ตอนที่แล้วตอนที่ 795 ปล่อยวังวนสายฟ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 797 ตำหนักกลาง, นักรบแดนทมิฬ ศัตรูแข็งแกร่ง

ตอนที่ 796 ลอบทำร้าย


“หุบเขาวายุ อยู่ตรงข้ามกับหุบเขาพิรุณ”

คำพูดของเย่ว์หยางไม่เพียงแต่บอกนักรบจากสามกลุ่มใหญ่เท่านั้นแต่ยังคงบอกนักรบแดนทมิฬ “สำหรับที่นี่ ห้ามลงบนพื้น มิฉะนั้นจะได้รับโทษจากพลังกฎสวรรค์พยายามลอยตัวอยู่ในอากาศยิ่งสูงยิ่งดี ถ้าพวกเจ้ามีอสูรมากไม่ว่าพวกเจ้าจะเรียกออกมาเท่าใดก็ตาม ในด่านนี้ไม่ห้ามการอัญเชิญอสูรมีแต่ข้อห้ามคือห้ามใช้อาวุธรวมทั้งอาวุธสมบัติระดับต่างๆ ด้วย...”

เย่ว์หยางพูดไม่ทันจบเขาเห็นนักรบปราณฟ้าคนหนึ่งยืนถืออาวุธหลั่งเหงื่อโทรมกายในมือเขาถือตรีศูลทอง

สองสามวินาทีต่อมาก็ไม่สามารถถือตรีศูลในมือได้อย่างมั่นคง

จึงต้องปล่อยไป

มันร่วงลงพื้น

เหมือนกับเขานักรบแดนทมิฬในฝั่งตรงข้ามมีนักรบถืออาวุธหลายคนปล่อยอาวุธลงพื้นอย่างต่อเนื่องตามลำดับแล้วแต่สภาพร่างกายกายบางคนก็ต้านได้ระยะสั้น บางคนก็ต้านได้นาน

แต่ไม่ว่าจะต้านได้นานแค่ไหนก็ยืนยันได้ว่าไม่มีความหมายเพราะอาวุธในหุบเขาวายุจะไม่กลับคืนไปหาเจ้าของ

บางทีอาจจะไม่แน่นอนในกรณีที่ต้องการเอาชนะให้ได้หรือมีพลังเพียงพอ มิฉะนั้นนักรบที่ต้องการจะเก็บอาวุธคืนหรือใช้อาวุธในหุบเขาวายุก็คงจะไม่ง่าย  เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นได้รับการกระตุ้นเตือนจากเย่ว์หยางอยู่ก่อนแล้วจึงไม่แสดงการกระทำที่ดึงดันแบบนี้พวกเขายืนกระตือรือร้นอยู่ในท่ามกลางนักสู้ปราณฟ้าแม้ว่าพลังของพวกเขาในกลุ่มคนพวกนั้นจะอ่อนแอที่สุดแต่ในขณะนี้ไม่มีใครกล้าแสดงอาการดูถูกพวกเขาอีกต่อไป...เมื่อพวกเขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญทำให้กลุ่มนักรบแดนสวรรค์โห่ร้องดีใจกลุ่มของคุณชายสามมีคัมภีร์อัญเชิญกันอยู่แล้ว

“ในหุบเขาวายุ  พวกท่านจะต้องเอาชนะอุปสรรค จะดีที่สุดอย่าฆ่าศัตรูเองเวลานั้นเป็นเรื่องของการใช้อสูรอัญเชิญ มิฉะนั้นพวกท่านจะโดนลงโทษถึงสิบเท่านอกจากนี้อสูรเงาของที่นี่โจมตีแต่เจ้าของอสูรเท่านั้น คนอื่นจะถูกลงโทษสองครั้งทุกคนไม่สามารถช่วยท่านได้ ท่านได้แต่พึ่งพาตนเอง”  เมื่อเย่ว์หยางพูด มีอสูรเงาที่เป็นอสูรแดนสวรรค์ปรากฏตัวที่ขอบฟ้ามากมาย

“เรายังไม่เริ่มกันหรือ?”  ราชาหลิงหวินตกใจ

“อสูรเงามีมากเกินไป!”  ถูไห่เห็นอสูรเงาที่ด้านตรงข้ามกำลังบินมาไม่หยุดหย่อนดูจากจำนวนแล้วเกินหมื่น ก็ตกใจอย่างหนัก อสูรเงาสามกลุ่มใหญ่น่ากลัวที่สุด กลุ่มอสูรที่มีจำนวนน่ากลัวที่สุดก็คือฝูงนางแอ่นพายุสายฟ้าที่บินหนาแน่นเต็มท้องฟ้า

เหล่าผู้นำกลุ่มที่ช่างสังเกตพบความจริงที่เหลือเชื่อ

คุณชายสามตระกูลเย่ว์นอกจากใช้ฝูงนางแอ่นพายุสายฟ้าแล้ว ไม่ได้ใช้อสูรบินชนิดอื่น

อสูรเงานี้มีจำนวนเกินหมื่น?คุณชายสามตระกูลเย่ว์ใช้นางแอ่นพายุสายฟ้าโดยไม่ยอมเปิดเผยพลังที่แท้จริง?

ถ้าเป็นเช่นนี้คุณชายสามตระกูลเย่ว์ก็ไม่ได้รับผลร้ายจากหุบเขาวายุ...

นั่นนั่นน่ากลัวเหลือเกิน

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วผู้นำหลายคนถึงกับหน้าเปลี่ยนสี พวกเขาเห็นอสูรเงาที่เลียนแบบอสูรของพวกเขาทั้งหมดรวมทั้งอสูรลับที่ยังไม่ได้เรียกออกมา แต่คุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้ลึกลับนอกจากนางแอ่นพายุสายฟ้าไม่มีอสูรเงาอื่นสักตน นี่หมายความว่ายังไง?หุบเขาวายุทำอะไรคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้นี้ไม่ได้หรือ?  เขาอยู่เหนือการละเล่นนี้อย่างสมบูรณ์?  คุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้นี้เป็นเผ่าพันธุ์ในตำนานหรือว่าเป็นลูกหลานชาวสวรรค์ชั้นบนที่ลงมาสวรรค์ล่าง?

“พวกเจ้าสามารถให้การสนับสนุนได้ แม้ว่าพวกเจ้าจะไม่สามารถสู้โดยตรง  แต่ช่วยสนับสนุนให้ก็ยังดี!” เย่ว์หยางโบกมือและสายฟ้าสีม่วงกลายเป็นตาข่ายพลังงานอยู่เหนือท้องฟ้า

นางแอ่นพายุสายฟ้าทั้งหมดช่วยสนับสนุนทันที

ในทางตรงกันข้ามอสูรเงาเหล่านี้ไม่มีเพิ่มขึ้นสักตัว

ความยากลำบากในหุบเขาวายุมีความลำบากมากกว่าหุบเขาพิรุณหลายเท่า อุปสรรคชุดนี้สำหรับผู้นำระดับราชาผู้นำเหล่านักรบระดับขุนพล  โชคดีที่อสูรพวกนี้แก่และดีแต่อสูรเงาเลียนแบบของมันจึงมีจุดอ่อนและเสียเปรียบอยู่ในใจของมันการสู้และเอาชนะจึงไม่เป็นปัญหา

นักรบแดนสวรรค์ธรรมดาไม่มีอะไรต้องพูดถึง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอสูรบางตัวแข็งแกร่งทรงพลังมากกว่านักรบผู้เป็นนายสิ่งที่พวกเขาทำมาก็คืออาศัยอสูรของตนเองแสวงหาความสำเร็จ

อสูรเงาไม่เคยกลัวหรือถอยไม่เคยหลบ ไม่ทรยศต่อสมรภูมิ แม้ว่าจะไม่มีเจ้านายคอยสั่ง แต่ต่อสู้ได้ไม่อ่อนด้อยกว่าอสูรแท้มากนัก

อสูรของนักรบแดนสวรรค์หลายคนต่อสู้อย่างดุเดือดและได้รับบาดเจ็บหนักและเลือกวิธีทรยศ

บางคนไม่หลบการโจมตีของอสูรเงาและตายอย่างน่าอนาถ

สิบนาทีต่อมา

หัวหน้าของกลุ่มทั้งสามเอาชนะในการสู้รบได้ราชาหลิงหวินเหนื่อยจนหอบถ้าไม่มีการเตือนจากเย่ว์หยางและพวกเขามีส่วนร่วมในการสู้ เขาคงโดนลงโทษสู้สองเท่าผลที่ตามมาคงสุดจะคาดคิด ที่ทำให้พวกเขาแปลกใจก็คือเย่คงและคนอื่นๆ เอาชนะได้แล้ว

คนที่ช้าที่สุดในกลุ่มก็คือเจ้าอ้วนไห่

เพราะการโจมตีของนกนางนวลเงาทำให้เจ้าอ้วนไห่ต้องเหนื่อยหนักโชคที่เขามีนกนางนวลสายลมแท้คอยช่วยในที่สุดต้องแลกมาด้วยบาดแผลและรอยช้ำจากชัยชนะนั้น

“อสูรฉลาดเกินไป บางครั้งก็ไม่ค่อยดีเหมือนกัน!”  เจ้าอ้วนไห่ลอบถอนหายใจ

“แควก..”การถอนหายใจของเขาทำให้นกนางนวลสายลมไม่พอใจ มันยิงดาบสายลมออกไปหนึ่งครั้ง  ขณะที่เจ้าอ้วนไห่หลบมันกระพือปีกด้วยความโกรธและยิงสายฟ้าใส่หัวเจ้าอ้วนไห่ทำให้หัวเจ้าอ้วนไห่ยุ่งเหยิงราวกับเล้าไก่ และมีควันสีน้ำเงินฟุ้งขึ้น

“โอวยาหยี!นี่เจ้ารู้วิธีใช้สายฟ้าหรือนี่?” เจ้าอ้วนไห่ไม่โกรธ แต่เขาถามด้วยความดีใจ

“ชิ!”นางนวลสายลมทำเป็นไม่สนใจเจ้าอ้วนไห่ ดูเหมือนมันยังงอนอยู่

“เป็นเจ้านายประสาอะไรกัน!” เย่คงหัวเราะจนน้ำตาเล็ด “สติปัญญาของเจ้านายน้อยกว่าของอสูรเสียอีก  เจ้าอ้วน! เจ้าสร้างประวัติศาสตร์ทั่วแดนสวรรค์แล้ว!”

“ก็ยังดีกว่าเจ้าที่สร้างประวัติศาสตร์อะไรไม่ได้!”  เจ้าอ้วนไห่โกรธและคว้าคอเย่คง

“เจ้าล่ะ เจ้าอ้วน! ยังหายใจลำบากอยู่หรือเปล่า?” เย่คงใช้หมัดต่อยตาซ้ายเจ้าอ้วนทันที

“คุณชายผู้นี้จะขอสู้กับเจ้าแล้ว”  เจ้าอ้วนไห่ตอบโต้กลับ

เมื่อเจ้านายทะเลาะกันนางนวลสายลมทำเป็นไม่รู้ว่าหากินได้ยังไง มันแกล้งยิงมีดใส่หลังเย่คงขณะที่เพลิดเพลินกับการดูทั้งคู่ทะเลาะกัน

เห็นได้ชัดว่าอสูรที่ผสานกับเย่คงมีปัญญาน้อยพอกดดันเล็กน้อยมันก็สู้

เมื่อเห็นนางนวลสายลมของเจ้าอ้วนไห่ฉลาดแสนรู้ถูไห่และหลิงหวินน้ำลายหกทั้งคู่

อสูรปราณดินแม้ว่าจะไม่ใช่อสูรปราณฟ้า แต่มีความฉลาดแสนรู้ ถ้ามันเติบโตขึ้นคาดจะกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้และไม่มีทางทิ้งเจ้าของ!  ในแดนสวรรค์อสูรจะมีความแข็งแกร่งมากแต่ไม่ค่อยฉลาด..เขาคิดว่าเจ้านกตัวน้อยนี้คงเทียบได้กับฮุยไท่หลางที่เอาแต่ขี้เกียจทั้งวัน

หลิงหวินเห็นกับตาตนเอง เมื่อเผชิญกับอสูรเงาที่มีความแข็งแรงระดับเดียวกันฮุยไท่หลางแค่อ้าปากก็กลืนอสูรเงาได้

ไม่ถึงหนึ่งนาที

มันจบการต่อสู้ได้

เหมือนกับว่าอสูรเงาไม่เคยมีอยู่

เย่ว์หยางสังเกตว่านางนวลสายลมซึ่งมองดูการกระทำของเจ้าอ้วนไห่กับเย่คงคิดว่าเจ้าตัวเล็กนี้โตไปคงทรงพลังมาก

โดยไม่รู้ตัวการเปลี่ยนแปลงเป็นมนุษย์เริ่มขึ้นโดยไม่ต้องใช้พลังเจ้านายช่วยบางทีการต่อสู้ระหว่างเจ้าอ้วนกับซุ่นเทียนคงทำให้มันวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องถ้าไม่ใช่เพราะมันช่วยคาดว่าเจ้าอ้วนไห่คงตายในเงื้อมมือของซุ่นเทียนไปแล้ว  มันจะยังไม่เปลี่ยนแปลงตอนนี้แต่ตราบใดที่เจ้าตัวน้อยนี้มีวิวัฒนาการอีกสองสามครั้งต่อไปจะเรียกว่ามันไม่ได้แล้ว จะต้องเรียกว่านางแทน

รอจนเจ้าอ้วนไห่กับเย่คงตีกันจนเหนื่อยนักรบแดนสวรรค์ค่อยแยกผู้แพ้ผู้ชนะออกจากกัน

ผู้แพ้ทั้งหมดร่วงลงพื้น

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกอสูรเงาฆ่าตายพวกเขาก็ตายภายใต้การลงโทษของกฎสวรรค์

ผู้ชนะทุกคนลอยตัวอยู่ในอากาศยินดีกับชัยชนะที่ยากลำบาก

แน่นอนว่าพวกเขารู้กันทุกคน

การทดสอบของหุบเขาวายุเพิ่งเริ่มขึ้น

คลื่นขนาดใหญ่ย่อมกวาดล้างทรายไปได้ฉันใดผู้อ่อนแอในแดนสวรรค์จะถูกกลืนกินฉันนั้น พวกเขาเข้าใจเหตุผลนี้ชัดเจนอยู่แล้ว มีพลังเพียงพอ ความวิบัติจะทำอะไรได้ตรงกันข้ามถ้าสามารถทดสอบได้ พวกเขาจะเข้าสู่ระดับใหม่ พยายามประสบความสำเร็จเพื่ออนาคต

“ต่างจากหุบเขาพิรุณ นอกจากอสูรเงาแล้วไม่มีระยะทางที่แน่นอน ในภูมิภาคที่น่ากลัวมีอสูรพิทักษ์หุบเขาวายุเราสามารถเลือกยากๆ หรือค่อยไปทีละก้าวก็ได้”เย่ว์หยางและคนอื่นมองกันเองและโบกมือเล็กน้อย “การลงโทษบางทีเราอาจพบกับความประหลาดใจ ตัวอย่างเช่นมีผู้อาวุโสตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์อาจจะโผล่มาคนหรือสองคนถูกทิ้งให้อยู่ในภูมิประเทศที่น่ากลัว ข้าเชื่อว่าถึงเวลานั้นเราคงจะเคลื่อนไหวไปพบกับการจัดการของตำหนักอัคคี!”

“อะไรนะ?” คำพูดของเย่ว์หยางทำให้คนในที่นั้นหน้าเปลี่ยนสี

“นอกจากผู้อาวุโสที่อยู่ในกลุ่มข้างนอกแล้ว  ยังมีผู้อาวุโสรวมห้าคนที่เข้ามาก่อนแล้ว ข้าคิดว่าจะมีการสร้างความตื่นตะลึงในหุบเขาวายุ!” เย่ว์หยางพูดเช่นนี้นักรบแดนสวรรค์ถึงกับตกตะลึงพร้อมกัน

ตามคำพูดของคุณชายสามดูเหมือนว่าผู้อาวุโสข้างนอกคงถูกคุณชายสามฆ่าไปแล้ว

คนทั้งหมดมองดูเย่ว์หยางด้วยสายตาซาบซึ้งขอบคุณ

รวมทั้งนักรบแดนทมิฬ

เพื่อความอยู่รอดพวกเขาถูกบังคับให้ดำเนินไปบนเส้นทางนี้มากที่สุด

ในหุบเขาดาบสายลมผู้อาวุโสสองคนสนทนากันเบาๆ อยู่ในความมืด “แย่จริงๆ  ข้ามาเห็นภาพนี้เสียได้  เราต้องสู้ศึกครั้งนี้บางทีเราอาจท้าทายผู้อาวุโสก็ได้ และเพื่อเป็นการแสดงความเคารพรองเจ้าตำหนักเราที่เพิ่งตายไป   ยังมีตำแหน่งว่างอีกตำแหน่งหนึ่ง!”

“ข้าไม่ต้องการเป็นคนใหญ่คนโต  แต่ข้าไม่กลัวที่จะเป็นเหมือนกัน!” เขาหัวเราะเยาะตำแหน่งผู้อาวุโส “ข้าจะสร้างดาบศักดิ์สิทธิ์ล่ะนะ”

“ดาบศักดิ์สิทธิ์, พระเจ้า,นับเป็นเกียรติยิ่งนัก”

“แนวความคิดของข้าในเวลานั้น...”

“ต้องทำให้สามกลุ่มใหญ่ กลุ่มเขตร้างที่แปดกลุ่มทุ่งหิมะและกลุ่มเพลงสงครามถูกกำจัด  มิฉะนั้นข้ารับรองได้ว่าเจ้าจะไม่ได้แม้แต่มุกบนดาบศักดิ์สิทธิ์!  ฆ่าให้หมดหรือ พระเจ้า!  เจ้าช่างกล้าคิด!  อย่างไรก็ตามภูมิประเทศแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก  แต่ก็มีทางเป็นไปได้ ฮ่าฮ่า!”

พวกเขาไม่ให้ความสนใจว่าในสถานที่น่ากลัวอย่างหุบเขาดาบสายลมมีเพียงหนูทองค้นสมบัติตัวหนึ่งกำลังหมอบนิ่ง

ไม่ใช่มันมีอยู่สองตัว

อีกตัวหนึ่งเป็นแค่หนูเงา

แต่ไม่ว่าจะเป็นหนูเงาหรือหนูทองค้นสมบัติล้วนไม่มีพลังโจมตี ทั้งสองจึงอยู่ด้วยกันอย่างสันติ เหมือนกับเป็นอสูรฝาแฝด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด