ตอนที่แล้วตอนที่ 800 ถังเทียนสะท้อนพลัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 802 กระบี่พญาเขียวใหม่

ตอนที่ 801 กระบี่คู่รู้แจ้ง


ถังเทียนไม่มีความรู้เกี่ยวกับการปรับแต่งอาวุธ  แต่เนื่องจากอย่างที่กล่าวเพราะปัญหาเล็กน้อยทำให้เขาไม่สามารถทำเรื่องใหญ่ให้สำเร็จได้  เขาไม่มีทางเลือกได้แต่ฝืนใจกระทำการบางอย่าง

เขาตรวจสอบกระบี่เขียวคู่ในมืออย่างระมัดระวัง

กระบี่พญาเขียวเป็นสมบัติตกทอดของตระกูลฝู  จัดเป็นสมบัติลำดับ 39 ในแดนบาป  กระบี่พญาเขียวเป็นกระบี่คู่  ยาวหนึ่งสั้นหนึ่ง กระบี่ยาวมีขนาด 45 เซนติเมตร  และกระบี่สั้นมีขนาด 21 เซนติเมตร  ตัวกระบี่เป็นสีเขียวนวลมีประกายเงางามและจุดเด่นที่สำคัญดูเหมือนจะมีกลุ่มหมอกอยู่ภายในกระบี่

เมื่อถือกระบี่ทั้งสองเล่มเกิดความผันผวนที่บอกไม่ถูกขึ้นในใจของถังเทียน

ถังเทียนตกใจหลังจากนั้นจึงค่อยรู้ตัว  มันคือพลังผันผวนจากกฎธรรมชาติ

ฝูเจิ้งจือไม่รู้ว่าถังเทียนกำลังคิดควบคุมอาวุธ แต่เขารู้ว่านายท่านให้ความสนใจกระบี่พญาเขียวของเขามาก  แต่สำหรับเขา เขารู้ว่านายท่านคงจะสนใจในสมบัติ และไม่ใช่ตัวกระบี่เอง

“กระบี่พญาเขียวสร้างโดยผู้อาวุโสจากตระกูลหาน ในปีนั้นบังเอิญบรรพบุรุษท่านนั้นได้ชิ้นส่วนไม้หมึกคลื่นชิ้นใหญ่และนั่นคือเหตุผลที่กล่าวกันว่าไม้หมึกคลื่นนี้ดูธรรมดา แต่ชิ้นไม้หมึกคลื่นนี้ถูกฝังอยู่ในโคลนมิติ  โคลนมิติจะปล่อยกฎอวกาศออกมาโดยธรรมชาติ  ดังนั้นไม้หมึกคลื่นชิ้นนี้จึงได้รับกฎอวกาศมาด้วย ไม้หมึกคลื่นจะเก็บกักพิษตามธรรมชาติซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของกฎชีวิต (เป็น) และหลังจากผสานเข้ากับกฎอวกาศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ส่วนสายใยกฎสีเขียวปล่อยออกมาจากกระบี่ยาวเป็นพิษมากและยากจะจับได้และถ้าความเข้าใจกฎของฝ่ายตรงข้ามไม่ลึกซึ้งพอ เขาจะถูกพิษเล่นงานอย่างแน่นอน และสามารถติดเชื้อผ่านมิติได้”

ถังเทียนพยักหน้าพลังผันผวนจากกระบี่พญาเขียวยากตรวจจับได้

จากนั้นเขาถาม “สมบัติในแดนบาปเกี่ยวข้องกับกฎธรรมชาติหรือเปล่า?”

ฝูเจิ้งจือตอบเอาใจเขาทันที  “นายท่านฉลาดจริงๆ”

ถังเทียนถอนหายใจโล่งอก  เพราะตราบเท่าที่เกี่ยวข้องกับกฎธรรมชาติ  นั่นก็นับว่าดี!  แม้ว่าเขาจะไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้น  แต่เขาก็ไม่โง่  เพราะเขาใส่ใจการสร้างอาวุธ  เขามีวิธีที่สามารถใช้ได้

ความเชื่อมั่นของเขามาจากเกราะเทพเจ้าของเขา  ตราบเท่าที่เกี่ยวข้องกับกฎธรรมชาติ   อย่างนั้นเกราะเทพเจ้าก็เป็นสิ่งไร้เทียมทาน

