ตอนที่แล้วตอนที่ 788 บรรลุทักษะหกรับรู้สี่สัญลักษณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 790 ความตั้งใจที่ดี [webmachine]

ตอนที่ 789 ด้วยวิธีการของคนอื่น


หัวใจของเขาถูกควักออกมาและบีบจนเละ

หน้าของผู้อาวุโสเปลี่ยนไป แต่กลับคืนเป็นปกติอย่างรวดเร็วและมีท่าทางาหยิ่งยโสมากกว่าเดิม

“เจ้าคิดว่าจะฆ่าข้าได้โดยใช้วิธีบดขยี้หัวใจของข้าอย่างนั้นหรือ   ข้ามีร่างอมตะไม่จำเป็นต้องมีหัวใจในร่างกายและไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างหัวใจใหม่ มีแต่อาวุธเทพเท่านั้น มิฉะนั้นไม่มีทางทำร้ายข้าได้!” ผู้อาวุโสตำหนักหัวเราะพลางชี้มาที่เสวี่ยอู๋เสียและป้องกันเทพธิดาวายุที่ด้านหลังเขาพูดอย่างเหี้ยมเกรียม “ในทางตรงกันข้ามยิ่งข้าบาดเจ็บมากเจ้าก็จะได้รับผลจากทักษะบาดแผลเดียวกันตอนนี้เจ้าชักจะน่าสมเพชขึ้นบ้างแล้ว!”

เขาไม่เชื่อว่าเสวี่ยอู๋เสียจะเหมือนกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสูญเสียการมองและการได้ยินแต่ยังสู้ต่อได้

นี่เป็นแค่ข้อยกเว้นเดียว

เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะเป็นเช่นนั้น!

เสวี่ยอู๋เสีไม่ตอบและไม่ถอยเช่นกันนางแค่มองผู้อาวุโสตำหนักกลางอย่างเย็นชาเหมือนกับคนเจ้าปัญญากำลังมองดูสุนัขบ้า

ในใจของผู้อาวุโสตำหนักรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นเสวี่ยอู๋เสียมีสีหน้าอย่างนั้นมุมปากของเขาเม้มเหี้ยมเกรียม มีอารมณ์ดีใจผิดธรรมดาเขาดึงกระจกวิเศษที่แปลกประหลาดออกมาก่อน และส่องหน้าเหมือนบันทึกภาพจากนั้นใช้กรงเล็บควักตาทั้งสองจากหกข้างออกและใส่ปากเคี้ยว

แขนอีกสองข้างแทงใส่หูตนเอง

นัยน์ตาของเขาที่ยังเหลืออยู่มองดูเสวี่ยอู๋เสียด้วยอาการหยิ่งยโสและคาดว่าจะมองเห็นมีบาดแผลอย่างเดียวกันจากทักษะแฝงเร้นบาดแผลเดียวกันและหวังจะเห็นภาพแห่งความเจ็บปวด

อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เสวี่ยอู๋เสียยืนนิ่งกับที่อย่างใจเย็นดวงตาทั้งสองมองนิ่งอย่างเย็นชา

ใบหน้านางไม่มีความเจ็บปวดแต่อย่างใดราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือว่าทักษะบาดแผลเดียวกันของเขาจะใช้ไม่ได้ผลกับนางอย่างสิ้นเชิง

“เป็นไปไม่ได้ ทำไมเจ้าถึงไม่บาดเจ็บอะไรเลย?  ทำไมเจ้าไม่เป็นอะไร?ไม่มีอะไรผิดปกติกับเจ้าเลยหรือ?” ผู้อาวุโสตำหนักไม่อยากเชื่อใบหน้าตนเองที่เห็นในกระจกวิเศษเขาควักตาสองข้างจากสี่ข้างและบีบจนเลือดกระจาย...เสวี่ยอู๋เสียมองดูอย่างเยือกเย็นเหมือนกับว่ากำลังมองสุนัขไล่งับหางของมันเอง  ผู้อาวุโสตำหนักแทบจะเป็นบ้า  สตรีนางนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บจากทักษะแฝงเร้นบาดแผลเดียวกันของเขาได้ยังไง?เขาเริ่มคิดว่าพลังความอดทนของนางยิ่งใหญ่น่ากลัว แต่เขายังฝืนใจยกแขนและใช้มีดกรีดท้องจากนั้นดึงลำไส้ออกมาพันที่คอ

“น่าเบื่อ” เสวี่ยอู๋เสียใช้นิ้วขาวเรียวยายพลิกหน้าหนังสือแห่งสัจจะและมืออีกข้างหนึ่งปิดปากทำท่าหาวด้วยความเบื่อหน่าย

“เจ้า,มีทักษะสร้างพลังป้องกันได้!”  ผู้อาวุโสตำหนักเข้าใจจนได้

สตรีสองคนนี้คนหนึ่งยังผิดปกติมากยิ่งกว่า

เมื่อครู่นี้สตรีนางนั้นไม่มีตาไม่มีหู และแขนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่ยังต่อสู้ได้ นี่ก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้ว

อย่างไรก็ตามเทียบกับสตรีนางนี้ก็ยังผิดธรรมดามากกว่า  เจ้าตำหนักยังไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับทักษะบาดแผลเดียวกันนี้ได้  คาดไม่ถึงสตรีนางนี้มีความสามารถมากยิ่งกว่านางยังเป็นมนุษย์หรือไม่?

เสวี่ยอู๋เสียไม่ตอบ

หลังจากทำความเข้าใจสนามพลังศักดิ์สิทธิ์  ภายในสนามพลังศักดิ์สิทธิ์นางคือเทพเจ้าในสนามพลังนี้

แม้ว่าจะไม่สามารถส่งผลจิตสำนึกระดับปราณฟ้าและพลังกฎสวรรค์  แต่เพราะผู้อาวุโสตำหนักกลางไม่มีความเข้าใจสำนึกปราณราชันย์และพลังกฎสวรรค์ในสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ของเสวี่ยอู๋เสียอย่างน้อยนางสามารถเป็นเทียมเทพได้  ไม่ต้องพูดถึงการโจมตีทางพลังวิญญาณ ในทางกลับกันสำนึกศักดิ์สิทธิ์จะคอยป้องกันทักษะแฝงเร้นในการทำร้ายจากศัตรูซึ่งทำได้ง่ายดายเหมือนเกมเด็กเล่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสวี่ยอู๋เสียได้รับการป้องกันจากเทพธิดาวายุ

เทพธิดาวายุแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเทพจริงๆ  แต่ก็ยังมีพลังเทวทูตมากตราบเท่าที่นางคอยปกป้องอยู่ข้างตัวเสวี่ยอู๋เสียศัตรูคิดจะใช้พลังจิตทำร้ายเสวี่ยอู๋เสียยิ่งเป็นไปไปไม่ได้!

“ลูกไม้ของเด็กอ่อนหัด เมื่อเจ้าถูกเห็นจุดอ่อนก็ได้แต่เล่นตลกแสดงปาหี่เท่านั้น”เสวี่ยอู๋เสียมีคัมภีร์แห่งสัตว์สมบัติระดับเทพ แม้ว่ายังไม่เทียบเท่าตาทิพย์ของเย่ว์หยาง แต่มองผ่านความลับของผู้อาวุโสตำหนักที่คลุมเครือได้ นั่นเป็นเรื่องที่ง่ายเมื่อใดก็ตามที่ผู้อาวุโสตำหนักใช้ทักษะแฝงเร้นบาดแผลเดียวกันได้สำเร็จ เขาจะต้องใช้อสูรที่ผสานร่างกับเขาและกระจกวิเศษในมือของเขาเพื่อให้ส่งผลต่อวิญญาณโดยตรง  มิฉะนั้นจะจับเป้าหมายไม่ได้นี่เป็นวิธีที่ถูกต้องแม่นยำมาก แต่เมื่อเผชิญกับสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ของเสวี่ยอู๋เสียก็เป็นแค่ขยะเท่านั้น

มีอย่างหนึ่งที่จะข่มได้

บางคนเกิดมาเป็นดาวข่มของคนบางคนจริงๆ

ผู้อาวุโสตำหนักกลางมีทักษะแฝงเร้นบาดแผลเดียวกันซึ่งใช้กับอสูรที่มีร่างที่ฟื้นฟูได้เร็วและร่างแทบจะเป็นอมตะมีกระจกวิเศษที่คอยนำทางวิญญาณอย่างแม่นยำ

มองอย่างผิวเผินเขาแข็งแกร่งมาก  แต่ด้วยพลังวิญญาณในตอนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าเสวี่ยอู๋เสียที่เป็นรองจักรพรรดินีราตรีจื้อจุน หรือเทียบกับเย่ว์หยางนี่เหมือนเป็นการรบกับสวะ

“ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ผู้อาวุโสตำหนักกลางขุ่นเคืองและโกรธแค้น

ทักษะแฝงเร้นบาดแผลเดียวกันและกระจกวิเศษไม่มีผลแต่อย่างใด ทันใดนั้นเขาใช้พลังป่าเถื่อนและระเบิดพลังปราณฟ้าระดับห้าและปล่อยหมัดใส่เสวี่ยอู๋เสียทันที

พลังปราณฟ้าระดับห้า

เสียงดังกึกก้องเหมือนฟ้าคำรามพลังที่น่ากลัวโจมตีใส่เสวี่ยอู๋เสีย

คัมภีร์แห่งสัจจะที่อยู่ในมือเสวี่ยอู๋เสียถูกนางเปิดไปอีกหน้าหนึ่งดึงอักษรรูนสวรรค์ออกมา

ขณะเดียวกันไม่ทราบว่ากำแพงอักษรรูนแก้วเกิดขึ้นต่อหน้าเสวี่ยอู๋เสียเมื่อไหร่เสาผลึกสะท้อนพลังปราณฟ้าระดับห้าของผู้อาวุโสตำหนักกลางได้ทั้งหมดนี่คือกำแพงแก้วอักษรรูนที่อู๋เหินใช้เพื่อป้องกันการโจมตีของศัตรูหลังจากเสวี่ยอู๋เสียค้นคว้าได้ก้าวหน้าก็นำมาผสานใช้กับสนามพลังสำนึกศักดิ์สิทธิ์และสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สะท้อนพลังศัตรู นามว่ากำแพงแก้วอักษรรูน

ผู้อาวุโสตำหนักโจมตีอย่างดุร้ายผลก็คือแขนของเขาชาเพราะถูกพลังสะท้อน

เขาลอบตกใจ

อย่างไรก็ตามเขาลังเลจะล่าถอย ทันใดนั้นเขาสังเกตว่ากำแพงแก้วอักษรรูนของฝ่ายตรงข้ามเริ่มมีรอยร้าวเพราะพลังปราณฟ้าระดับห้าของเขา  เขามีความมั่นใจทันทีจึงเพิ่มพลังและกลับไปโจมตีอีก

“ทำลาย!”

ผู้อาวุโสตำหนักกลางเร่งพลังปราณฟ้าระดับห้าชั้นสูงอีกครั้ง!

กับแค่ระดับเตรียมนักสู้ปราณฟ้า

พวกเจ้าต้องการสู้เองหรือ?

ฝันไปเถอะ

ผู้อาวุโสตำหนักกลางไม่รู้ว่าเขาตกอยู่ภายใต้สนามพลังสำนึกศักดิ์สิทธิ์ของเสวี่ยอู๋เสียไปแล้ว และเขาไม่รู้ว่ารอยแตกร้าวบนผนังแก้วอักษรรูนนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาที่สนามพลังสำนึกศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ต่อหน้าเขา เขาไม่รู้ว่าทุกอย่างที่เขาเห็นเมื่อกำแพงแก้วอักษรรูนสะท้อนเป็นเพียงภาพลวงตา   ความมุ่งมั่นจะทำลายกำแพงแก้วอักษรรูนทำให้ผู้อาวุโสตำหนักกลางบ้าคลั่ง

ในภาพลวงตานั้นเขาเห็นรอยแยกในกำแพงแก้วอักษรรูนขยายใหญ่ขึ้นทุกที

ในที่สุดในที่สุด ภายใต้พลังหมัดที่หนักหน่วง จึงเกิดรูขึ้น

ผู้อาวุโสตำหนักกลางควงหมัดและเร่งโจมตี

รูในกำแพงแก้วผลึกอักษรรูนขยายใหญ่ขึ้น

แม้แต่ในช่วงพริบตาที่กำแพงจะแตกสลายเขาใช้กรงเล็บกระแทกเต็มแรง... จากนั้นข้ามไปมองหาศัตรู

หลังจากเข้าไปในภาพลวงตาแล้ว เขาคิดว่าเขาประสบความสำเร็จทำลายกำแพงแก้วอักษรรูนได้และสามารถทำร้ายศัตรูที่ยังมองไม่เห็น ร่างจริงของเสวี่ยอู๋เสียปิดคัมภีร์แห่งสัจจะและกำลังคิด

พลังกฎสวรรค์เกิดขึ้นระหว่างคิ้วของนาง

เสวี่ยอู๋เสียในตอนนี้ไม่สามารถใช้พลังกฎสวรรค์ขนาดเล็กได้ทั้งหมดนางสามารถสร้างร่องรอยของพลังกฎสวรรค์ได้อย่างจำกัด นางต้องรวบรวมสมาธิและใช้พลังจิตทั้งหมดเพื่อรวบรวมควบกลั่นเป็นพลังกฎสวรรค์ขนาดเล็ก  แต่ต้องไม่ลืมว่านางยังมีอสูรพิทักษ์เทพธิดาวายุ

เทพธิดาวายุถือพลังกฎสวรรค์ขนาดเล็กในมือนางกำหมัดและต่อยใส่ผู้อาวุโสตำหนัก

หมัดต่อยใส่ไหล่สายของผู้อาวุโสตำหนัก

ตรงนั้นคือจุดอันตรายที่แท้จริงของผู้อาวุโสวิหาร

ผู้อาวุโสวิหารบาดเจ็บหนักจนเขาตื่นตัวจากภาพลวงตา การระเบิดของพลังกฎสวรรค์โจมตีจุดที่น่ากลัวที่สุดของวิญญาณเขาเขาหวาดกลัวแทบตาย โบกมือทั้งสองไปมาเพื่อป้องกันตัว

พลังกฎสวรรค์หายไปอย่างรวดเร็วหลังจากบดขยี้จุดตรวจสอบวิญญาณที่สำคัญ ด้วยพลังปัจจุบันของเสวี่ยอู๋เสียเป็นไปไม่ได้ที่จะคงพลังนี้ไว้ได้นาน

มิฉะนั้นผู้อาวุโสตำหนักกลางคงตายไปแล้ว!

ผู้อาวุโสตำหนักกลางได้รับบาดเจ็บทางวิญญาณแต่ไม่ตายเขารีบหนีด้วยความตื่นกลัว

ไม่ว่าจะเป็นนักสู้เตรียมปราณฟ้าหรือไม่ก็ตาม ปัญหาก็คือพลังกฎสวรรค์ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะเข้าไปยุ่งได้ อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสตำหนักกลางขณะที่หลบไปกลับกระแทกใส่กำแพงแก้วอักษรรูน...เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่ได้ทำลายกำแพงแก้วอักษรรูนแม้แต่น้อย  เขาไม่ได้โจมตีใส่กำแพงแก้วแต่อย่างใด ที่เขาโจมตีทำลายไปนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาที่เสวี่ยอู๋เสียพรางตาผู้อาวุโสตำหนักกลางไว้อย่างชาญฉลาดนางรู้แล้วว่าผลการต่อสู้จะออกมาเป็นเช่นนั้น

สิ่งเดียวที่ทำให้นางเสียใจก็คือ

ช่วงเวลาที่กฎสวรรค์คงอยู่สั้นมากไม่ถึงหนึ่งวินาที

ถ้าคงอยู่ได้นานมากกว่าสองวินาทีผู้อาวุโสตำหนักกลางอาจจะล้มกับพื้น...เทพธิดาวายุจะตรึงแขนทั้งสองของผู้อาวุโสตำหนักด้วยพลังน้ำแข็งได้อย่างง่ายดาย

เสวี่ยอู๋เสียดีดนิ้วสองครั้งแขนทั้งสองของเขาหายไป

ผู้อาวุโสตำหนักร้องโหยหวน

ในชีวิตของเขาฆ่าศัตรูด้วยวิธีทารุณกรรมมานับไม่ถ้วน แต่ความรู้สึกถูกฆ่าโดยถูกศัตรูทำทารุณกรรมเขายังไม่เคยลอง

พลังเยือกแข็งที่แข็งแกร่งอย่างนี้ร่างอมตะของเขาไม่อาจต้านทานได้ หลังจากถูกแช่แข็งอย่างนี้ร่างกายของเขาไม่สามารถฟื้นฟูได้!

“ข้าชักเหนื่อยอยู่บ้าง, ยกให้เจ้าก็แล้วกัน!”  เสวี่ยอู๋เสียลอยมาอยู่ข้างเย่ว์หยาง  การใช้พลังกฎสวรรค์ ทำให้นางใช้พลังจิตเกินตัวแม้ว่านางจะทำได้สำเร็จ แต่ก็พลาดฆ่าผู้อาวุโสตำหนักไม่สำเร็จ น่าเสียดาย

“เจ้าทำได้ดีมาก ไม่ต้องกังวลเกินไป”  เย่ว์หยางกุมมือของเสวี่ยอู๋เสีย, พลังกฎสวรรค์ใช่ว่าจะใช้กันได้ทุกคน?นอกจากนี้ยังต้องมีความรู้แจ้งพลังกฎสวรรค์ที่สมบูรณ์ ไม่ใช่พลังสมบัติ,หรือเหตุผลอื่นสนับสนุน แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเสวี่ยอู๋เสียแล้ว! ส่วนที่ยากที่สุดก็คือเสวี่ยอู๋เสียต่อสู้กับยอดฝีมือนางสู้กับผู้อาวุโสตำหนักกลาง แต่ยังเยือกเย็นสร้างพลังกฎสวรรค์ขนาดเล็กได้  ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคู่ต่อสู้เป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริงคงไม่ง่ายที่จะฆ่าเขา  นางชนะแล้ว

“ต่อไปเป็นเจ้าบ้าง”  เสวี่ยอู๋เสียกำลังสู้กับผู้อาวุโสตำหนักคาดไว้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะในช่วงที่สำคัญที่ด้านตรงข้ามทุกแห่งถูกจำกัดไว้โดยเทพธิดาวายุของนาง แม้แต่ทักษะแฝงเร้นบาดแผลเดียวกันและร่างอมตะก็ยังได้รับผล มีอย่างเดียวที่ป้องกันสุดยอดพลังปราณฟ้าระดับห้าได้เด็ดขาดก็คือกำแพงแก้วอักษรรูน

อย่างไรก็ตามนางให้เย่ว์หยางเป็นคนเผด็จศึกสุดท้าย

เขาคือคนสำคัญที่สุดในใจนาง!

ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามนางต้องการให้เขาได้รับประโยชน์มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การต่อสู้หรือโอกาสพัฒนาก้าวหน้า

เย่ว์หยางไม่ได้ใช้สมบัติใดๆไม่ว่าจะเป็นวงจักรล้างโลกหรือวงจักรนิรันดร เขารีบตรงเข้าไปหาผู้อาวุโสตำหนัก และใช้กำปั้นทุบหน้าของอีกฝ่ายหนึ่งขณะที่อีกฝ่ายเตรียมใช้ทักษะบาดแผลเดียวกัน และเตรียมใช้กระจกนำวิญญาณร่วมกัน“ทำให้เจ้ามาปรากฏอยู่ต่อหน้าข้าได้ ข้าจะให้เจ้าพบกับฝีมือที่น่ากลัวของข้า...ไปตายซะเถอะ”

เย่ว์หยางยิ่งโมโหมากขึ้นทุบตีอีกฝ่ายหนึ่งขณะที่ระเบิดพลังใช้สนามพลังสร้างโลก

ประตูตาย!

ผู้อาวุโสตำหนักกลางรอโอกาสตอบโต้เขาพบว่ามีภาพตัวเขาเองที่ฝั่งตรงข้ามได้ถือกระจกวิเศษไว้หลังจากกระจกวิเศษจับภาพเขาได้ ภาพนั้นยิ้มชั่วร้ายและใช้วิธีควักดวงตาตนเองจากนั้นเบ้าตาเขาจะว่างเปล่าและเจ็บปวด เขาตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง “เป็นไปไม่ได้ เจ้าใช้ทักษะบาดแผลเดียวกันได้ยังไง? ทำไมทำไมข้าต้องมาทนทุกข์กับการบาดเจ็บทางวิญญาณ ตาข้า...หูข้า...แขนข้า...ไม่!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด