ตอนที่แล้วตอนที่ 798 เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 800 ถังเทียนสะท้อนพลัง

ตอนที่ 799 การต่อสู้เริ่มต้น


ไม่มีใครคุ้นเคยกับป้อมพิทักษ์สมุทรมากไปกว่าเซี่ยอวี่อัน ทุกตารางนิ้วของพื้นที่ภายในเขาจดจำได้  และตำแหน่งรบถูกเขาเลือกไว้อย่างระมัดระวัง  เขารื้อการติดตั้งและการใช้งานก่อนทั้งหมดออก และสร้างใหม่ทุกอย่าง

ฝ่ายข่าวกรองของทวีปกวงหมิงได้รับแบบและตำแหน่งของป้อมพิทักษ์สมุทร แต่ไม่ถือว่าทำงานสมบูรณ์เต็มที่เนื่องจากพวกเขามีแผนใหม่

แต่แม่ทัพนายกองของทวีปกวงหมิงไม่สนใจ  ในการเผชิญหน้ากับเรือล้อมโจมตียักษ์ 22 ลำ ป้อมปราการทั้งหมดเป็นแค่ขนามกรุบกรอบ

พวกเขาฝ้ามองสนามรบอย่างสบาย  บางคนก็เตรียมชา และมีถ้วยชาอยู่ในมือ บ้างก็จับกลุ่มเล็กๆสนทนาและบางครั้งหันไปมองสถานการณ์เป็นครั้งคราว

“นี่ช่างน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงเปลวไฟใหญ่ขนาดนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มาก่อน”

“เราทำเราเองจนใจร้อนไปบ้าง ข้าพนันได้ว่าฝ่ายศัตรูคงต้องทนทุกข์ทรมานจากสถานการณ์เหล่านี้แน่”

“ใช่แล้ว  ข้ายังคงคิดว่าข้าสามารถเห็นกับตาว่ายอดองครักษ์ดีที่สุดเป็นอันดับสามภายใต้ผู้สังเกตการณ์แห่งสวรรค์เป็นยังไง แต่ข้าว่าเราคงไม่มีโอกาสแล้ว”

“เผชิญหน้ากับพลังอำนาจเด็ดขาดพวกเขาเรียกตัวเองเป็นแม่ทัพผู้ลือชื่อจะมีประโยชน์อะไร?”

……

โกวเฉิงเวิ่นเต้าฟังการสนทนาของผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา เขาก้มหน้าและดื่มชาโดยไม่ส่งเสียงห้ามพวกเขา  เมื่อเขานำแผนนี้ออกมาใช้ครั้งแรก  หลายคนต่อต้านคัดค้านเขาอย่างรุนแรง และถ้าไม่ใช่เพราะความชื่อมั่นของเขา พวกเขาจะไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จถึงหนึ่งในสี่ของระดับปัจจุบันนี้เลย

เมื่อคิดว่าป้อมพิทักษ์สมุทรจะต้องโหยหวนภายใต้แสงพลังโจมตีและทั่วทั้งภูมิภาคใต้จะต้องสั่นสะท้านต่อหน้าเขาความยินดีสุดจะพรรณนาผุดขึ้นมาจากใจ

เรือรบล้อมโจมตีขนาดมหึมาเพิ่งจะเสร็จสิ้นการเตรียมการโอบล้อมซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างซับซ้อน ปริมาณพลังงานที่ปล่อยออกมาจากเรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่มากอย่างน่าทึ่ง เนื่องจากไม่เคยมีวัสดุใดสามารถทนพลังขนาดนั้นได้  ดังนั้นตัวเรือจึงต้องใช้โครงสร้างที่ซับซ้อนแบ่งภาระแรงกดดัน

เรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่ทรงอานุภาพมาก  แต่ก็มีจุดอ่อนในทำนองเดียวกัน เนื่องจากเรือพวกนี้โดยพื้นฐานไม่มีความสามารถในการป้องกัน  องค์ประกอบที่ซับซ้อนก็หมายความว่าพวกมันจะถูกทำลายได้ง่าย

