ตอนที่แล้วตอนที่ 21-41 เป็นได้จริงหรือ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21-43 หลอมรวมมหาเทพสี่ธาตุ

ตอนที่ 21-42 ดินน้ำลมไฟ


“กาลมิติบิดเบือน!” ไม่ว่าวอร์เรดประมุขวิถีทำลายล้างจะเยือกเย็นและสงบได้เพียงไหนแต่เมื่อเห็นภาพนี้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง  “เขารู้จักไม้ตายนี้ได้อย่างไร?  โอล็อฟสาบานด้วยถ้อยสาบานจอมเทพไปแล้วเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะละเมิดคำสาบาน”

“วอร์เรด!  เกิดอะไรขึ้น!”  เสียงก้องดังขึ้นในใจของเขา  เป็นเสียงของประมุขมหาเทพวิถีมรณะ  เมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากมหาเทพสามารถแพร่กระจายข่าวได้อย่างรวดเร็ว  มหาเทพยิ่งเข้ามาในมิติปั่นป่วนมากมาย  มีมหาเทพมากกว่าสี่สิบคนที่เข้ามาดูการต่อสู้ครั้งนี้!

“ข้าไม่รู้เหมือนกัน”  ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างตกตะลึง  ผ่านไปชั่วขณะเขาก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “เจ้าบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่โอล็อฟจะสอนไม้ตายนี้ให้คนอื่นแล้วเจ้าเล่า? เจ้าสอนให้คนอื่นหรือเปล่า?” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะรีบกล่าว “ข้าจะสอนให้คนอื่นได้อย่างไร?!” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างส่งสำนึกเทพตอบกลับอย่างลนลาน

“อย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้สองประการ ประการแรกคือออกุสตาพัฒนาขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง”  ประมุขมหาเทพวิถีมรณะกล่าว  “เป็นไปไม่ได้! เขาเพิ่งได้เลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์ได้นานแค่ไหนเอง?นอกจากนี้ ข้าสามารถพัฒนาได้เพราะข้าเป็นพารากอนในวิถีทำลายล้างมานานแล้วและเข้าใจพลังวิญญาณเป็นอย่างดี โชคก็มีบทบาทสำคัญ ออกุสตาไม่สามารถเป็นพารากอนได้ ต่อให้เขาใช้เวลาล้านล้านปีก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะพัฒนาไม้ตายนี้ได้แม้แต่ส่วนเสี้ยว!”  ประมุขวิถีทำลายล้างมั่นใจเรื่องนี้แน่นอน

“อย่างนั้นความเป็นไปได้ประการที่สองก็คือ....แม้ว่าข้าจะไม่กล้าเชื่อก็ตาม” เสียงของประมุขมหาเทพวิถีมรณะมีร่องรอยหวั่นเกรง หน้าของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างเปลี่ยนไปเช่นกัน  “เจ้ากำลังบอกว่า โอล็อฟก็คือ....”

“เราจะรู้กันในอีกไม่ช้า อย่างไรก็ตามตอนนี้ลินลี่ย์ตกอยู่ในอันตราย”  ประมุขมหาเทพวิถีมรณะส่งสำนึกเทพบอกเขาค่อนข้างจะกังวล

“ต่อให้เราพยายามช่วยเขา เราก็คงทำไม่ทันเวลา” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างขมวดคิ้ว “ออกุสตาปล่อยไม้ตายออกไปแล้ว บางทีเพราะเขามีเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ในปริมาณน้อยมากพลังก็คงจะด้อยกว่าข้า แต่...ก็ไม่ใช่สิ่งที่ลินลี่ย์จะสามารถต้านทานได้ ที่สำคัญลินลี่ย์ไม่มีสมบัติจอมเทพปกป้องวิญญาณ”

ตอนนี้ลินลี่ย์กำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติจริงๆ มหาเทพมากกว่าสี่สิบคนส่งสำนึกเทพผ่านมิติปั่นป่วนตรวจดู  โดยวิธีนั้นเหล่ามหาเทพอดไม่ได้ที่จะสรุปผลออกมาเป็นอย่างเดียวกัน...

ลินลี่ย์สุดยอดฝีมือผู้เด่นรุ่งเรืองขึ้นมาในช่วงเวลาสั้นๆหมื่นปี รุ่งเรืองโชติช่วงบดบังรัศมีมหาเทพกฎธรรมชาติเป็นไปได้ว่าดาวรุ่งผู้โดดเด่นนี้กำลังจะจบสิ้นหลังจากฉายประกายเต็มที่กระนั้นหรือ?

เมื่อเงามายาสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ปรากฏพลังงานไร้ลักษณ์เฉพาะแบบกระจายออกไปทุกทิศ ภายในระยะสิบล้านกิโลเมตรพื้นที่ทั้งหมดชะงักงันทันที พื้นที่ซึ่งแตกและร้าวอย่างต่อเนื่องถูกแช่แข็งค้าง ขณะที่พลังงาน 90% ถูกปล่อยใส่ตัวลินลี่ย์

“บีบอัดมิติเวลา...บิดเบือนมิติเวลา!  กระแสเวลาเปลี่ยนไป!”  ลินลี่ย์เมื่อเผชิญหน้ากับไม้ตายนี้ทันใดนั้นเขามีความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างหนึ่ง “นี่....”

สายตาของลินลี่ย์ฉายประกายร้อนแรงขณะที่เขาจ้องมองภาพมายาของอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ที่รายล้อมออกุสตาภาพมายาแต่ละภาพกำลังปล่อยพลังงานเฉพาะแบบ และเมื่อผสานเข้าด้วยกันจึงสามารถปลดปล่อยไม้ตายนี้ได้เต็มที่ความจริงพลังงานสี่รูปแบบที่แตกต่างกันสามารถจัดการกับจักรวาลได้จนถึงขนาดส่งผลได้ต่อมิติและเวลา

“นี่...ไม่ใช่อย่างนี้...” ตาของลินลี่ย์เบิกกว้างทันที ในขณะนั้นเองเวลาหยุดนิ่ง!  แม้แต่รังสีแสงใสที่ยิงออกมาจากปากออกุสตาเหมือนกับจะช้าลงๆทุกที

“ใช่แล้ว! เป็นอย่างนี้นี่เอง!” ตลอดหลายปีมานี้ลินลี่ย์มักจะไล่ตามการหลอมรวมเคล็ดลึกลับทั้งสี่ต่างกฎสายธาตุให้สำเร็จมาโดยตลอด  อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะสามารถฝึกจนถึงระดับคอขวดอีกก้าวสุดท้ายก็จะทำได้สำเร็จ การหลอมรวมสี่กฎธาตุอย่างสมบูรณ์เป็นเรื่องที่ลินลี่ย์ยังไม่สามารถทำได้  เขาไม่สามารถเอาชนะกฎเกณฑ์นี้ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้สึกถึงการหลอมรวมพลังสี่รูปแบบอย่างสมบูรณ์และวิธีที่พลังเหล่านั้นสามารถควบคุมสวรรค์....

เหมือนกับประติมากรผู้แสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่างยากลำบากและจู่ๆ ก็พบเห็นรูปประติมากรรมของปรมาจารย์นักแกะสลักจึงเกิดความรู้แจ้งทันที  นี่คือสภาวะปัจจุบันของลินลี่ย์!

มังกรฟ้ามีคุณสมบัติธาตุน้ำ น้ำอ่อนหยุ่นนุ่มนวลสามารถโอบล้อมดูดกลืนทุกอย่างได้

พญาเต่าดำคุณสมบัติธาตุดิน ดินกว้างใหญ่หนักแน่น

พยัคฆ์ขาวคุณสมบัติธาตุลม  ลมที่ไร้รูปไร้ลักษณ์ปรากฏและหายไปไร้ร่องรอย

พญาหงส์เพลิงคุณสมบัติธาตุไฟ  ไฟเผาผลาญลุกโชนรุนแรงเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวรุนแรงไม่สามารถคาดเดาได้

กาลมิติบิดเบือนนี้ผสานกันจากดิน ไฟ น้ำและลม

เมื่อผู้ใดติดอยู่ที่คอขวดของการฝึกฝนเขาอาจใช้เวลาเป็นล้านล้านปีโดยไม่สามารถบรรลุผ่านไปได้  แต่เป็นไปได้ที่เขาจะบรรลุผ่านไปได้หลังใช้เวลาไม่กี่วันนี่จำเป็นต้องอาศัยโชค ต้องเกิดประกายความรู้แจ้ง ครั้งล่าสุดลินลี่ย์แค่มองดูการสู้รบเขายังไม่รู้สึกเข้าใจไม้ตายนี้ได้ลึกซึ้ง นอกจากนี้ก่อนนี้เขายังฝึกไม่ถึงระดับคอขวดในการหลอมรวมกฎทั้งสี่ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาไม่ได้รับความรู้แจ้งใดๆ

แต่บัดนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับไม้ตายกาลมิติบิดเบือน  ลินลี่ย์ที่ติดอยู่ที่ระดับคอขวดมานาน ได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ที่สะสมมานานนี้  ทุกอย่างถูกเตรียมไว้เพื่อเวลานี้และตอนนี้ที่เกิดความรู้แจ้ง ลินลี่ย์จึงเข้าใจได้ทันที

เขาเข้าใจ!

ตอนนี้ทุกอย่างแจ่มแจ้งสำหรับเขา!

แม้ว่าทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาอธิบายกันยืดยาว  แต่ในความเป็นจริงทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วแว่บเดียว  การรู้แจ้งฉับพลันนี้ใช้เวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้น

“หึ หึ ตายซะเถอะ” ออกุสตาหัวเราะเย็นชา ขณะที่แสงใสพุ่งมาถึงร่างของลินลี่ย์

“ครืน...”

ทันใดนั้นโลกเปลี่ยนแปลงขณะที่กฎธรรมชาติชะลอลงมา!

ลินลี่ย์ยิ้มขณะมองดูรังสีโปร่งแสงข้างหน้า  เขาผ่อนลมหายใจและกระบี่เงาโปร่งแสงโผล่ออกมาจากปากของเขา เมื่อมันปะทะกับรังสีแสงโปร่งใสข้างหน้า ก็แตกกระจายเป็นชิ้นๆ ทันที  เศษกระบี่แสงลดขนาดจนเล็กและบางหลังจากพุ่งต่อไปอีกเล็กน้อย ก็หายไปจากจักรวาล

สายตาของออกุสตาเต็มไปดวยความตกใจสุดขีด“เป็น...เป็นไปไม่ได้!”

“วืด...”ตาของลินลี่ย์ยิงกระบี่เงาโปร่งแสงอีกสองสายเนื่องจากความเร็วของพลังโจมตีวิญญาณของเขา ออกุสตาไม่สามารถหลบได้พ้น และกระบี่เงาโปร่งแสงทั้งสองจมเข้าไปในร่างของเขา

อย่างไรก็ตาม ออกุสตาไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด!

“พลังป้องกันวิญญาณของเขาทรงพลังขนาดนี้หรือ?”  ลินลี่ย์อดอุทานด้วยความประหลาดใจไม่ได้  ขณะที่เขามองดูรอบๆ  แก่นธาตุสี่ชนิดอยู่รอบๆ ตัวเขา  กฎธรรมชาติชะลอลงมาแล้ว และตอนนี้กำลังเปลี่ยนวิญญาณของเขา  “ถ้าข้าไม่พบเห็นไม้ตาย ‘กาลมิติบิดเบือน’ กับตัวเอง ใครจะรู้กันเล่าว่าจะต้องใช้เวลานานเพียงไหนกว่าข้าจะบรรลุระดับนี้ได้”

การบรรลุนี้ยากยิ่งกว่ากลายเป็นพารากอนเสียอีก  ดิน ไฟ น้ำและลม  กฎธาตุทั้งสี่และเคล็ดความรู้ลึกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  จะหลอมรวมทั้งหมดให้สมบูรณ์เป็นเรื่องยากมาก

แต่ลินลี่ย์ทำได้สำเร็จ “เมื่อกลายเป็นพารากอน คนผู้นั้นจะได้รับพลังปณิธานเป็นรางวัล  เป็นเรื่องยากมากขึ้นสำหรับข้ากับการหลอมรวมธาตุทั้งสี่เหล่านี้เข้าด้วยกัน และไม้ตายที่ทรงพลังในการโจมตีนี้จะมากกว่าพารากอนคนหนึ่งถึงสิบเท่า ข้าคิดว่าพลังปณิธานที่ข้าจะได้รับก็คงมากขึ้นด้วยเช่นกัน” ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าวิญญาณแต่ละส่วนของเขามีพลังเพิ่มขึ้น

เพราะลินลี่ย์เป็นเทพวิญญาณกลายสภาพเมื่อมีการบรรลุระดับใหม่ วิญญาณทุกร่างแยกจะพัฒนาพลังเพิ่มขึ้นไปด้วย

“เอ๊ะ?!”  ลินลี่ย์รู้สึกแปลกใจ  “นี่...” ตาของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความดีใจ “ข้าได้รับพลังปณิธานเพิ่มขึ้นอีกส่วนหนึ่งมากกว่าที่พารากอนได้รับถึงสองเท่า!”

แม้ว่าเขาจะคาดไว้ว่าปริมาณพลังปณิธานที่เขาจะได้รับคงมากกว่าที่พารากอนได้รับ แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะได้รับมากเป็นสองเท่า  นี่ทำให้ลินลี่ย์ประหลาดใจจริงๆ

เดิมทีเมื่อเขาประสบความสำเร็จกลายเป็นเทพวิญญาณกลายสภาพ  แม้ว่าเขาจะได้รับพลังปณิธาน  แต่ก็ไม่ถึงสองเท่าที่พารากอนได้  การเพิ่มพลังปณิธานเต็มส่วนในแต่ละครั้งจะทำให้พลังเพิ่มมากขึ้นถึงสิบเท่า

ลินลี่ย์สามารถบรรลุผ่านสภาวะคอขวดและถึงระดับเชี่ยวชาญอย่างสมบูรณ์ พลังในเคล็ดลึกลับของเขาจะเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า  แต่เมื่อได้รับพลังปณิธานเป็นสองส่วนด้วยเช่นกันนั่นหมายความว่าพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นถึงพันเท่าแน่นอน! ต้องเข้าใจว่าขณะที่ติดอยู่ในสภาวะคอขวดลินลี่ย์ก็มีพลังมากกว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตาถึงสิบเท่าอยู่แล้ว

พวกเขาเป็นระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  พวกเขามีระดับห่างกันหลายระดับ  ความแตกต่างระหว่างพวกเขาเหมือนกับฟ้าและดิน

“ลินลี่ย์ป้องกันได้จริงๆ หรือนั่น? ทำลายพลังโจมตีนั่นได้โดยไม่ต้องใช้ความสามารถอะไรหรือ?”  ประมุขมหาเทพวิถีมรณะและวิถีทำลายล้างรวมทั้งมหาเทพอื่นๆตกตะลึงกันหมด

“เมื่อครู่นี้พลังกฎธรรมชาติชะลอลงมา”  ประมุขมหาเทพวิถีมรณะพูดขึ้นทันที  “เจ้ากำลังจะบอกว่า..?”  ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างตะลึง

“ลินลี่ย์บรรลุพลังครั้งใหม่  มิฉะนั้นกฎธรรมชาติคงไม่ชะลอลงมาที่ตัวเขา  นอกจากนี้ไม่มีทางที่เขาจะเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วมากนัก ข้ามีความรู้สึกว่า... ลินลี่ย์ในปัจจุบันนี้ไม่ได้อ่อนแอกว่าเราเลย!” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะส่งสำนึกบอกเบาๆ

ความจริงในแง่พลังของปณิธานในฐานะวิญญาณกลายสภาพสี่สายธาตุมีประกายมหาเทพสามธาตุและพลังปณิธานสองส่วนที่ได้รับจากการหลอมรวมสี่ธาตุได้สมบูรณ์แบบลินลี่ย์มีพลังแข็งแกร่งมากกว่าประมุขมหาเทพธรรมดาถึงสิบเท่าเขาเทียบได้กับพารากอนในหมู่ประมุขมหาเทพ

ในแง่ของระดับวิชา ด้วยการหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับ  เขามีพลังมากกว่าพารากอนสิบเท่า ในแง่พลังพลังมหาเทพหลอมรวมมีมากยิ่งกว่ามหาเทพธรรมดาร้อยเท่า  จุดบกพร่องเพียงอย่างเดียวของเขาก็คือ..อาวุธจอมเทพของเขาไม่เหมาะกับเขา ดังนั้นเขาไม่สามารถปล่อยพลังของมันได้มาก แต่แม้อย่างนั้น พลังของลินลี่ย์ก็เพียงพอทำให้เขาไม่จำเป็นต้องกลัวประมุขมหาเทพสี่วิถีแม้แต่น้อย

“เจ้า..เจ้าทำได้ยังไง...” ออกุสตาจ้องมองลินลี่ย์อย่างเหลือเชื่อ

ลินลี่ย์มีพลังเพิ่มขึ้นทันทีพันเท่าพลังที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้ลินลี่ย์มั่นใจว่าจะเผชิญหน้ากับมหาเทพวิถีชะตาโอล็อฟได้  ตอนนี้ลินลี่ย์ไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด  ลินลี่ย์หัวเราะขณะมองดูออกุสตา  “ข้าสงสัยมาก ทำไมกาลมิติบิดเบือนของเจ้าถึงได้อ่อนแอมากกว่าที่ข้าคาดนัก!”

ทักษะเทพธรรมชาติหลอมรวมของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทำให้พลังของผู้ใช้เพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า ที่สำคัญสำหรับมหาเทพน้อยสามารถเทียบได้กับประมุขมหาเทพทุกคนก็สามารถคิดได้ว่ามีพลังมากเพียงไหน

ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างเองพูดว่าเมื่อพัฒนากาลมิติบิดเบือน  แม้ว่าพลังยังห่างจากที่สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ปล่อยออกมา  แต่ก็ยังเพิ่มขึ้นมากกว่าพลังเขาเองเป็นพันเท่า  แต่ออกุสตา

“ควั่บ!”  ร่างของออกุสตากระพริบวาบและพยายามหนี

“ควั่บ!” ร่างของลินลี่ย์กระพริบเช่นกัน และในทันทีเขามาปรากฏอยู่หน้าออกกุสตา เขากวาดหางใส่ตามปกติหางหวดใส่ร่างของออกุสตาอย่างรุนแรงส่งให้เขาปลิวกระเด็นไปไกล

เลือดสาดกระเซ็น แต่มีแสงเปล่งจากร่างของออกุสตา เลือดและหนังของเขารักษาสมานตัวทันที “เจ้า...ความเร็วของเจ้า?!”  ออกุสตาตกตะลึงสิ้นเชิง  ลินลี่ย์ในปัจจุบันนี้มีระดับแตกต่างจากลินลี่ย์ในอดีตสิ้นเชิง

“ข้าบอกเจ้าแล้ว  เจ้าจะไม่มีทางหนีไปได้”  ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ “เจ้ายังไม่ตอบข้าเลย  ทำไมกาลมิติของเจ้าถึงอ่อนแอนัก?”

ออกุสตาเมื่อเห็นความเร็วของลินลี่ย์  ก็ไม่มีความคิดจะหนีต่อไป  เขาแค่นเสียงเย็นชา  “อ่อนแอ? พลังของวิชานี้ต้องใช้เลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เท่าที่มี  โอล็อฟใช้เลือดบริสุทธิ์ไปมากกว่าข้าดังนั้นพลังจึงยิ่งใหญ่มากกว่า”

ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า  “เอาล่ะ จวนได้เวลาแล้ว  ถ้าข้าไม่ลงมือตอนนี้โอล็อฟจะมาถึงในอีกไม่นาน” เมื่อได้ยินเช่นนี้ หน้าของออกุสตาเปลี่ยน

“ลินลี่ย์”ประมุขมหาเทพวิถีชะตาโอล็อฟที่ตอนนี้เร่งรีบผ่านมิติปั่นป่วนมาทางพวกเขาด้วยความเร็วสูง  ได้ส่งสำนึกเทพบอกเขาอย่างแตกตื่น “ก็แค่เรื่องฟื้นคืนอิสรภาพให้มารดาเจ้าไม่ใช่หรือ  ก็ได้ข้าจะให้ออกุสตายกเลิกการผูกสัญญากับสระกำเนิดเทวดานั้น”

“โอล็อฟ, ดูเหมือนท่านจะกระวนกระวายมากนักนะ”  ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพกลับ  “เท่าที่ข้าจำได้ และในความเป็นจริงโอล็อฟท่านในฐานะเป็นประมุขมหาเทพวิถีชะตามักจะใช้เวลาหมกมุ่นกับการค้นคว้าอยู่ในอุทยานโอล็อฟแดนสวรรค์  เจ้าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับกิจการทางโลก  ไม่มีใครสามารถรบกวนท่านได้  แต่บัดนี้ เจ้ากระวนกระวายเสียแล้ว”

“เป็นธรรมดา เขาเป็นสหายที่ดีของข้า” โอล็อฟส่งสำนึกเทพกลับ  “ลินลี่ย์,ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำอะไรโง่ๆ ลงไป”

“แค่เป็นสหายที่ดีหรือ?” ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่ส่งสำนึกเทพตอบกลับ....และประมุขมหาเทพวิถีชะตาหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“เมื่อเห็นออกุสตาใช้ ‘กาลมิติบิดเบือน’ ข้าก็ตระหนักความจริงได้ เจ้าสาบานด้วยคำสาบานจอมเทพ ไม่มีทางที่เจ้าจะสอนกาลมิติบิดเบือนให้คนอื่นได้  แต่มีช่องโหว่อยู่อย่างหนึ่ง ถ้าเจ้ากับออกุสตาเป็นคนเดียวกันตั้งแต่แรก  อย่างนั้นความลับใดๆ ที่เจ้ารู้  เขาก็ต้องรู้”

ลินลี่ย์ถอนหายใจ “ความจริง, ถ้าข้าไม่รับทูตและได้รู้ถึงความคงอยู่ของเผ่าบูลา  ข้าคงไม่รู้ถึงความจริงนี้เร็วนัก  เมื่อข้าสู้กับออกุสตาครั้งแรกและตระหนักได้ว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่าสิ่งที่ข้าคาดคิด ข้าเริ่มสงสัยว่าเขาอาจมีร่างแยกมหาเทพอื่น  น่าเสียดายข้าไม่เคยคิดทั้งไม่กล้าคิดว่าเจ้ากับเขาเป็นคนๆ เดียวกัน!”

ประมุขมหาเทพวิถีชะตา โอล็อฟเงียบไปชั่วขณะ  จากนั้นพูดเสียงเบา  “ในเมื่อเจ้าคาดเดาเรื่องนี้ได้  เจ้าควรจะรู้สิ่งที่เจ้าทำ  ข้าไม่ต้องการ...ให้เจ้ากับข้ากลายเป็นศัตรูกัน!”

“ใช่, ข้ารู้ว่าควรทำยังไง”

ลินลี่ย์ยิ้มขณะที่เขาโบกมือ  กระบี่จอมเทพในมือของเขาฟันใส่อย่างสวยงามแสงสีหยกหนาหนึ่งนิ้วพุ่งเป็นแนวโค้งอย่างไปอย่างสวยงามและฉีกมิติหนาขนาดหนึ่งนิ้วตาม  แต่ไม่มีระลอกมิติ

พลังงานเข้มข้นระดับสุดยอด

วิชาที่ทรงพลังที่สุดของลินลี่ย์....กระบี่เจตจำนง!

“ฉัวะ”มีรูปรากฏบนศีรษะของออกุสตา ออกุสตาอ้าปากค้าง....แต่ไม่สามารถเปล่งเสียงได้อีกต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด