ตอนที่ 792 กุญแจสู่ชัยชนะ
“ให้ความสนใจกับการควบคุมของเจ้าพลังที่ฉายออกมาจากผิวกฎธรรมชาติไม่อาจกล้าแข็งเกินไป นั่นแหละ, อ่อนลงอีกนิด”
“ตั้งสมาธิ, ประคองตัวเองให้ดี!”
……
“อีกครั้งหนึ่ง!”
……
เขาต้องฝึกกันอย่างหนักขนาดนั้นมานานเท่าใดแล้ว? จี๋เจ๋อยังไม่เป็นไร แม้ว่าเขาจะดื้อดึงและหยิ่งยโส แต่ความแข็งแรงของร่างกายเขาไม่ได้ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า แต่ผ่านมาจากการฝึกฝนที่ขมขื่น ฝูเจิ้งจือยังอยู่ในสภาพน่ากลัวมากกว่า เขาดำรงอยู่ในสถานะสูงส่งมาหลายปี และแม้ว่าเขาจะมีพลังเข้มแข็ง แต่เขาใช้ชีวิตเหมือนเจ้าชายมาหลายปีดีดัก ดังนั้นเขาได้แต่บ่นอยู่ในใจไม่หยุดหย่อน
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าถังเทียนทั้งสองคนไม่กล้าแสดงความโกรธแต่อย่างใด
ถังเทียนอยู่ในสภาพตื่นรู้เต็มไปด้วยพลังกดดันเหมือนกับเทพอสูร ดวงตาที่เฉยชาของเขาดูเหมือนสามารถมองทุกหัวใจทุกคน
นอกจากนี้ เรือพู่พลิ้วยังจอดอยู่ด้านข้างโดยมีรูโหว่ใหญ่สองรูซึ่งคอยเตือนทั้งสองคนให้ทราบว่าหมายความว่าไงกันแน่
ทั้งสองคนมีความรู้สึกร่วมกัน และแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้วิธีแสดงออกมา แต่ทั้งสองคนนั้นรู้ว่าทฤษฎีของท่านหน้ากากผีนั้นทรงพลังมากเพียงไหน จะบอกว่าไม่น่าสนใจก็เป็นการโกหก แต่บรรดาสองคนนั้นคนหนึ่งเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ อีกคนหนึ่งมากไปด้วยความก้าวร้าวและเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกโกรธ
‘จริงสิ, สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ’ นั่นคือคำปลอบใจของพวกเขาทั้งสอง
ถังเทียนไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไร หรือใส่ใจเรื่องอะไร เนื่องจากเขาไม่เคยใส่ใจถึงเหตุผล ‘แต่ละตระกูลรู้วิธีทำงานของแต่ละตระกูล ในแง่การควบคุมจัดการมีแต่เพียงคนฉลาดอย่างเชียนฮุ่ยที่รู้วิธีทำ สำหรับข้า.. ข้าใช้หมัดเพื่อจูงใจคนอื่นๆ’
ฝูเจิ้งจือและจี๋เจ๋อแสดงให้เห็นอย่างรวดเร็วว่าทำไมพวกเขาถึงได้แข็งแกร่งมากกว่าคนทั่วไป
ฝูเจิ้งจือมีแนวโน้มต่อความไม่ซื่อและมีประสิทธิภาพ เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์คนหนึ่ง และมักใช้วิธีการง่ายๆ ควบคุมสถานการณ์ ขณะที่จี๋เจ๋อที่มีฉายาว่าดาบพิศวง กฎธรรมชาติของเขามักทำให้สายตาผู้คนเบิกกว้างได้เสมอ เนื่องจากเป็นวิชาที่งดงามและสง่างามเต็มไปด้วยจินตนาการ
น้อยนักที่พวกเขาจะรู้ ว่าถังเทียนตกใจทำให้พวกเขาเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น
ท่านหน้ากากผีเป็นเหมือนสะพานความยากในการเชื่อมโยงผิวกฎธรรมชาติของคนทั้งสองเป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงจริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกอายก็คือความถูกต้องตั้งแต่ต้น สะพานเชื่อมมีความเสถียรมากแต่ทำให้ทั้งสองคนมีปัญหา
‘นายท่านเข้าใจต่อกฎธรรมชาติถึงระดับนั้นได้ยังไง!’
ทั้งสองคนไม่สามารถจะเข้าใจได้ พวกเขาฝึกผิวกฎธรรมชาติได้สมบูรณ์มานานแล้ว และความสอดคล้องกับกฎทำให้ม่านพลังผิวกฎของพวกเขามั่นคงมาก จากสามัญสำนึกดูเหมือนม่านพลังที่ไม่สามารถทำลายได้นี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถจะทำลายแม้จะเป็นของพวกเขาเอง
แต่เจ้านายเขาเชื่อมโยงผิวกฎของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
พลังนี้ดูเหมือนไม่มาก แต่เมื่อพวกเขาพยายามมอบพลังพวกเขาให้ถังเทียน ผลที่เหลือทำให้พวกเขาประหลาดใจ ท่านหน้ากากผีเป็นเหมือนมหาสมุทรไร้ฝั่ง และพลังที่พวกเขาให้เป็นเหมือนกระทิงที่วิ่งลงทะเล ถึงขนาดที่พลังที่ฉายจากผิวกฎหายไปในตัวถังเทียน แต่ถังเทียนไม่มีปฏิกิริยาอะไร
สีหน้าของทั้งสองคนเหมือนกับถูกผีหลอก
เขารู้ว่ามวลพลังอำนาจที่น่ากลัวสะสมอยู่ที่ผิวกฎธรรมชาติของพวกเขา และตามมาตรฐานวิถีวิทยายุทธ ผิวกฎธรรมชาติของทุกคนสามารถทำให้เจ้านายระเบิดได้เลย แต่เจ้านายกลืนกินพลังของผิวกฎธรรมชาติของทั้งสองไปได้และไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
ถังเทียนไม่สนใจพวกเขา เขาสนใจประสบการณ์ที่ทั้งสองคนมีประสบการณ์แตกต่างกัน
แต่การคาดเดาที่น่าตกใจของพวกเขาผิด สิ่งที่แบกรับพลังผิวกฎธรรมชาติของพวกเขาได้ก็คือเกราะเทพเจ้า ถังเทียนก็ตระหนักว่าเขายังประเมินการใช้เกราะเทพเจ้าต่ำไป มันสามารถทนรับพลังงานยิ่งใหญ่ได้ และศักยภาพของมันสูงเกินกว่าที่ถังเทียนคาดไว้มาก
ถังเทียนพยายามสร้างพลังทั้งสองเข้าด้วยกัน แต่เขารู้ได้โดยเร็วว่าไม่สามารถทำได้ พลังยิ่งใหญ่ของทั้งสองถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจนภายในเกราะเทพเจ้า และถังเทียนพบว่ายากจะควบคุมพลังทั้งสองได้
ความคิดของเขาค่อยๆ ปรากฏผลเป็นใช้ไม่ได้ในแต่ละขั้นตอน
ถ้าถังเทียนอยู่ในสภาพใจที่ปกติ เขาจะลุกลนและตื่นเต้น แต่เมื่ออยู่ในสภาวะตื่นรู้ บุคลิกของเขาเปลี่ยนไปมาก เมื่อปัญหาไม่สามารถคลี่คลายได้ เขาเริ่มคิดจากมุมมองอื่น
‘เป็นไปได้ที่จะเชื่อมโยงผิวกฎธรรมชาติ นี่ได้รับการพิสูจน์แล้ว’ ถังเทียนไม่เชื่อว่าการเชื่อมต่อของเขาจะไร้ประโยชน์
‘ต้องเป็นเพราะว่าเรายังไม่พบหนทาง’
ทันใดนั้น เขาคิดถึงคำจากที่อื่นแต่เขาคุ้นเคย ผสานพลัง
ผสานพลังเป็นเรื่องที่ใช้ในกองทัพโดยปกติ มันถูกนำมาใช้เพื่อปรับสมดุลพลังและสภาพระหว่างทหาร ยิ่งผสานพลังได้สูงพลังก็ยิ่งมากจนสามารถผลิตออกมาได้ การผสานพลังคือเป้าหมายของแม่ทัพทหารเพื่อให้ยิงตรงเป้าหมายสำเร็จและดูเหมือนจะซึมซับได้ในการฝึกทั้งหมด
เป็นเพราะการผสานพลังระดับสูงนั้นกลายเป็นสิ่งที่ต้องการมากที่สุดหลังจากฝึกฝน การผสานพลัง 90% เป็นมาตรฐานสำหรับกองทัพที่ยอดเยี่ยม และเมื่อทำได้สำเร็จก็หมายความว่า 90% ของทหารสามารถรักษาการผสานพลังระดับเดียวกันไว้ได้
ถังเทียนรู้เรื่องการผสานพลังเพียงเล็กน้อย แต่นี่ก็ทำให้เขาได้เค้าร่องรอย
ไม่เพียงแต่พลังงานเป็นคลื่นเท่านั้น ความจริงแม้แต่พลังที่ฉายจากผิวกฎก็มีระลอกคลื่นได้ การผสานพลังกันสามารถเพิ่มพลังได้มากในระดับที่น่าประหลาด ดังนั้นถ้าพลังงานฉายออกมาโดยผิวกฎธรรมชาติก็คงมีการผสานพลังได้ระดับเดียวกันแล้วผลจะเป็นยังไง?
ประกายความคิดนี้ทำให้ตาของถังเทียนเป็นประกายและเริ่มลองดูทันที
พลังถูกฉีดเข้าในผิวกฎธรรมชาติของทั้งสองคนอีกครั้ง
ถังเทียนพูดอย่างใจเย็น “เฉพาะเมื่อข้าสั่งเท่านั้นเมื่อพวกเจ้าได้รับคำสั่ง ก็ให้โจมตีใส่ข้า”
“โจมตีอะไร?” จี๋เจ๋อถามทันที
หลังจากมีปฏิสัมพันธ์ผ่านไปสองสามวันจี๋เจ๋อรู้ว่าได้รับความโปรดปรานจากบุรุษหน้ากากผีในระดับธรรมดาก็มีประโยชน์แล้ว แต่บุรุษหน้ากากผีในสภาวะตื่นรู้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ไม่มีอะไรทำร่วมกับเขา พวกเขาสามารถพูดได้แต่เรื่องงานเมื่อพวกเขากำลังทำงาน และมีอะไรก็ตามก็จะต้องถามกันโดยตรงซึ่งจะพิสูจน์ได้ว่าได้รับผลเพิ่มเติม
ถังเทียนคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นกล่าว “ใช้พลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเจ้า” ทั้งสองคนมึนงง แต่ก็ยังเตรียมตัว
ทันใดนั้นพลังปั่นป่วนที่มองไม่เห็นแผ่ซ่านออกมาจากกฎธรรมชาติของพวกเขา
ทั้งสองกระโดดด้วยความตกใจ
“ทำไมพวกเจ้าไม่โจมตีเล่า?”
สายตาเย็นชาของท่านหน้ากากผีทำให้ทั้งสองคนสั่น จากนั้นพวกเขาก็เข้าใจว่านั่นคือคำสั่ง
“อีกครั้ง”
เมื่อพลังผันผวนปรากฏอีกครั้งบนผิวกฎธรรมชาติของพวกเขา พวกเขาทั้งสองลงมือโดยไม่ลังเล
มือของฝูเจิ้งจือควงกระบี่สั้นไม้เขียวสีหยกซึ่งรู้จักในชื่อกระบี่เขียว ทันทีที่คลื่นพลังปรากฏกระบี่เขียวก็ยิงแสงสีเขียวหยกออกมาทันที
ขณะเดียวกันจี๋เจ๋อก็ปลดปล่อยรังสีดาบของเขา ดาบในมือของเขาบางยาวโค้งมาก ตัวดาบมีเส้นแดงจางเหมือนมีเลือดไหลเวียนอยู่ตามดาบและรังสีดาบที่เขาปล่อยออกไปมีสีเหมือนเลือดเช่นกัน
แสงในดวงตาของถังเทียนฉายกระจาย ด้วยพลังโจมตีพร้อมกันจากผิวกฎธรรมชาติทั้งสองระลอกพลังที่สุดจะพรรณนาแผ่ออกมาจากตัวเขาเช่นกัน และเกราะเทพเจ้าสว่างขึ้น
แสงกระบี่เขียวและรังสีดาบแดงหายไปในเวลาพร้อมกัน
จากนั้นแสงสีเขียวผสมกับรังสีแดงแดงปรากฏขึ้นในตาของพวกเขา
‘นี่คือ...’
ร่างของฝูเจิ้งจือและจี๋เจ๋อสั่น หน้าของพวกเขามีแววเหลือเชื่อ
‘ผสมผสาน!’
การโจมตีของพวกเขาผสานกันได้จริงๆ
‘นี่เป็นไปไม่ได้... พลังของกฎธรรมชาติทั้งสองแบบต่างกันสิ้นเชิงจะผสานกันได้ยังไง?’
ในดวงตาที่ตื่นตระหนกของพวกเขา รังสีดาบสีเขียวและแดงที่ผสานกันถูกยิงออกไปที่ยอดเขานอกเมือง
ปัง!
แสงที่กราดเกรี้ยวรุนแรงที่ดูเหมือนดวงอาทิตย์ฉายแสงสายตาของพวกเขาดูเหมือนจะพร่าขาว และพวกเขาไม่สามารถเห็นอะไรได้ แรงระเบิดที่น่ากลัวจากพลังโจมตีสร้างเป็นพายุหมุน รังสีทำลายล้างทำให้หน้าของพวกเขาถอดสี
แค่เพียงสองสามวินาทีสายตาของพวกเขาก็ฟื้นคืนเป็นปกติ ภาพต่อหน้าพวกเขาทำให้พวกเขาตะลึงราวกับต้องมนต์สะกดพวกเขาไม่สามารถขยับร่างกายได้
ยอดภูเขาสูงนอกเมืองหายไปมองไม่เห็น
‘หายไปแล้ว..’
หน้าของพวกเขาขาวซีดตาของพวกเขาจ้องมองตรงข้างหน้า พวกเขามองดูภูเขาที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งอย่างว่างเปล่า ยอดผิวที่ไหม้ยังมีสีแดงเรื่อเรืองซึ่งมีอุณหภูมิสูงจนหลอมหินได้และยังไม่เย็นตัว แสดงว่าอุณหภูมิภายในนั้นสูงมากเพียงไหน
‘นะ นะ นี่...’
ภายในเกราะเทพเจ้า ตาของถังเทียนก็ยังสว่างเจิดจ้า
เขายังคงระลึกถึงฉากภาพที่เกิดขึ้นในใจของเขาขณะที่ผิวกฎธรรมชาติสองสายเริ่มฉายพลังของพวกมัน เขารู้สึกได้ชัดเจนถึงการสะท้อนพลังผันผวนระหว่างกฎทั้งสอง
ใช่แล้ว นั่นคือการสะท้อน
เทียบกับการสะท้อนที่เกิดจากพลังผสานพลังการสะท้อนระหว่างกฎธรรมชาติเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
การสะท้อนระหว่างทั้งสองฝ่ายตอนแรกจะขับไล่กันเอง แต่ช่วงต่อมาพวกมันจะรวมตัวกันและสร้างพลังที่เหนือยิ่งกว่าที่พวกเขาคาดไว้
ใครจะคิดกันว่าด้วยการโจมตีของคนสามคนนี้ พวกเขาจะสร้างพลังที่น่ากลัวขนาดนั้นได้
ด้วยพลังของฝูเจิ้งจือและของจี๋เจ๋อการทำลายยอดเขาไม่ใช่เรื่องยาก แต่สามารถทำให้ยอดเขาหายไปในทันที นั่นไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ยังมีการผสานโจมตีร่วมกันระหว่างทั้งสอง
และเป็นการโจมตีปกติซึ่งพวกเขาสร้างได้ต่อเนื่องทั้งคืน
จะมีสักกี่คนที่สามารถทนต่อพลังโจมตีเช่นกันได้
แม้ว่าพวกเขาเองจะไม่เผชิญการโจมตีต่อหน้า และถ้าการโจมตีนั้นทรงพลังถึงระดับที่ดึงมาจากการทดสอบ แม้แต่ถังเทียนก็รู้สึกว่าเขาไม่สามารถจะเอาชนะมันได้
‘นักสู้อันดับหนึ่งในแดนบาปตู้เค่อ เป็นยังไงบ้าง?
‘บางทีเขาสามารถเบี่ยงเบนได้’
‘แต่ถ้าพวกเขาสามคนทุ่มสุดกำลังเล่า? เขาจะขวางได้ไหม?’ ถังเทียนคิดเรื่องนี้ และรู้สึกว่าตู้เค่อน่าจะสามารถทนรับได้ กฎธรรมชาติสนามพลังเป็นพลังระดับสูงกว่า และแม้ว่าการโจมตีเพิ่มพลังขึ้น แต่ก็ยังไม่เท่ากับพลังจากผิวกฎ
ระดับพลังที่สูงกว่าหลายเท่าในแง่พลังจะมีพลังโจมตีเพิ่มขึ้น10 หรือ 100 เท่า
พลังระดับที่สูงกว่าปะทะกับพลังที่มีระดับต่ำกว่าจะนำไปสู่ชัยชนะ
แต่ถังเทียนไม่รู้สึกท้อ เขากล้ายืนยันว่าถ้าทั้งสามทุ่มเทกำลังเต็มที่แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่สามารถถึงระดับสนามพลังกฎธรรมชาติออกมา แต่พวกเขาก็ยังสามารถทำลายแนวป้องกันของผิวกฎได้
นอกจากนี้ รวมเขาด้วยพวกเขาก็มีเพียงสามคน!
ถ้าพวกเขามีมากขึ้นเล่า?
เมื่อผิวกฎธรรมชาติสิบสายถูกสะท้อน จะเกิดอะไรขึ้น และเมื่อผิวกฎธรรมชาติของ 100คนสะท้อนพร้อมกัน จะเกิดอะไรขึ้น?
ทันใดนั้นการรู้แจ้งผุดขึ้นมาในใจของถังเทียน
‘นี่เหมือนกับกองทัพไม่ใช่หรือ การผสานพลังเป็นหัวใจของกองทัพของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แล้วการผสานผิวกฎธรรมชาติจะเป็นหัวใจพื้นฐานสำหรับกองทัพของแดนบาป!’
‘ข้าพบปมการสร้างกองทัพของแดนบาปโดยบังเอิญ’
‘นี่ก็หมายความว่าข้าสามารถสร้างกองทัพแดนบาปได้ไม่ใช่หรือ?’
ตาของถังเทียนสว่างเหมือนดวงดาวในท้องฟ้า เขาได้แยกแยะการฝึกฝนหนักนับไม่ถ้วนและเชื่อมั่นตัวเองว่าเขาจะสู้ได้จนถึงที่สุดแน่นอน เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจตัวเองอยู่เสมอ ในที่สุดขณะนั้นก็รู้สึกว่าเขาพบกุญแจแห่งชัยชนะ
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น ฝูเจิ้งจือและจี๋เจ๋อผู้เรียกความรู้สึกกลับมามองหน้ากันเอง พวกเขามองเห็นสภาพตกใจอย่างหนักความกลัวและความคาดหวังที่อธิบายไม่ถูกในสายตาพวกเขากันเอง
‘แดนบาปกำลังจะเปลี่ยนไป’