ตอนที่ 797 อสูรสงคราม
ป้อมพิทักษ์สมุทรปกคลุมไปด้วยรัศมีแพรวพราว
กองเรือรบหนาแน่นเหมือนกับฝูงตั๊กแตนรายล้อมป้อมรบเอาไว้ และแสงรังสีที่ยิงออกมาจากเรือรบเหมือนกับฝนที่เทลงมาต่อเนื่อง ป้อมพิทักษ์สมุทรไม่ได้เสียเปรียบ ลำแสงหนารุนแรงยิงออกมาเป็นประกายกระบี่โจมตีเรือที่รุมล้อมอย่างดุเดือด
เรือรบจะระเบิดให้เห็นเป็นครั้งคราวแสงสว่างวาบเหมือนดวงอาทิตย์สะท้อนประกายในทะเลพลังงาน เมื่อรัศมีแสงสลัวลงกลุ่มเปลวเพลิงสีส้มเหมือนกับดอกไม้บานตรึงซากเรือที่เหลือ
ทหารที่ถูกไฟไหม้ร้องโหยหวนและกระโดดออกจากเปลวเพลิงพุ่งลงทะเลพลังงาน
การสู้รบรุนแรง
หน้าของโกวเฉิงเวิ่นเต้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เขามองดูการสู้รบอย่างไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา
แม่ทัพที่รายล้อมเขากำหมัดแน่นและหน้าของพวกเขาซีดขาว สงครามปิดล้อมรุนแรงอย่างที่สุด ไม่มีทางถอย ไม่มีพื้นที่สำหรับแผนการคลื่อนไหว พื้นที่ทุกตารางนิ้วมีแต่การสู้รบเต็มไปหมด และจะชนะได้ก็โดยละเลงเลือดและมุ่งมั่นเท่านั้น
ไม่มีใครประเมินการสู้รบต่ำ และนอกจากนี้ศัตรูยังเป็นผู้มีชื่อเสียงผ่านการสู้รบ เซี่ยอวี่อันมีชื่อเสียงในทางตั้งรับ แต่ไม่มีใครคัดค้านการตัดสินใจของโกวเฉิงเวิ่นเต้าสำหรับทวีปกวงหมิง ทุกวินาทีมีค่าจนเขาต้องยอมเสียสละ
ป้อมพิทักษ์สมุทรเป็นแกนหลักที่มั่นคงมากและเป็นแนวป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของศัตรู เป็นฝันร้ายสำหรับทุกคนที่จะโจมตี แต่เมื่อตีแตกได้ แนวป้องกันทั้งหมดจะพังทลายและพวกเขาจะสามารถรุกเข้าทวีปซางโจวได้ทันที
ตั้งแต่แรกเริ่มเตรียมการ เขาไม่เคยคิดเรื่องป้องกัน และการเตรียมการทั้งหมดของเขามีขึ้นเพื่อโจมตี สำหรับการบาดเจ็บล้มตาย เขาไม่เคยสนใจอยู่แล้วเพราะเขารู้ว่าระดับสูงก็ไม่สนใจเช่นกัน
ตราบใดที่พวกเขาสามารถโค่นล้มทวีปซางโจวได้ในเวลารวดเร็วที่สุด จะไม่มีปัญหา
เวลาอย่างนั้นไม่ว่าอะไรก็คุ้มค่าถ้าพวกเขาเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาสั้นๆ
ตั้งแต่พวกเขาเริ่มเตรียมการแผนการของเขาทั้งหมดเกี่ยวกับเป้าหมายเช่นนี้ ในสายตาของคนอื่น โกวเฉิงเวิ่นเต้าบ้าและระห่ำ แต่น้อยคนนักจะทราบถึงการเตรียมการไว้ก่อนของเขา
เขาตรวจสอบอย่างรอบคอบถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดในการล้อมตีและทดลองการป้องกันและการโจมตีตอบโต้ที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่ทวีปซางโจวมี ในที่สุดก็ร่างเป็นแผนโจมตีแตกต่างกันได้ถึง 62แผน
ปัจจุบันพัฒนาการสู้รบไม่เหนือไปกว่าที่เขาคาด
เขาไม่ได้พอใจหรือทำเป็นตาบอดเอาแต่เชื่อมั่นในตนเองเกินไป ไม่ว่าแผนการจะแข็งแกร่งสักปานใดไม่มีทางครอบคลุมถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นหมื่นเป็นพันที่อาจเกิดขึ้นได้ในสมรภูมิรบ และเมื่อก้าวเข้าสู่สมรภูมิ เขาก็ต้องปล่อยให้การสู้รบของเขาเป็นไปในแบบบ้าระห่ำ
