ตอนที่ 791 ความคิดของถังเทียน
ยี่สิบลี้ห่างจากเมืองม้าบินร่างสองร่างบินสูงอยู่ในท้องฟ้า ร่างของพวกเขากระพริบให้เห็นจากนั้นก็หายไป
สายลมรอบตัวพวกเขาดูเหมือนจะหายไป อากาศรอบตัวพวกเขายังคงนิ่งขณะที่พวกเขาสังเกตเห็นเมืองม้าบินเปล่งแสงหลายสาย
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าพลังของกองทัพจะมาถึงระดับนั้นได้” ชายชราเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขามีคิ้วขาวและสวมชุดยาวขาวดุจหิมะ ไม่มีความโกรธบนใบหน้าของเขา เขากำลังขมวดคิ้วด้วยสีหน้ากังวล
“ถูกแล้ว” บุรุษอีกคนถอนหายใจ “การศึกษาของขุนพลในกองทัพสาบสูญไปจากแดนบาปนานแล้วแดนบาปแค่ไม่มีพื้นที่ให้แม่ทัพทหารได้อยู่รอด ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเด็กคนนี้จะพบทางเลือกและใช้กฎธรรมชาติควบคุมพวกเขาได้ ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ ดูเหมือนว่าไม่ใช่ว่าแดนบาปไม่มีพื้นที่แต่เป็นเราที่หาหนทางไม่พบ”
บุรุษวัยกลางคนมองดูอายุราว 40 ปี เขามีร่างกายสูงใหญ่ คิ้วหนาตาโต
“เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ไม่เหมือนใคร กฎธรรมชาติก็แปลกมาก” บุรุษชราคิ้วขาวส่ายศีรษะ “ในที่สุดแล้ว ก็ไม่ใช่ทางที่แท้จริง แต่ข้าต้องบอก แค่เพียงอาศัยทหารเหล่านี้ต้องการจะให้ทุกคนมารวมกัน พูดง่ายกว่าทำไม่ใช่หรือ?”
“มันไม่ง่ายจริงๆ” บุรุษวัยกลางคนพยักหน้า “แต่ก็ช่วยเราได้ดีจริงๆ พูดถึงเรื่องการศึกษาทหาร เราไม่อาจเทียบกับคนนอกเหล่านี้ แต่ว่าด้วยเรื่องกฎธรรมชาติพวกเขาจะเทียบกับเราได้ยังไง?”
ชายชราคิ้วขาวคลายคิ้วออก “นั่นก็จริง”
จากนั้นเขาเปลี่ยนหัวข้อคุย “เวลานี้ แม้แต่เมืองหลวงของตระกูลซู พวกเขาอาจจะเอาชนะไม่ได้”
“การตัดสินใจของตระกูลซูจะถูกกำหนดโดยตระกูลซู” บุรุษวัยกลางคนพูดอย่างเฉยเมย “ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของพวกเขา เราคงไม่สามารถเห็นกองทัพได้ สามารถเชื่อมโยงคนผ่านกฎธรรมชาติได้นี่น่าสนใจจริงๆ”
ตาของบุรุษวัยกลางคนทอประกายวูบ เห็นชัดว่าเขามีความสนใจกองทัพ
“บริวารของบุรุษหน้ากากผีมีอัจฉริยภาพที่แท้จริง” บุรุษคิ้วขาวกล่าว “ถ้าไม่ใช่เพราะข้าเห็นเรื่องทั้งหมดคืนนี้กับตาตนเอง ข้าเกรงว่าท่านกับข้าก็ยังเป็นกบอยู่ก้นบ่อ บุรุษหน้ากากผีนี้ก็ไม่ใช่ธรรมดาเลย จี๋เจ๋อถูกเขาจับได้มีบริวารที่ร้ายกาจอย่างนั้น ผ่านไปมากกว่าสองสามวัน ข้าเกรงว่าแดนบาปจะกลายเป็นโลกของเขา”
ขณะที่เขากำลังพูด ซูเฟยเริ่มถูกไล่ต้อน ขณะที่ยอดฝีมืออีกสามคนเริ่มหดหู่และกดดนไม่มีอะไรพูดมาก มีกฎธรรมชาตินับไม่ถ้วนรายล้อมรอบเมืองม้าบินและขณะนั้นใครจะรู้ว่ามีคนกำลังดูอยู่มากมายกี่คน
“คนในเมืองจื่อจวนมีพรสวรรค์ธรรมดาและอ่อนแอแต่พอเวลาผ่านไปในเงื้อมมือของบุรุษหน้ากากผี พวกเขามีฝีมือทะยานขึ้นราวกับพยัคฆ์ติดปีก” ชายชราคิ้วขาวพูดอย่างใจเย็น “สุภาพสตรีที่มีกฎธรรมชาติคล้ายกับสายรุ้งเคยเป็นขุนพลของฉินเจิ้นแต่ตอนนี้นางเทียบเท่ากับบ่าวมรณะ บุรุษหน้ากากผีเองก็ใช้กฎธรรมชาติที่แปลกประหลาดมาก และเขาก้าวหน้าได้เร็วมาก ข้าสงสัยว่าปรมาจารย์หลี่สิงร่างของเขาหรือไม่ ในเมืองจื่อจวนเขายังพลังน้อยกว่าฉินเจิ้นมาก กล่าวกันว่าเขาพลังเทียบเท่าเบนสัน แต่ตอนนี้เขาจับจี๋เจ๋อได้ทุกครั้งที่ข้าคิดทำให้ข้ากินนอนลำบากทุกที”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นบุรุษวัยกลางคนหันหน้าไปมองรัศมีแสงประหลาด “แต่ข้ารู้สึกว่านี่ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องแย่”
“โอว?” ชายชราคิ้วขาวประหลาดใจ
“นานมากแล้วที่ไม่มีอำนาจใหม่ผุดขึ้นมาในแดนบาป” บุรุษวัยกลางคนกล่าว “ยกตัวอย่างมองดูข้างหน้าเราสิ ดูวิธีซักซ้อมกลยุทธทหาร ด้วยความเข้าใจเรื่องกฎธรรมชาติของเราข้าเชื่อว่าในเวลาสั้นๆ เราจะสามารถรู้แจ้งกฎธรรมชาติที่น่าทึ่งอย่างอื่นตั้งแต่ปรมาจารย์หลี่ได้รู้แจ้งกฎ มีการพัฒนามาสองร้อยปีแล้วและการศึกษากฎธรรมชาติในแดนบาปเริ่มอยู่ในสภาพคอขวด ถ้าเราได้เลือดใหม่ในกลุ่มเรา วิถีกฎธรรมชาติของเราจะพัฒนาก้าวหน้าก็เป็นได้”
“พัฒนาก้าวหน้า?” ชายชราคิ้วขาวมองดูบุรุษวัยกลางคนอย่างลึกซึ้ง “แดนบาปกลายเป็นที่ของเราไปแล้ว เจ้าต้องการให้เราพัฒนาอนาคตหรือ? หรือว่าเจ้าไม่คิดจะกลับไปดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์?”
“ทำไมจะไม่เล่า?” บุรุษวัยกลางคนจ้องกลับโดยไม่เลิกรา
ชายชราคิ้วขาวสะอึก
“ถ้าเราสามารถเข้าใจกฎแปลกประหลาดของกองทัพ เราจะสามารถกลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้แน่นอน!” ดวงตาของบุรุษวัยกลางคนเป็นประกายเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน คำพูดของเขาก้องไปไกล
ชายชราคิ้วขาวมองดูเหมือนกับเห็นผี และแสดงอาการตกใจ เขาโพล่งออกมา “ทุกคนจะไม่เห็นด้วย! เจ้าจะทำให้เราตายกันหมด!”
บุรุษวัยกลางคนตอบอย่างมีนัยลึกซึ้ง “อย่างนั้นหรอกหรือ?”
รัศมีแสงสว่างสะท้อนให้ใบหน้าที่สงบของเขา
******************
ถังเทียนยังคงหมกมุ่นอยู่กับเกราะเทพเจ้า,ยิ่งเขาสำรวจตรวจดูมากเท่าใด เขายิ่งรู้สึกได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ของเกราะ นั่นคือโลกใหม่ ขอบเขตกว้างขวางและมีเพิ่มขึ้นเรื่อยเหมือนกับว่าไม่มีที่สิ้นสุด
ยิ่งสำรวจและตรวจสอบต่อไปในที่สุดก็ทำให้ถังเทียนมีแนวคิดเกี่ยวกับเกราะเทพเจ้า เขารู้ว่าเขาต้องแข่งกับเวลา และตามธรรมดาคงไม่สามารถสำรวจเกราะได้ในช่วงเวลาปกติธรรมดา
เขากำลังคิดถึงปัญหาที่สมจริงมาก
‘เกราะเทพเจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้ข้าจะเอามาใช้เพื่อเอาชนะศัตรูข้าได้ยังไง?’
ถ้าเขาต้องการพาหน่วยสุญญตาออกไปจากแดนบาป มีคนเดียวที่เขาต้องเอาชนะ เขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในแดนบาป บุรุษผู้รู้แจ้งในกฎสนามพลัง ตู้เค่อ แม้ว่าเกราะเทพเจ้าจะทรงพลังมากแต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาสร้างสนามพลังกฎธรรมชาติได้
ความรู้แจ้งกฎของถังเทียนยังไม่ถึงระดับได้รับกฎสนามพลัง และเขามีความรู้จำกัดแม้ในทางทฤษฎี
เขาถามฝูเจิ้งจือและจี๋เจ๋อว่านักสู้ผู้มีกฎสนามพลังแข็งแกร่งมากเท่าใด แต่ทั้งฝูเจิ้งจือและจี๋เจ๋อไม่สามารถอธิบายได้ว่ากฎสนามพลังคืออะไร พวกเขาเชื่อถืออย่างหนักแน่นว่านอกจากตู้เค่อแล้วไม่มีใครรู้ว่านักสู้ต่อสู้ด้วยกฎสนามพลังยังไง
มีข่าวลือน้อยมากเกี่ยวกับว่าตู้เค่อเกิดเป็นอัจฉริยะที่เกิดจากตระกูลชั้นสูง เขาเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ตั้งแต่ยังเด็ก ตระกูลตู้ในเมืองตู้ไม่ใช่มหาอำนาจในสี่เมืองใหญ่ แต่หลังจากการเติบโตต่อเนื่องของตู้เค่อเมืองตู้ค่อยๆ กลายเป็นผู้นำของสี่เมืองใหญ่ และพวกเขาค่อยๆ ควบคุมอำนาจทั่วแดนบาป
ตู้เค่อเป็นเพียงคนเดียวที่ยืนยันหนักแน่นว่าเข้าสู่ระดับกฎธรรมชาติสนามพลังได้
ในสายตาของเขา ไม่มีความลับเหลืออยู่ในกฎธรรมชาติ
ไม่มีใครรู้ว่าตู้เค่อแท้จริงแล้วแข็งแกร่งเพียงไหน เนื่องจากคนนอกไม่เคยทราบข่าวการสู้รบของเขา ในฐานะบุรุษคนหนึ่ง เขามีสถานะไม่โดดเด่นมาก และเก็บตัว ขณะที่เขายังอายุเยาว์เขาเข้าร่วมกิจกรรมของตระกูลอย่างแข็งขันและเกี่ยวกับจุดนี้ เขาแตกต่างจากนักสู้คนอื่นอย่างสิ้นเชิง
“ตู้เค่อพยายามบุกประตูบาปครั้งหนึ่ง”
จี๋เจ๋อพูดออกมาทันที แต่เมื่อเขาทำเช่นนั้น เขารู้สึกโกรธ ‘โธ่เว้ย! ทำไมข้าต้องช่วยเจ้าผู้นี้และคอยให้คำแนะนำด้วย!’
ฝูเจิ้งจือตะลึง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทั้งแดนบาปไม่เคยได้ยินมาก่อน บุรุษอันดับหนึ่งของแดนบาปพยายามไปที่ประตูบาปจริงๆนั่นเป็นข่าวฮือฮาเลยทีเดียว!
ประตูบาปได้รับการปกป้องโดยทวีปกวงหมิง และเป็นกุญแจในการเคลื่อนย้ายระหว่างแดนบาปและทวีปกวงหมิง ตั้งแต่ปรมาจารย์หลี่ย่างเท้าเข้ามาในแดนบาปคนนับไม่ถ้วนพยายามโจมตีประตูบาป แต่ไม่มีใครประสบความสำเร็จเลย ถนนกลายเป็นแผ่นดินเต็มไปด้วยกระดูกได้ชื่อว่า ‘ทางมรณะสู่มาตุภูมิ’
เส้นทางมรณะสู่มาตุภูมิมีมานานหลายปีแล้ว และไม่มีใครย่างเท้าเข้าไปอีก
แต่ใครจะรู้กันว่าบุรุษอันดับหนึ่งของแดนบาปตู้เค่อเคยเดินทางไปเส้นทางมรณะสู่มาตุภูมิและโจมตีประตูบาป!
ฝูเจิ้งจือถาม “เจ้ารู้เรื่องนั่นได้ยังไง?”
“เพราะในเวลานั้นข้ากำลังจะเตรียมตัวไปประตูบาปเช่นกัน” จี๋เจ๋อพูดด้วยความยินดี เมื่อเห็นสองคนมองดูเขาอย่างประหลาดใจ เขาอธิบายทันที “ข้ากำลังคิดจะไปดูว่าประตูบาปเป็นยังไง ข้าไม่ใช่ตู้เค่อ”
ถังเทียนปรบมือ “เขาต้องการกลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์หรือ?”
จี๋เจ๋อที่ต้องการหยุดพูดในตอนแรกโพล่งออกมาอย่างมึนงงทันที “ใครบ้างไม่ต้องการไป?”
เมื่อพูดเพียงแค่นั้น เขาทำแก้วแตก “ที่อย่างแดนบาปนี้จะมีอะไร? ใครจะชอบมันกันเล่า? ข้าไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดยังไง แต่ข้าไม่ใช่ตู้เค่อที่เป็นบุรุษหมายเลขหนึ่งในแดนบาปและเขาก็ยังไม่แก่ทำไมจะทดสอบด้วยตนเองไม่ได้เล่า?”
“นั่นก็จริง!” ถังเทียนเกาคาง ทำท่าไตร่ตรอง
แต่จี๋เจ๋อรู้เรื่องนี้มาก ถังเทียนหันหน้าไปถามเขา “เจ้าคุ้นเคยกับประตูบาปไหม?”
“ไม่” จี๋เจ๋อส่ายหน้า หน้าของเขาน่าเกลียดเล็กน้อย “ข้าเห็นมาแค่แว่บเดียวเท่านั้น”
จากนั้นถังเทียนหันไปหาฝูเจิ้งจือที่ส่ายศีรษะด้วยท่าทางเศร้าใจเล็กน้อย
สำหรับทุกคนในแดนบาป แดนบาปคือคือกุญแจล่ามคอพวกเขา เมื่อพูดถึงแดนบาป ทุกคนจะกำหมัดขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทางมรณะสู่มาตุภูมิถูกสร้างโดยแม่น้ำเลือดซึ่งเป็นของชาวแดนบาปมาหลายรุ่นชั่วคนแล้ว
ฝูเจิ้งจือลังเลเล็กน้อย “ถ้าตู้เค่อต้องการจะกลับไปดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ เขาจะร่วมมือกับเราไหม?”
“ใครจะสนใจกันเล่าว่าเขายินดีหรือไม่ เราทั้งหมดจะกลับไปดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์” น้ำเสียงของถังเทียนเด็ดขาดและไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ใจของจี๋เจ๋อรู้สึกไม่ยินยอม แต่เขาไม่กล้าแสดงออกทางสีหน้า ฝูเจิ้งจือเพียงแต่ก้มหน้าไม่รู้ว่าคิดอะไร
จากนั้นถังเทียนทิ้งความสงสัยไว้ด้านข้าง “เหตุผลที่ข้ามาหาพวกเจ้าเป็นเพราะข้ามีความคิดอยากให้พวกเจ้าลองดู”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทั้งสองคนเงยหน้า แสดงความสงสัย
“พวกเจ้าก็รู้เรื่องเกี่ยวกับกองทัพ ค่ายกลหยินหยางของเนี่ยชิวเป็นกฎเฉพาะพิเศษซึ่งต้องระดมพลังของทุกคน ข้าไม่ค่อยเชี่ยวชาญในเรื่องการทหาร แต่เกราะเทพเจ้าของข้าดีกว่ากฎธรรมชาติมาก ดังนั้นข้ากำลังคิดว่าข้าจะใช้เกราะเทพเจ้ารวมพลังของทุกคนดู?”
ฝูเจิ้งจือมีท่าทางงุนงง จี๋เจ๋อชะงักค้าง หน้าของเขาแสดงอาการตกใจ
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ ฝูเจิ้งจือค่อยเรียกความรู้สึก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายแปลกประหลาด
ทั้งสองคนเป็นยอดฝีมือและเข้าใจเรื่องกฎธรรมชาติมากกว่าคนอื่น สำหรับคนอื่นพวกเขาไม่มีทางเข้าใจความคิดเช่นนั้นได้ กฎธรรมชาติต่างๆ ไม่มีทางเข้ากันได้ และยิ่งเป็นกฎระดับสูง ก็ยากจะหลอมรวมเข้ากันได้
แต่เกราะเทพเจ้าของถังเทียนทำให้เป็นไปได้
เกราะเทพเจ้าดูเหมือนจะมีกฎธรรมชาติทั้งหมดเป็นเหมือนจุดพักของกฎธรรมชาตินับไม่ถ้วน และถ้ากฎธรรมชาติของทุกคนสามารถจุดเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้อง โดยทฤษฎีก็มีทางเป็นไปได้...
ทั้งสองคนรู้ว่าจะมีความหมายยังไงถ้าความคิดเช่นนี้ใช้งานได้จริงๆ!
เมื่อผิวกฎ 10 หรือ 100 กฎเชื่อมโยงผ่านเกราะเทพเจ้า พลังระหว่างผิวกฎสามารถได้ประโยชน์กับกันและกันและสร้างจุดอ่อนให้อีกฝ่าย นอกจากนั้นยังมีหลากหลายรูปแบบนับไม่ถ้วน
“มาลองดูกัน!”
ทั้งสองคนยืนขึ้นและพูดพร้อมกัน
สำหรับผิวกฎธรรมชาติที่แตกต่างจะเอามารวมกันนั้นจะเกิดอะไรขึ้น? ไม่มีใครรู้เพราะผลสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
บุรุษทั้งสองมองหน้ากันเอง ด้วยความตื่นเต้น ความเร้าใจระคนตกใจปรากฏอยู่ในสายตาพวกเขา
ถ้าความคิดนี้ประสบความสำเร็จได้จริงแดนบาปมีทางเป็นไปได้ในการปรับปรุงโฉมใหม่!
ทฤษฎีของกฎธรรมชาติจะถูกเขียนขึ้นใหม่!