เซี่ยอวี่อันมีแต่เพียงฉวยโอกาสขณะที่อสูรสงครามยักษ์นี้กำลังเตรียมตัวโจมตีอย่างน่าประหลาดใจและทำลายเรือรบหลายลำ

ทันทีที่พวกเขาเตรียมตัวพร้อม เซี่ยอวี่อันจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป

โกวเฉิงเวิ่นเต้าวางกับดักไว้อย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ ดังนั้นกองทัพที่เป็นบริวารโดยตรงของเขากำลังรออย่างใจจดใจจ่อ ถ้าเซี่ยอวี่อันยอมทิ้งป้อมรับและตัดสินใจสู้ตายกับพวกเขา  โกวเฉิงเวิ่นเต้าคงจะมีความสุขพอกัน

ป้อมพิทักษ์สมุทรที่ยังเหลืออยู่มีค่ามากกว่าป้อมรบที่กลายเป็นซากปรักหักพัง เขาแค่ต้องการจัดสรรกองทัพขนาดเล็กป้องกันคอขวดและจะช่วยเหลือในกระบวนการยกทัพเข้าภูมิภาคใต้

ความสนใจของโกวเฉิงเวิ่นเต้าเปลี่ยนมาที่สถานการณ์ในภูมิภาคใต้ทั้งหมด

เขารู้ว่าระดับสูงสนใจสวรรค์วิถีมากกว่าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แต่โกวเฉิงเวิ่นเต้าคิดแตกต่าง แทนที่จะวางเดิมพันกับสวรรค์วิถีที่ห่างไกลและไม่รู้จักทำไมไม่ให้ความสำคัญดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์?

ความรู้สึกของการควบรวมดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเป็นเรื่องน่าหลงใหลสำหรับแม่ทัพทหารมากกว่าไปพิชิตดินแดนที่ไม่รู้จัก

‘ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเราสามารถรวมดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดได้’

‘การพิชิตสวรรค์วิถีอาจช่วยทำให้เรารวมดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ง่ายขึ้นแต่เวลาที่เราจะพิชิตสวรรค์วิถี  ข้าจะไม่ใช่คนอายุเยาว์อีกต่อไป ทวีปซางโจวไม่อาจใช้เล่ห์อุบายเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ในภูมิภาคใต้ได้อีกต่อไป  แค่นี้ก็พอแล้ว’

‘ด้วยการเอาชนะพันธมิตรใต้ เราสามารถได้สะพานลอยทะเลพลังงานเพื่อเคลื่อนย้ายได้เร็งขึ้น เราจะโจมตีภูมิภาคใต้และนั่นจะช่วยทำให้ลดความยุ่งยากทุกอย่าง’

“ท่านขอรับ! การเตรียมการสำเร็จแล้ว”

การรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชาเขาหยุดชะงักความคิดของเขา เขาเงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าเซี่ยอวี่อันไม่ปรากฏตัว  เขาได้แต่ส่ายศีรษะ  ‘เซี่ยอวี่อันอาจจะเก่งในเรื่องป้องกัน แต่ไม่มีกำลังพลมากพอ แม้ว่าจะเป็นกับดัก ก็เป็นแค่โอกาสเดียวของพวกเขา   เป็นความหวังที่เอาแน่นอนไม่ได้ แต่เซี่ยอวี่อันไม่ฉวยเอาไว้และกำลังรอความตาย’  การกระทำแบบนั้นทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้าผู้อุทิศชีวิตให้กับการรุกรานไม่สามารถยอมรับได้

‘แต่พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว แม่ทัพนายกองทั้งหมดผู้เชี่ยวชาญในการป้องกันดูเหมือนจะมีแนวคิดทำนองเดียวกัน’

โกวเฉิงเวิ่นเต้าคิด  ‘ในเมื่อเจ้าจริงใจแต่เปลือกนอก  อย่างนั้นข้าจะทำลายมันให้เจ้า’

“เริ่มโจมตี”

แม่ทัพนายกองทั้งหมดหยุดพูดคุยขณะที่พวกเขาเพ่งสมาธิอยู่กับสมรภูมิ  หลังจากนั้นอสูรร้ายตัวเท่าภูเขาก็สว่างไปด้วยรัศมี  เหมือนสัตว์ร้ายดึกดำบรรพ์ตื่นขึ้นจากการหลับใหล

ภายในป้อมพิทักษ์สมุทร  เงียบมากจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตก  ทุกคนกลั้นลมหายใจ

สายตาของเซี่ยอวี่อันไม่เคยห่างจากเรือล้อมโจมตีมหึมา และเมื่อเขาเห็นแสงสว่างวาบขึ้นเขาสูดหายใจและตะโกน เปิดช่องประตูทั้งหมด!”

“ช่องประตูหนึ่งเปิดแล้ว!”

“ช่องประตูสองเปิดแล้ว!”

……

คำสั่งด่วนส่งลงไปอย่างรวดเร็ว  บรรยากาศกลายเป็นน่ากังวลอย่างรวดเร็ว

ภายในเงาที่ไม่อาจสังเกตได้ง่ายมีช่องประตูเปิดออกทำให้พลังงานปั่นป่วนจากทะเลพลังงานทะลัก  ด้านหลังช่องประตูเป็นสมบัติดวงดาวระดับเงิน

สมบัติดวงดาวสูบกินพลังงานที่ไหลเข้ามาเหมือนกับว่าอดอยากมาเป็นพันปี

สมบัติดวงดาวทุกชิ้นเปล่งประกายแสงกระพริบ

ทหารภายในป้อมตื่นตัว  พลังผันผวนที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันพวกเขายังไม่คุ้นเคย เพราะพวกมันสร้างความผันผวนของพลังงานที่เกิดจากสมบัติดวงดาวกำลังดูดซับพลังงาน เป็นพลังงานปั่นป่วนที่เกินคาดพวกเขาไปมาก

‘พวกมันทรงพลังอย่างแท้จริง!

ม่านตาของเซี่ยอวี่อันเป็นประกายแสง  เขาไม่รู้ว่าเขาคู่ควรกับการได้รับฉายาผู้พิทักษ์ดีที่สุดเป็นอันดับสามในใต้ฟ้านี้หรือไม่ แต่ในด้านการเตรียมพร้อมการใช้งาน  เขามีความเชื่อมั่นไม่หวั่นไหว  ความภูมิใจนี้ซ่อนอยู่ลึกเป็นบางอย่างที่ไม่มีใครรู้  เหมือนกับว่าไม่มีใครรู้ว่าเขาจัดการสร้างป้อมพิทักษ์สมุทรใหม่อย่างพิถีพิถันเพียงไหน ซึ่งสำหรับเขาแล้วเป็นสิ่งที่เขาสร้างอย่างดีที่สุด

เขาวางแผนกับป้อมรบไว้อย่างระมัดระวัง  ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เขายังเตรียมไม้ตายที่ไม่มีใครรู้

สมบัติดวงดาว

ช่วงเวลาเมื่อเขาเห็นป้อมไพรกระบี่กับตา  เขาสนใจเคล็ดลับการป้องกันที่เฉพาะแบบทันที  ความสามารถในการป้องกันของเขามีความลึกล้ำและไม่ต้องใช้เวลามาก  เขาก็เข้าใจทฤษฎีที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังป้อมไพรกระบี่ หลังจากนั้นเมื่อท่านปิงมอบสมบัติดวงเป็นอาวุธให้กับกองพลนางแอ่น  เขาจึงร้องขอให้เซี่ยอวี่อันตรวจสอบกลยุทธของตัวเขาเอง เซี่ยอวี่อันใช้ความสามารถมากมายเพื่อทำความเข้าใจสมบัติดวงดาวดังนั้นความรอบรู้ของเขาจึงมีความลึกซึ้งมาก

ป้อมพิทักษ์สมุทรเก่าในใจของเขาว่าสมบูรณ์แล้ว แต่เขายังได้รับสมบัติดวงดาวสองสามชิ้นจากปิง  เป็นเพียงเพราะความต้องการความสมบูรณ์ของเขา  ซึ่งเขารู้สึกว่าแม้ไม่มีสมบัติดวงดาวก็ไม่มีใครสามารถล้อมโจมตีเพื่อชิงป้อมพิทักษ์สมุทรได้

ใครจะรู้ว่าพวกมันถูกใช้จริงๆ

เซี่ยอวี่อันไม่ได้ระดมกำลังโจมตีตั้งแต่แรกเขากำลังรอ รอให้เรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่เริ่มโจมตีเขาไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรือรบอย่างนั้นมาก่อน  แต่เขามีความรู้เรื่องจุดอ่อนของอสูรสงคราม

เมื่อพวกมันปลดปล่อยพลังโจมตี  พวกมันจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้  และจำเป็นต้องใช้เวลามากเพื่อให้มันเย็นลง

“เป้าหมาย 15เตรียมตัวร่วม”

เสียงของผู้ใต้บังคับบัญชาปนความวิตก  บรรยากาศกลายเป็นน่ากังวลอย่างรวดเร็ว เรือรบล้อมโจมตีเล็งเป้าหมายและเตรียมรับคำสั่งต่อไป

ลำแสงแสงหนาใหญ่ยิงผ่านสมรภูมิทันทีบดขยี้ใส่ป้อมพิทักษ์สมุทรอย่างรุนแรง

ปัง!

สายตาของทุกคนขาวพร่าไปหมดไม่มีใครสามารถเห็นอะไรได้  ทั่วทั้งป้อมพิทักษ์สมุทรสั่นสะเทือน  และทุกคนที่อยู่ภายในเซไปรอบๆ  ทุกคนพยายามยึดเกาะเท่าที่จะทำได้ขณะที่ใจสั่นสะท้าน

เสียงเย็นชาและประหลาดใจดังมาจากบนเรือรบของโกวเฉิงเวิ่นเต้า แม้แต่แม่ทัพนายกองของทวีปกวงหมิงมีน้อยคนจะได้เห็นเรือรบล้อมโจมตีขนาดยักษ์เปิดฉากโจมตี

“โอวพระเจ้า!”

“น่ากลัวเหลือเกิน!”

“เป็นไปตามคาดอาวุธล้อมโจมตีที่ดีที่สุด ลำแสงนั่นเส้นผ่าศูนย์กลางอย่างน้อยก็ 20 เมตร”

“ถ้าข้าคาดไม่ผิดน่าจาะ 38 เมตร”

“หมดหวังอย่างแท้จริง...”

“ใช่แล้วพลังของคนไม่มีอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ประหลาดเหล่านี้...”

เสียงร้องประหลาดใจและสรรเสริญชื่นชมดังขึ้นต่อเนื่อง แม่ทัพนายกองของทวีปกวงหมิงมีท่าทางเหี้ยมหาญ  ใจของพวกเขาสั่นสะท้าน  ทั่วทั้งตัวของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ  ‘พวกเราช่างทรงอานุภาพจริงๆ นี่คือทวีปกวงหมิง ทวีปกวงหมิงของพวกเรา!’

‘ต่อหน้าพลังเช่นนั้นใครจะหยุดเราได้?’

‘ไม่มีใครหยุดเราได้!’

‘ภูมิภาคใต้เป็นของเรา ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดก็เป็นของเรา!’

เมื่อแสงสว่างจางหายไป  ป้อมพิทักษ์สมุทรปรากฏในสายตาพวกเขาอีกครั้งม่านพลังป้องกันหมองลงอย่างชัดเจน ทำให้เกิดเสียงประหลาดใจอยู่โดยรอบ  สำหรับป้อมรบขนาดใหญ่เช่นนั้น ม่านพลังของป้อมพิทักษ์สมุทรแน่นอนและมั่นคง

ในเวลาต่อมาม่านพลังป้องกันของป้อมพิทักษ์สมุทรก็สว่างขึ้น

แต่ทุกคนไม่สนใจ  พวกเขาแค่ปล่อยพลังโจมตีจากเรือล้อมโจมตีขนาดใหญ่  เมื่อพวกเขาปล่อยพลังโจมตีมากขึ้น ม่านพลังงานของป้อมพิทักษ์สมุทรจะแตกสลาย  ถ้าพวกเขาไม่มีเรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่  พวกเขาคงต้องเสียกำลังคนหลายคนก็แค่ทำให้ม่านพลังป้องกันสั่นสะเทือนเท่านั้น  ก่อนนี้เมื่อพวกเขาส่งกำลังไปโจมตีก็ไม่สามารถทำอะไรม่านพลังได้เลยแม้แต่น้อย

เรือล้อมโจมตีขนาดใหญ่ 22 ลำอยู่ด้านนอกระยะยิงโจมตีของอาวุธเรือรบของป้อมพิทักษ์สมุทรทำให้พวกเขาสามารถมองดูกระดองเต่าแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ โดยพวกเขาโต้ตอบไม่ได้

นั่นช่างน่าสมเพช!

เรือล้อมโจมตีลำที่สองยิง และลำที่สาม...

ลำแสงแพรวพราวคลุมไปทั่วสมรภูมิรัศมีแสงสว่างแยงนัยน์ตาของทุกคนจนรู้สึกเจ็บแต่ถึงกระนั้นพวกแม่ทัพนายกองของทวีปกวงหมิงก็ยังพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อลืมตาดูสนามรบ เนื่องจากการพลาดเห็นมีแต่จะทำให้พวกเขาเสียดายไปตลอดชีวิตที่เหลือ

เรือล้อมโจมตียักษ์โจมตีในความถี่ที่ช้า  ทุกการโจมตีจะปะทะใส่ม่านพลังป้องกันจะเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นเสียงเหมือนกับยักษ์โบราณหวดค้อนยักษ์ใส่  ทุกครั้งที่หวดฟาดใส่หัวใจทุกคนจะสั่นสะท้าน ความรู้สึกชาทำให้พวกเขาโน้มตัวลงขณะโจมตี

แสงเงินระยิบระยับแสบตาและพลังระเบิดกลบไปทั่วทั้งสนามรบ

แดนมรณะที่ป้อมพิทักษ์สมุทรเผชิญและโดยรอบสร้างคลื่นพลังงานปั่นป่วนภายใน  พลังโจมตีของเรือยักษ์โจมตีนั้นรุนแรง  เป็นอสูรสงครามชั้นสุดยอดในสมรภูมิ

ป้อมพิทักษ์สมุทรที่ไม่สามารถเอาชนะได้เป็นเหมือนกระท่อมไม้อยู่ในท่ามกลางพายุโยกเยกไม่หยุด

ปัง!

แรงระเบิดต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงซึ่งมีแต่จะกล้าแข็งรุนแรงมากขึ้นทำให้ทุกคนตื่นตะลึง

‘ม่านพลังป้องกันของป้อมพิทักษ์สมุทรกำลังจะแตก!’

แต่ภายในป้อมพิทักษ์สมุทร กลับเงียบมากจากความตื่นเต้นภายใน ทหารของกองพลนางแอ่นปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว  แม้ว่าพื้นใต้เท้าพวกเขากำลังสั่นสะเทือนพวกเขายังอดทนและสงบ

แต่บรรยากาศตึงเครียดมาก  สีหน้าของทุกคนตึงเครียดคำสั่งรวดเร็วตะโกนออกมาอย่างต่อเนื่องและซ้ำๆ ดังไปทั่วป้อมรบ

“ม่านพลังป้องกันเหลือน้อยกว่า 10%”

“สมบัติดวงดาวเกือบเต็มแล้ว

……

“ม่านพลังป้องกันแตกแล้ว!”

“สมบัติดวงดาวเติมพลังเต็มแล้ว!”

นายทหารสองนายผู้รับผิดชอบสมบัติดวงดาวตะโกนพร้อมกันจนหน้าแดง

‘ได้เวลาแล้ว!’

ในขณะนั้นหน้าของเซี่ยอวี่อันเปลี่ยนเป็นน่ากลัว ขณะที่เขาตะโกนสุดเสียง  “ยิง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด