ตอนที่แล้วตอนที่ 59 ค่ำคืนที่โรงเลื่อยไม้เก่า(อ่านฟรี09/02/2566)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 61 หมออลัน(อ่านฟรี11/02/2566)

ตอนที่ 60 เริ่มแผนช่วยคนและฝูงผู้ติดเชื้อผิวลอก(อ่านฟรี10/02/2566)


ตอนที่ 60 เริ่มแผนช่วยคนและฝูงผู้ติดเชื้อผิวลอก

เรนถือวิทยุและติดต่อกลับไปหาพวกนั้น ซึ่งไม่นานก็มีการตอบกลับมา น้ำเสียงของคนเหล่านั้นดูจะดีใจที่ได้รับการติดต่อมาอีกครั้ง

“พวกเรานึกว่าคุณจะหนีไปแล้ว” เสียงจากอีกฝั่งของวิทยุดังขึ้นมา

“ผมต้องการข้อมูลที่มากกว่านี้ ถ้าจะให้ช่วยพวกคุณออกมา” เรนพูดเข้าเรื่องในทันที เพราะพวกเขามีเวลาไม่มากนัก เนื่องจากการอยู่ด้านนอกในพื้นที่เปิดโล่งแบบนี้จะตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย

“ได้ คุณต้องการรู้อะไร”

“พวกคุณมีกันอยู่กี่คน เป็นใครบ้าง” เรนถามเป้าหมายแรกของตนเองในทันที

“เจ้าหน้าที่ 7 พลเรือน 5 คน หนึ่งในเจ้าหน้าที่เป็นหมอตามที่คุณถามหาก็รวมอยู่ในนี้ด้วย”

เรนหันมาพูดกับผู้กองเชนว่า “ดูเหมือนจะเป็นคนของรัฐบาลอยู่ด้วย”

“ลองถามพวกเขาเรื่องอาวุธปืนดู” ผู้กองเชนบอก

“อืม” เรนพยักหน้าและติดต่อไปหาคนจากในค่ายลี้ภัยอีกครั้ง

“พวกคุณมีอาวุธปืนและกระสุนอยู่ด้วยไหม”

อีกฝั่งของวิทยุสื่อสารไม่ตอบกลับในทันที ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังปรึกษากันอยู่

ผ่านไปสักพักก็ตอบกลับมา “คุณต้องการปืนและเครื่องกระสุน”

“ใช่ พวกคุณไม่ได้คิดว่าเราจะช่วยโดยเปล่าใช่ ผมต้องการอาวุธครึ่งหนึ่งของที่พวกคุณมีอยู่รวมทั้งตัวของหมอคนนั้นด้วย ถ้าพวกคุณตกลงก็บอก พวกเราจะได้วางแผนกันว่าจะช่วยพวกคุณออกมายังไง แต่ถ้าไม่ตกลงก็ให้ลืมมันไปซะ” เรนกล่าวอย่างเด็ดขาด ก่อนจะรอคอยคำตอบอย่างเงียบ ๆ

หลังจากรอคำตอบอยู่นานในที่สุดอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาว่า “ตกลง แต่ว่าเรามีแผนของพวกเราอยู่และต้องให้พวกคุณช่วยเหลือ”

“ตกลง ถ้าใช้ได้ผมจะช่วยพวกคุณตามแผนนั้น”

หลังจากนั้นเรนและกลุ่มคนในค่ายก็เริ่มวางแผนกัน โดยแผนนั้นก็ง่ายมาก ล่อพวกผู้ติดเชื้อที่ล้อมตึกที่พวกคนในค่อยหลบซ่อนอยู่ออกไป และเอารถมารับพวกเขาจากนั้นก็ขับออกมาก

โดยทิศทางที่หลอกล่อพวกมันนั้นเป็นทางด้านกำแพงค่ายที่ยังสร้างไม่เสร็จ คือทางด้านขวาของค่ายลี้ภัย มันมีพื้นที่ประมาณ 100-200 เมตรที่เป็นช่องว่างอยู่ นั้นคือทิศทางที่หลอกล่อผู้ติดเชื้อออกไป

เรนและผู้กองเชนลองขับรถไปดูด้านซ้ายของค่ายลี้ภัยตามที่พวกนั้นบอกก็พบว่ามันมีจริง ๆ พื้นที่ประมาณร้อยกว่าเมตรไม่มีตู้คอนเทนเนอร์ตั้งเป็นกำแพง มีเพียงรั้วเหล็กสูง 2.5 เมตรที่พังลงไปแล้วเท่านั้น