หลังเปิดใช้งานเกราะเทพเจ้าแล้ว กระบี่พญาเขียวในมือของเขามีสภาพที่แตกต่างออกไปทันที

กระบี่พญาเขียวที่อยู่ข้างหน้าเขาดูเหมือนถูกขยายใหญ่หลายเท่า  ตัวกระบี่สีเขียวสดมีรูเล็กๆ นับไม่ถ้วน พวกมันดูเหมือนกับพืชน้ำและน่าประหลาดใจที่รูเล็กๆ เหล่านี้เชื่อมโยงกับมิติอิสระ  รูมิติอวกาศเต็มไปด้วยสายใยสีเขียวและกลุ่มใยเขียวหนาแน่นเหล่านี้ปล่อยหมอกสีเขียวออกมาอย่างต่อเนื่องสายใยเหล่านั้นจะเคลื่อนไหวเหมือนกับพืชน้ำ ไหวเอนไปทางซ้ายและขวาทำให้หมอกที่ปล่อยออกมาดูเหมือนกับโคจรล้อมรอบ

เมื่อสำนึกของถังเทียนขยายผ่านสายใยเขียวเส้นหนึ่งเข้าไปในมิติอิสระ  เขาก็ต้องตกใจ

ภายในมิติอิสระสายใยเขียวเติบโตอย่างเหนียวแน่น ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ชัดถึงพลังชีวิตที่แข็งแกร่งบรรจุอยู่ในนั้น

‘พวกมันหยั่งรากเข้ามาในมิติอิสระ!’

แม้แต่ในสภาพตื่นรู้ถังเทียนก็ยังอดแปลกใจไม่ได้

ถังเทียนไม่คุ้นเคยกับมิติอวกาศอิสระ  ในมิติว่างของกระบี่ปราบสมุทรก็ยังเป็นมิติที่มีแบบเฉพาะตัว  ในสายตาของคนสวรรค์วิถีมิติอิสระเป็นที่ลึกลับมากและยากจะทำความเข้าใจ เป็นเพียงเพราะมิติอิสระเต็มไปด้วยกฎอวกาศที่ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ แต่ในสวรรค์วิถีที่ซึ่งพลังงานเกิดการเปลี่ยนแปลง การต้องหากฎธรรมชาติเฉพาะแบบเป็นเรื่องที่ยากมาก

ในสวรรค์วิถีที่ซึ่งมีพลังงานที่แปลงไปแล้วมิติอิสระที่ไม่ได้รับกระทบจากพลังงานที่แปลงแล้วเป็นที่โหยหาต้องการของเซียนนับไม่ถ้วน

แต่สิ่งที่ถังเทียนกำลังคิดเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป

ระบบฝึกฝนของสวรรค์วิถีก็คือการแปลงพลังงาน  เพราะความหนาแน่นของพลังงานมีน้อย  พวกเขาจึงเน้นไปที่ประสิทธิภาพและเคล็ดการใช้  กลายเป็นเรื่องซับซ้อนมากขึ้น  เทียบพวกเขาแล้วดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยพลังงานทำให้วิธีฝึกของพวกเขาทำได้กว้างขวางมาก

แต่โดยธรรมชาติแล้วทั้งสองอย่างเหมือนกัน

แต่แดนบาปกลับเดินตามแนวที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง

หากปราศจากการมีอยู่ของพลังพวกเขาชินกับการใช้พลังกายเพื่อกระตุ้นพลังกฎธรรมชาติ

นี่แตกต่างจากสิ่งที่ถังเทียนเคยเข้าใจ  ในความใจในอดีตของเขา  กฎธรรมชาติเองไม่มีพลังในตัวเอง  แต่ใช้พลังงานภายนอกมากมายเพื่อผลิตสร้างพลัง  ความคิดนี้ถูกเมิน  เนื่องจากหมายความว่าพลังงานฉายจากผิวกฎธรรมชาติถูกวางไว้ที่สวรรค์วิถีหรือดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  ก็อาจจะทรงพลังอำนาจมาก

เขาตระหนักว่าเขาทำผิดพลาด  พลังที่ฉายจากผิวกฎธรรมชาติยังคงเป็นพลังภายนอกที่เรียกว่าผิวกฎธรรมชาติเป็นเหมือนแหล่งพลังที่สร้างขึ้นมาจากความเข้าใจกฎธรรมชาติของนักสู้ผ่านการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย แต่มีระดับเพิ่มขึ้นซึ่งกำลังเปลี่ยนเป็นพลังงานภายนอกที่จับต้องได้เป็นพลังงานที่มองไม่เห็น

นั่นก็หมายความว่าพลังที่ชื่อว่ากฎธรรมชาติยังคงสืบเนื่องมาจากร่างกายของคน

กฎธรรมชาติเป็นเหมือนเตาเผาขนาดใหญ่  ขณะที่พลังภายนอกเป็นเชื้อเพลิงที่ปะทุไหม้ และเปลวไฟที่เกิดขึ้นหลังจากการเผาไหม้เป็นพลังของกฎธรรมชาติที่ฉายออกมา เตาเผาที่แตกต่างจะผลิตเปลวเพลิงที่แตกต่าง  ยิ่งรุนแรงเปลวเพลิงยิ่งเผาไหม้มาก

สายใยกฎธรรมชาติเหมือนกับเตาเผาระดับเริ่มต้น  ขณะที่ผิวกฎเป็นเหมือนเตาเผาที่ดีกว่าการสร้างเป็นสนามพลังกฎธรรมชาติคือเตาเผาที่ดีที่สุด

ข้อสงสัยและแนวคิดหลายอย่างที่เขาไม่เคยเข้าใจกลับเปิดเผยออกมาทำให้ถังเทียนยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น ขณะที่เขาตระหนักถึงความผิดพลาดที่หลายคนได้ทำไว้  หลายคนเคยคิดว่าได้รับการรู้แจ้งสนามพลังกฎธรรมชาติและเขาต้องการใช้เวลามากมายกับกฎธรรมชาติ เมื่อคิดว่าการรู้แจ้งในกฎธรรมชาติของพวกเขายิ่งลึกซึ้งมากขึ้นพวกเขาจะได้รับการรู้แจ้งกฎธรรมชาติสนามพลัง

แต่หลายคนไม่สังเกตเห็นปัญหาข้อหนึ่งยิ่งเตาเผาใหญ่ขึ้น ก็ต้องการเชื้อเพลิงมากขึ้น

เตาเผาใหญ่จะสร้างเปลวเพลิงด้วยเชื้อเพลิงเล็กน้อยได้อย่างไร

มีพลังเพียงพอก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีสนามพลังกฎธรรมชาติ

แต่หลังจากคิดเกี่ยวกับคนรอบๆตัวเขาอย่างระมัดระวังแล้วตัวอย่างเช่นฝูเจิ้งจือและจี๋เจ๋อผู้พยายามหาวิธีบรรลุกฎธรรมชาติ  ความจริงไม่ได้ใช้เวลามากกับการปรับสภาพร่างกายของพวกเขาอย่างเพียงพอ  พวกเขาคิดว่าร่างกายของพวกเขาถึงสภาพคอขวด และเทียบกับโลกของกฎธรรมชาติที่กว้างใหญ่ไพศาล  ศักยภาพร่างของมนุษย์จะพัฒนาได้อย่างจำกัดและน่าเสียดายจริงๆ

ต้องกล่าวว่าคุณภาพร่างกายของนักสู้แดนบาปเมื่ออยู่ในสวรรค์วิถีหรือในแดนบาปจัดได้ว่าอยู่ในระดับสูงส่ง

ถังเทียนเองเดินตามเส้นทางปรับสภาพร่างกายและรู้ว่าต้องยากลำบากมากเพียงไหนเมื่อร่างกายปรับสภาพถึงระดับหนึ่งที่แน่นอนเป็นเรื่องยากมากที่ก้าวหน้าไปได้อีกก้าว

เขารู้สึกว่าความคิดของเขาอยู่ในระดับที่ควรแต่การปรับปรุงวิธีการดั้งเดิมยังเป็นไปไม่ได้ ความคิดแรกของเขาก็คือใช้กฎธรรมชาติปรับสภาพร่างกายตนเอง ซึ่งเขามีประสบการณ์อยู่ก่อนแล้ว  แต่นั่นเป็นแค่ระดับสายใยกฎธรรมชาติ

‘จะเป็นยังไงถ้าข้าใช้ผิวกฎธรรมชาติปรับสภาพกายของเรา?’

‘ข้าควรจะลองดูเมื่อมีโอกาส’

ทันใดนั้นเขาคิดถึงปัญหาอีกเรื่องหนึ่ง  ‘ถ้าเราพูดว่ากฎธรรมชาติเป็นเหมือนเตาเผา อย่างนั้นเตาเผานี้สามารถเผาไหม้พลังกายภายนอกได้หรือไม่, พลังจะเป็นยังไง?’

แต่เขาก็ต้องส่ายศีรษะโดยเร็วและทิ้งความคิดนี้ออกไป  ‘การปรับสภาพร่างกายและพลังงานเป็นสองระบบที่แตกต่างกันจะทำแบบนั้นได้ยังไง’

แม้แต่ในสภาพตื่นรู้  ข้อสรุปนี้ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดในอก

สำหรับเขาแดนบาปเป็นสถานที่ดีที่สุดเพื่อใช้เป็นสนามฝึกฝนเนื่องจากพวกเขาสามารถได้รับการรู้แจ้งกฎธรรมชาติได้เร็วมาก  เซียนผู้ได้รับการรู้แจ้งกฎธรรมชาติเมื่ออยู่ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์หรือสวรรค์วิถีก็จะเป็นสุดยอดฝีมือ

แต่ตอนนี้เขาเข้าใจมากขึ้น ความรู้แจ้งของแดนบาปในเรื่องกฎธรรมชาติเกี่ยวข้องกับพลังของร่างกายอย่างใกล้ชิด  ขณะที่ในสวรรค์วิถีและดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ความรู้แจ้งในเรื่องกฎธรรมชาติจะมากไปด้วยพลังงาน

เป็นกฎธรรมชาติที่เหมือนกัน  แต่อุปสรรคเบาบางที่มองไม่เห็นแยกทั้งสองจากกัน

‘เมื่อคิดดูแล้วแม้ว่าแดนบาปจะไม่เหมาะกับระบบฝึกของสวรรค์วิถี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เหมาะกับการฝึกของกลุ่มดาวหมีใหญ่’ กลุ่มดาวหมีใหญ่ฝึกทางด้านกายพลังเป็นศูนย์  และหลังจากมีประสบการณ์ทางด้านนี้แล้ว ถังเทียนตระหนักได้ว่าการลดพลังงานเปลี่ยนแปลงหลังจากฝึกการใช้ปราณแท้ทำให้ได้รับร่างพลังกายเป็นศูนย์จะแข็งแกร่งมากกว่าชาวพื้นเมืองแดนบาป

สมาชิกหน่วยสุญญตาทุกคนจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก  และเมื่ออยู่ในแดนบาป  พวกเขาจะถูกจัดว่าเป็นพวกที่มีร่างกายโดดเด่นที่สุด

อาจกล่าวได้ว่าแดนบาปเป็นที่ทำให้ถังเทียนเข้าใจแก่นแท้และความก้าวหน้าของร่างพลังกายเป็นศูนย์

ถังเทียนกำจัดความคิดทั้งหมดออกไปจากใจ ‘ทั้งหมดนี้คือความคิดในอนาคต คิดตอนนี้ยังเร็วเกินไป’เขาดึงความสนใจกลับมาที่กระบี่พญาเขียวที่อยู่ต่อหน้าเขา  ใยแสงสีเขียวสร้างออกมาจากกฎธรรมชาติ  ขณะที่ตัวมันเองไม่ได้มีพิษ  แต่หมอกสีเขียวจางจะมีสภาพเป็นพิษมาก

และพิษนี้ยังมีคุณสมบัติของกฎอวกาศ  ด้วยพลังซึมซาบที่สูงเมื่อต้องพิษก็หมายความว่าเกิดเรื่องยุ่งยากแน่นอน

สิ่งที่น่าประหลาดใจมากก็คือการเข้าไปในมิติภายในสายใยแสงยังเจริญเติบโตอย่างเหนียวแน่น

ภายในมิติภายในที่กว้างขวางไร้ที่สิ้นสุด  สายใยแสงดูเบาบางเป็นธรรมดา  แต่ถ้าพวกมันยังเจริญเติบโตต่อไป  หลังจากร้อยปี หลังจากพันปี หลังจากหมื่นปีสายใยแสงสีเขียวทั้งหมดนี้จะมากสักเพียงไหน?

ภายในมิติภายใน มีทะเลจะมีหญ้าเขียวพิษ

สำหรับมิติภายในที่อิสระ  แม้ว่าทะเลหญ้าเขียวพิษจะไม่มีอะไร  แต่เซียนคนใดก็ตามสะดุดเข้าไปจะไม่มีใครที่ตระหนักได้ว่ามันสร้างมาจากกระบี่สั้นสองเล่ม

‘เดี๋ยวก่อน,กระบี่สั้นสองเล่ม!’

ตาของถังเทียนเป็นประกายเจิดจ้าทันที สำนึกของเขาแทรกซึมเข้าไปในมิติอิสระและตระหนักว่าสายใยแสงของกระบี่ทั้งสองเข้าไปในมิติอิสระเหมือนกันแต่ทั้งสองกลับแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

‘ทำไมทั้งสองถึงไม่เชื่อมโยงกัน?’

ความคิดประหลาดนี้ผุดขึ้นมาในใจของถังเทียนและทำให้เขาใจเต้นแรง  เขาลงมือ แม้ว่าเขาจะใช้งานเกราะเทพเจ้าอยู่  และใจของเขามีความชัดเจนมากกว่าแต่ก่อนแต่ความหุนหันพลันแล่นของเขาฝังอยู่ในกมลสันดานเสียแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ถังเทียนพบสายแสงสองสายข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

เขาเริ่มควบคุมสายแสงสองสายและพยายามผูกเข้าด้วยกัน

แต่เขาก็รู้ได้อย่างรวดเร็วว่าสายแสงทั้งสองนั้นลื่นไถลมาก  เมื่อใดก็ตามที่เขาพยายามผูกเข้าด้วยกัน  สายทั้งสองจะคลายตัวเองตามธรรมชาติ  และกลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้ง  หลังจากคิดดูแล้ว ถังเทียนรู้สึกว่าเขายังคิดไม่ออกเลยว่าจะเชื่อมโยงสายใยทั้งสองได้ยังไง  และตัดสินใจปล่อยให้มันเติบโตควบคู่กัน

เขาควบคุมสายใยกฎธรรมชาติทั้งสองและวางปลายกฎธรรมชาติทั้งสองต่อกันอย่างระมัดระวัง

สายใยกฎทั้งสองค่อยๆโตขึ้นและหลังจากผ่านไปนานพวกมันก็ได้พบกัน เวลาดูเหมือนจะหยุดในขณะนั้น และสายใยแสงทั้งหมดก็หยุดส่ายไหวทันที

ระลอกพลังที่อธิบายไม่ได้ปล่อยออกมาทันที!

ถังเทียนสะดุ้ง

ที่ด้านนอกฝูเจิ้งจือจับตามองเจ้านายที่กำลังกระบี่คู่และหลับตาเหมือนกับว่าเขากำลังเข้าฌาน  เป็นเวลานานแล้วที่เจ้านายมองดูเหมือนกับตุ๊กตา เนื่องจากเขาไม่ได้ขยับเขยื้อนเลย  ‘เจ้านายสนใจกระบี่พญาเขียวจริงๆหรือ?  เป็นเรื่องน่าอายที่เขาจะขอมันหรือไง?’

ฝูเจิ้งจือสับสนทันที

กระบี่พญาเขียวเป็นของตกทอดของตระกูลฝูและยังมีความสำคัญต่อตระกูลฝู

ทันใดนั้นพลังผันผวนที่บอกไม่ถูกระเบิดออกมาโดยไม่มีคำเตือน

ฝูเจิ้งจือสั่นสะท้าน  เขาเงยหน้าขึ้นทันทีและเมื่อเขาเห็นฉากภาพข้างหน้าเขาตกตะลึงไปในทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด