประสาอะไรมาว่าน้องเป็นนังจิ้งจอกน้อย!  แบบนี้มันต้องโดนนนนน!”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”

ถังเจิ้นหัวเราะพลางแสร้งทำเป็นหลบมือไม้ของเธอด้วยความกลัว  ก่อนจะประนมมือขึ้น ๆ ลง ๆ เหนือหัวร้องว่ายอมแล้วค้าบ ๆ

ตรงกันข้ามคือทางด้านถังหย่าเจี๋ยรู้กลับสึกประหลาดใจอย่างมากกับความแข็งแกร่งทางร่างกายของถังเจิ้น  เพราะเธอรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อรอบ ๆ เอวของพี่ชายตนเหมือนจะแข็งแรงกว่าเดิมเยอะเลย

จากนั้นเธอก็หรี่ตาลงและคิดในใจว่าการที่เป็นแบบนี้ได้ต้องเป็นเพราะพี่เธอไปทำงานแบบใช้แรงงานอย่างหนักมาแน่ ๆ เลยคว้าแขนเขามาเช็คดูเพื่อความชัวร์  ซึ่งก็ตามคาด  เพราะที่ฝ่ามือของเขามีหนังที่ด้านและแข็งอันเป็นเอกลักษณ์ของคนที่ใช้แรงงานอย่างหนัก

แน่นอนเรื่องนี้ถังหย่าเจี๋ยเข้าใจไปเอง  อันที่จริงแล้วแม้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ทันสังเกตเลยว่าร่างกายของตัวเองมีการเปลี่ยนแปลง

ส่วนสาเหตุจริง ๆ ก็คงจะมาจากการฆ่ามอนสเตอร์นั่นแหละ  จากแอปข้อมูลส่วนตัวมันก็ได้บอกไว้แล้วว่าถ้าเขาฆ่ามอนส์เตอร์ได้อีกซักไม่กี่ตัวเขาก็จะเลื่อนขึ้นเป็นเลเวล 1 ซึ่งมีพลังพอ ๆ กับผู้ใหญ่ 1 คนที่ออกแรงเต็มที่

ถังเจิ้นสังเกตเห็นความประหลาดใจของเธออย่างรวดเร็ว  ทว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป  จากนั้นทั้งคู่ก็พากันไปนั่งที่ม้านั่งแล้วเขาก็ยื่นบัตรธนาคารให้เธอใบหนึ่ง

“ใบนี้มีเงินอยู่สามแสนนะ  รหัสคือวันเกิดเธอ”

ถังหย่าเจี๋ยมองดูบัตรธนาคารที่ถูกยัดใส่มือด้วยสีหน้าซับซ้อน  จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับถังเจิ้นเสียงเครียด “นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะพี่!  เอาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลมาซะ!”

เขารู้อยู่แล้วว่าน้องสาวเจ้าเล่ห์ของตนต้องถามแบบนี้  และเขาก็ตอบแบบสบาย ๆ ไปว่า “ที่มาของเงินรับรองว่าสะอาดชัวร์ ๆ ไม่มั่วนิ่ม  และฉันไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎหมายหรือทำลายสังคมอย่างแน่นอน  เพราะงั้นเธอไม่ต้องห่วง  เลิกคิดเองเออเองแล้วไปเรียนอย่างสบายใจซะก็พอแล้ว”

ถังหย่าเจี๋ยเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็พยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับถอนหายใจด้วยความเสียใจ “พี่ไม่เห็นต้องเหนื่อยขนาดนี้เลย  หนูเก็บเงินเรียนเองได้หน่า  ตอนนี้ก็มีพอแล้วด้วย  อีกไม่นานเว็บที่หนูทำก็จะสร้างรายได้มีกำไร  ใช่แล้ว!  ขอเวลาอีกนิดเดียว...  หนูรู้ว่าพี่น่ะพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะหาเงินมาใช้หนี้ให้พ่อ  แต่พี่อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ  ไม่งั้นล่ะก็หนูคง...  เสียใจมาก ๆ แน่”

ถังหย่าเจี๋ยรู้ว่าถังเจิ้นทำงานอะไรอยู่ตอนนี้  แบกอิฐแบกปูนไง  นอกจากจะหาเงินใช้หนี้แล้วยังเลี้ยงดูเธอด้วย  ซึ่งค่าใช้จ่ายมันเกินกว่ารายได้ของเขาอย่างชัดเจน  ดังนั้งความกังวลของเธอจึงใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลไปซะทีเดียว

และเธอยังรู้ดีว่าเขามีนิสัยที่เมื่อตัดสินใจทำอะไรไปแล้วก็จะยึดมั่นไม่ยอมเลิกจนกว่าจะสำเร็จ

ถังเจิ้นไม่เคยโกหกเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว  ดังนั้นเธอเลยไม่คิดจะสงสัยในคำพูดของเขาเลย

ทว่าถังหย่าเจี๋ยก็ยังคงมีความรู้สึกไม่สบายใจแถมยังหวาดกลัวอยู่นิด ๆ ด้วย  ทำให้เธอไม่อาจสงบสติอารมณ์ลงได้

ส่วนผู้เป็นพี่เมื่อเห็นอารมณ์หมอง ๆ ของน้องสาวแล้วมันอดเศร้าใจไม่ได้เหมือนกัน  คำสารภาพทั้งหมดเลื่อนมาถึงริมฝีปากแล้ว  แต่เขาก็ตั้งสติกลืนมันลงไปคืน  ‘ไม่  เรื่องนี้พูดออกไปไม่ได้เด็ดขาด!’

จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปปาดผมเพื่อเปิดหน้าผากของเธอแล้วดีดเพี๊ยะเข้าไปดอกหนึ่งทำเอาเธอโกรธและโวยวายขึ้นมาแล้วหัวเราะสนุกสนาน

ถังหย่าเจี๋ยเม้มปากอย่างเจ็บปวดและเริ่มหยิกถังเจิ้นอย่างเอาจริงเอาจังพลางหางตาของเธอก็ได้มีน้ำตาหยดเล็ก ๆ ร่วงลงมา

สิบนาทีต่อมาถังเจิ้นก็ออกจากโรงเรียน  ตอนที่แยกกันถังหย่าเจี๋ยก็ไม่ได้ถามว่าเอาเงินมาจากไหน  แต่พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไม่ว่าจะเมื่อไหร่  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ขอให้พี่ระลึกไว้เสมอนะว่าพี่ยังมีน้องสาวที่ต้องให้พี่ดูแล  มีน้องสาวที่อยากให้พี่ปลอดภัยและมีความสุขตลอดไปรออยู่...”

ถังเจิ้นแทบจะรั้งน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่  เขามองน้องสาวของตนด้วยหัวใจที่อบอุ่นก่อนจะโบกมือลา

การสำรวจโลกอื่นไม่ใช่แค่การเล่นเกม  มีผลประโยชน์มากมาย  พร้อมกับอันตรายถึงตายด้วย!

เขาไม่รู้เลยว่าหลังจากที่ไปโลกอื่นรอบนี้ทั้งสองคนจะได้กลับมาเจอกันอีกหรือไม่?  เขาจะรอดชีวิตกลับมาได้หรือว่าต้องทอดกายกลายเป็นอาหารมอนสเตอร์ที่นั่น?

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรตอนนี้ในใจเขากลับสงบนิ่ง  ด้วยความรักที่มีต่อครอบครัวอันแนบแน่นอยู่ในใจทำให้เขาไม่มีวันเสียใจในสิ่งที่ทำ...

หลังจากนั่งรถกลับถึงบ้านแล้วถังเจิ้นก็หยิบมือถือออกมา  หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็โทรออก

โดยชื่อที่เขาโทรหาเม็มเอาไว้ว่า ‘ประธานหื่น’!

มีเสียงโทรติด  แต่ก็มีเสียงวางสาย  พอโทรไปอีกมันก็วางสายอีก!

ถังเจิ้นไม่ยอมแพ้และโทรรัว ๆ ไปเรื่อย ๆ ‘ดูซิว่ามึงจะรับไม่รับ!’

และสุดท้ายมันก็รับจนได้  โดยเสียงปลายสายมีเสียงครางของผู้หญิงดังเข้ามาด้วยพร้อมกับเสียงเจ้าของเบอร์ที่พูดกรอกหูด้วยเสียงแหบห้าวอย่างโมโห “ไอ่ถังเจิ้น  ไอ่ห่าหนิ!  รอกูแตกก่อนก็ไม่ได้จะรีบห่าไรนักหนาวะ!  หรือมึงอยากร่วมวงด้วยฮะ!”

หลังจากได้ยินเสียงปลายสายดังเข้ามามีหรือถังเจิ้นจะไม่รู้ว่าไอ้ประทานมันทำอะไรอยู่  เขาเม้มปากทีหนึ่งก่อนจะตอบกลับไปว่า “มึงนั่นแหล่ะวัน ๆ ไม่ทำห่าไรเลยนอกจากไปหาจิ้มผู้หญิงที่มีผัวแล้ว  แม่งหื่นสมชื่อจริง ๆ...”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นไอ้คนปลายสายมันก็พูดกลับมาด้วยน้ำเสียงภูมิใจว่า “มึงอิจฉากูก็ว่ามาตรง ๆ อย่าทำเป็นประชด!”

ถังเจิ้นหัวเราะเบา ๆ “กูว่ามึงมั่วละ  เรียกมึงว่าไอ้ประธานหื่นนี่ดูจะสรรเสริญน้อยไป  เปลี่ยนเป็นไอ้คุณชายหื่นให้เอาปะ?”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”

ปลายสายไม่ได้โกรธอะไรแถมยังหัวเราะชอบใจอีกต่างหาก  จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา “เฮ่อ~  ก็มีแต่เฒ่าถังนี่แล้ที่รู้จักฉัน  เอาว่ามา  มีปัญหาอะไรทำไมนายที่ไม่ได้โทรหาฉันมาตั้งหลายปีดีดักแล้วถึงได้โทรมา  อย่าบอกน้าว่าตัวเองไม่มีปัญหา  เพราะกูไม่เชื่อ!”

“ไม่มีปัญหาแล้วโทรหาไม่ได้เหรอวะ?”

“เอาล่ะพูดไปก็เปล่าประโยชน์  ไม่รู้ว่านา...”

“แฮก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”

“อื้อ ๆ ๆ ๆ”

ทันทีที่ถังเจิ้นพูดจบเขาก็ได้ยินเสียงหายใจถี่ ๆ จากปลายสายโทรศัพท์ตามด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความปีติยินดีของผู้หญิงทำเอาถังเจิ้นขมวดคิ้วเล็กน้อย  และขณะที่กำลังจะตัดสายทิ้งอยู่นั้นเอาเสียงปลายสายก็ดังออกมาว่า “อีกชั่วโมงนึงไปเจอกันที่จัตุรัสเฉิงหนาน (ทางใต้)  แค่นิ...”

“พ่อง!”

ถังเจิ้นด่ากรอกหูโทรศัพท์แล้วตัดสายทิ้งทันทีอย่างมีน้ำโหสุด ๆ

ไอ้คนที่ชื่อ ‘องค์ชายหื่น’ ที่ถังเจิ้นยกย่องให้คือซูเฟิง  มันเองก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนเขาซึ่งเติบโตจากข้าวหม้อเดียวกัน  เพราะว่าทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้าด้วยกันจึงเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ และความสัมพันธ์ก็ถือว่าสนิทสนมแน่นแฟ้น

ต่อมาถังเจิ้นเรียนจบม.ปลายก็ออกไปหางานทำ  ส่วนซูเฟิงก็เดินเข้าสู่โลกของธุรกิจสีเทา  ทั้งสองติดต่อกันน้อยลงเรื่อย ๆ และท้ายที่สุดพวกเขาก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยมานานหลายปีแล้ว

ตอนแรกถังเจิ้นคิดว่าตัวเองกับซูเฟิงคงเป็นคู่หูที่ไม่แยกจากกันไปชั่วชีวิต  แต่ตอนนี้โลกได้แสดงให้เห็นถึงอนิจจังแล้ว  ความคิดหลาย ๆ อย่างก็แค่ความเพ้อฝันหลอกตัวเองเท่านั้น

1 ชั่วโมงต่อมา

จัตุรัสเฉิงหนาน

ถังเจิ้นมาถึงก่อนเวลานัด 10 นาทีและมองไปรอบ ๆ อย่างเบื่อหน่ายกับทิวทัศน์โดยรอบ

จู่ ๆ รถออฟโรดก็พุ่งตัวมาหยุดลงตรงหน้าถังเจิ้นที่กำลังเหม่อ ๆ หน้าต่างรถลดระดับลงเผยให้เห็นชายหนุ่มรูปงามที่ย้อมผมเงินสวมแว่นกันแดดโผล่หน้าออกมาพร้อมกับโบกมือให้เบา ๆ แต่เมื่อเห็นถังเจิ้นยังนิ่งไม่ไหวติงมันก็หยิบขวดน้ำแร่ปาใส่เขาทันที

“เชี่ย!”

ถังเจิ้นโยกหลบแล้วมองไอ้หัวเงินด้วยสายตาจนใจ “เฮ่อ~  ไม่ได้เจอกันเป็นปี ๆ มึงไม่ตายเพราะไปทำผู้หญิงท้องไม่พอเสือกยังดูฟิตปั๋งกว่าเดิมอีก  สวรรค์นี่ก็ช่างตาบอดโดยแท้!”

ไอ้หัวเงินเบ้ปากอย่างภาคภูมิใจแล้วกระโดดลงรถมาหาถังเจิ้นแล้วทักทายแบบหมา ๆ ว่า “ไอ้ยินมาว่าพ่อมึงหอบเงินก้อนใหญ่หนีไปนิ  จ่ายหนี้ให้คนอื่นท่าจะเหนื่อยน่ะดูเนอะ!”

ถังเจิ้นถึงกับหน้าหมองและส่ายหัวเบา ๆ

เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วซูเฟิงมันก็ชกไหล่เขาเบา ๆ พร้อมกับพูดอย่างโล่งใจว่า “เรื่องเล็กน้อยหน่าเพื่อน  มากับฉันสิ  รับรองเลยว่านายคืนหนี้ได้ภายในสามปีแน่ ๆ เผลอ ๆ ยังมีเงินเก็บด้วยนา!”

“ไม่ไหวอะ  ทำงานกับนายฉันไม่น่าจะทำได้หรอก!”

“อีกแล้ว!  งั้นเอางี้มะ  เด๋วแนะนำแม่สาวแจ่ม ๆ สเปกสูง ๆ ให้  รับรองว่าสะอาดหมดจดบริสุทธิ์ผุดผ่องแล้วเธอจะทำให้นายไม่ต้องนึกถึงอีกะหรี่ฟางอวี่เจี๋ยอีกเลย”

ถังเจิ้นเบ้ปากขยะแขยง “ไม่เป็นไรอะ  ขอบคุณ  แล้วฉันไม่ได้เก่งเรื่องนั้นเหมือนนายด้วย  ส่วนฟางอวี่เจี๋ยนั่น...  ฉันก็ยอมแพ้ไปแล้วล่ะ”

ซูเฟิงยิ้มเยาะก่อนจะเอียงคอพูดว่า “นายคงไม่รู้ล่ะมั้ง  ว่าจริง ๆ แล้วเพื่อน ๆ ฉันมันไม่ได้สนใจพวกแตงอ่อน ๆ พวกนั้นหรอก...  เอาเถอะ ๆ พอ ๆ อย่ามัวพูดเรื่องเครียด ๆ เลยพี่น้อง  อยากได้ไรก็ว่ามา”

ถังเจิ้นเปลี่ยนจากท่าทีเหลาะแหละก่อนหน้านี้เป็นจริงจัง  เขาหันมองไปรอบ ๆ ตัว  แม้จะเห็นว่าไม่มีใครมองอยู่ก็ตาม  แต่เขาก็ยังพูดเบา ๆ ว่า “เอาปืนพกกะกระสุน”

ซูเฟิงได้ยินก็อึ้งไป  แววตาของเขามีแต่ความตกใจให้เห็น  จากนั้นเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ดวงตาที่ตกใจนั่นก็เบิกกว้างขึ้นมา “มึงจะเอาของแบบนั้นไปทำไรวะ!  อย่าบอกนะว่าจะไปฆ่าผัวอีฟางอวี่เจี๋ยน่ะเฮ่ย!  กูบอกมึงเลยนะว่าเรื่องแบบนี้อย่าริอาจหยิบจับเชียว!  เพราะโดนจับมากูช่วยห่าไรมึงไม่ได้แน่!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด