ตอนที่ 21-32 จุดรวม
ลินลี่ย์กวาดสายตามองคนทั้งสองเพื่อประเมินสถานะพวกเขา
ในสองคนนี้คนหนึ่งสวมชุดยาวสีแดงเพลิงและผมสีแดงเพลิงยาวใบหน้าของเขามีท่าทีเป็นกันเอง นี่คือมหาเทพน้อยธาตุไฟโบเทียร์ ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นบุรุษร่างค่อนข้างกำยำ และมีความสูงพอๆ กับลินลี่ย์ เขาสวมชุดยาวสีเทา และไว้ผมสั้นนี่คือมหาเทพน้อยธาตุดินมอนโร
“โบเทียร์, มอนโร” ลินลี่ย์หัวเราะใจเย็น “บังเอิญจริงๆ ที่มาเจอท่านทั้งสองที่นี่ ทำไมท่านทั้งสองถึงมาที่นี่เล่า?”
มหาเทพน้อยโบเทียร์และมอนโรมองหน้ากันเองและจากนั้นโบเทียร์ยิ้มอย่างสุภาพและส่งสำนึกเทพบอก “ลอร์ดลินลี่ย์ขอบอกความจริงกับท่าน มอนโรกับข้ามาหาทูต บรีเซิลผู้นี้เป็นคนที่เราตัดสินใจเลือกไว้นานแล้ว เรามาเพื่อรับให้เขาเป็นทูตของเรา ลอร์ดลินลี่ย์ โปรดช่วยเราในเรื่องนี้ด้วยเถอะ”
ไม่ใช่ว่ามหาเทพทุกคนจะมีทูตเต็มพิกัดของพวกเขาตัวอย่างเช่นบลูไฟร์มีทูตเพียงคนเดียวก็คือฟูโซ่ ทูตคนที่สองของเขายังไม่ถูกเลือก
เนื่องจากสงครามมหาพิภพใกล้จะมาถึงมหาเทพสองสามคนที่มีตำแหน่งทูตว่างก็เริ่มรับสมัครทูตเพื่อให้เต็มอัตรา
“หืม” ลินลี่ย์อดทำหน้าเครียดไม่ได้
โบเทียร์และมอนโรรู้สึกสะท้านใจ ที่สำคัญลินลี่ย์คือคนที่เอาชนะประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้าและประมุขมหาเทพแห่งแสงได้เขามีพลังที่น่ากลัว มีแต่เพียงประมุขมหาเทพสี่วิถีที่มีระดับเหนือกว่าลินลี่ย์ ทั้งสองคนเป็นมหาเทพน้อย..พวกเขาจะเทียบกับลินลี่ย์ได้อย่างไร?
“โบเทียร์, ข้าบอกให้เจ้าลืมซะ แต่เจ้าล่ะ?เจ้ากลับมาแทน” มอนโรอดส่งสำนึกเทพเตือนเขาไม่ได้
“ไม่ต้องห่วง ตราบเท่าที่เรายังให้ความเคารพลินลี่ย์คงไม่กล้าลงมือกับเรา ถ้าเขาทำเขาก็ละเมิดข้อตกลงมหาเทพ” มหาเทพน้อยธาตุไฟโบเทียร์ส่งสำนึกเทพตอบ และจากนั้นเขายิ้มให้ลินลี่ย์และกล่าว “ลอร์ดลินลี่ย์ ในโลกธาตุดินศักดิ์สิทธิ์มีคนหลายคนนอกจากบรีเซิลที่มีพลังป้องกันตัวแข็งแกร่งท่านสามารถเลือกคนอื่นได้ง่ายๆ”
ลินลี่ย์กวาดสายตาเย็นชามองดูโบเทียร์และมอนโร
ก่อนที่ลินลี่ย์พูดอะไรบีบีที่อยู่ใกล้อดโมโหไม่ได้และกระชากเสียง “พี่ใหญ่ข้าเลือกทูตคนหนึ่งไว้แล้วพวกท่านคิดยังไงถึงจะดึงคนไปจากเขา?”
“หุบปากเจ้าซะ” มอนโรอดตะคอกใส่บีบีขณะมองด้วยความโกรธไม่ได้
ทั้งสองกลัวลินลี่ย์แต่พวกเขาจะไม่ทนต่อเทพชั้นสูงอย่างบีบี ในสายตาของมหาเทพ..เทพชั้นสูงอย่างบีบีเป็นแค่มด และตอนนี้เจ้ามดตัวนี้บังอาจสั่งสอนเขาทำให้พวกเขาโกรธ? เรื่องนี้จะยอมกันได้อย่างไร? ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าลินลี่ย์ที่อยู่ข้างหน้าในตอนนี้ ทั้งสองคนอาจจะฆ่าบีบีทันทีก็ได้”
“เท่าที่ข้าเห็นเป็นเจ้าสองคนนั่นแหละที่ควรหุบปาก” ลินลี่ย์แค่นเสียง
โบเทียร์และมอนโรสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
“ลอร์ดลินลี่ย์ เอาอย่างนี้เป็นยังไง ให้บรีเซิลเลือกด้วยตนเอง ท่านจะว่ายังไง?” โบเทียร์พูดอย่างไม่ละอายและจากนั้นเขาไม่สนปฏิกิริยาของลินลี่ย์ เขาหันไปมองบรีเซิล เขายิ้มและกล่าว “บรีเซิล ถ้าเจ้ายินดีจะกลายเป็นเทพใต้บัญชาการของข้า ข้าจะมอบสมบัติมหาเทพให้เจ้า”
บรีเซิลมึนงงไปหมด
“วันนี้เกิดอะไรขึ้น?” ทำไมมหาเทพถึงได้ทะเลาะกันเพื่อให้ข้าเป็นทูตให้พวกเขา?” บรีเซิลสับสน
ไม่ใช่แค่เขา แม้แต่ลินลี่ย์ก็งงด้วย
“เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ “เขาเป็นแค่ทูตคนหนึ่งมียอดฝีมือระดับเจ็ดดาวอยู่มากในพิภพดินศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาสามารถไปหาคนอื่นได้ ทำไมจะต้องยั่วโมโหข้าเพื่อให้บรีเซิลผู้นี้? อะไรคือสาเหตุให้พวกเขากล้าทำเช่นนี้?”
เพราะความมึนงงของเขาลินลี่ย์ไม่ได้ใล่มหาเทพทั้งสองทันที เขาต้องการค้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา
“ข้า...” บรีเซิลลังเลเล็กน้อย
การกลายเป็นทูตของลินลี่ย์จะเกี่ยวข้องกับการทดสอบที่อันตรายมาก
แต่มหาเทพที่เพิ่งปรากฏนี้ไม่ได้พูดถึงการทดสอบเป็นธรรมดาที่บรีเซิลต้องลังเล
“โบเทียร์เป็นไปได้หรือว่าเจ้าไม่ได้จงใจส่งเขาเข้าไปในสมรภูมิมหาพิภพ?” ลินลี่ย์พูดเย็นชา
มหาเทพธาตุไฟโบเทียร์หัวเราะตามธรรมดา “ถ้าคนต้องการจะกลายเป็นทูต เขาก็ต้องได้รับการทดสอบเป็นธรรมดา”
บรีเซิลอดชำเลืองมองดูมหาเทพธาตุไฟโบเทียร์มิได้ เขารำพึงในใจ “มหาเทพธาตุไฟผู้นี้ไม่ได้พูดก่อนหน้านี้ เป็นไปได้ว่าเขาคงจะแจ้งข้าหลังจากข้าตอบตกลง การกระทำของเขาไม่ค่อยซื่อสัตย์”บรีเซิลไม่ลังเลแม้แต่น้อยพูดด้วยความเคารพทันที “ขออภัย แต่ข้ารับข้อเสนอของมหาเทพท่านนี้ไปแล้ว”
ลินลี่ย์หัวเราะ
โบเทียร์และมอนโรมองหน้ากันเอง
“ข้าต้องการรู้ว่าทั้งสองคนนี้จะพูดให้ตัวเองอย่างไร” ตอนนี้ลินลี่ย์สนใจอย่างแท้จริง อะไรทำให้สองคนนี้ถึงกับยอมทะเลาะกับลินลี่ย์เพื่อแย่งบรีเซิลถึงขนาดยอมล่วงเกินเขา?
แค่ทูตคนหนึ่ง? ลินลี่ย์ไม่เชื่อ
พวกเขาไม่ยินดีจะเสนอต่อระดับประมุขมหาเทพผู้ทรงพลังแม้ว่าจะสูญเสียทูตไปคนหนึ่งก็ตาม
มหาเทพเหล่านี้โง่หรือ? สมองของพวกเขาผิดปกติหรือเปล่า? ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นไปได้
อย่างนั้น...อะไรคือเหตุผลที่แท้จริง?
“ลอร์ดลินลี่ย์” โบเทียร์คำนับเล็กน้อยจากนั้นส่งสำนึกเทพบอก “เป็นลอร์ดโอล็อฟประมุขมหาเทพวิถีชะตาสั่งให้เรามารับบรีเซิลผู้นี้ให้เป็นทูตของเรา เราทั้งสองคนก็แค่ทำตามคำสั่งไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้ โปรดช่วยเราสักนิดเถิดลอร์ดลินลี่ย์”
ลินลี่ย์ตะลึง
ประมุขมหาเทพวิถีชะตาโอล็อฟ?
ลินลี่ย์รู้ว่าประมุขมหาเทพสี่วิถีแต่ละคนมีกลุ่มมหาเทพที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ตัวอย่างเช่นมหาเทพวิถีทำลายล้างก็มีมหาเทพสองสามคนที่เขาปกป้อง หลายคนฝึกฝนมาในกฎธาตุซึ่งเข้ามาในแดนนรกและยืนอยู่ฝ่ายเขา
มหาเทพทุกคนรู้ที่สำคัญประมุขมหาเทพสี่คนของสี่วิถีล้วนทรงพลังกันที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องปฏิบัติตามหนึ่งในพวกเขาเป็นธรรมดา
ประมุขมหาเทพแห่งชะตาทรงพลังอำนาจหยั่งไม่ถึง ดังนั้นจึงมีมหาเทพหลายคนที่เชื่อฟังคำสั่งของเขา สองมหาเทพที่อยู่ต่อหน้าลินลี่ย์ก็อยู่ในกลุ่มพวกเขา! ในความเป็นจริงแม้ประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตาก็อาจนับได้ว่าเป็นคนในฝ่ายของประมุขมหาเทพวิถีชะตา แม้ว่าเขาไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าเป็นบริวารเขาก็ตาม
“ฮ่าฮ่า, ลอร์ดโอล็อฟมีกองทัพเทวทูตสิบสองปีกแล้ว ทำไมเขาจะต้องใส่ใจเรื่องทูตคนหรือสองคนเล่า?” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพตอบกลับและหัวเราะอย่างใจเย็น
“เราไม่สามารถเข้าใจแผนของท่านโอล็อฟได้” โบเทียร์และมอนโรทั้งสองคนแสดงความเคารพ โบเทียร์ส่งสำนึกเทพบอก “ลอร์ดโอล็อฟสั่งให้เรามาที่นี่และให้ตั้งคนชื่อบรีเซลเป็นทูตของเขา แม้ว่าลอร์ดโอล็อฟไม่ได้บอกเราว่าเราต้องทำภารกิจให้สำเร็จ แต่เราไม่อาจทำให้เขาผิดหวังได้จริงไหม?...ดังนั้นเราจึงอยากจะขอลอร์ดลินลี่ย์ให้ช่วยเราด้วย”
ลินลี่ย์ในตอนนี้เริ่มจะเข้าใจ อย่างไรก็ตามยังมีสิ่งหนึ่งที่เขาสงสัย “โอล็อฟเป็นประมุขมหาเทพวิถีชะตา! เขาสูงส่งขนาดนั้นมากศักดิ์ศรีขนาดนั้น แม้แต่มหาเทพวิถีทำลายล้างก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้อย่างนั้นทำไมเขาถึงจดจำเทพชั้นสูงอย่างบรีเซลได้?”
“ลอร์ดลินลี่ย์...” โบเทียร์พูดอีกครั้ง
“ขออภัย, ข้ารับบรีเซิลผู้นี้เป็นทูตของข้าเรียบร้อยแล้ว นี่ก็คล้ายกับการให้สัญญากับบรีเซล ในฐานะเป็นมหาเทพ เมื่อข้ารับปากไปแล้ว ข้าจะคืนคำได้อย่างไร?” ลินลี่ย์มองดูทั้งสองคนอย่างเยือกเย็น “ดีที่สุดแล้วท่านทั้งสองจากไปดีกว่า”
โบเทียร์และมอนโรอดขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้
“ลอร์ดลินลี่ย์ นี่คือคนที่ประมุขมหาเทพวิถีชะตา ลอร์ดโอล็อฟเลือกเป็นการส่วนตัว ถ้าท่านทำเช่นนี้เมื่อลอร์ดโอล็อฟรู้เรื่องนี้...” โบเทียร์พูดอย่างไม่กลัว
ลินลี่ย์หน้าเครียด
ขู่กันหรือ?
สายตาของเขาพลันเย็นชา เขามองดูทั้งสองคน และสบถออกมาสองพยางค์ “บัดซบ!”
หน้าของโบเทียร์และมอนโรเปลี่ยนไปไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป พวกเขาคำนับเล็กน้อยจากนั้นบินจากไปทันทีด้วยความเร็วสูง
“ใช้ประมุขมหาเทพวิถีชะตาโอล็อฟมาขู่ข้า?” ลินลี่ย์ลอบส่ายศีรษะ สองมหาเทพนี้พยายามจะลวงเขาด้วยการขู่คุกคาม ลินลี่ย์รู้ว่าโอล็อฟเป็นคนประเภทไหน เขาไม่คนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นศัตรูทุกคน บางครั้งผู้บังคับบัญชาอาจเป็นคนดีมากๆ แต่เพราะการกระทำที่ไม่เหมาะสมของบริวารของเขาทำให้ชื่อเสียงของเขาต้องมัวหมอง
มีความแตกต่างมากมายระหว่างมหาเทพน้อยและประมุขมหาเทพ
เพียงแต่เพราะข้อตกลงมหาเทพเว้นแต่มีข้อขัดเคืองระหว่างพวกเขา ประมุขมหาเทพจะไม่โจมตีมหาเทพน้อย
โบเทียร์และมอนโรหนีไปไกลมากแล้ว
“เจ้าลินลี่ย์ชักจะหยิ่งเกินไปแล้ว” โบเทียร์อดส่งสำนึกเทพคุยมิได้ “เราอุตส่าห์ลดตัวขอร้อง ขอความช่วยเหลือและแม้จะบอกเขาว่านี่ทำเพื่อประมุขมหาเทพวิถีชะตาแต่เขาก็ยังปฏิเสธไม่ยอมเห็นแก่หน้าใคร”
“โบเทียร์, วันนี้เจ้าก็ทำเกินไปจริงๆ ที่สำคัญลินลี่ย์อยู่ในระดับเดียวกับประมุขมหาเทพ” มอนโรส่งสำนึกเทพตอบ
โบเทียร์แค่นเสียง “ระดับประมุขมหาเทพ? เขาก็แค่ไอ้เด็กวานซืนที่โชคดีเท่านั้นใช้เวลาไม่ถึงหมื่นปีก็มาถึงระดับนั้น นั่นเป็นเพราะเขาหลอมรวมประกายมหาเทพสามชิ้นและมีอาวุธจอมเทพ และมอนโรเจ้าไม่จำเป็นต้องกลัวเขา ตราบใดที่เราไม่กระทำผิดพลาด เขาจะกล้าลงมือกับเราหรือ?”
โบเทียร์ไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อลินลี่ย์
ลินลี่ย์โดดเด่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ประการแรกในฐานะเป็นมหาเทพน้อยเขาสู้กับประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาได้เสมอ และจากนั้นเขาสามารถทำลายร่างแยกมหาเทพของประมุขมหาเทพสายฟ้าจากนั้นทำร้ายประมุขมหาเทพแห่งแสงบาดเจ็บสาหัส
ลินลี่ย์รุ่งเรืองขึ้นมามีชื่อเสียงอย่างรวดเร็วมาก เป็นธรรมดาที่เรื่องนี้จะมีมหาเทพหลายคนที่อิจฉา โบเทียร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น
“พอแค่นั้นเถอะ เจ้าก็แค่กล้าคิดล่วงเกินเขา แต่เจ้ากล้าลงมือทำหรือ?” มอนโรอดหัวเราะและถามคำถามนี้ไม่ได้
โบเทียร์เงียบ
เขากล้าไหม? ไม่อยู่แล้ว!
“กลับไปแดนสวรรค์เถอะ น่าเสียดายเราไม่สามารถทำตามคำสั่งลอร์ดโอล็อฟได้” มอนโรพูดอย่างจนใจ “อย่างไรก็ตามลอร์ดโอล็อฟไม่ได้สั่งการอย่างแข็งขัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่เราล้มเหลวทำตามคำสั่งไม่สำเร็จ”
หลังจากสองมหาเทพจากไปแล้ว ลินลี่ย์มองดูบรีเซิลจากนั้นหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ในเมื่อเจ้าขอจากข้า ข้าจะมอบสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณให้เจ้าชิ้นหนึ่ง จากวันนี้เป็นต้นไปเจ้าจะกลายเป็นทูตคนที่หกภายใต้บังคับบัญชาของข้า” ลินลี่ย์โบกมือและสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณรูปแหวนปรากฏขึ้น
“ขอบคุณมหาเทพ!” บรีเซิลคุกเข่าลงเขารับสมบัติมหาเทพด้วยอาการที่ตื่นเต้น
ลินลี่ย์ชำเลืองมองบรีเซิลจากนั้นมองทูตอีกห้าคน เขาหัวเราะและกล่าว “จากวันนี้เป็นต้นไปพวกเจ้าทั้งหกคนยังจะต้องอยู่ด้วยกัน ฝึกและให้ความร่วมมือกัน ถ้าพวกเจ้าทั้งหกผนึกกำลังกันในสงครามมหาพิภพตราบใดที่พวกเจ้าให้ความระมัดระวัง พวกเจ้าจะมีโอกาสรอดชีวิตเป็นอย่างดี”
“ขอรับ มหาเทพ”
ทั้งหกคนคำนับ
“แม้ว่าพวกเจ้าจะมีหยดพลังมหาเทพคนละหยดหรือสองหยดแต่นั่นไม่เพียงพอใช้ในสงครามมหาพิภพ” ลินลี่ย์โบกมือและมีขวดหยกเข้มหกใบปรากฏขึ้นภายในขวดทั้งหกนี้มีพลังมหาเทพมากมายพลังมหาเทพธาตุน้ำสองขวด พลังมหาเทพธาตุดินหนึ่งขวด พลังมหาเทพธาตุลมหนึ่งขวดพลังมหาเทพธาตุแสงหนึ่งขวด ขณะที่ขวดสุดท้ายเป็นพลังมหาเทพธาตุมืด
ในฐานะมหาเทพเป็นเรื่องง่ายสำหรับลินลี่ย์กับการเลือกเก็บพลังมหาเทพนี้
“ขวดเหล่านี้แต่ละขวดบรรจุพลังมหาเทพร้อยหยดมากเพียงพอให้พวกเจ้าใช้ในสงครามมหาพิภพ” ลินลี่ย์ส่งขวดหยกเข้มลอยเข้าหาคนทั้งหก
ทั้งหกคนรับขวดพลังไว้ด้วยความยินดีเต็มเปี่ยม
“ขอบคุณมหาเทพ!” ทั้งหกคนคุกเข่าขอบคุณ
“เอาล่ะ ทุกคน, ลุกขึ้นได้แล้ว” ลินลี่ย์กวาดตามองดูทั้งหกคน เขารู้ว่าหลังจากทั้งหกคนเข้าสู่สงครามมหาพิภพแล้ว พวกเขาจะไม่สามารถออกมาได้ จะมีผู้รอดชีวิตสักกี่คนในสงครามมหาพิภพที่จะมาถึงครั้งนี้? “จำเอาไว้ ในสงครามมหาพิภพนี้ พวกเจ้าต้องไม่พยายามฝืนตัวเองจนเกินไป จงรู้จักหลบเลี่ยง อดทน,การมีชีวิตรอดเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การฆ่าศัตรูเป็นเรื่องรองลงมา!”
“ขอรับ, มหาเทพ” ทูตทั้งหกอดรู้สึกขอบคุณมิได้
“เตรียมตัวเดินทาง” ลินลี่ย์หันไปมองในที่ไกล
“ห้าร้อยปี อีกไม่ถึงร้อยปีสงครามมหาพิภพจะเริ่มต้น” บีบีบิดขี้เกียจ “ฮ้า..... ในที่สุดก็ได้กลับกันเสียที”
ลินลี่ย์ยิ้มเล็กน้อย
ใช่แล้วในเวลานี้เอง..
“มหาเทพ, ขอให้เรารออีกสักนิดได้ไหม?”บรีเซิลทูตคนที่หกคำนับอย่างเก้อเขิน
“มีอะไรหรือ?” ลินลี่ย์มองดูเขา
ลินลี่ย์ค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับบรีเซิลผู้นี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นยอดฝีมือระดับอสูรเจ็ดดาวธรรมดาสิ่งที่ทำให้ประมุขมหาเทพวิถีชะตาโอล็อฟจดจำเขาได้คืออะไรกันแน่?
บรีเซิลรีบกล่าว “ร่างแยกธาตุมืดข้าอยู่ในอีกที่หนึ่งท่านมหาเทพอยู่ในแดนนรก ถ้าข้าสามารถรอดในสงครามมหาพิภพได้ในอนาคต ข้าก็ต้องรั้งอยู่ในแดนนรก ร่างแยกธาตุมืดของข้าก็กำลังเตรียมตัวมุ่งสู่แดนนรกเหมือนกัน”
“ร่างแยกธาตุมืด?” ลินลี่ย์ค่อนข้างสงสัย
เป็นเรื่องยากที่คนจะฝึกฝนในกฎธาตุแสงและธาตุมืดพร้อมกันได้ โอลิเวอร์เป็นหนึ่งในคนแบบนั้น ขณะที่บรีเซิลเป็นอีกคนหนึ่ง