ตอนที่ 787 ความเจ็บปวดเลื่อนระดับทักษะหกรับรู้
ผู้อาวุโสตำหนักกลางต้องการจะอวดสถานะของตนเป็นการดักคอฝ่ายตรงข้าม
คิดไม่ถึงเลยว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่เปิดโอกาสให้เขา
นางชูดาบเทพจักรพรรดิอวี้พลังของสนามพลังกระจายออก ทุกที่มืดลงในทันใด เมฆครึ้มกระจายตัว มังกรฟ้าปรากฏร่างในที่สุดสายฟ้าแปลบปลาบกระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า สายฟ้านับสิบสายฟาดลงพื้นล่าง ภายใต้การควบคุมขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสายฟ้าเหล่านั้นเชื่อมโยงและกลายเป็นเงื่อนสายฟ้ารูปดอกเหมยที่เย่ว์หยางสร้างขึ้น
นี่คือเงื่อนสายฟ้ารูปดอกเหมย
ความจริงนี่เป็นการผสานพลังจนออกมาเป็นรูปเงื่อนสายฟ้า
สายฟ้าของพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ตรงปลายเงื่อนข้างหนึ่งถูกผู้อาวุโสตำหนักกลางกั้นไว้ได้
“ฝีมือธรรมดา” ผู้อาวุโสไม่เคยเห็นทักษะแบบนี้ ไม่เคยเห็นวงเวทของสายฟ้าดูผิวเผินทำสีหน้าหยิ่งยโส แต่ลอบตกใจ คลื่นพลังของเขาถูกเร่งเร้าพลังปราณฟ้าจนถึงระดับสี่ ถ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่มีดาบเทพอยู่ในมือเขาคงไม่ต้องทุ่มเทกำลังมากมาย เพราะในสายตาของเขาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยู่แค่ระดับเตรียมปราณฟ้าเท่านั้น สู้กับนักรบเตรียมปราณฟ้าด้วยพลังปราณฟ้าระดับสี่ทั้งยังเป็นสตรีถือเป็นเรื่องน่าอดสู
ผู้อาวุโสตำหนักวาดยันต์เวทดาวหกเหลี่ยมปกป้องร่างกาย
จากนั้นควบพลังสร้างบอลพลังแสงสายฟ้า
เสียงครืนครันดังลั่น เขายิงพลังระเบิดในมือออกไปทันที....เขามีความมั่นใจในพลังบอลพายุสายฟ้าว่าจะทำให้วงเวทสายฟ้าที่ซับซ้อนพังสลายไปได้!
นี่คือพลังปราณฟ้าระดับสี่ แล้วพลังระดับเตรียมปราณฟ้าจะต้านทานได้หรือ?ขณะนั้นบอลพลังสายฟ้าระเบิดผู้อาวุโสตำหนักรีบควบแน่นพลังสร้างหอกเพลิงและขว้างออกไปอย่างรวดเร็วตั้งใจจะฆ่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก่อนที่เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียจะทันเข้าช่วยเหลือ
“ร่างมังกรฟ้า”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดเนิบนาบ
สายฟ้ารูปดอกเหมยถูกสร้างโดยพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์เชื่อมกับพลังสายฟ้าบนดาบเทพจักรพรรดิอวี้ขณะที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกระชับดาบแน่นทันที
บอลสายฟ้าที่ระเบิดนั้นมีคุณสมบัดเดียวกับโซ่สายฟ้าของพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพลังที่สมบูรณ์มากกว่า
แสงพลังพุ่งโค้งของผู้อาวุโสตำหนักแตกเป็นเสี่ยงๆ ภายใต้โซ่สายฟ้าของพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์แม้แต่พลังปราณฟ้าระดับสี่ก็ไม่สามารถต้านทานได้ ยิ่งไปกว่านั้นในดอกเหมยสายฟ้านั้นเป็นเย่ว์หยางสร้างให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแฝงไว้ด้วยอักษรรูนสวรรค์อยู่ในโซ่สายฟ้าของพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ผู้อาวุโสของตำหนักกลางเห็นสถานการณ์รอตอบโต้แล้วค่อยหนี แต่ก็สายเกินไปสายฟ้าของพลังมังกรฟ้าศักดิ์สิทธิ์บิดรัดร่างเขา กระแสพลังสายฟ้าที่น่ากลัวแล่นเข้ามาในร่างของเขา ขณะนั้นเมื่อผู้อาวุโสตำหนักกลางกลายเป็นอัมพาตองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่สนใจหอกเพลิง และฟันดาบเทพใส่ทันที
หอกเพลิงถูกดาบเทพจักรพรรดิอวี้ในมือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันขาดสองท่อน
และถูกดาบเทพทำลายล้างหายไปไม่เหลือ
แต่ผู้อาวุโสตำหนักตะลึงมองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟาดฟันดาบลงมาอย่างน่ากลัว
โลหิตฉีดพุ่งอยู่ในท้องฟ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟาดฟันดาบผ่าร่างผู้อาวุโสตำหนักขนาดครึ่งตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
“ระวัง!” เย่ว์หยางร้องเตือน
“ไปให้พ้น!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้ว่าการฆ่าผู้อาวุโสของตำหนักไม่ใช่เรื่องง่าย ร่างที่เพิ่งถูกฆ่าไปนั้นคาดว่าเป็นแค่ร่างแทนหรือเป็นตัวตายแทนของอสูร นางขวางดาบอยู่ข้างตัว ทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ถูกน้ำมาใช้เต็มที่เมื่อนางพบว่ามีเงาบินมาที่ด้านหลังนาง นางตวัดดาบกลับหลังฟันใส่เงานั้นขาดสองส่วนทันที
“ดาบเทพคมกล้าดีมาก เป็นสมบัติระดับเทพจริงๆ ใช่แล้ว!”
ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตรผู้อาวุโสตำหนักแสร้งทำเป็นยืนอยู่ที่นั่น และระหว่างคิ้วจนถึงปากมีรอยเลือดหยดซึม
เมื่อครู่นี้หากไม่มีอสูรตายแทนเขาในสถานการณ์อันตรายที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ ภายใต้การผสานพลังฆ่าของดาบเทพและร่างมังกรฟ้าเป็นไปได้ว่าเขาอาจได้รับบาดเจ็บหนัก...ผู้อาวุโสตำหนักรอดพ้นจากความตายได้หวุดหวิดตกใจถึงขีดสุด แต่ทำเป็นแสดงออกว่าไม่มีอะไร “เด็กน้อย,อย่านึกว่าใช้ดาบเทพได้แล้วจะฆ่าเราผู้อาวุโสได้! อาศัยเด็กน้อยสามคนอย่างพวกเจ้าฝีมือยังห่างไกลนัก!”
นิ้วของเขากระดิกเล็กน้อยก็มีร่างเงาสิบร่างสร้างวงล้อม
เงาเหล่านั้นเข้าไปล้อมองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพร้อมกัน
ในฐานะผู้อาวุโสของตำหนักอย่างน้อยเขาไม่กลัวการต่อสู้! ถ้าฝ่ายตรงข้ามคนที่สองไม่ได้เข้ามาช่วยแล้ว เขามั่นใจว่าภายในไม่กี่กระบวนท่าเขาสามารถเอาชนะสตรีนี้ได้ ทั้งเป็นไปได้ว่ายังจะชิงดาบเทพได้อีกด้วย
และมีใครที่จะเรียกอสูรออกมาสู้ได้มากเท่ากับผู้อาวุโสตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้บ้าง? อย่าว่าแต่ต่ำกว่าระดับปราณฟ้าเลย แม้แต่อสูรระดับปราณฟ้าผู้อาวุโสตำหนักไม่เคยขาดแคลน!
หลังจากเงาทั้งสิบออกไปสู้แล้วเขาเรียกยักษ์สายฟ้าอสูรปราณฟ้าระดับสองออกมาเพิ่มสองตน
ในช่วงเวลาที่ยักษ์สายฟ้าร้องคำรามและเริ่มต้นคุ้มกันและอินทรีสายลมอสูรปราณฟ้าระดับสามบินขึ้นท้องฟ้าเตรียมร่วมกันเข่นฆ่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพร้อมกับร่างเงาอีกสิบร่าง จากนั้นเรียกผึ้งพิษที่มีร่างบางยาวพลังระดับเตรียมปราณฟ้าออกมาอีกสามสิบตัว ที่บินเต็มอยู่ในท้องฟ้าทั้งหมดเป็นอสูรร้าย ขณะนั้นผู้อาวุโสตำหนักชี้นิ้วไปทางองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน แสงสีเงินเร็วกว่าสายฟ้าถึงสิบเท่ายิงเป็นสายมุ่งตรงไปที่ตำแหน่งหัวใจองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
ด้วยวิธีการโจมตีที่มากมายอย่างนั้นผู้อาวุโสตำหนักไม่คิดว่านักรบระดับเตรียมปราณฟ้าจะรับมือได้
ต่อให้รับมือได้แต่เชื่อได้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะต้องสับสนแน่นอน
อย่างไรก็ตามความจริงที่บอกให้เขาทราบก็คือ
เขาผิดพลาด
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขวางดาบเทพบังไว้ข้างหน้าและยืมผิวดาบสะท้อนแสงสีเงิน
เกิดแรงสั่นสะเทือนบนพื้นเต่าดำขนาดมหึมาผุดออกมาจากพื้นล่าง พ่นพลังรูปดาบน้ำแข็งพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าถูกยักษ์สายฟ้าอสูรปราณฟ้าทั้งสองตน แต่มันไม่ถูกแช่แข็งเพียงแต่ความเคลื่อนไหวของมันกลายเป็นเชื่องช้าเหมือนทากคลาน อินทรีสายลมในท้องฟ้าที่กำลังโฉบลงมาตกใจกลัวบินกลับขึ้นไปในท้องฟ้าอีกครั้ง
นางควงดาบเทพจักรพรรดิอวี้ อสูรเงาแทนตัวระดับเตรียมปราณฟ้าทั้งสิบที่บุกเข้าหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก่อนหน้านั้นถูกฟันเอวขาดสองท่อนพร้อมกัน
รูปเต่านั้นดูเหมือนจะยกศีรษะขึ้น
และพ่นไอเย็นจัดออกมา
ผึ้งธนูพิษสามตัวร่วงตกทันทีตัวที่เหลือต่างแตกกระจายหนีไป
“ตาย!”ภาพมายาพยัคฆ์ขาวฉายกระพริบอยู่เหนือศีรษะขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ในเวลานี้นางกลายเป็นสาวพยัคฆ์ขาวที่แข็งแกร่งที่สุด นางกระโดดใช้ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ฟันใส่ศีรษะของยักษ์สายฟ้า ภายใต้การคำนวณที่แม่นยำของทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ ดาบเทพผ่าครึ่งศีรษะและตัดเข้าผลึกปีศาจอย่างแม่นยำ จากนั้นนางหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็วและใช้ดาบเทพจักรพรรดิอวี้แทงใส่หน้าของยักษ์สายฟ้าอีกตนหนึ่ง ปราณกระบี่ของดาบเทพทะลวงเข้าไปในผลึกปีศาจของยักษ์อีกตนหนึ่ง
ยักษ์สายฟ้าทั้งสองหมดพลังร่วงลงกับพื้น
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังไม่หยุดเคลื่อนไหวนางกระโจนเข้าหาพร้อมกับใช้ดาบฟันใส่ผู้อาวุโสตำหนัก
“นึกว่าข้าจะกลัวเจ้านักหรือ? ไม่มีดาบเทพเจ้าก็ไม่มีน้ำยา!” จนถึงตอนนี้ผู้อาวุโสตำหนักยังคงคิดว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพึ่งพาความคมกล้าของดาบเทพ
“ระบำพญาหงส์” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนควงดาบหมุนตัว
วงกลมที่สง่าและงดงามเหมือนพญาหงส์บินโฉบเฉี่ยวอยู่ในท้องฟ้า
ดาบเทพจักรพรรดิอวี้กลายเป็นปีกที่งดงามของนางและปราณกระบี่กระจายเต็มท้องฟ้าหมุนเป็นวง
ผู้อาวุโสตำหนักแค่นเสียงเยาะเย้ยแต่ยังรอบคอบ “ฮึ, แค่ระบำยังจะฆ่าใครได้หรือ? แค่ลูกไม้ตื้นๆ...หือ?”
ในขณะที่เขาอุทานมีดาบเล่มหนึ่งแทงผ่านชายโครงของเขา เดิมทีดาบเล็งอยู่ที่หัวใจแต่ภายใต้ลักษณะที่เปลี่ยนแปลงของผู้อาวุโสตำหนัก หัวใจสามารถหลีกเลี่ยงการถูกแทงจากดาบเทพได้แต่กระดูกซี่โครงในร่างถูกดาบตัดไปสามซี่ เงาแห่งความตายทาบทับหัวใจของผู้อาวุโสตำหนักเขาไม่มีเวลาพอใช้อสูรรับเคราะห์แทน แทบถูกฝ่ายตรงข้ามฆ่าได้ในทันที จนถึงเดี๋ยวนี้เขาจึงตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพระบำพญาหงส์ที่สวยงามเป็นเพียงภาพมายาตามหลังของฝ่ายตรงข้าม ร่างจริงของศัตรูบินมาก่อนแล้วเริ่มโจมตีเขาอย่างรุนแรง
โชคดีที่นางมีพลังเพียงระดับเตรียมปราณฟ้าเท่านั้น
มิฉะนั้นดาบนี้จะต้องเอาชีวิตของเขาได้อย่างแน่นอน!
ถ้านางมีพลังมากและนิ่งในชั่ววินาที เรื่องคงจบลงแล้ว
ผู้อาวุโสตำหนักที่เกือบจะตายรู้สึกโกรธและอาย ร่างของเขาเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องขณะเดียวกันเขาระเบิดปลดปล่อยพลังเต็มที่ ขณะที่หลุดพ้นจากดาบเทพ เขาตวัดกรงเล็บตะปบที่ศีรษะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เผียะเผียะ เผียะ!
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนซ้อมฝีมือกับเย่ว์หยางไม่รู้ต่อกี่หมื่นครั้งแล้วนางมีวิชาต่อสู้ระยะประชิดสูงส่งกว่าเสวี่ยอู๋เสีย ถ้าผู้อาวุโสตำหนักกลางใช้พลังเข้าเผชิญหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคงสู้ตามปกติ แต่เมื่อเทียบในทักษะสู้ระยะประชิดเขาจะถูกกำจัดเพราะความถือดี! องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหมุนตัวเตะท้องน้อยของผู้อาวุโสตำหนักนางเตะกวาดเท้าจนผู้อาวุโสหัวทิ่ม พร้อมกับตวัดปราณกระบี่ใส่ท้อง หน้าคอและหน้าของผู้อาวุโสตำหนัก
ผู้อาวุโสตำหนักเจ็บปวดปล่อยมือลง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตวัดศอกเข้าที่จมูกผู้อาวุโสวิหารและใช้ดาบฟันใส่หน้าของผู้อาวุโสตำหนัก
ผมสองสามเส้นใบหูครึ่งหนึ่งถูกดาบตัด...เพราะดาบศักดิ์สิทธิ์ทำให้ผู้อาวุโสหนีห่างออกไปสองสามกิโลเมตร เขาลูบจมูกและพบว่ามือของเขาเต็มไปด้วยเลือด..ถึงตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่านักดาบหญิงผู้นี้ฝีมือดาบยังไม่เด่นนักแต่การสู้ระยะประชิดจัดว่ายอดเยี่ยม
“ไม่เลว, ค่อยน่าสนใจขึ้นมาบ้าง” ผู้อาวุโสตำหนักกลางยิ้มได้ไม่กังวลใจแม้แต่น้อย
ขณะที่เขาพูดร่างของเขาเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
เขากลายร่างเป็นปีศาจหกตาเขาเป็นรูปสามเหลี่ยม สี่แขนและมีปีกคู่หนึ่งหูที่ถูกตัดและจมูกที่มีรอยแผลหายไปหมดร่างที่ถูกดาบเทพแทงบาดเจ็บหนักรักษาตัวอย่างรวดเร็วมองเห็นด้วยตาเปล่าใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาทีการกลายร่างเป็นปีศาจทำให้ผู้อาวุโสตำหนักฟื้นฟูพลังเต็มที่เหมือนตอนแรกเริ่ม
มองดูผิวเผินเหมือนกับว่าไม่เคยถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทำร้ายบาดเจ็บ
สุดท้ายเขาก็ยังหลงตัวเองดึงกระจกออกมาส่องดูภาพตนเองและยิ้มให้กระจก
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยากอาเจียนยิ่งนัก เจ้าผู้นี้รอดอยู่ในแดนสวรรค์ได้ยังไง? ทั้งยังปะปนเป็นผู้อาวุโสตำหนัก เทียบกันแล้วเฮยหู(ผู้อาวุโสแดนสวรรค์ที่เย่ว์หยางฆ่าตอนมาแดนสวรรค์ครั้งแรก) ดูดีกว่ามาก!
เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียมองหน้ากันเองและรู้สึกว่าผิดปกติเล็กน้อย
พวกเขาเตือนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้ระวังตัว
ถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยืนกรานจะท้าสู้เองก่อนเย่ว์หยางคงวิ่งไปฆ่าเจ้าปีศาจที่หลงตัวเองนี้เสียแล้วปกติแล้วเย่ว์หยางรู้ว่าการเลื่อนระดับพลังให้เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเป็นเรื่องสำคัญมาก พลังรบของพวกนางจะส่งผลต่อชัยชนะและพ่ายแพ้ในอนาคต การส่งเสริมพวกนางให้มีพลังแข็งกล้า และเข้าใกล้การท้าทายพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จะมีความเป็นไปได้มากขึ้น อีกอย่างการฝึกฝนแบบคู่รักสามารถช่วยเพิ่มระดับพลังได้ แต่ถ้าพวกนางมีพลังระดับปราณราชันย์ เย่ว์หยางยังต้องกังวลกับการบรรลุพลังปราณราชันย์ด้วยหรือ? นอกจากนี้เขายังไม่สามารถเรียกคัมภีร์เทพฤทธิ์ออกมาใช้ได้นั่นยังเป็นเรื่องน่าปวดหัว?
“ก่อนหน้านี้ ข้าไม่รู้จักพวกเจ้าก็เลยปล่อยให้เจ้าผยองอวดดีเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีความหมายอะไรนัก ตรงกันข้ามนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวที่น่าสมเพชของพวกเจ้า” หลังจากที่กลายเป็นปีศาจแปลกประหลาด ก็ยังแค่นเสียงเหยียดหยามเหมือนตอนเป็นผู้อาวุโสที่น่ารังเกียจ “จะให้เจ้าได้เห็นฝีมือที่แท้จริงของข้า! หลังจากเจ้าได้เจอพลังที่ยิ่งใหญ่ของข้า เจ้าจะต้องเสียใจที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แน่นอน! กับคนที่เป็นศัตรูต่อต้านข้าจะต้องประสบเคราะห์ร้ายอย่างแน่นอน!
“.....” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่พูดกระชับดาบเทพจักรพรรดิอวี้ไว้แน่ เตือนให้ศัตรูระวังป้องกัน
“กระจกวิเศษ! บอกข้าเถิดตาทำหน้าที่อะไร?” ผู้อาวุโสตำหนักหลงชื่นชมตนเองในกระจกวิเศษ
เย่ว์หยางแทบทนอาเจียนไม่ได้
ถ้าเป็นหญิงงามยังพอทำเนาเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มรูปงามใช้กระจกก็คงพอโชคดีแต่ปีศาจอัปลักษณ์ใช้กระจกหลงเงากระจกเห็นแล้วพาลขนลุก เสวี่ยอู๋เสียไม่สนใจอารมณ์ขันของเย่ว์หยางนางแผ่สำนึกศักดิ์สิทธิ์คลุมสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ ลอบปกป้ององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเพื่อไม่ให้นางได้รับบาดเจ็บจากคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
นางกับเย่ว์หยางตัดสินใจผิดพลาด ถ้าผู้อาวุโสตำหนักโจมตีไม่เพียงแต่เสวี่ยอู๋เสีย แต่เป็นเย่ว์หยางเขาจะขัดขวางเพราะกลัวว่าองค์หญิงเชี่ยนจะไม่สามารถผ่านบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเขาไม่ยินยอมให้นางตกอยู่ในสถานะอันตราย
แต่ผู้อาวุโสตำหนักไม่ได้โจมตีองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เขาเหยียดนิ้วและลูบหน้าตนเองเบาๆจากนั้นควักตาออกมาทันใดพร้อมกับโลหิตที่ฉีดพุ่ง
“กรี๊ดด!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่นางหลับตา แม้ว่ามองผิวเผินนางไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ตาของนางเป็นเหมือนมีอาการเจ็บลึกอยู่ภายใน น้ำตาไหลพราก นางไม่อาจลืมตาได้ ดวงตาได้รับบาดเจ็บเนื่องจากนางมีทักษะหกรับรู้จึงทำให้นางเจ็บปวดมากกว่าคนธรรมดา แต่นางว่องไวแต่ไม่วุ่นวาย นางหลับตาดาบเทพจักรพรรดิอวี้คุ้มครองร่างป้องกันการโจมตีที่คาดไม่ถึงของศัตรู
“เดรัจฉาน! ข้าจะฆ่าเจ้า!” เย่ว์หยางโกรธจัดต้องการใช้ดาบฟาดฟันศัตรูในดาบเดียวแต่ว่าเกิดจากความกังวลคนรักของเขา แต่เขาบินเข้าไปกอดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไว้แม้ว่าเขาจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็ตาม
“ใจเย็นก่อน” เสวี่ยอู๋เสียไล่ตามเย่ว์หยางที่โกรธจนแทบคลั่ง
นางวิเคราะห์อย่างใจเย็น“ทักษะแฝงเร้นของเจ้าผู้นี้ก็คือ สะท้อนอาการบาดเจ็บไม่ว่าเขาจะทำร้ายตัวเองหรือเราโจมตี เชี่ยนเชี่ยนจะได้รับบาดเจ็บ ความจริงเราควรรู้ในเรื่องนี้อย่าเพิ่งแตะต้องเขาก่อน เราควรพาเชี่ยนเชี่ยนหนีไปจากที่นี่ ทักษะแฝงเร้นและความสามารถของเขาควรจะมีกำหนดระยะห่าง!”
เย่ว์หยางต้องการกอดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไว้ แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับดิ้นหลุดและโบกมือห้าม “ไม่มีอะไรข้าแค่เจ็บตาเท่านั้น ไม่ได้บาดเจ็บจริงเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจะถือโอกาสใช้ทักษะหกรับรู้ ต่อให้ข้าไม่มีตา ข้าก็สู้ได้... ในอนาคตเราจะพบเจอศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ถ้าข้าไม่สามารถผ่านด่านนี้ไปได้ ต่อไปในอนาคตข้าจะทำอะไรได้? เจ้าถอยไปก่อนตราบใดที่ไม่ใช่การเจ็บทางกายจริงๆ มันก็แค่เจ็บปวดทางจิต นี่ไม่มีอะไรข้ายังสู้ต่อไปได้ ให้ข้าลองอีกครั้ง ขอเวลาข้าสักหนึ่งนาที!”
เมื่อเห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมแพ้ เขาได้แต่ส่งเสริมความตั้งใจนาง
เสวี่ยอู๋เสียและเย่ว์หยางไม่มีทางเลือกได้แต่เห็นด้วย
ความจริงตาขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอนแต่ใช้ไม่ได้เป็นการชั่วคราว และเป็นการเจ็บปวดทางวิญญาณราวกับถูกควักดวงตา “ทักษะแฝงเร้นหกรับรู้ของข้าไม่ได้ยกระดับมาเป็นเวลานานแล้ววันนี้ได้โอกาสเสียที!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวดปล่อยให้น้ำตานองหน้า แต่กางมือทั้งสองออกเหมือนจะสัมผัสรับรู้ที่ยังเหลืออีกห้าโอบกอดฟ้าและดินไว้ นางมีลางสังหรณ์ว่าถ้านางสามารถต่อสู้ภายใต้เงื่อนไขเช่นนี้เชื่อได้ว่าทักษะแฝงเร้นหกรับรู้จะต้องยกระดับอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเจ็บปวดจนถึงจุดเปลี่ยนแปลงได้แต่โอกาสยกระดับพลังรออยู่ข้างหน้า เพื่อเป้าหมายในใจ เพื่อไล่ตามคนรักที่ก้าวหน้าห่างไกลนางออกไปทุกทีให้ทัน
นางตัดสินใจสู้ต่อไป!