ตอนที่ 792 พลังศักดิ์สิทธิ์เสาห้าธาตุ อาหมันเปลี่ยนไป
บันไดสวรรค์ขั้นที่พัน
เมื่อเย่ว์หยางและราชันย์ปีศาจใต้มาถึงขั้นที่พันพวกเขาพบว่าอาหมันกำลังสู้
ศัตรูของนางก็คือหมีจ้าวปฐพีอสูรทองสูงสิบเมตร สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางประหลาดใจอย่างมากก็คือหมีจ้าวปฐพีระดับทองนี้มีพลังแข็งแกร่งของเงาจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าระดับขั้นที่พัน เย่ว์หยางมองดูด้วยตาทิพย์และญาณทิพย์เห็นว่าหมีจ้าวปฐพีชั้นทองนี้มีพลังความแข็งแกร่งอย่างน้อยเทียบปราณฟ้าระดับห้าขึ้นไปถ้าเทียบกับผู้อาวุโสตำหนักกลางแล้ว เย่ว์หยางคิดว่าหมีจ้าวปฐพีนี้ยังแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย แม้ว่าสติปัญญาของมันอาจไม่มากพอ แต่มันจะไม่มีทางตาย ไม่มีจุดอ่อนในอสูรปราณฟ้าของผู้อาวุโสตำหนักมันไม่เจ็บปวดและกลัว แค่ทุ่มเทพลังสู้ตายเย่ว์หยางจึงทิ้งผู้อาวุโสตำหนักไว้ให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าและพวกได้ใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยฝึกฝนคาดว่าอาจไม่ใช่คู่มือของมัน
ถ้าเป็นเงาจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ทดสอบในขั้นที่หมื่นขึ้นไปอย่างนั้นก็อาจแทบเป็นระดับเดียวกัน ทำไมพลังเงาจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์จึงมาปรากฏในขั้นที่พันได้?
ผู้พิทักษ์ขั้นที่พันก็คือหมีทองจ้าวปฐพีเย่ว์ปิง เย่ว์หวี่ อี้หนานและอู๋เหินผ่านไปได้อย่างไร?
เย่ว์หยางประหลาดใจ เขากับราชันย์ปีศาจใต้ลงไปที่พื้นที่ต่อสู้พวกเขาไม่ทันได้ถามสถานการณ์จากเย่ว์ปิง ก็พบว่าที่ใต้ดินเขาถูกคนป่าที่มีพลังระดับปราณก่อกำเนิดร่ำร้องป่าเถื่อนและรัดคอเขาไว้สำหรับคนป่านี้มีพลังปราณก่อกำเนิดระดับสาม เย่ว์หยางกับราชันย์ปีศาจใต้แค่เพียงยกมือก็ฆ่าได้ในทันที
“สภาพเดิมคนป่านี้ก็คือเงาจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์ในการทดสอบบันไดขั้นที่พันนี้ และหมีจ้าวปฐพีที่น่าหงุดหงิดมาได้ยังไง?” เย่ว์หยางตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากบดขยี้คนป่าแล้ว เย่ว์ปิงลอยตัวมาอยู่ข้างเขาอย่างแผ่วเบา เย่ว์ปิงกอดพวกเขาด้วยความดีใจนางชนกับอี้หนานแต่ก็กอดพวกเขาไว้แน่น
“เจ้ากลับมาแล้ว, กลับมาได้พอดีจริงๆ!” เย่ว์หวี่โล่งใจที่เห็นเย่ว์หยางกลับมา
“คือว่า เรื่องเป็นเช่นนี้..”
อู๋เหินบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่เย่ว์หยางออกไปแล้วให้เย่ว์หยางฟัง
หลังจากเย่ว์หยางไปแล้วเย่ว์ปิงและอี้หนานปรึกษากันอยู่นาน จึงตัดสินใจไม่รีบเร่งขึ้นชั้นสูงจะขอสร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่ง และเน้นไปที่การฝึกฝน
แน่นอนว่าสตรีทั้งสี่พาอาหมันกลับไปที่จุดเริ่มต้นสามครั้งรวดทุกครั้งที่พวกนางไต่ระดับมาถึงขั้นที่พัน พวกนางจะกลับไปเริ่มไต่ระดับกันใหม่กลับกลายเป็นว่าทุกคนที่กลับไปเริ่มใหม่เวลาที่ใช้จะลดลงมาก ในกระบวนการกลับไปสอบซ่อมไต่ระดับต่อเนื่องไม่หยุดความรู้สึกของทุกคนแหลมคมมากขึ้น ผลเก็บเกี่ยวมากขึ้นและยิ่งใหญ่ขึ้นขอบเขตของพลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขณะที่สตรีทั้งสี่ย่างเข้าบันไดขั้นที่พันพร้อมกับอาหมันในความคิดของพวกนางมีความคิดถึงความรู้สึกลึกลับที่อธิบายไม่ได้
ด้วยสังหรณ์นำทางนี้พวกนางจึงพบสถานที่ที่พวกนางไม่ได้สังเกต
บางสถานที่นี้ต้องการกระตุ้นการทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน
นั่นคือลานสีทอง
เมื่อสตรีทั้งสี่และอาหมันไปตามสำนึกตามหลักห้าธาตุคือ ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ทำให้เสาหลักทั้งห้าทำงานและวงเวทอักษรรูนปรากฎขึ้นมีบอลกลมสว่างอยู่ในใจกลางและมันให้กำเนิดหมีทองจ้าวปฐพีตัวนี้ออกมา
“คำแนะนำในจิตสำนึกบอกว่าถ้าเราสามารถเอาชนะผ่านการทดสอบนี้ไปได้เราจะได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์จากเสาหลักห้าธาตุ!”อู๋เหินเห็นสีหน้าที่เหลือเชื่อของเย่ว์หยางนางประหลาดใจเช่นกันและอดหัวเราะไม่ได้ นางสะกิดเขาเบาๆ ทำให้เขาเรียกสติกลับมาได้“เราคิดว่าการทดสอบนี้ไม่ง่ายเลย แต่ไม่อยากพลาด ก็เลยลองดู ต้องบอกว่าอาหมันสู้อยู่หนึ่งวันเต็มจนกระทั่งเจ้ากลับมา”
“ใช่แล้ว, อาหมันต่อสู้อยู่หนึ่งวันหนึ่งคืน! โชคดีที่นางไม่รู้จักเหนื่อย มิฉะนั้นนางคงไม่สามารถต้านทานได้จนกระทั่งเจ้ากลับมา!” เย่ว์หวี่พูดเพราะตั้งใจจะกระตุ้นให้เย่ว์หยางเข้าสู้แทนอาหมันเอาชนะหมีทองจ้าวปฐพี และรับเอาพลังศักดิ์สิทธิ์ของเสาห้าธาตุ
“ให้นางสู้ต่อไป!” เย่ว์หยางรู้สึกว่าคงจะดีกว่าถ้าอาหมันได้พลังห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์
อาหมันเป็นอสูรพิทักษ์
ยิ่งนางมีพลังมากเย่ว์หยางผู้เป็นนายก็ได้พลังมากไปด้วย
ถ้าอาหมันได้รับพลังห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์นางอาจเลื่อนระดับเป็นอสูรเทพก็ได้เพราะเหตุนั้นนั่นเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มากกว่าที่เย่ว์หยางจะรับเอาพลังศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุนี้ไว้เอง
ราชาปีศาจใต้หัวเราะดังทันทีเมื่อได้ยินเย่ว์หยางพูด“ถ้ามีการทดสอบซ่อนอยู่ในขั้นที่พัน อย่างนั้นขั้นที่สองพันจะมีไหม?ถ้าขั้นที่สองพันไม่มี อย่างนั้นขั้นที่ห้าพันจะมีไหม? ขั้นที่หมื่นเล่า? ข้าคิดว่านอกจากพันขั้นแล้ว แน่นอนว่าในบางช่วงนักรบผู้อาวุโสของบันไดสวรรค์คงจะทิ้งการทดสอบลับที่แข็งแกร่งมากกว่าเอาไว้? เราไต่บันไดสวรรค์ไม่ควรจะรีบเร่งขึ้นไปอย่างเดียวเราควรพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหาการทดสอบลับด้วยเชื่อได้ว่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนคงจะมอบรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้แน่”
คำพูดของนางเย่ว์หยางไม่เพียงแต่ฟังด้วยความตื่นเต้นเท่านั้นแต่ยังทำให้สตรีทั้งสี่นางร่าเริงด้วย
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง
เย่ว์หยางมีโอกาสได้รับรางวัลมากไม่เพียงแต่ครั้งนี้ คือเสาพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์แต่ยังมีจุดพักสำหรับการทดสอบอื่นเกือบร้อยจุดพักทดสอบ แม้ว่าจะได้รับการยอมรับแต่รางวัลอาจไม่จำเป็นต้องปรากฏขึ้น
การทดสอบที่มีความระดับสูงล้ำลับแบบนี้ย่อมได้รับรางวัลร้อยเปอร์เซ็นต์และรางวัลที่ได้รับจะต้องเป็นรางวัลคุณภาพดีระดับพลังเทพ!
“ถ้าเป็นอย่างนี้อย่างนั้นเราก็ต้องไปให้ทั่วบันไดสวรรค์ และกลับไปเพิ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า และกวาดเอารางวัลทั้งหมด เย่ว์หยางเป็นใครกัน? นั่นคือเด็กหนุ่มจากโลกอื่นและงกที่สุดอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อนในประวัติศาสตร์ เมื่อได้ยินว่ามีรางวัลคุณภาพดีที่สุดรอเขาอยู่ เขารู้สึกมีความสุข ได้รางวัลพลังเทพ เลือดเทพสมบัติเทพ และอสูรเทพก็ยิ่งมีพลังมากขึ้น
สำหรับรางวัลที่ดีที่สุดเย่ว์หยางไม่ถือสาที่จะฝึกในระดับที่บ้าคลั่ง
นอกจากนี้ก่อนที่เขาจะข้ามมายังโลกนี้ ไม่ทราบว่าเขาเล่นเกมอินเตอร์เน็ตมามากมายแค่ไหน
สำหรับหีบสมบัติที่ซ่อนอยู่ในที่ลับ,เงื่อนไขภารกิจทุกอย่าง ผ่านไปตามเขาวงกตปริศนาทั้งหมด ขุดหญ้าและหินทั่วไปน่ะหรือ?สำหรับภารกิจซ่อนเร้นทำให้ผู้เล่นทุกคนยอมพูดคุยกับสุนัขจนดูราวกับคนบ้า
เมื่อท่านไม่แน่ใจกับสิ่งที่จะได้รับเย่ว์หยางสามารถทำสิ่งที่เรียกว่าดื้อดึงเกินไป ด้วยความรู้สึกว่าใจของเขาคือสิ่งนิรันดร์
ตอนนี้รางวัลคุณภาพดีที่สุดอยู่ต่อหน้าเขาเขาจะยอมพลาดได้หรือ?
เย่ว์หวี่รู้ว่าน้องชายคนนี้เป็นคนยังไงนางได้แต่มองอู๋เหินกันและปิดปากหัวเราะอย่างมีความสุข
เย่ว์ปิงไม่เคยคิดว่าพี่ชายของนางทำอะไรผิด นางคิดว่านี่เป็นผลของความพยายามของพี่ชายนาง แม่บอกว่ามีแต่คนมีพรสวรรค์ที่ทุ่มเทมากที่สุดย่อมได้ผลตอบแทน ความสำเร็จของพี่ชายนางไม่ใช่ได้มาเพราะเกียจคร้าน แต่เป็นเพราะขยันขันแข็งและสติปัญญา! ในฐานะน้องสาวเย่ว์ปิงชื่นชมความสามารถของพี่ชายที่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการฝึกฝนได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นช่วงต่อสู้อย่างหนักหรือการใช้ชีวิตปกติ พี่ชายนางไม่เคยลืมเรื่องการฝึกฝน
“บึ้ม!”
อาหมันพอเห็นเย่ว์หยางกลับมานางมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมาก
นางค่อยๆเป็นฝ่ายได้เปรียบ และนางเร่งเร้าพลังจนถึงสูงสุดต่อสู้อย่างหนักกับหมีทองจ้าวปฐพี
ด้วยพลังของหัวใจธรณีสารและพลังยักษ์ไตตันนางกลายเป็นเทพธิดาศึกที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้ว่าหมีทองจ้าวปฐพีจะเป็นแค่เงาสำนึกศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีทางอ่อนล้า แต่การบริโภคพลังงานของมันจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไปและการใช้ความพยายามต่อสู้ ก็ยิ่งสิ้นเปลืองพลังงาน ส่วนอาหมันสามารถดึงพลังจากพื้นโลกมาใช้ได้เมื่อเย่ว์หยางให้เงายักษ์สามร่างเพื่อสนับสนุนการต่อสู้ของอาหมันการต่อสู้จึงเปลี่ยนไป
พลังของอาหมันเพิ่มทวีคูณกลายเป็นว่าหมีทองเจ้าปฐพีถูกตรึงไว้
ตอนนี้แม้แต่หมีทองจ้าวปฐพีก็วิ่งหนีกลับไปที่เสาห้าธาตุ มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาหมันต่อไป...สองชั่วโมงหลังจากต่อสู้ พลังศักดิ์สิทธิ์ของอาหมันก็เอาชนะหมีทองจ้าวปฐพีได้
เมื่อนางย่ำบนตัวหมีทองจ้าวปฐพีประกาศชัยชนะหมีทองไม่ได้หายไปเหมือนเงาสำนึกศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับมนุษย์น้ำมนุษย์และชาวป่า บางส่วนกลายเป็นสีทองอร่ามแพรวพราวซึมเข้าไปในเท้าทั้งสองของอาหมันในขณะที่เสาห้าธาตุขนาดมหึมายิงแสงสีทองออกมาเชื่อมกันกลายเป็นรูปวงเวทอักษรรูนที่น่าทึ่งอาบร่างอาหมัน
เสาทองห้าธาตุระเบิดพลังงานที่ไร้ขอบเขตออก
รัศมีแสงสีทองเขียว ฟ้า แดงและส้มฉายขึ้นท้องฟ้า และวกกลับตกลงมาที่ศีรษะอาหมัน
อาหมันหมันอาบพลังแสงรัศมีห้าธาตุและเมื่อเผชิญกับแสงห้าธาตุนี้นางอดแหงนหน้ากู่ร้องดังมิได้หยุด โลกสั่นสะเทือนต่อเนื่องพลังศักดิ์สิทธิ์ที่น่าทึ่งหลอมรวมกับร่างนางเปลี่ยนนางเป็นอสูรเทพอย่างรวดเร็ว
ถ้านางไม่ได้พลังศักดิ์สิทธิ์นี้และอาหมันต้องการยกระดับเป็นอสูรเทพ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกนาน
อย่างไรก็ตามนางไม่ได้มีข้อได้เปรียบตามธรรมชาติเหมือนกับนางพญาดอกหนามมงกุฎทองตั่วตั่ว เพราะตั่วตั่วสามารถกินศพของนักสู้ผู้แข็งแกร่งเพื่อการวิวัฒนาการอาหมันไม่โชคดีเหมือนสาวมังกรไร้เขา หลังจากเย่ว์หยางปลดผนึกได้นางก็ได้รับเทพมังกรที่ทิ้งมรดกพลังเทพมังกรไว้ให้แม้จะไม่มีความคิดจิตใจพยายามเข้าใจความเป็นมนุษย์เหมือนอาหงที่ใช้เลือดเทพและการฝึกฝนแบบคู่รักเพื่อเลื่อนระดับเป็นอสูรเทพ..แต่อาหมันก้าวหน้าไปทีละก้าวจากนางโคป่า สามารถก้าวหน้าได้ไกลขนาดนี้ นางไม่มีพื้นฐานสติปัญญา ไม่มีพื้นฐานพลัง แต่นางเรียนรู้อย่างจริงจังและเชื่อฟังว่านอนสอนง่าย
ไม่ว่าเย่ว์หยางสอนอะไรนางจะตั้งใจเรียนอย่างพิถีพิถัน
ไม่ว่าเย่ว์หยางจะขอให้นางทำอะไร นางจะลงมือทำไม่มีคัดค้านเกี่ยงงอน
แม้แต่ตั่วตั่วเจี้ยงอิงและอาหงก็เลือกเส้นทางการฝึกฝนตามแนวทางของพวกนางเองอาจกล่าวได้ว่าอาหมันมีความมั่นคงในการเรียนรู้มากที่สุดและเติบโตก้าวหน้าในฐานะอสูรพิทักษ์ของเย่ว์หยาง
“ครืนนน!”
พลังศักดิ์สิทธิ์ในเสาห้าธาตุมิใช่จะหลอมรวมได้ง่าย
ถ้าเปลี่ยนเป็นอสูรอื่นคาดว่าถ้าไม่ระมัดระวัง อาจถูกพลังศักดิ์สิทธิ์ระเบิดใส่ถึงตายได้
เย่ว์หยางไม่กังวลเรื่องอาหมันเลยแม้แต่น้อย เพราะนี่คือร่างแปลงเป็นมนุษย์ของนางโคเงาที่เกือบสมบูรณ์แล้วและมีพลังธาตุดินคอยเสริมหนุน ขณะที่ร่างนั้นยังเป็นร่างหลอมรวมของอสูรวัวป่ากับเงาปีศาจผ่านการปรับโครงสร้างร่างกายและหน้าตาจนได้ร่างอสูรที่สมบูรณ์ที่สุด
นางคือนางโคเงาที่จะไม่มีทางระเบิดร่างตายได้
ไม่ว่าร่างนางจะถูกพลังศักดิ์สิทธิ์ทำลายยังไงก็ตามความสามารถพิเศษเปลี่ยนแปลงของเงาปีศาจในร่างนางจะฟื้นฟูให้ร่างนางอย่างรวดเร็วและทุกครั้งที่ร่างนางปรับโครงสร้าง อาหมันจะใกล้เคียงกับมนุษย์มากยิ่งขึ้นสมบูรณ์แบบมากขึ้น!
การฟื้นฟูโครงสร้างร่างกายอาหมันทำได้สมบูรณ์แบบขึ้น
เมื่อเทียบกับอาหงที่ผสานกับเงาปีศาจก็ยังเทียบนางไม่ได้
“อาหมันกลายเป็นอสูรเทพหรือ?” เย่ว์หวี่เย่ว์ปิงและอี้หนานตื่นเต้นกันหมด พวกนางแต่ละคนรบเร้าต้องการดูคัมภีร์อัญเชิญของเย่ว์หยาง แสงศักดิ์สิทธิ์ในที่ไกลยังไม่จางหายไป พวกเขายังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของอาหมัน อย่างไรก็ตามคัมภีร์อัญเชิญของเย่ว์หยางลอยออกมาโดยอัตโนมัติพร้อมกับฉายแสงศักดิ์สิทธิ์คาดว่ากำลังจะเปิดเผยข้อมูลใหม่
“มาดูกันซิ!” เย่ว์หยางแทบไม่อาจรอได้รีบใช้มือเปิดคัมภีร์อัญเชิญมองดูข้อมูลเปลี่ยนแปลงของอาหมันอย่างร้อนรน
“หา....” เมื่อทุกคนเห็นข้อมูล พวกเขาอุทานลั่นและแทบไม่อยากเชื่อว่าเป็นความจริง
+++++++++++++++
อสูรศักดิ์สิทธิ์ = อสูรที่มีสติปัญญา และแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้พลังตั้งแต่ปราณก่อกำเนิดขึ้นไป
อสูรในตำนาน = อสูรศักดิ์สิทธิ์ หรืออสูรเทพที่มีคัมภีร์อัญเชิญ ยกเว้นฮุยไท่หลางแหกกฎเกณฑ์ทั้งปวง
อสูรเทพ = อสูรที่มีระดับสติปัญญาสูง พลังระดับปราณฟ้าอาจมีคัมภีร์อัญเชิญหรือไม่ก็ได้
อสูรอมตะ = เป็นอสูรที่ปรากฏอยู่ในตำนาน มาจากดินแดนอมตะ ต่างหากจากแดนสวรรค์