ตอนที่ 796 กองทัพแรกของแดนบาป
“พวกเจ้าทุกคนจะเม้มเอาไว้ทำไม!”
“ทุกคน, ยืนให้ถูกต้อง!”
……
ถังเทียนกำลังยืนอยู่บนหลังคาไม่ได้ดูฉากภาพวุ่นวายข้างล่างเขาเคี้ยวรากหญ้าเล่นในปาก ใช้แขนหนุนต่างหมอน ตาของเขาเหม่อมองท้องฟ้าสีเทา ไม่ได้คิดอะไร ‘รากหญ้าในแดนบาปโคตรแข็งพอๆกับลวด และรสชาติขมน่าขยะแขยง ไม่หอมและสดชื่นเหมือนกับที่อื่นเลย’
‘ข้าอยู่ในแดนบาปมานานเกินไปแล้ว สงสัยจริงว่าทุกคนกำลังทำอะไรอยู่...’
ถังเทียนมีท่าทางเหม่อตาของเขากลับมีประกายอีกครั้ง และเขากำหมัด
‘ทุกคน, อดทนรออีกนิด ข้าพบวิธีออกจากแดนบาปแล้ว!’
‘รอให้ข้ากลับมาก่อน!’
ทันใดนั้นถังเทียนลุกขึ้นยืนและกระโดดลงมาจากหลังคา
หน้าของฝูเจิ้งจือแดง เดี๋ยวบ่นตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้างเป็นครั้งคราว เขากำลังทำงานของเขาอย่างดีที่สุด เมื่อคิดถึงแผนต่อไปของท่านหน้ากากผีตลอดทั้งตัวเขาเต็มไปด้วยพลังงาน
กองทัพแรกของแดนบาป!
แค่เพียงชื่อก็พอทำให้เขาตื่นเต้นอย่างหนัก
จี๋เจ๋อมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นและเป็นคนหนุ่มที่เต็มไปด้วยศักยภาพที่ไม่จำกัด เขาสนใจการเพิ่มพลังส่วนบุคคลมากกว่าและไม่ค่อยสนใจเรื่องกองทัพ แต่ฝูเจิ้งจือต่างออกไป การเพิ่มความแข็งแกร่งและพลังของเขาถึงขีดจำกัดแล้วและเขายากจะก้าวหน้าได้อีก เขาไม่ได้เป็นคนโดดเดี่ยว มีตระกูลฝูคอยหนุนหลังเขา ดังนั้นความคิดของเขาจึงละเอียดและค่อนข้างกังวลมากกว่าจี๋เจ๋อ
เขายอมแพ้บุรุษหน้ากากผีครั้งก่อนเป็นเพราะสถานการณ์บังคับ ฝูเจิ้งจือไม่มีเจตนาใดๆต่อบุรุษหน้ากากผี เนื่องจากเขารู้ตัวดีถึงพลังอำนาจที่ยากจะหยั่งถึงของสี่เมืองใหญ่ แม้ว่าบุรุษหน้ากากผีและหน่วยสุญญตาจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อคิดเรื่องการตอบโต้จากทั่วทั้งแดนบาปแล้ว เขารู้สึกว่าบุรุษหน้ากากผีจะไม่สามารถชนะได้
เขารู้สึกกดดันมากกับอนาคตที่ไม่แน่นอน เหมือนกับว่าเขาสามารถเห็นผลที่ออกมาของเขาและของตระกูลฝู
จนกระทั่งบัดนี้ เมื่อท่านหน้ากากผีเรียกกองทัพทั้งเปิดเผยพลังที่น่ากลัวของมัน นี่เหมือนกับดวงอาทิตย์ฉายแสงทะลุเมฆที่มืดครึ้มทำให้เขามองเห็นความหวัง ความหวังของเขาและของตระกูลฝู
เขาพบว่าหน่วยสุญญตายังคงเป็นกองทัพหนึ่ง และเมื่อเห็นพวกเขาได้รับการดูแล เขาถึงกับตกใจอย่างหนัก แต่หน่วยสุญญตาก็ยังเป็นบุคคลภายนอกอยู่ดี และพวกเขามีหลายวิธีการที่ฝูเจิ้งจือยังคงไม่เข้าใจแท้จริงแล้วพวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน ผลสนองตอบของเขาก็คือหัวของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
หน่วยสุญญตายังไม่เพียงพอสำหรับเขา เนื่องจากแดนบาปเป็นสถานที่ซึ่งมีความสามารถในการสร้างกองทัพ
จนกระทั่งวันก่อน เมื่อท่านหน้ากากผีพาเขากับจี๋เจ๋อมาดูและประสบความสำเร็จในการสะท้อนผิวกฎธรรมชาติแสดงพลังที่น่าทึ่งทำให้เขาเข้าใจว่าแดนบาปกำลังจะเปลี่ยนไป เขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะนับว่าเป็นกองทัพได้ไหม หรือว่าตู้เค่อที่อยู่สนามพลังกฎธรรมชาติจะมีพลังมากเพียงไหน แต่เขารู้ว่าถ้ากองทัพที่พวกเขาสร้างสามารถท้าทายตู้เค่อได้ พวกเขาก็มีโอกาส
มันเป็นการเปิดเผย
เป็นเวลานานที่สุดแดนบาปมีความเข้าใจทั่วๆ ไปว่านักสู้ระดับสูงผู้ได้รับรู้แจ้งสนามพลังกฎธรรมชาติคือคนที่ไม่สามารถเอาชนะโดยอาศัยพวกมากได้ การเอาชนะสุดยอดฝีมือที่มีสนามพลังกฎธรรมชาติพวกเขาจำเป็นต้องมียอดนักสู้อีกคนหนึ่งเช่นกัน
แต่ตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ แต่ผลกระทบที่รุนแรงที่เกิดขึ้นกับฝูเจิ้งจือทำให้เขาไม่สามารถหลับได้ทั้งคืน เมื่อฝูเจิ้งจือเรียกความรู้สึกกลับมา เขารู้ได้โดยเร็วถึงโอกาสที่มีอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน
กองทัพแรกของแดนบาปการสร้างครั้งสำคัญ สัตว์ประหลาดจัดตั้งที่จะโค่นแดนบาปได้ทั้งหมด!
ไม่ว่าพวกเขาจะท้าทายตู้เค่อหรือไม่ก็แสดงให้เห็นพลังไร้เทียมทานกับอนาคตที่รุ่งเรืองเฉิดฉาย
การเป็นผู้บัญชาการกองทัพแรกของแดนบาปความคิดเช่นนั้นน่าสนใจมาก ‘ไม่สิ,เป็นผู้อาวุโสคนแรกเลย!’ จี๋เจ๋อไม่มีความสนใจเรื่องกองทัพ เขารู้สึกว่าที่นายท่านต้องการอย่างแท้จริงก็คือบริวารที่ขยันขันแข็งอย่างตัวเขาเอง
‘ความคิดของท่านหน้ากากผีไม่เคยคิดจะอยู่ในแดนบาป’
‘และกองทัพแรกของแดนบาปต้องอาศัยเกราะเทพเจ้าของนายท่านมีเพียงนายท่านที่ควบคุมพวกเขาได้ นั่นก็หมายความว่ากองทัพแรกของแดนบาปกลายเป็นบริวารสายตรงของนายท่าน!’
บทสรุปนี้แทบทำให้ฝูเจิ้งจือสำลัก
อนาคตที่สว่างไสวทำให้เขากระตือรือร้น
ตราบใดที่คนอย่างฝูเจิ้งจือผู้รับหน้าที่เป็นผู้นำมาหลายสิบปีทำใจของเขาได้ชัดเจน เขาคงจะได้แสดงทักษะและความสามารถของเขาได้ทันที เขาไม่ได้เลือกศิษย์จากตระกูลฝูเพราะความลำเอียง แต่เป็นไปตามมาตรฐานอันตราย และศิษย์ตระกูลฝูเพียงสามคนที่ถูกเลือกมาฝึกซ้อม
ตามมาตรฐานที่นายท่านมอบหมาย เขาเลือก 20 คนอย่างระมัดระวัง
นายท่านต้องการนักสู้ที่มีผิวกฎธรรมชาติสมบูรณ์ ในแดนบาป ผิวกฎธรรมชาติที่สมบูรณ์เป็นจุดที่จำเป็นสำหรับนักสู้ผู้แข็งแกร่ง ถ้ากฎธรรมชาติที่พวกเขาฝึกมาไม่เหมือนใครหรือถ้าพวกเขารับสืบทอดมาเฉพาะแบบพวกเขาสามารถทำให้ตัวเองอยู่ในรายชื่อนักสู้ในทำเนียบก็ได้
ส่วนใหญ่พวกเขาจะฝึกมาในกฎธรรมชาติทั่วไปและมีการสืบทอดกันตามปกติทำให้ไม่สามารถติดอันดับในทำเนียบนักสู้ได้ แต่ในตระกูลเล็ก พวกเขาเพียงพอจะเป็นแกนหลักได้
ในเมืองพายุ มีคน 50คนที่ได้คุณสมบัติตามนี้ แต่ฝูเจิ้งจือพอเห็นกองทัพแรกของแดนบาปแล้วเหมือนกับเป็นเป้าหมายในชีวิตของเขา สร้างมาตรฐานให้เฉียบขาดขึ้น เขาเป็นคนที่เห็นได้ชัดถึงคุณสมบัติของแต่ละคน เขาตัดพวกจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ออกไป แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจเรื่องกองทัพมากนัก แต่ก็ยังรู้ว่าการเชื่อฟังคำสั่งคืออะไร นอกจากนั้น ยิ่งอายุเยาว์ก็ยิ่งได้เปรียบ พวกเขาแสดงออกถึงความยืดหยุ่นและมีศักยภาพ
และด้วยเงื่อนไขเพียงแค่นั้นกองทัพแรกของแดนบาปจึงถือกำเนิดขึ้น
‘ท่านหน้ากากผีจะต้องยินดีมากกับผลงานของข้า’ ฝูเจิ้งจือถอนหายใจโล่งออก
“คนน้อยเกินไปหรือเปล่า?” จี๋เจ๋อถาม
ถังเทียนส่ายศีรษะ “ไม่เลย”
เขาไม่แน่ใจชัดเท่าใดว่าผิวกฎทั้งหลายจะเชื่อมโยงกับเกราะเทพเจ้าของเขาได้มากเท่าใด
‘ข้าไม่มีเวลาจะเสีย’ เขาโบกมือ
“มาฝึกขั้นสุดท้ายกัน!”
********************
บ้านสกุลตู้เป็นสถานที่อันดับหนึ่งในแดนบาป แต่ตู้เค่อไม่ชอบความสิ้นเปลือง ดังนั้นจึงดูเหมือนบ้านพักธรรมดา แต่ไม่มีใครกล้าดูแคลนแค่เพียงเพราะรูปร่างที่ทรุดโทรมอาคันตุกะทั้งหมดที่มาบ้านตระกูลตู้จะจอดรถโดยสารไว้สามช่วงถนนและเดินไปที่ประตูบ้านตระกูลตู้ด้วยความเคารพ ไม่มีเรือกล้าบินเหนือบ้านตระกูลตู้
พื้นที่โดยรอบของบ้านตระกูลตู้เป็นเขตสงวนห้ามมิให้บิน พลเมืองทุกคนผู้อาศัยอยู่ภายในบริเวณนี้เป็นพลเมืองสามัญที่ใช้ชีวิตตามปกติพยายามทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว พวกเขาทั้งหมดไม่กลัวศักดิ์ศรีของบ้านตระกูลตู้และการจราจรตามปกติของมนุษย์ไปตามถนน ทำให้พื้นที่นั้นมีชีวิตชีวามาก บ้านตระกูลตู้ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร
เมื่อตู้เค่อว่างเขาจะเพลิดเพลินกับการดื่มชาและใช้เวลาว่างในร้านน้ำชานอกบ้านเขา
ร้านน้ำชาขนาดใหญ่ไม่ได้สร้างห้องพิเศษให้เขาแต่อย่างใดและเจ้าของร้านไม่เคยเตรียมชาพิเศษให้เขาแต่อย่างใด และมีแม้บางครั้งเมื่อพวกเขายุ่งมากจนเจ้าของร้านเผลอเรียกเขาให้ช่วยรินน้ำชาให้แขกก็มี
แต่มันเป็นวันพิเศษวันหนึ่งเจ้านายทำถั่วทอดจานพิเศษอย่างกระตือรือร้น เพราะแม่นางตู้ซินหวี่
ตู้ซินหวี่ขอบคุณเจ้าของร้านที่กำลังโบกมือให้และยิ้มเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี
ตู้เค่อบ่นอย่างไม่พอใจ “แม้แต่ข้าก็ยังไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างนั้น”
ตู้ซินหวี่เป็นหญิงงดงามนางมีผมยาวสลวยนั่งอยู่ด้านตรงข้ามตู้เค่อใช้มือทั้งสองประคองแก้วชาใบใหญ่อยู่เงียบๆนางเริ่มจิบชาช้าๆ นางคร้านจะเถียงคำพร่ำบ่นของพี่ชายนาง
‘เพราะเขาขอชาข้า ก็ต้องมีบางอย่าง’
“ตระกูลซูพ่ายแพ้” ตู้เค่อกล่าว
ตู้ซินหวี่ไม่เงยหน้า นางรู้ว่านั่นไม่ใช่จุดใหญ่ใจความต่อให้ตระกูลซูทั้งหมดถูกทำลาย พี่ชายนางก็คงไม่สนใจ
“ตระกูลซูส่งนักสู้ที่แข็งแกร่งสี่คนซึ่งมีอันดับอยู่ในทำเนียบนักสู้ไป” ตู้เค่อยกถ้วยชาข้างหน้าเขาและดื่มรวดเดียว “หลูเซิงเซียงและฉินเจิ้นตาย,ซูเฟยถูกจับและทาสมรณะหนีไปได้ แต่แม้ด้วยพลังชีวิตอึดสุดท้ายที่เขามี ข้าคิดว่าเขาคงอยู่ได้ไม่นาน”
ตู้ซินหวี่ยังคงจิบชาของนางต่อ สถานการณ์เช่นนั้นอาจดูเหมือนตกอยู่ในมือของคนอื่น แต่สำหรับตู้ซินหวี่ ยังไม่มีอะไรมาก ‘ถ้าพี่ของนางเคลื่อนไหว จะไม่มีใครรอดเลย’
“ศัตรูของพวกเขาคือหน่วยสุญญตา”
ตู้ซินหวี่หยุดและเงยหน้าขึ้น “กองทัพ?”
ตู้เค่อดีใจเมื่อเห็นว่าน้องสาวของเขาจับปมของเรื่องได้ “ใช่แล้ว เป็นกองทัพ ถ้าว่ากันเรื่องจำนวนชัยชนะนี้ก็คงไม่น่าชื่นชมเลยจริงๆ หน่วยสุญญตาระดมกำลังหนึ่งพันคนขึ้นไป และพวกเขาได้รับบาดเจ็บบางส่วน แต่พันคนเหล่านี้แค่รู้แจ้งสายใยกฎธรรมชาติ”
“มือสมัครเล่นพันคนที่รู้แค่เพียงการใช้สายใยกฎธรรมชาติเอาชนะสี่นักสู้ในทำเนียบนักสู้ได้น่ะหรือ?” ตู้ซินหวี่สรุป
“ไม่,แค่สอง” ตู้เค่อส่ายศีรษะ “ทาสมรณะสู้กับสวี่เย่,ทั้งสองคนความจริงฝีมือพอกันและสวี่เย่ได้แรงสนับสนุนจากแหวนหัวแม่มือมรณะและกุมความได้เปรียบ ฉินเจิ้นถูกสตรีผู้ใช้กระบี่ฆ่าตาย แต่นายใช้เคล็ดการฟัน และทุกท่าที่นางใช้จะปล่อยพลังสายรุ้งข้าคิดว่าข่าวลือเรื่องเกิดสายรุ้งขึ้นในเมืองจื่อจวนมีทางเป็นไปได้ที่ปลดปล่อยออกมาจากนาง และคนที่พ่ายแพ้ในเงื้อมมือของหน่วยสุญญตาจริงๆก็คือหลูเซิงเซียงกับซูเฟย”
ตู้ซินหวี่ถาม “พวกเขาทำได้ยังไง พวกเขาใช้พวกมากเพื่อชดเชยการรู้แจ้งของพวกเขาหรือ?”
ในแดนบาปช่องว่างระหว่างขอบเขตไม่สามารถทำให้เต็มได้ด้วยจำนวน นั่นเป็นความรู้พื้นฐานอย่างที่สุด นักสู้ผู้ได้รับการรู้แจ้งผิวกฎธรรมชาติจะกดข่มนักสู้ผู้รู้เพียงสายใยกฎธรรมอย่างสิ้นเชิง ผิวกฎธรรมชาติ, สนามพลังกฎธรรมชาติความแตกต่างทุกระดับคือช่องว่างที่ไม่สามารถข้ามได้
นี่คือความเหลื่อมล้ำทำให้เกิดระบอบต่างๆในแดนบาป
แดนบาปมีเพียงผู้ปกครองคนเดียว และนั่นก็คือบุรุษผู้ดื่มชาตู้เค่อ สี่เมืองใหญ่เป็นเพียงผู้ปกครองในนาม แต่ในความเป็นจริงพวกเขาเบื่อให้ตู้เค่อปกครอง จึงได้แบ่งอำนาจในการปกครอง
ตู้ซินหวี่รู้เรื่องนั้นชัดเจน ถ้าจำนวนสามารถทำลายความเหลื่อมล้ำ นั่นก็หมายความว่าโครงสร้างของระบบของแดนบาปจะล่มสลายโดยสิ้นเชิง และตำแหน่งของตู้เค่อจะไม่มั่นคง
สถานะของเขาในฐานะบุรุษอันดับหนึ่งได้รับการเคารพและปกป้องอย่างดีแต่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องห้าม
ตู้เค่อไม่เคยดูแคลนสติปัญญาของน้องสาวเขา ไม่ต้องกลัวว่าอำนาจของเขาจะสั่นสะเทือนแต่เขากลับชื่นชมแทนว่า “พวกเขาแข็งแกร่งจริงๆถึงขนาดว่าคนมีคนต้องการหยุดพวกเขา การระดมพลังของพวกเขาและการร่วมพลังกันเหนือกว่าที่เราคาดไว้มาก แม้ว่าพวกเขาจะรู้แจ้งเพียงสายใยกฎธรรมชาติ แต่ว่าร่างของพวกเขาทรงพลัง รูปแบบของพวกเขาก็คือใช้การตัดฟัน แต่แฝงไปด้วยพลังมหาศาล พวกเขาโจมตีเหมือนคลื่นโถมระลอกแล้วระลอกเล่าเร็วจนถึงจุดที่ผู้คนตะลึง หลูเซิงเซียงพ่ายแพ้ในลักษณะนั้น ซูเฟยก็เช่นกัน แม้ว่าการโจมตีของคู่ต่อสู้นางจะมีพลังทะลุทะลวง แต่พวกเขาก็ทำได้พร้อมกันอย่างเป็นธรรมชาติ
“พวกเขาทำได้ยังไง?” ตู้ซินหวี่อดย้อนถามไม่ได้
“กฎธรรมชาติ” ตาของตู้เค่อเป็นประกาย “ผู้บัญชาการของพวกเขาตาบอด แต่กฎธรรมชาติของเขาพิเศษไม่เหมือนใคร มีแนวเส้นดำหลายเส้นเหมือนกับชักใยแมลงมุม เขาใช้ใยที่มองไม่เห็นนี้ควบคุมและโจมตี”
จากนั้นตู้ซินหวี่เข้าใจตู้เค่อ “ดังนั้นท่านต้องการให้ข้าสร้างกองทัพ?”
“ถูกแล้ว!” ตู้เค่อไม่ปิดบังความตั้งใจ “กฎธรรมชาติของเจ้าเหมาะกับการสู้เช่นนั้นโดยธรรมชาติ จะเป็นยังไง ถ้าแดนบาปมีกองทัพครั้งแรก จะยิ่งใหญ่เพียงไหน”
“แล้วท่านเล่า?” ตู้ซินหวี่ถาม
“ข้าจะเป็นผู้ช่วยเจ้า” ตู้เค่อพูดอย่างประหลาดใจ เขาเองก็มีความคิดเรื่องกองทัพ
“ข้าเข้าใจ” ตู้ซินหวี่พยักหน้า
“งั้นเจ้าก็เห็นด้วย?” ตู้เค่อไม่ปิดบังความตื่นเต้นของเขา เขารู้ว่าไม่ง่ายที่จะโน้มน้าวน้องสาวของเขา
“ตอนนี้ข้าจะต้องเป็นผู้ช่วยเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของท่าน”
ตู้ซินหวี่ยืนขึ้นมองเห็นหลังที่งดงามของนาง
“คิดเงินด้วย”