ซึ่งด้านนี้สามารถเข้าไปจนถึงจุดที่ผู้ติดเชื้ออยู่ได้

“พวกคุณเจอไหม” เสียงจากวิทยุดังขึ้นมา

“เจอ ไว้ผมจะกลับไปเตรียมตัวก่อนแล้วจะติดต่อกลับมาตอนบ่าย” เรนตอบวิทยุ

ทั้งสองขับรถกลับไปที่โรงเลื่อยไม้ ในระหว่างทางก็จัดการผู้ติดเชื้อไปบางส่วน พอไปถึงเรนก็เรียกทุกคนมารวมกันและเล่าสิ่งที่ได้มาในวันนี้

สุดท้ายก็ตัดสินใจกันว่าจะใช้รถบัสโรงเรียนในการพาคนพวกนั้นออกมา เพราะว่าด้วยจำนวนคนที่มาก มันเป็นตัวเลือกเหมาะที่สุด คนขับนั้นจะเป็นลุงบุญ โดยมีคนไปด้วยคือผู้กองเชนและหลิน

ส่วนคนที่ไปหลอกล่อผู้ติดเชื้อนั้นคือเรน เขาเหมาะสมมากที่สุด

หลังจากตัดสินใจกันแล้วพวกเขาก็ลงมือกันในทันที โดนเอารถบัสไปคันเดียวเท่านั้น ส่วนอีกคันนั้นทิ้งไว้ที่โรงเลื่อยไม้ เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน ถ้าเกิดมีอะไรโจมตีที่นี่ไอราจะได้พา รินดา ลีและมินนาหนีออกไปได้

“ผมลงตรงนี้ ไว้ติดต่อกันทางวิทยุ” เรนกล่าวก่อนจะลงจากรถบัสไปและลุงบุญก็ขับรถบัสกลับไปเตรียมยังถนนที่ห่างไป 1 กิโลเมตรจากประตูหน้าของค่ายลี้ภัย

เรนวิ่งไปยังทางรั้วเหล็กที่ล้มของค่ายและมองดู เขากำลังคิดว่าจะเรียกความสนใจจากผู้ติดเชื้อที่อยู่ด้านในค่ายลี้ภัยได้อย่างไง

หลังจากไตร่ตรองสุดท้ายก็ได้คำตอบ นั้นคือใช้เสียงดังดึงดูดพวกมัน

“รถพวกนั้นน่าจะใช้ได้” เรนหันไปมองตามถนนมีรถจอดอยู่หลายคัน ซึ่งน่าจะเป็นรถจากคนในเมืองหินเหล็กแห่งนี้

เรนเดินไปตรวจดู รถหลายคันยังทิ้งกุญแจคาไว้อยู่ เดาว่าคงจะรีบร้อนหนีกันไป ตอนนั้นเขาก็เจอกับรถติดเครื่องเสียงคันหนึ่ง

“ถือว่าฝึกขับรถไปด้วยเลยแล้วกัน” เรนพูดกับตัวเอง ก่อนจะเข้าไปในรถและติดเครื่อง เขาเริ่มเลือกเพลงที่เสียงดังมากที่สุด ซึ่งก็มาจบที่เพลงร็อก ที่ชื่อว่า In the End

เรนค่อย ๆ เพิ่มเสียงเพลงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดเท่าที่จะเพิ่มได้ เขาเปิดกระจกทั้ง 4 ด้านของเพื่อให้เสียงนั้นดังไปทั้งไปทั่วทั้งบริเวณ มือของเขาเข้าเกียร์รถและขับออกตรงไปยังค่ายลี้ภัยตรงที่รั้วเหล็กนั้นล้มลงมา เสียงเพลงที่ดังสนั่นได้ดึงดูดผู้ติดเชื้อทันที

ผู้ติดเชื้อเกือบหมื่นในค่ายต่างก็ได้ยินเสียง พวกมันพากันคำรามและวิ่งตรงมายังด้านขวาของค่าย

“เริ่มแผนการ” เรนพูดในวิทยุ

...

“เรนบอกเริ่มแล้ว” หลินถือวิทยุอยู่บอกกับทุกคน

“ไปเลย” ผู้กองเชนพูดขึ้นมา

ลุงบุญพยักหน้าตกลงและขับรถบัสตรงไปยังค่ายลี้ภัยทันที

รถบัสเคลื่อนที่ไปที่ค่ายลี้ภัย พวกเขาเห็นจากใกล้ ๆ ว่าผู้ติดเชื้อที่เคยอยู่แถวหน้าค่ายนั้นเดินไปยังทางขวาของค่ายกันแล้ว ทำให้ตอนนี้เส้นทางของพวกเขานั้นโล่งมาก

รถบัสไปถึงที่หน้าค่ายลี้ภัย ผู้กองเชนรีบลงไปตรวจสอบที่ประตู พอมองลอดผ่านเข้าไปก็พบว่าไม่มีผู้ติดเชื้อพวกผู้ติดเชื้อเดินตามเสียงเพลงไปแล้ว

เห็นดังนั้นผู้กองเชนก็เปิดประตูจนสุด เพื่อให้รถบัสเข้าไปได้ รถบัสขับเข้าไปในค่ายลี้ภัยได้อย่างปลอดภัยจนไปถึงยังอาคารที่กลุ่มของผู้รอดชีวิตที่ค่ายติดอยู่

“พวกนั้นมากันแล้ว ไป ๆ” เจ้าหนี้ที่ทหาร 4 นาย ข้าราชการ 2 คนและหมออีก 1 พร้อมด้วยพลเรือนอีก 5 คนต่างก็วิ่งกันออกมาจากอาคารตรงไปขึ้นรถบัสในทันที

“มาเร็ว” ผู้กองเชนตะโกนเร่งพวกเขา

ตอนนั้นเองกระจกของอาคารที่อยู่ไม่ไกลก็พังลงพร้อมด้วยฝูงผู้ติดเชื้อหลักร้อยวิ่งตรงมาหาพวกเขาในทันที

“ไป ๆ ๆ” ทหารหันกลับไปยิงพวกนั้นและให้คนอื่น ๆ วิ่งไปที่ขึ้นรถบัส

พอคนพวกนั้นขึ้นมาแล้ว ทหารอีก 4 นายก็ขึ้นตามหลังมา

“ใครเป็นหมอ” ผู้กองเชนตะโกนถามพวกทหาร

“เขา” ทหารยศพลตรีที่คอยสั่งการทหารอีกสามคนเป็นคนกล่าว พร้อมกับชี้ไปที่ชายหนุ่มสวมแว่นคนหนึ่ง

“นายมานั่งนี่” ผู้กองเชนสั่งชายคนนั้นในทันที เขาให้มานั่งข้าง ๆ ตัวเอง เพื่อจะได้ดูแลได้

“รีบไปเร็ว พวกมันมากันแล้ว” พลตรีคนนั้นพูดอย่างร้อนใจ

ลุงบุญกลับรถบัสและมุ่งหน้าออกจากค่ายลี้ภัยในทันที โดยด้านหลังมีผู้ติดเชื้อวิ่งตามมาอย่างบ้าคลั่ง

“ซวยแล้ว พวกผิวลอก” หลินที่มองดูด้านหลังอยู่ตะโกนขึ้นมา ผู้ติดเชื้อผิวลอกเหล่านี้ผิวหนังแทบจะลอกไปทั้งร่างกายแล้ว แสดงว่ามันอันตรายกว่าพวกผิวหนังลอกปกติมาก

ผู้กองเชนชะโงกหน้าไปมองทางด้านหลัง ก็มีความกังวลปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน “ลุงบุญเหยียบให้มิตรเลย อย่าให้พวกมันตามมาทันได้”

“นั้นมันตัวบ้าอะไร” ลุงบุญพูดออกมาอย่างตื่นตกใจ เมื่อเห็นความเร็วในการวิ่งของผู้ติดเชื้อผิวลอก พวกมันวิ่งมาจนเกือบจะถึงรถบัสแล้ว

พลตรีคนนั้นสั่งให้ทหารของตนเองยิงพวกมันในทันที ทหารพากันไปหน้าต่างข้างรถและยิงใส่พวกผู้ติดเชื้อผิวลอกหลายสิบตัวที่ไล่ตามรถมา

ผู้กองเชนและหลินก็ช่วยด้วย โดยผู้กองเชนนั้นยิงจากทางประตูรถที่เปิดไว้ ส่วนหลินยิงจากทางกระจกหน้าต่างหลังรถ เธอยิงพวกมันผ่านกระจกใส่ผู้ติดเชื้อตรง ๆ

เสียงปืนดังสนั่นจนกลุ่มพลเลือนนั้นพากันหลบ

“ใกล้ถึงประตูแล้ว” ลุงบุญตะโกนบอก

แต่ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างวุ่นวาย เพราะเสียงปืนของพวกเขาได้ดึงดูดผู้ติดเชื้อที่ออกไปก่อนหน้าให้กลับเข้ามา

ลุงบุญไม่มีทางเลือกนอกจากชนใส่ผู้ติดเชื้อเหล่านั้น

ผู้กองเชนเกือบโดนผู้ติดเชื้อดึงออกไปจากรถ เขารีบถอยเข้ามาและยิงพวกมันที่พยายามกระโดดขึ้นประตูมา ก่อนจะรีบเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดประตู

เสียงรถบัสที่ชนใส่ผู้ติดเชื้อดังต่อเนื่อง ทำให้ความเร็วของรถเริ่มลดลง แต่อย่างไรพวกเขาก็ออกมาจากประตูหน้าค่ายได้สำเร็จ

“พวกเรารอดตายแล้ว” หนึ่งในทหารถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่แล้วตอนนั้นก็มีผู้ติดเชื้อผิวลอกกระโจนขึ้นมาจากข้างรถกัดเข้าไปที่คอของทหารผู้นั้นจนเลือดกระฉูด

“อ่า!” คนอื่น ๆ พากันร้องด้วยความตื่นตกใจ ขณะที่มองดูทหารร่างกระตุก

เพื่อนทหารอีกคนเห็นรีบหันมายิงใส่ผู้ติดเชื้อผิวลอกไม่ยั้งจนมันตกลงจากรถไป ทหารคนนั้นรีบเข้ามาดูเหมือนก็พบว่าหลอดลมเขาโดนฉีกขาดไปแล้ว สุดท้ายก็ตายลง

ยังไม่มีเวลาให้ทุกคนมาสนใจการตายของทหาร รอบทั้งรถบัสมีผู้ติดเชื้อผิวลอกนับสิบ ๆ ตัวกระโดดเกาะอยู่รอบรถบัสและพยายามทุบหน้าต่างเข้ามาด้านในรถ

ผู้กองเชน หลินและเหล่าทหารยิงใส่พวกมันไม่ยั้ง แต่ก็มีบางตัวหลุดเข้ามาได้และเริ่มฆ่าพลเรือนคนอื่น ๆ

ผู้กองเชนรีบเข้าไปปกป้องหมอหนุ่มคนนั้น เขายิงใส่หัวของผู้ติดเชื้อไปหลายนัดจนสมองของมันหายไป ถึงได้ตายลงได้

ด้านหลินเองก็มีปัญหา เพราะเธอนั้นอยู่ส่วนท้ายสุด ซึ่งมีผู้ติดเชื้อผิวลอกพยายามเข้ามาทางหน้าต่างหลัง

ปัง! ๆ ๆ

หลินเอารูนิกปืนพกออกมาลั่นไกใส่หัวของมันยั้งมือ จนมันตายลงร่างคาอยู่ที่หน้าต่าง แต่แล้วตอนนั้นหลินหันกลับไปด้านหลังปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อผิวลอกอีกตัวที่พึ่งฆ่าหญิงสาวพลเรือนไปอีกหนึ่ง มันก็หันมาจะเล่นงานเธอ

สายของหลินเหลือบไปเห็นทหารยศพลตรีกำลังยิงใส่ผู้ติดเชื้อตัวนี้พอดี เธอรีบกระโดดหลบออกไปข้าง ๆ

ปัง ๆ ๆ ๆ

พลตรีนายนั้นยิงใส่ผู้ติดเชื้อจนหมดแม็กทำให้มันตายลง แต่ยังไม่ทันได้เปลี่ยนกระสุนตอนนั้นเองก็มีผู้ติดเชื้อผิวลอกอีกตัวเข้ามาจากด้านข้างกระโจนใส่จนพลตรีนายนั้นและผู้ติดเชื้อผิวลอกล้มไปใส่เบาะข้าง ๆ พลตรีพยายามหยิบปืนพกของตนเองยังไปที่หน้าอกของผู้ติดเชื้อผิวลอกและผู้ติดเชื้อผิวลอกก็กันไปที่ใบหน้าของพลตรีจนเป็นแผลเหวอะหวะ

หลินรีบเข้ามายิงผู้ติดเชื้อจากทางด้านหลังจนมันตาย

พอเธอมองดูอาการของพลตรีคนนั้นก็ไม่ทันแล้ว เขาตายไปแล้ว

ตูม!!! เอียด!!!!!!!!!!

มีเสียงระเบิดของล้อรถบัสโรงเรียนดังขึ้นมา ซึ่งเป็นฝีมือของผู้ติดเชื้อผิวลอก

“หาที่จับเร็ว” เสียงลุงบุญจะโกนขึ้นมา

รถบัสเริ่มส่ายไปมาด้านของลุงบุญพยายามควบคุมรถเต็มที่ แต่แล้วรถก็ชนเข้ากับอุปกรณ์กั้นทางที่พวกทหารเคยวางไว้บนถนนหน้าค่ายลี้ภัยและรวมกับความเร็วรถที่วิ่งอยู่ก็ทำให้รถบัสโรงเรียนเสียหลักพลิกคว่ำและไถลไปกับพื้น

โครม!!! คืดดดดด...............!!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด