ตอนที่ 793 ขุนพลดินศักดิ์สิทธิ์ น้ำตาอาหมัน
ข้อมูลที่ปรากฏในคัมภีร์อัญเชิญทำให้เย่ว์หยางรู้สึกเหลือเชื่อ
อาหมันที่ไม่เคยเลื่อนเป็นอสูรเทพพอได้เลื่อนเป็นอสูรเทพครั้งแรกก็มีประกายเทพเลย
แม้แต่ตั่วตั่วนางพญาดอกหนามมงกุฎทองที่มีการวิวัฒนาการไม่หยุดหย่อนสาวมังกรไร้เขาผู้รับมรดกพลังจากเทพมังกรทอง อาหงกับอิคคาซึ่งได้รับเลือดเทพ อสูรทองน้อยที่เย่ว์หยางพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆฮุยไท่หลางที่เย่ว์หยางฝึกมันขึ้นมาด้วยตนเองหรือเทพธิดาหิมะที่หลอมรวมเข้ากับคัมภีร์แห่งสัจจะและนางพญาซัคคิวบัสของนางเซียนหงส์ฟ้า
ที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนแต่เลื่อนระดับเป็นอสูรเทพก่อนอาหมัน
มีร่างมนุษย์สมบูรณ์แบบมากกว่า
แม้แต่อสูรเทพรวมกันหรือบางทีรวมทั้งอสูรเทพในตำนานอย่างเสี่ยวเหวินหลีก็ยังไม่สามารถได้รับพลังเทพ...”ตอนนี้โคเงาอาหมันที่ไม่มีใครคิดได้เลยว่านางจะโดดเด่นขึ้นในท่ามกลางอสูรพิทักษ์มากมายเป็นอสูรตนแรกที่มีประกายเทพ
การหลอมรวมกับพลังศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ ทำให้นางเป็นอสูรตนเดียวที่มีประกายเทพขุนพลเทพดิน
ขุนพลเทพดินหนึ่งในห้าเทพขุนพลห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์
ด้วยพลังปัจจุบันของอาหมันอย่าว่าแต่ขุนพลเทพเลย แค่เทวทูตก็ยังไม่มีคุณสมบัติเทียบเคียงกับนาง
อย่างไรก็ตามอาหมันนับว่าโชคดีมาก นางพบเจอแหล่งพลังความรู้และประกายเทพที่นักรบรุ่นก่อนทิ้งไว้ก่อนตาย เย่ว์หยางไม่รู้ว่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนนั้นตายได้อย่างไรเพียงแต่รู้ว่าขุนพลเทพดินก่อนตายนางได้ทิ้งพลังและประกายเทพของนางไว้ที่บันไดสวรรค์
“ผู้เยาว์รุ่นหลังที่สืบทอดพลังและประกายเทพของข้าโปรดตามหาลูกหลานขุนพลเทพห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ หลังจากทำเช่นนั้นจึงจะใช้พลังเทพธาตุดินที่แท้จริงได้หลังจากปลุกพลังเทพธาตุดินได้แล้ว โปรดกลับไปที่แดนสวรรค์ยึดตำหนักดินคืนบางทีคำขอเช่นนี้อาจจะมากเกินไป ข้าขอตกทอดพลังและประกายเทพให้เจ้าจงทำตามอย่างเคร่งครัด แต่ข้าไม่มีเวลาไต่ขึ้นไปตามบันไดสวรรค์ชั้นสูงๆ ได้ จึงได้แต่หาคนรุ่นหลังที่แข็งแกร่งมากกว่าเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ให้สำเร็จ นอกจากที่เจ้าจะได้รับสืบทอดพลังและประกายเทพของข้าแล้วบางทีนี่อาจเป็นชะตาที่มืดมิดของเจ้าก็ได้ ลูกหลานข้า! โลกจะไม่พินาศอย่างแน่นอนจงใช้พลังของเจ้าให้ดี! ขุนพลเทพเป็นแค่เส้นทางการเริ่มต้นของเทพ ในระดับเหนือขึ้นไปกว่านั้นยังประกายเทพที่สูงและแข็งแกร่งกว่ารอเจ้าอยู่หวังว่าเจ้าจะสามารถได้รับพลังธาตุดินได้เลื่อนเป็นเทพและราชาเทพทั้งได้รับตำแหน่งสูงสุดยอดขออวยพรลูกหลานของข้า ขอพลังธาตุดินจงสถิตอยู่กับเจ้า”
“โอวพระเจ้า มีเทพอยู่ในโลกจริงๆด้วย!” ราชันย์ปีศาจใต้มองดูและอุทานออกมา
“อาหมันยอดเยี่ยมจริงๆ!” เย่ว์ปิงอดอิจฉาไม่ได้
“ดูเหมือนว่าจะไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไรเลยหรือ?”เย่ว์ปิงหันไปมองอาหมันที่ยังอาบแสงศักดิ์สิทธิ์ และรู้สึกว่าผิดปกติเล็กน้อยปกติอสูรอื่นที่เลื่อนขึ้นเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ อาจมีสีหน้าจริงจังเกิดแผ่นดินไหวสะเทือน เห็นสภาพธรรมชาติพลิกฟ้าคว่ำดินอาหมันจะเกิดความรู้สึกอะไรกับการเห็นภาพเช่นนี้บ้างไหม
“บางทีอาจไม่ใช่เป็นการตื่นอย่างสมบูรณ์อาจเป็นเพราะว่าร่างของนางผิดแผกไปจากธรรมดาอยู่บ้าง”อู๋เหินคิดว่าอาหมันเดิมทีเป็นร่างหลอมรวมของเงาปีศาจ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างก็เหมือนกับการแบ่งส่วนแบ่งผลประโยชน์ในร่างกายนางนอกจากนี้ยังมีพลังธาตุดินที่ไม่รู้จักหมดสิ้นหลอมรวมกับพลังห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์น่าจะทำให้แตกต่างจากคนอื่น” มีแต่เย่ว์หยางที่ตระหนักถึงความผิดปกติ
ในการเชิญก็คือบันไดสวรรค์
โลกบันไดสวรรค์ทั้งหมดก็คือโลกพฤกษาที่มิอาจจินตนาการได้
ตอนนี้เมื่ออาหมันหลอมรวมกับพลังห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งโลกสั่นสะเทือนเล็กน้อย
โลกทั้งโลกสั่นสะเทือนเล็กน้อยนี้หมายความว่าอย่างไร? โลกในบันไดสวรรค์กำลังสั่นสะเทือน? พลังแบบไหนกันที่สามารถทำให้โลกบันไดสวรรค์ทั้งหมดสั่นสะเทือนได้? การสู้ของนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าแม้จะลึกเข้าไปในบันไดสวรรค์นี้ภายใต้ข้อห้ามจากพลังศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วน โลกในบันไดสวรรค์ทั้งหมดไม่อาจจะทำลายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบันไดสวรรค์นั้นแข็งและยืดหยุ่น!
แน่นอนว่าแม้จะเป็นแรงสั่นสะเทือนน้อยนิดแต่ก็เป็นพลังตอบสนองที่เหลือเชื่อ
เมื่ออาหมันหลอมรวมกับพลังห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ของเสาห้าธาตุแล้วจึงทำให้ทั่วทั้งบันไดสวรรค์สั่นสะเทือน เมื่อคิดดูนั่นจะต้องเป็นพลังที่เหลือเชื่อขนาดไหน
มีแต่พลังเทพจึงจะสามารถไปได้ระดับนั้น
แสงศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆจางหายไป
ร่างของอาหมันค่อยๆปรากฏต่อสายตาทุกคน
ครั้งนี้นางแตกต่างไปจากปกติบ้าง เขาบนศีรษะนางมีขนาดเล็กลงและดูสวยงามกว่าเดิมและเป็นประกายเหมือนหยกงอกพ้นผมสีดำมีรัศมีสีรุ้งกระจ่างดูศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขามสง่างามจนอธิบายไม่ถูก
เกราะทองของนางแตกกระจายเป็นเสี่ยงและปรากฏเป็นร่างงดงามผุดผ่อง
ใต้เท้าเรียวงามเหยียบอยู่บนโล่แสงทอง
หมีทองเจ้าปฐพีที่เป็นเงาจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์กลับระมัดระวังตัวมากขึ้นมันกลายเป็นเหมือนลูกหมีน้อยคุกเข่าและคำนับเจ้านายคนใหม่ นอกจากนี้มันจะกลายเป็นอสูรพิทักษ์ของอาหมันแม้ว่าแท้จริงนั่นคือเงาปีศาจ แต่ด้วยจิตสำนึกของขุนพลเทพดินศักดิ์สิทธิ์รุ่นก่อนและเป็นการดูดซับพลังศักดิ์สิทธิ์ของอสูรพิทักษ์รุ่นปัจจุบัน อาหมันจึงมีเอกลักษณ์ตนเองอยู่ครึ่งหนึ่งการย้ายพลังจึงทำให้มันเป็นหมีแพลตตินัมจ้าวปฐพีปากของมันเริ่มหลอมรวมกับพลังเสาห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์ไปได้ในปริมาณน้อย แต่มันไม่เพียงแต่ไม่อ่อนแอเท่านั้นยังมีพลังเท่ากับปราณฟ้าระดับห้า ทั้งมีศักยภาพจะได้เลื่อนระดับได้อีกต่อไป
กระดิ่งทองทั้งเจ็ดที่แต่เดิมแขวนอยู่ที่คอของอาหมันก็ลอยไปประดับอยู่ที่ข้อมือซ้าย
ที่ข้อมือขวาของนางสวมห่วงทองที่ได้จากวิหารทอรัส
เข็มขัดยักษ์ที่คาดเอวนางคลายตัวออกและลอยขึ้นคลุมร่างศักดิ์สิทธิ์ของอาหมันไว้พอดี พลังห้าธาตุในเสาห้าธาตุถูกปลดผนึกอย่างสมบูรณ์ส่องแสงเจิดจ้าจับตา
“อาหมัน!” อี้หนานอดร้องเรียกอย่างตื่นเต้นมิได้
หลังจากร้องเรียกแล้วนางกังวลเล็กน้อยทันที
ตอนนี้อาหมันไม่ใช่อาหมันคนเก่าอีกต่อไปตอนนี้นางเป็นขุนพลเทพดินที่มีประกายศักดิ์สิทธิ์ในตัว!
อาหมันได้ยินเสียงร้องเรียกจากเดิมที่ยังหลับตา นางลืมตาทันทีพร้อมกับพลังเทพกระจายรอบตัวคลุมไปทั้งจุดพักอย่างน่าตกใจ รัศมีเทพฉายผ่านสายตามนุษย์สั่นสะท้านหัวใจและวิญญาณทั่วหล้าเหมือนกับว่าตนเองได้รับการเทิดทูนบูชาจากโลก ไม่มีใครล่วงเกินสง่าราศีเทพได้
ประการแรกกระดิ่งทองกำไลทองและเข็มขัดทองลอยขึ้นข้างหน้าทีละชิ้นๆ และสวมเข้ากับร่างศักดิ์สิทธิ์ คัมภีร์อัญเชิญชั้นแพลตตินัมปรากฏและเรียกหมีจ้าวปฐพีกลับเข้าไป
จากนั้นก้าวเดินเพียงก้าวเดียวก็ทำให้แม่น้ำและภูเขาสั่นสะเทือนได้
เย่ว์ปิงและอี้หนานตกใจทั้งคู่
จิตสำนึกของพวกนางถูกพลังเทพของอาหมันครอบงำพวกนางจับมือและสั่นพลางตะโกน “ไม่เอานะ, อาหมัน!อย่าทำอย่างนี้...”
แม้ว่าตอนนี้อาหมันจะกลายเป็นขุนพลเทพดินที่มีประกายเทพและมีศักดิ์ราศีระดับสูง แต่พวกนางยังหวังว่าอาหมันจะสามารถอยู่ร่วมกันได้กับพวกนางเหมือนแต่ก่อนไม่ใช่น่ากลัวอย่างตอนนี้
อาหมันสามารถเดินตรงเข้ามาหาและจ้องมองเย่ว์หยาง
นางจะไปจากพี่ชายหรือ?
หลังจากเลื่อนระดับเป็นขุนพลเทพนางจะทรยศพี่ชายและพ้นจากสภาพอสูรพิทักษ์หรือเปล่า?
เย่ว์ปิงคิดเช่นนี้ก็ยิ่งตื่นตระหนกในใจนางขวางอยู่ข้างหน้าเย่ว์หยางพลางตวาดลั่น “อาหมัน, ไม่นะ, ขุนพลเทพดิน เจ้าสามารถไปได้แต่เจ้าจะทำร้ายพี่ชายไม่ได้ เจ้าไม่อาจทำเช่นนั้น แม้ว่าเจ้าจะเป็นอสูรพิทักษ์ของพี่ชาย ตอนนี้เจ้าได้ประกายเทพไปแล้วถ้าเจ้าต้องการอิสระ เจ้าก็ไปได้เลย แต่ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทำร้ายพี่ชาย!”
ไม่ว่าอาหมันจะทรงพลังมากแค่ไหน ตราบใดที่นางจะเข้าไปหาพี่ชายนาง เย่ว์ปิงตั้งใจแน่วแน่ว่าจะสู้กับนางจนถึงที่สุดแม้ว่าจะเผชิญกับความตายอยู่ข้างหน้า นางจะไม่ยอมให้อาหมันผ่านนางไปได้
อาหมันเหยียดมือแผ่แสงศักดิ์สิทธิ์
เย่ว์ปิงลอยไปอยู่ด้านข้างอย่างช่วยไม่ได้ นางไม่ใช่คู่มือ
เมื่อนางเม้มปากด้วยความโกรธนางทุ่มเทท่าร่างกลับพุ่งกลับหาอาหมัน และพบว่าอาหมันคุกเข่าอยู่ต่อหน้าพี่ชายนางแต่หมัดของนางกำลังจะต่อยใส่อาหมันอย่างควบคุมไม่ได้ ยังดีที่เย่ว์หยางสกัดหมัดนางไว้ได้
“นายท่าน”อาหมันเงยหน้าและทุกคนเห็นว่าใบหน้านางเต็มไปด้วยน้ำตา “อาหมันเป็นอสูรเทพได้แล้วอาหมันเปลี่ยนเป็นมนุษย์ได้แล้ว!”
“เจ้าพยายามอย่างหนักเหลือเกิน!” เย่ว์หยางยื่นมือเช็ดน้ำตาอาหมันซ้ำๆ อย่างอดทนแต่อาหมันยิ้มเหมือนกับเด็กที่หลงทางอยู่ในโลกมืดบอดและได้พบเห็นพ่อแม่นางร้องไห้เหมือนเด็กเป็นเสียงร้องที่ออกมาจากหัวใจและวิญญาณที่บริสุทธิ์เสียงดังก้องไปทั้งโลกบันไดสวรรค์
เย่ว์ปิงรู้สึกละอายใจเล็กน้อยยื่นมือกอดและขอโทษนาง ทุกคนรายล้อมอาหมันพร้อมกับกล่าวขอโทษนาง
จนถึงตอนนี้นางโล่งใจไปโดยปริยาย
อาหมันจะไม่มีทางทรยศและไปจากพี่ชายนางนางคืออสูรพิทักษ์ของพี่ชาย ไม่ว่านางจะกลายเป็นขุนพลเทพหรืออะไรอย่างอื่นเรื่องนี้จะไม่มีทางเปลี่ยน
แน่นอนว่านางมีบางอย่างที่นางไม่เข้าใจตัวอย่างเช่นอาหมันกลายเป็นอสูรเทพ ด้วยประกายเทพอย่างนี้นางร้องไห้เศร้าโศกขนาดนั้นได้อย่างไร นางควรจะมีความสุขไม่ใช่หรือ? เย่ว์ปิงไม่เคยมีความรู้สึกเหมือนอาหมัน นางไม่มีทางเข้าใจโคเงาเถื่อนที่อัปลักษณ์มีการเปลี่ยนแปลงเป็นมนุษย์และฝึกฝนหนักหน่วงอย่างต่อเนื่องอาหมันไม่เคยเข้าใจมาก่อน แต่นางไม่มีภาวะอารมณ์อย่างเพียงพอและนางไม่แสดงออกมาทางสีหน้า
การเปลี่ยนไปเป็นร่างมนุษย์ของอาหมันต่างจากตั่วตั่วตั่วตั่วเปลี่ยนไปเป็นร่างมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์แบบ
เทียบกันแล้วการเปลี่ยนไปเป็นร่างมนุษย์ของอาหมันนับว่าเร็วมากแน่นอน
อย่างไรก็ตามในบรรดาอสูรพิทักษ์ของเย่ว์หยางนางไม่อาจเทียบได้กับตั่วตั่ว อาหง ยิ่งเทียบไม่ได้กับเสี่ยวเหวินหลีในทุกด้าน
นางเป็นโคเงาผู้อัปลักษณ์และมองว่าระดับอสูรเทพนั้นยากเย็นแสนเข็น
นางมีวันนี้ได้ด้วยความพยายามและการสนับสนุนจากเจ้านายเมื่อระลึกถึงความเป็นไปได้ในทุกวิถีทางนางรู้สึกเศร้า เจ็บปวดแต่ก็มีความสุขแล้วจะไม่ให้นางร้องออกมาดังๆ ได้อย่างไร? นอกจากนี้หลังจากร้องไห้ครั้งนี้แล้วอาหมันจะไม่มีทางร้องไห้อีก เพราะต้องกลายเป็นขุนพลเทพธาตุดิน ผู้ช่วยคนสำคัญที่สุดที่ขยันขันแข็งที่สุดของเจ้านายก็คืออาหมัน..” เมื่อได้ยินเสียงอาหมันร้องไห้ระบายความอัดอั้นตันใจ ทุกคนรู้สึกตื้นตันใจ
อี้หนานและเย่ว์ปิงต่างกอดกันและอดลอบเช็ดน้ำมิได้
เย่ว์หวี่และอู๋เหินทำตาแดงพวกนางอดปลอบใจอาหมันไม่ได้ ราชันย์ปีศาจใต้ลอบกำหมัดและสาบานว่านางจะพยายามให้มากขึ้น! ที่อยู่ข้างเคียงเขาไม่ใช่แค่สตรีที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แม้แต่อสูรของเขาก็ยังยอดเยี่ยมพากเพียรมิย่อหย่อนนางเกรงว่าถ้านางไม่เพิ่มความพยายาม คงจะถูกทิ้งท้ายไว้ห่างไกล!