ตอนที่ 807 บรรลุระดับใหม่
ไม่เคยมีใครคิดว่าตู้เค่อและบุรุษหน้ากากผีจะลงเอยด้วยการเป็นพันธมิตรแม้แต่ถังเทียนเองก็ตาม แต่หลังจากคิดดูแล้วถังเทียนเทียนรู้สึกว่าเป็นเหตุผลที่ธรรมดามาก
มีแต่คนที่ยินดีทำให้แดนบาปเป็นบ้านของพวกเขาถึงเห็นว่าถังเทียนเป็นศัตรูของพวกเขา สำหรับตู้เค่อ บุรุษที่กล้าบุกประตูบาปบุรุษที่ยืนอยู่บนจุดสุดยอดจะมีความคิดเช่นนั้นได้อย่างไร?
ถังเทียนเห็นว่าตู้เค่อเป็นคนดีที่ควรคบ เขาเห็นคนในแดนบาปมามากมาย,แต่ตู้เค่อเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่สูญเสียไฟ ถังเทียนไม่ชอบแดนบาป เพราะเขาเกลียดบรรยากาศที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ยอมรับชะตากรรมของตัวเองเป็นที่ไม่มีคนกล้าเหมือนกับนกกระจอกเทศที่เอาแต่ฝังหัวลงทรายอยู่ด้วยความกลัว เขารู้สึกว้าวุ่นและหนุ่มชาวฟ้าก็เกลียดเรื่องที่ทำให้ว้าวุ่น
แน่นอนว่าผู้อาวุโสตู้สามารถบอกได้ว่าถังเทียนไม่ใช่คนธรรมดา สายตาของเขาเข้มแข็งมาก! นั่นหมายความว่าทั้งสองคนเหมือนกัน คนหนึ่งอายุมาก คนหนึ่งเยาว์วัยและบุรุษวัยกลางคนนั้นก็มีหัวใจเหมือนกับคนอายุเยาว์
ตู้เค่อคือนักสู้อันดับหนึ่งของแดนบาปและต้องการมาตรฐานบ้าง
สิ่งที่ถังเทียนไม่รู้ก็คือ ตู้เค่อไม่ได้มีแค่นั้น
หลังจากตู้เค่อประกาศความเป็นพันธมิตรกับบุรุษหน้ากากผีอย่างสายฟ้าแล่บเขารีบควบคุมตระกูลอื่นของสี่เมืองใหญ่อย่างรวดเร็ว เหตุผลในตอนแรกสี่เมืองใหญ่ต้องการถ่วงดุลอำนาจ แต่ใช้ไม่ได้กับตู้เค่อ
ถังเทียนไม่ได้เอาใจใส่เรื่องรูปกระบวนทัพ เขาเองมีหลายอย่างที่ต้องทำ หน่วยสุญญตาและจงหลีไป๋ต่างกลับมารวมตัวที่เมืองพายุอีกครั้ง และพวกเขาทุกคนไม่ได้มัวแต่ดื่มด่ำกับการดีใจที่ได้มารวมตัวกันอีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาทุกคนมุ่งหน้ากลับเข้าไปฝึกกันต่อ หลังจากประสบความยากลำบากในแดนบาป ทุกคนตระหนักรู้ได้อย่างลึกซึ้งว่าพลังเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
การเป็นพันธมิตรกับตู้เค่อก็หมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการสู้รบในแดนบาปอีกต่อไป สิ่งเดียวที่เหลือก็คือการตะลุยผ่านเส้นทางกลับมาตุภูมิไปให้ถึงประตูบาป
ตู้เค่อเคยบุกไปที่ประตูบาปด้วยตนเองมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ต้องล้มเหลวกลับมา ทวีปกวงหมิงวางการป้องกันอย่างแข็งแกร่งไว้ที่ประตูบาป
ไม่มีใครต้องการตายในช่วงเวลาสำคัญ
สมาชิกส่วนใหญ่ของหน่วยสุญญตาที่กลับคืนมาต้องรีบทำความคุ้นเคยกับวิธีการต่อสู้แบบใหม่ แม้แต่ซือหม่าเซี่ยวจำต้องวางสถานะของเขาลงก่อนและทำตัวเหมือนเป็นสมาชิกธรรมดา เขาหมกมุ่นกับการฝึก
กลุ่มที่ฝึกอย่างเต็มที่ก็คือจงหลีไป๋และหน่วยบูรพาอมตะที่ตั้งชื่อง่ายๆว่าหน่วยจง เป็นเพราะกองกำลังของเขาขยายตัวมากกว่าระดับที่เคยเป็นมา เมื่อตู้เค่อประกาศความต้องการของเขาว่าต้องการสร้างกองทัพ หัวหน้าโจรหลายคนหันหางหนีไปตามลำพังทิ้งกลุ่มโจรบริวารที่ไร้ผู้นำไว้เบื้องหลัง และพวกเหล่านี้ทั้งหมดถูกจงหลีไป๋กวาดเข้ามาไว้หมด สิ่งที่ทำให้จงหลีไป๋ไม่สบายใจก็คือการรวมตัวทั้งหมดเสร็จสิ้นโดยความช่วยเหลือของหน่วยสุญญตา
หน่วยของจงหลีไป๋ใหญ่กว่ากองกำลังหน่วยสุญญตามากและหลังจากกระบวนการคัดเลือกทำอย่างระมัดระวังโดยจงหลีไป๋แล้ว เขายังมีคนเหลืออยู่หมื่นคน แต่ความสามารถต่อสู้ของพวกเขายังอ่อนด้อยนักเมื่อเทียบกับหน่วยสุญญตา จงหลีไป๋ไม่อาจทนเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาต้องทำตัวเป็นกระสุนหรือโล่มนุษย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากคิดว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณเนี่ยชิวขนาดไหนก็ให้รู้สึกเหมือนกับกลืนกินยุงลงไป เขาได้แต่เป็นหนี้เนี่ยชิวมากขึ้นทุกทีจนจงหลีไป๋ต้องไประบายลงกับกองทัพของเขา นั่นทำให้การฝึกพิเศษของกองพลปีศาจจงเริ่มรูดม่านขึ้น
จงหลีไป๋เต็มไปด้วยความโกรธและเกลียดจนเขาต้องตั้งค่ายของเขาอยู่ใกล้หน่วยสุญญตา และนั่นคือแนวทางที่หน่วยทั้งสองเริ่มมีการแข่งขันกัน
ถังเทียนมังยุ่งอยู่กับเกราะเทพเจ้าของตัวเขาเอง ทั้งเนี่ยชิวและจงหลีไป๋ไม่สามารถสะท้อนผิวกฎธรรมชาติได้สำเร็จ และมีแต่เพียงถังเทียนที่ทำได้ พลังของการสะท้อนกฎผิวกฎธรรมชาติทำให้พวกเขาตะลึงกันทั้งคู่ แต่เขายังจำเป็นต้องฝึกเพื่อนำไปใช้จริงๆ
โชคดีสำหรับถังเทียนเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกำลังใจ แม้ว่าเขากับตู้เค่อจะร่วมเป็นพันธมิตร แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาดูเหมือนกับว่าเอาแต่มองตะลึงอย่างเดียว นี่ทำให้ถังเทียนไม่พอใจ ‘นี่อาจเป็นศักดิ์ศรีเล่าตู้ หึหึเจ้ารอจนกว่าเราไปถึงดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์กันเจ้าจะรู้ว่าหนุ่มชาวฟ้าทรงพลังขนาดไหน!’
ถังเทียนมองดูพวกเขาอย่างไม่พอใจและเพิ่มความยากในการฝึกเงียบๆทำให้กองกำลังเกราะเทพเจ้ากระโดดมาอยู่ข้างหน้าทันที
เล่าตู้ผู้หายไปสองสามวันมาปรากฏตัวในสนามฝึกของถังเทียนอีกครั้งพร้อมกับสตรีผู้เย็นชาดุจน้ำแข็งด้านหลังเขา
ตู้ซินหวี่จับตามองค่ายฝึกด้วยความอยากรู้สนามฝึกเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทุกอย่างไม่เป็นที่คุ้นเคยของนางเป็นอย่างมาก ตั้งแต่พี่ชายนางตัดสินใจสร้างกองทัพนางเห็นด้วยและทำใจกับเรื่องนี้ นางไปที่บริเวณใกล้เคียงเมืองม้าบินและสังเกตดูการสู้รบระหว่างหน่วยสุญญตาและพวกโจร
ในเรื่องของสติปัญญาและการมองการณ์ไกลตู้ซินหวี่เป็นอันดับหนึ่งในตระกูลตู้อย่างมิต้องสงสัย และนั่นคือเหตุผลให้ตู้เค่อให้นางรับหน้าที่สร้างกองทัพ นางไม่รานความหวังเขา และในเวลารวดเร็วก็ดำเนินกระบวนการที่ยิ่งใหญ่ แต่นางไม่เคยเย่อหยิ่งหรือถือตัว นางรู้ว่านางดีกว่าเมื่อเทียบกับหน่วยสุญญตา เนื่องจากยอดฝีมือของแดนบาปทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของนาง
พวกเขาทั้งหมดมีประสบการณ์สู้รบนับไม่ถ้วนและมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น ด้วยการให้คำแนะนำเล็กน้อย พวกเขาก็ทำความเข้าใจเรื่องนั้นได้เร็ว ในช่วงเวลาสั้นๆ กองทัพแรกได้ถูกนางสร้างขึ้น
แต่ทุกสิ่งที่นางกำลังเห็นประจักษ์แตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่นางรู้
ไม่เพียงแต่ตู้ซินหวี่เท่านั้น แต่ตู้เค่อเองก็ตกใจเหมือนกัน
‘นั่น...นั่นถังเทียนหรือ?’
ตู้เค่อเพ่งสายตามองใจของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นถังเทียน เขารู้สึกว่าถังเทียนเป็นคนตรงไปตรงมาและมีนิสัยที่ดี แต่ถังเทียนแข็งแกร่งทรงพลังขนาดไหนในความเป็นจริงตู้เค่อไม่ได้หวังอะไรมาก สำหรับเขา คนที่เขาสามารถพึ่งพาได้ยังคงเป็นตัวเขาเอง และกองทัพแดนบาป ความเป็นพันธมิตรของเขากับถังเทียนก็แค่ว่าเขาหวังจะยืมพลังของหน่วยสุญญตา
ตู้เค่อยังสามารถรับรู้ถึงพลังของหน่วยสุญญตาว่าสามารถเป็นครูให้กองทัพแดนบาปได้ และจากสิ่งที่เขาได้ยิน เขากับถังเทียนไม่มีความขัดแย้งกันในเรื่องความสนใจ ดังนั้นเมื่อเขาพบกับถังเทียนเมื่อเร็วๆ นี้เขาไม่เห็นพลังของถังเทียนอยู่ในสายตาของเขา แต่เขาก็ไม่ถึงกับละเลย
แต่....
‘นี่ดูเหมือนจะเป็นคนใจเย็นและเฉยเมยห่อตัวอยู่ภายในกฎธรรมชาติเหมือนกับว่าเขาถือกำเนิดมาจากสวรรค์ ถังเทียนจริงๆ หรือนี่? ทำไมร่างของเขาจึงหุ้มล้อมไปด้วยกฎธรรมชาติ? ทำไมรัศมีของถังเทียนจึงแปลกประหลาดนัก?’ ตู้เค่อเห็นยอดฝีมือมามากผู้มีพลังทุกรูปแบบพวกเขาทุกคนมีรัศมีและพลังที่ทำให้ตัวพวกเขาไม่เหมือนใคร แต่ตู้เค่อไม่เคยเห็นรัศมีอย่างที่ถังเทียนเปล่งออกมาเลย
ไม่ใช่ความเย็นเสียดกระดูกแต่ถังเทียนเป็นเหมือนเทพเจ้าที่เฉยเมยไม่แยแสราวกับเขาเข้าใจสิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้ชัดเจน
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของตู้เค่อ เขากลัวตัวเอง ‘เทพเจ้า? บ้าจริงๆ! นี่ข้ากำลังคิดเรื่องอะไร?ตลกน่ะ...’
ราวกับว่าเขารู้สึกได้ถึงความสนใจของตู้เค่อ ถังเทียนที่อยู่ในอากาศชำเลืองมองมาทางตู้เค่อ
ความรู้สึกอันตรายรุนแรงที่อธิบายไม่ได้รุมล้อมทั้งตัวตู้เค่อทันทีโดยไม่มีสัญญาณเตือนทำให้ตู้เค่อสงบใจและสำรวมเพื่อเผชิญเหตุเปลี่ยนแปลงสุดท้าย
ตั้งแต่เขาก้าวเข้าสู่ดินแดนสนามพลังกฎธรรมชาติ ไม่มีใครสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ และสัญชาติที่มีต่ออันตรายกลายเป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคย เนื่องจากเขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายเป็นเมื่อไหร่กันที่เขารู้สึกอย่างนี้ แต่เขารู้ว่าความรู้สึกถึงอันตรายไม่ใช่เพราะถังเทียนมีความเป็นปฏิปักษ์ต่อเขา แต่เกิดจากปฏิกิริยาสัญชาตญาณของเขาเองที่มีต่อการชำเลืองมองของถังเทียน
สัญชาตญาณของเขารู้สึกต่ออันตรายที่ทำให้ตู้เค่อรู้สึกกลัวและตกใจ
นั่นหมายความว่าในจิตใต้สำนึกของเขา ถังเทียนแข็งแกร่งพอจะคุกคามเขาได้ ถ้าเป็นคนอื่น พวกเขาคงจะกล่าวอ้างว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน และสงสัยความรู้สึกของตัวพวกเขาเอง แต่ตู้เค่อไม่ เข้าใจและเชื่อถือสัมผัสรู้ของเขา และสัญชาตญาณของเขาที่มีต่อพลังและอันตรายกลายเป็นสัญชาตญาณของเขามานานแล้ว ที่ระดับของเขา เขาได้รับความเข้าใจต่อตัวเองและชาวโลกอย่างลึกซึ้ง
เขารู้ชัดว่าถ้าเขาสัมผัสรู้ถึงอันตราย อย่างนั้นก็หมายความว่าอันตรายมีอยู่รอบตัวเขาแท้จริง
สำหรับคนที่ไม่ได้ก้าวเข้าดินแดนสนามพลังกฎธรรมชาติสามารถมีท่าทีคุกคามเขาได้คำตอบย่อมต้องอยู่บนเกราะบนร่างกายของถังเทียนแน่นอน ความเข้าใจกฎธรรมชาติของตู้เค่อคือสิ่งที่ไม่มีใครในแดนบาปสามารถต่อกรได้ ด้วยการมองครั้งเดียว เขาสามารถบอกได้ว่า ‘เกราะ’ บนตัวถังเทียนสร้างขึ้นจากสายใยกฎธรรมชาตินับไม่ถ้วน สายใยกฎธรรมชาติเหล่านี้แปลกประหลาดยอดเยี่ยมทุกคำอธิบาย และระหว่างสายใยกฎนั้นเองไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และเหมือนกับการปนกันของกฎทั้งหมดถึงขนาดที่มีบางกฎที่แม้แต่ตู้เค่อพบว่าไม่คุ้นเคย
ตู้เค่อไม่เคยเห็นเกราะแบบนั้นมาก่อน
ตู้เค่อตกตะลึงแต่แม้จะตื่นเต้นขึ้นมากและเริ่มมีการกรองกฎ สายใยกฎทั้งหมดไม่ได้ยุ่งเหยิงจริงๆ แต่เหมือนกับว่าพวกมันถักสานเข้าด้วยกัน
ถังเทียนรู้ว่าตู้เค่อเพียงแลดูวูบเดียวก็มองเห็นความลึกซึ้งและลึกลับของเกราะเทพเจ้าทั้งหมดเขาคงจะตกใจเหมือนกัน เกราะเทพเจ้าตื่นรู้ของถังเทียนมีความก้าวหน้ามาก เนื่องจากเขาได้รับการรู้แจ้งจากดาบพิศวง
สายใยกฎธรรมชาติที่มากับร่างของเขาผสานและถักทอเหมือนอย่างที่ดาบพิศวงได้ทำ
ตอนนี้เกราะเทพเจ้าบนตัวถังเทียนไม่ยุ่งเหยิงเหมือนเมื่อก่อนแต่มีโครงร่างคร่าวๆ ของเกราะจริง ก็แค่ว่ามีกฎธรรมชาติหลายสายที่ล่องลอยอยู่ด้านนอก เนื่องจากความเข้าใจเรื่องกฎธรรมชาติของถังเทียนยังตื้นกฎธรรมชาติมากมาเหล่านี้ที่พรั่งพรูออกมามาก และการจัดเรียงก็ต้องใช้พลังใจไปมาก
แต่แน่นอน ความพยายามนี้ไม่สูญเปล่า แม้ว่าเขาจะสางออกไปส่วนหนึ่ง แต่พลังของเกราะเทพเจ้าก็เพิ่มขึ้นมากมาย
นี่สามารถเห็นได้เมื่อเขาพยายามผสานการผสานของเขาทำได้ก้าวหน้ามากขึ้น
การเพิ่มพลังในการผสานทำให้ถังเทียนพอใจ แต่มีปัญหาหลายอย่างที่เผยออกมาในตอนฝึกทำให้ถังเทียนรู้สึกหงุดหงิดความคิดของเขาก่อนนี้เกี่ยวกับการรวมพลังของผิวกฎ 200อย่างให้เป็นหนึ่งคือพลังโจมตีที่ไร้เทียมทานแน่นอน
แต่หลังจากการฝึกฝนที่ผ่านมา ถังเทียนพบว่ายังไม่สามารถรู้ได้
เป็นเพราะคุณสมบัติของกฎธรรมชาติในบรรดากฎธรรมชาติทั้งหลายมีอยู่หลายกฎที่โดยพื้นฐานไม่สามารถรวมเข้าด้วยกันได้ ความจริงเรื่องนี้ทำให้ถังเทียนรู้สึกเครียด แต่หลังจากถังเทียนพบว่ามันอาจไม่ใช่เรื่องแย่ก็ได้
ในเรื่องของพลังแม้ว่ามันอาจไม่สามารถถึงระดับที่น่ากลัวดังคาด แต่ความหลากหลายของการโจมตีก็ทำให้ได้รับประโยชน์เช่นกัน การรวมและการผสานกฎธรรมชาติที่แตกต่างสามารถสร้างรูปแบบที่แตกต่าง และทำให้การโจมตีเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงหลากหลาย สำหรับศัตรู นับเป็นฝันร้ายแน่นอน เนื่องจากหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถคาดการณ์โจมตีได้ถูก
แม้แต่จี๋เจ๋อและฝูเจิ้งจือก็ยังตื่นเต้นกับจุดนี้
ทุกคนพยายามรวมผสมด้วยความตั้งใจมากมาย เมื่อว่ารูปแบบการโจมตีเช่นนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ นี่เป็นโลกใหม่พวกเขาทุกคนเพียงแต่ฝึกฝนมาในรูปแบบกฎเดียว และพวกเขาไม่เคยคิดว่าพลังของกฎธรรมชาติจะผสานกันได้แบบนั้น
แค่ถือเอาตามแนวคิดนี้ก็เพียงพอทำให้พวกเขาตื่นเต้นกันหมด กฎธรรมชาติที่กว้างใหญ่และไร้พรมแดนสามารถรวมกันและแปลงได้ ทำให้โลกยิ่งกว้างขวางไร้พรมแดนมากขึ้น
ทันใดนั้นตู้เค่อและตู้ซินหวี่มองดูฉากภาพที่พวกเขาจะไม่มีวันลืมจนตลอดชีวิต