แต่ครั้งนี้การเตรียมตัวของเขาไม่ได้อะไรเลย
ในขั้นตอนแผนของเขาป้อมพิทักษ์สมุทรปรากฏขึ้นมามากกว่าครั้งหนึ่ง ภูมิภาคใต้มีป้อมป้องกันอยู่น้อยมาก และตำแหน่งยุทธศาสตร์ของป้อมพิทักษ์สมุทรทำให้มันมีความสำคัญมาก เพราะความสามารถต่อสู้ที่เป็นรองยืมความได้เปรียบจากพลังป้องกันของป้อม
ทวีปกวงหมิงได้แทรกซึมเข้าภูมิภาคใต้มาหลายปีและได้รับรายงานลับเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ และรู้ถึงความสำคัญอย่างยิ่งของป้อมพิทักษ์สมุทรที่มีต่อแง่ยุทธศาสตร์
“ถ้าเพียงแต่มันเป็นป้อมพิทักษ์สมุทรเก่านั้น” ทหารผู้ช่วยกล่าว
แม่ทัพนายกองอื่นพยักหน้า ก่อนที่เซี่ยอวี่อันจะเข้าควบคุม ป้อมพิทักษ์สมุทรมีการป้องกันที่หละหลวมอ่อนแอทำเหมือนกับเป็นคลังสินค้าเก็บอาวุธราคาแพง เวลานั้นฝ่ายข่าวกรองเคยรายงานเรื่องนั่น กล่าวว่ากองโจรสลัดใดๆก็สามารถโค่นป้อมปราการที่ฟุ่มเฟือยนี้ได้ง่ายๆ
เพียงแต่หลังจากเซี่ยอวี่อันเข้าควบคุมทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
หลังจากทวีปกวงหมิงสูญเสียข้อมูลดีๆไปสองสามอย่างพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องจัดระเบียบโครงสร้างสถานที่ใหม่ของเซี่ยอวี่อัน ในอดีตทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเช่นนั้นขณะที่เซี่ยอวี่อันยังเป็นใครอยู่ก็ไม่รู้ ดังนั้นจึงไม่มีใครใส่ใจ
แต่หลังจากสู้กับเขาไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของป้อมรบเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเขากังวลได้
ในเงื้อมมือของคนที่เอาแต่กินและรอความตายป้อมพิทักษ์สมุทรเป็นคลังสินค้าสีทองอร่าม แต่ในเงื้อมมือของแม่ทัพผู้ลือชื่อ คลังสินค้าที่ร่ำรวยและพิถีพิถันนี้สามารถเปลี่ยนไปเป็นป้อมรบที่น่ากลัว
เซี่ยอวี่อันผู้มีชื่อเสียงหลังการสู้รบเป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้ให้ข้อมูลทวีปกวงหมิง และรายละเอียดเกี่ยวกับเขาถูกส่งออกมาอย่างรวดเร็ว แม้แต่ในส่วนงานหาลำไพ่พิเศษของเขาเมื่อเขายังเรียนอยู่ก็ยังเป็นเรื่องที่ได้รับการศึกษาอย่างหนัก
เมื่อพิมพ์เขียวของป้อมรบสองสามชิ้นถูกส่งลงไปยังแนวหน้า แม้แต่โกวเฉิงเวิ่นเต้าที่ดูเหมือนเป็นคนไร้อารมณ์ที่ระหว่างคิ้วของเขาก็ยังมีอาการกระตุก ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจถึงความร้ายกาจน่ากลัวของป้อมพิทักษ์สมุทร
โกวเฉิงเวิ่นเต้าพยักหน้า “ชื่อเขาคู่ควรจริงๆ”
แม่ทัพนายกองที่รายรอบเขามองหน้ากันเอง พวกเขาติดตามเจ้านายมานานและรู้ว่าเจ้านายยากนักจะชมศัตรูของเขาได้ สามารถได้รับคำยกย่องจากเขาได้เป็นเรื่องยากจะพบเห็นได้
หลังจากนั้นชั่วขณะ ผู้ชายแม่ทัพรายงานอย่างตื่นเต้น “นายท่าน! เรือรบล้อมโจมตีเข้าประจำตำแหน่งแล้ว!”
“เริ่มการล้อมโจมตี” โกวเฉิงเวิ่นเต้าพูดอย่างเฉยเมย เขาอดถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ป้อมพิทักษ์สมุทรเป็นเหมือนเม่นในกระดองเต่าปล่อยให้เขาทำอะไรทุกอย่างตามใจอย่างช่วยไม่ได้
“ขอรับ!”
แม่ทัพนายกองที่ล้อมรอบมีสีหน้าตื่นเต้น มีสีหน้าคาดหวังว่าจะได้ดูการแสดงดีๆ กองเรือล้อมตีที่ช้าเป็นเต่าคลานมาถึงในที่สุดการทดลองที่พวกเขาได้ทำไว้ก่อนนั้นทำให้พวกเขารู้ว่าป้อมพิทักษ์สมุทรนั้นทนทานแค่ไหน
จิตวิญญาณในการสู้รบของโกวเฉิงเวิ่นเต้าไม่ใช่สิ่งที่จะลอกเลียนให้กลัวกันได้ ไม่มีความสงสัยในมาตรฐานของเซี่ยอวี่อัน แต่ขณะเดียวกันโกวเฉิงเวิ่นเต้าเองก็มีไม้ตาย
โกวเฉิงเวิ่นเต้ามีไม้ตายก็คือเรือรบล้อมตีที่เขานำมาด้วย
ป้อมพิทักษ์สมุทรได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับพวกเขา พวกเขาต้องกำจัดเสี้ยนหนามที่ฝังลึกในที่นี้และทิ้งไปอย่างไม่มีทางเลือก เขาตัดสินใจจากกองเรือรบล้อมโจมตีที่มีความหมายพิเศษเพื่อเอาชนะป้อมพิทักษ์สมุทรให้ได้
กองเรือรบล้อมโจมตีนี้มีเรือล้อมโจมตีขนาดใหญ่22 ลำ เรือล้อมโจมตีขนาดกลาง 70 ลำนับเป็นกองเรือที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด ถ้าเรือล้อมโจมตีมีความเคลื่อนไหวที่ช้า พลังป้องกันน้อยถูกลอบโจมตีนั่นคงจบกัน โกวเฉิงเวิ่นเต้าจึงนำกองเรือประเภทนี้มาด้วยตัวเอง ดังนั้นแม้ว่าจะมีความเร็วช้า แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรได้
‘ตอนนี้ ได้เวลาที่ข้าจะแสดงไม้ตายแล้ว’
ขบวนเรือรบขนาดใหญ่ค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้สมรภูมิ
กองเรือล้อมตีขนาดใหญ่ของทวีปกวงหมิงแตกต่างจากกองเรือล้อมตีขนาดเล็กที่โจมตีป้อมไพรกระบี่ กองเรือขนาดใหญ่เหล่านี้มีขนาดเหมือนเกาะลอยได้ และเป็นฝันร้ายของป้อมรบทั้งหมด
พวกมันเคลื่อนไหวกันช้ามากและพลังป้องกันก็อ่อนแอ แต่พลังยิงโจมตีของพวกมันรุนแรง อาจจะเกินจริงไปบ้าง เรือรบอื่นอ่อนแอไปเลยเมื่อเทียบกัน
เรือรบใหญ่ 22ลำเหมือนกับสัตว์ประหลาดขนาดมหึมา 22 ตัวกำลังอ้าปากใหญ่มหึมาไม่มีป้อมใดสามารถต้านทานการร่วมพลังโจมตีของพวกมันได้
เมื่อเรือล้อมโจมตีขนาดใหญ่เหล่านี้มาถึงสมรภูมิ ทั่วทั้งเขตรบเงียบลงทันที
แต่ไหนแต่ไรการรบระหว่างฝ่ายรุกกับฝ่ายรับไม่เคยหยุด
ป้อมรบถือความได้เปรียบในเรื่องพลังป้องกันทำให้กองทัพขนาดใหญ่ไม่ได้เปรียบ แต่พวกเขามีศัตรูโดยธรรมชาติ นั่นก็คือเรือล้อมโจมตี อาวุธสงครามเหล่านี้สร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีสิ่งก่อสร้างที่ใช้ป้องกันโดยเฉพาะปืนใหญ่มีอานุภาพยิงได้ไกลเป็นพิเศษ
ไม่ว่ากระดองเต่าจะแข็งทนทานปานใด พวกเขาสามารถทำลายให้แตกได้
ถ้าต้องพูดกันก็คือเรือรบสำหรับล้อมตีเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของป้อมรบ จากนั้นเรือล้อมโจมตีขนาดใหญ่เป็นอสูรร้ายสำหรับพวกเขาอย่างมิต้องสงสัย และเป็นฝันร้ายของป้อมรบทั้งหมด ดังนั้นเมื่อเซี่ยอวี่อันผู้เชี่ยวชาญในการตั้งรับเห็นอสูรสงครามกำลังใกล้เข้ามา สีหน้าของเขาอดเปลี่ยนไปไม่ได้
เป็นครั้งแรกที่ความเชื่อมั่นเด็ดเดี่ยวของเขาคลอนแคลน
ทหารรอบตัวเขาทุกคนตะลึงเป็นไก่ตาแตก สีหน้าทุกคนหวาดผวา
‘เรากำลังจะแพ้?’
เซี่ยอวี่อันมองดูอสูรสงครามร้ายที่คืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ หน้าของเขาซีด ไม่มีป้อมใดที่สามารถอยู่รอดปลอดภัยได้ภายใต้เรือรบล้อมโจมตีขนาดมหึมา 22ลำข้างหน้าเขา
เรือรบล้อมตีขนาดใหญ่คืออสูรสงครามดีๆนี่เอง แต่ยังเป็นอสูรร้ายกินทองอีกด้วย มูลค่าของเรือรบแต่ละลำมหาศาล พวกเขาไม่สงสัยเลยว่ามูลค่าใช้จ่ายที่ว่าแพงที่สุดในสงครามต้องหลบไป ทวีปกวงหมิงกำลังแสดงความมั่งคั่งจากเรือมหึมาทั้ง 22 ลำ
‘นี่คือความสิ้นหวังอย่างแท้จริง’
‘ความฝันที่จะกลายเป็นกองทัพทองของข้าจบลงเพียงเท่านี้หรือนี่?’
‘ความจริงข้าเองก็โลภเกินไป วันนี้ข้ามาจนถึงระดับนี้แล้ว และข้าไม่เคยยอมจำนนมาก่อนไม่ใช่หรือ?
‘ใช่แล้ว ข้าไม่ยอมแพ้ในลักษณะนี้’
‘เส้นทางนี้ไม่ง่ายเลย ข้าเดินผ่านความยากลำบากมากมายจนถึงที่นี่ สำหรับกองพลนางแอ่นของข้า จะมีมาถึงวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ’
ความฝันที่นึกไม่ถึงเมื่อครั้งในอดีตปรากฏขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในใจของบุรุษวัยกลางคน
แรงบันดาลใจที่ตายไปนานแล้วโชติช่วงขึ้นเหมือนอาทิตย์อุทัย อดีตที่ผ่านไปเขาเสียเวลาเปล่า ความรู้สึกเจ็บปวดนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เลือดที่เยียบเย็นมานานแล้วในที่สุดก็อุ่นขึ้นมาอีกครั้งเขาเริ่มมีความปรารถนาและกระตือรือร้นอีกครั้งเหมือนเมื่อสมัยที่เขาอายุน้อย
‘นั่นแหละ ข้าเป็นอย่างนี้โดยไม่รู้ตัว’
ปากของเซี่ยอวี่อันฝืนยิ้มได้ เขาเชิดหน้าอีกครั้ง ประกายเจิดจ้าในดวงตาเหมือนกับดวงอาทิตย์ฉายไล่ความมืดมัว
‘ต่อให้ข้าตายที่นี่ ก็ยังคุ้มค่า’
‘ดีกว่าตายอยู่บนเตียงคนป่วยรอลมหายใจเฮือกสุดท้าย
‘ดีกว่ากระเสือกกระสนไปตายในมุมมืดและกอดเข่าเสียใจกับชีวิตที่ผ่านมา’
‘ความฝันใครเล่าจะได้รับการเติมเต็มอย่างแน่นอน?’
‘ก็แค่การสู้รบของข้าไม่เคยหยุดเท่านั้นเอง’
“เตรียมตัวรบ”
เสียงอบอุ่นเป็นกันเองดังก้องไปทั้งป้อมพิทักษ์สมุทรทำให้ทหารที่สูญเสียกำลังใจเงยหน้าขึ้น
“ทุกท่าน,โปรดเตรียมตัวรบ”
เสียงที่คุ้นเคยของเจ้านายค่อยๆปลุกพวกเขาทุกคน
“การล้อมโจมตีจะต้องรุนแรงมาก ทุกคนต้องเตรียมใจไว้ให้พร้อม แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีโอกาส, หกชั่วโมง ตราบใดที่เราต้านได้หกชั่วโมงเรามีโอกาสกลับมาได้”
เสียงของเจ้านายดังอย่างใจเย็น เหมือนกับว่าเขาพูดเรื่องธรรมดา
แต่, จะมีโอกาสจริงๆหรือ?
หลายคนมีสีหน้าสงสัย ‘ทำไมเจ้านายถึงพูดว่าเรามีโอกาสในการเผชิญหน้ากับอสูรร้ายเหล่านั้น?’
“หกชั่วโมง ไม่ว่ายังไงก็ตามข้าขอร้องทุกคนช่วยข้ายืนหยัดปกป้องที่อีกหกชั่วโมง”
เสียงของเซี่ยอวี่อันไม่ได้บังคับหรือแข็งขืนแต่จริงใจ บุรุษที่สุภาพแต่มั่นคง บุรุษผู้คืบคลานได้ในโคลนและแช่ก้นร่วมกับพวกเขาทุกคน บุรุษผู้ไม่พูดอย่างหยิ่งยโส ไม่ว่ายังไงมักจะมองในแง่บวก
ก็อย่างผู้บัญชาการของพวกเขาทหารของกองพลนางแอ่นยังคงเงียบ พวกเขาไม่พูดอะไร พวกเขาไม่มีการอภิปรายใดๆ พวกเขากลับไปประจำตำแหน่งรบอย่างเงียบงัน เตรียมการรบที่จะมาถึงอย่างเงียบงัน
‘หกชั่วโมงใช่ไหม?’
‘งั้นมาป้องกันให้ได้หกชั่วโมง’