ตอนที่แล้วบทที่ 159 นี่คือวิธีที่วิถีมารใช้แก้ปัญหาของพวกเขา?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 161 หลี่อู๋เซียงออกจากพื้นที่ลับ!

(ฟรี) บทที่ 160 ขอบเขตเหนือวิบัติขั้นปลาย อู๋เจิงกง!


ทุกคนจากตระกูลเซียวจ้องมองฉากนี้อย่างว่างเปล่า

หัวหน้าศิษย์ของพระราชวังเต๋าสูงสุดซึ่งแต่เดิมสูงส่งและทรงพลัง ตอนนี้นอนเป็นอัมพาตอยู่บนพื้นเหมือนเศษดิน

ผิวหนังบนใบหน้าของเขาฉีกขาด และร่างกายของเขาก็ถูกทุบตีอย่างหนัก เขากอดขาของ หลี่หรานแน่นและอ้อนวอนอย่างน่าสมเพช

“อย่า อย่าตีข้าเลย! ข้าคายไม่ออกจริงๆ!” เฟิงว่านเจียงอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

เขาจะอ่อนแอได้ยังไง ในเมื่อเขาสามารถเป็นหัวหน้าศิษย์ของนิกายชั้นนำได้?

ตรงกันข้าม ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ ความถนัด หรือความสามารถในการหยั่งรู้ เขาอาจกล่าวได้ว่าแข็งแกร่งมาก เขาแทบไร้คู่ต่อสู้ในหมู่คนรุ่นราวคราวเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เขาบังเอิญได้พบกับหลี่หราน สัตว์ประหลาดตัวนี้

ทันทีที่พวกเขาพบกัน เขาก็โดนผนึกพลังปราณด้วยผนึกลับปราบวิญญาณ

ในฐานะผู้ที่บ่มเพาะเต๋าเพียงอย่างเดียว เมื่อเขาสูญเสียความสามารถในการใช้พลังปราณ เขาก็จะเป็นเพียงปลาบนเขียง

‘ถ้าข้ารู้ว่าหลี่หรานกลับมาแล้ว ข้าคงไม่มาที่ตระกูลเซียวแม้ว่าข้าจะถูกทุบตีจนตายก็ตาม!’ ลำไส้ของเฟิงว่านเจียงกำลังจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มด้วยความเสียใจ

หลี่หรานหักขาของเขาและเหยียบหัวเขาไว้กับพื้น “ดูจากน้ำเสียงของเจ้าก่อนหน้านี้ เหมือนว่าข้าจะไม่สามารถปกป้องภรรยาของตัวเองได้?”

“ข้าเปล่า ข้าไม่ได้พูด!” เฟิงว่านเจียงสั่นสะท้าน “มันที่เป็นที่ปากพล่อยๆของข้า โปรดอย่าถือสาเลยบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่!”

หลี่หรานยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น”

“???” เซียวเหนียนปิดหน้าของเขา

เจ้าทุบตีเขาจนอยู่ในสภาพนี้แล้ว เจ้ายังบอกว่าไม่ได้เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น?

“ข้ารู้ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่ใจกว้างดั่งมหาสมุทรและจะไม่ลดระดับตัวเองลงมาอยู่ในระเดียวกับข้า” เฟิงว่านเจียงหัวเราะหน้าเจื่อน

“แน่นอน” หลี่หรานเงยหน้าขึ้นมองสมาชิกตระกูลเซียวและถามว่า “เขาได้พูดอะไรอีกไหมก่อนที่ข้าจะมา?”

“นี่…” ทุกคนมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก

ในเวลานี้ ผู้อาวุโสหกของตระกูลเซียวพูดเสียงเบาว่า “เฟิงว่านเจียงกล่าวว่าหากชิงเกอไม่กลับไปที่พระราชวังเต๋าสูงสุด เขาจะทำให้การบ่มเพาะของนางพิการและนางจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนิกายอีกต่อไป”

“โอ้?” หลี่หรานหรี่ตาลงเล็กน้อย “ทำให้การบ่มเพาะของนางพิการ? หัวหน้าศิษย์เฟิงช่างน่าประทับใจจริงๆ”

หัวใจของเฟิงว่านเจียงเย็นเยียบลงทันที

เขากลืนน้ำลายและพูดด้วยน้ำเสียงลุกลี้ลุกลนว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่ ข้าแค่พูดแบบนั้นเพื่อทำให้ศิษย์น้องเซียวตกใจเล่น ข้าจะกล้าทำให้การบ่มเพาะของนางพิการได้อย่างไร!”

หลี่หรานส่ายหัว “ไม่ ข้าเชื่อว่าเจ้ากล้าจริงๆ”

เฟิงว่านเจียงพูดไม่ออก “…”

แสงสีดำปรากฏขึ้นในมือของหลี่หราน ใบหน้าของเขาเย็นชาภายใต้แสงสีดำนั้น “ถ้าอย่างนั้นหัวหน้าศิษย์เฟิงเดาดูสิว่าข้ากล้าไหม”

“ไม่!” ร่างกายของเฟิงว่านเจียงสั่นเหมือนตะแกรง

นี่คือปีศาจอันดับหนึ่งของดินแดนอันกว้างใหญ่ เขาไม่ถูกจำกัดด้วยกฎเกณฑ์ใดๆ!

จะมีอะไรที่เขาไม่กล้าทำ?

“ข้าเป็นหัวหน้าศิษย์ของพระราชวังเต๋าสูงสุด ข้าเป็นศิษย์ของผู้นำนิกายเฉินหยุนเต๋า หากเจ้าแตะต้องข้า พระราชวังเต๋าสูงสุดจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไป!”

แปะ แปะ แปะ

หลี่หรานปรบมือ “ภูมิหลังของหัวหน้าศิษย์เฟิงช่างยอดเยี่ยมจริงๆ อยากให้ข้าแนะนำตัวไหม?”

เฟิงว่านเจียงเงียบลง

ไม่ว่าภูมิหลังของเขาจะยิ่งใหญ่เพียงใด ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเหนือกว่าหลี่หราน

ยิ่งกว่านั้น ปีศาจเหลิงอู่เหยียนคนนั้น...

บางทีแม้แต่เฉินหยุนเต๋าก็ยังต้องพิจารณาอีกครั้ง?

เส้นเลือดพองขึ้นบนหน้าผากของเฟิงว่านเจียงขณะที่เขาคำราม “ผู้อาวุโสอู๋ ถ้าท่านไม่แสดงตัวข้าจะถูกฆ่าจริงๆแล้ว!”

“ผู้อาวุโส?”

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่ามีแสงส่องมากระทบแผ่นหลัง ดั้งนั้นเขาจึงหันกลับไปมอง

ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในอากาศและชายชราในชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้น

เคราและผมของเขาขาวโพลนไปหมด

ด้วยการสะบัดแขนเสื้อ เฟิงว่านเจียงถูกดูดเข้าไปในฝ่ามือของเขาโดยตรงและวางลงบนพื้นอย่างมั่นคง

กระแสพลังปราณไหลเข้าสู่ร่างกายของเฟิงว่านเจียง จากนั้นพลังปราณและเลือดที่พลุ่งพล่านของเขาก็สงบลงทันที

“ผู้อาวุโสอู๋ เหตุใดท่านจึงพึ่งปรากฏตัวตอนนี้!” เฟิงว่านเจียงถอนหายใจด้วยความโล่งอกในขณะที่เขาบ่น

ทั้งสองคนลงมาจากภูเขาด้วยกัน แต่ผู้อาวุโสอู๋ไปที่ไหนสักแห่ง

เขาไม่ได้จริงจังกับตระกูลเซียวมากนักในตอนแรก ดังนั้นเขาจึงมาเยือนถึงหน้าประตูด้วยตัวคนเดียว เขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับหลี่หรานที่นี่...

ผู้อาวุโสอู๋ส่ายหัว “ว่านเจียง เจ้าใจร้อนเกินไป ข้าจะปล่อยให้เจ้าพิการได้ยังไง? เจ้ารู้ไหมว่าเราพลาดโอกาสดีๆไป”

“โอกาส?”

เฟิงว่านเจียงผงะไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบสนองอย่างรวดเร็ว

หากหลี่หรานต้องการทำให้เขาพิการจริงๆ มันจะเกิดความขัดแย้งระหว่างสองนิกายอย่างแน่นอน จากนั้นผู้อาวุโสอู๋ก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะฆ่าหลี่หราน

อย่างไรก็ตาม เสียงคำรามก่อนหน้านี้ของเขากลับเป็นการเตือนหลี่หราน

“ท่านใช้ข้าเป็นเหยื่อล่อ?” เฟิงว่านเจียงขมวดคิ้ว

“สิ่งที่ยิ่งใหญ่จะสำเร็จก็ต่อเมื่อเจ้าไม่สนใจเรื่องเล็กน้อย” ผู้อาวุโสอู๋กล่าวอย่างเฉยเมย “ข้าไม่จำเป็นต้องพูดแบบนี้เจ้าก็ควรจะเข้าใจ”

เฟิงว่านเจียงพ่นลม

งั้นนี่ก็คือเหตุผล

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขานึกถึงผู้อาวุโสอู๋ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดและเฝ้าดูเขาถูกทุบตีอย่างหมดหนทาง เขาก็รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง

ดวงตาของหลี่หรานเป็นประกายระแวดระวังในขณะที่เขาเฝ้าดูการสนทนาระหว่างคนทั้งสอง

ผู้อาวุโสอู๋ทรงพลังมาก

แม้จะยืนอยู่ตรงนั้น การคงอยู่ของเขาก็ราวกับภูเขาที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัว

ในเวลานี้ เขาสังเกตเห็นว่าร่างกายของเซียวชิงเกอกำลังสั่นเล็กน้อย ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความกลัว

หลี่หรานขมวดคิ้ว “ชิงเกอ เจ้ารู้จักเขา?”

เซียวชิงเกอพยักหน้าและกระซิบ “ชื่อของเขาคืออู๋เจิงกง เขาอยู่ที่ขั้นปลายของขอบเขตเหนือวิบัติ! ก่อนหน้านี้ข้าถูกขับไล่ออกจากนิกายโดยเขา”

“ขั้นปลายของขอบเขตเหนือวิบัติ...”

การจ้องมองของหลี่หรานเริ่มจริงจังมากขึ้น

มันเป็นตัวตนที่รองจากระดับจักรพรรดิเท่านั้น

แม้ว่าเขาจะฆ่าหุ่นเชิดโบราณขอบเขตเหนือวิบัติได้ แต่นั่นเป็นเพราะความบังเอิญหลายประการ เมื่อเผชิญหน้ากับขอบเขตเหนือวิบัติที่แท้จริง เขาไม่คิดว่าจะเอาชนะได้

ความแตกต่างระหว่างขอบเขตการบ่มเพาะนั้นกว้างใหญ่เกินไป มันไม่ใช่การคงอยู่ในระดับเดียวกัน

นี่เป็นช่องว่างที่ทักษะศักดิ์สิทธิ์ใดๆก็ไม่สามารถก้าวข้ามได้!

ผู้อาวุโสอู๋มองไปที่หลี่หรานและส่ายหัวพลางถอนหายใจ “พรสวรรค์ของบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่นั้นยอดเยี่ยมมาก ข้าเคยเห็นคนเช่นเจ้าเพียงครั้งเดียวในชีวิตของข้า ในรุ่นของเจ้า เจ้าสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลกได้อย่างแท้จริง! ช่างน่าเสียดายที่...”

“ข้าเกือบจะได้ฆ่าเจ้า!”

เขาไม่ได้ปกปิดเจตนาฆ่าเลย

แต่ตอนนี้ไม่มีเหตุผลอันชอบธรรมอีกต่อไป เขาไม่สามารถดำเนินการต่อได้ มิฉะนั้นแม้แต่นิกายก็ไม่สามารถปกป้องเขาได้

ต่อหน้าเหลิงอู่เหยียน ขอบเขตเหนือวิบัติเป็นเพียงเรื่องน่าขัน

ผู้อาวุโสอู๋มองไปที่เซียวชิงเกอ “เจ้ากล้าที่จะปฏิเสธคำสั่งของนิกาย? เซียวชิงเกอ เจ้านี่ช่างกล้าหาญจริงๆ!”

เซียวชิงเกอส่ายหัวและพูดว่า “พรสวรรค์ของข้าไม่ได้ถือว่าสำคัญขนาดนั้นแล้ว ทำไมนิกายต้องบังคับให้ข้ากลับไปด้วย?”

ผู้อาวุโสอู๋พ่นลมอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่านิกายยังให้ค่ากับพรสวรรค์ของเจ้า? เจ้าสูญเสียการบ่มเพาะทั้งหมดและถูกขับไล่ออกจากนิกาย แต่ตอนนี้เจ้ากลับได้รับพรสวรรค์กลับคืนมา นี่มันไม่ใช่การตบหน้าพระราชวังเต๋าสูงสุดของข้าหรือไง?”

“ถ้าไม่ยอมเป็นสามัญชนธรรมดาไปตลอดชีวิตก็ตายอยู่ที่นี่ซะ!”

คำพูดเหล่านี้ช่างเผด็จการจริงๆ!

ใบหน้าของเซียวชิงเกอซีดเผือก “เจ้า!”

บูม!

ร่างกายทั้งหมดของหลี่หรานเปล่งประกายด้วยตราประทับโบราณ พลังสายเลือดและแสงแห่งพุทธะผสมเข้าด้วยกัน และกลิ่นอายของเขาก็มาถึงจุดสูงสุด!

เขายืนอยู่เบื้องหน้าเซียวชิงเกอ ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีทองจางๆ

“ไม่ใช่ว่ามันคือความจริงหรอกหรือที่พระราชวังเต๋าสูงสุดนั้นไร้ความสามารถ?”

/////

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด