ตอนที่ 21-30 เลือกทูตมหาเทพ
พวกเทพล้านกว่าคนกลั้นหายใจมองดูหุบเขาขนาดใหญ่โตมหึมาเงียบเสียงสนิท
“ข้านึกไม่ถึงเลย รัสเซล,คนขี้ขลาดอย่างเจ้าจะกล้ามาท้าข้าต่อสู้” เสียงทุ้มลึกดังออกมาจากปากของเจ้าแคว้นบลูเลียน เจ้าแคว้นใช้สายตาที่ดุดันมองดูรัสเซล “ในอดีตระหว่างที่ทดสอบเป็นนักล่าวายุสิ่งเดียวที่เจ้าสามารถทำได้ก็คือ ซ่อนตัวและสั่นกลัว เจ้าขี้ขลาด”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หน้าของรัสเซลพลันเย็นชาเหมือนกับน้ำแข็ง ดวงตาของเขามีประกายคมกล้าขณะกล่าว “อย่าดีใจเร็วเกินไปหลังจากวันนี้ตำแหน่งเจ้าแคว้นบลูเลียนจะไม่ใช่ของเจ้าอีกต่อไป”
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะมั่นใจมากสินะ” เจ้าแคว้นบลูเลียนแค่นเสียง
เจ้าแคว้นบลูเลียนขยายสำนึกเทพออกไป เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อการต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้นอาศัยสายตาตามลำพังยังไม่พอ การใช้สำนึกเทพจับตาคนรอบด้านก็สำคัญ ต้องเข้าใจว่าพื้นที่ว่างในกลางอากาศนี้กินพื้นที่หลายตารางกิโลเมตรเมื่อแผ่สำนึกเทพออกไป เจ้าแคว้นบลูเลียนแผ่ไปถึงผู้ชมซึ่งรวมทั้งลินลี่ย์บีบีและบู!
“โบวี่ย์!” เจ้าแคว้นบลูเลียนตกใจ
เนื่องจากเจ้าแคว้นอยู่ภายในบัญชาการของมหาเทพ เจ้าแคว้นทุกคนจะมารวมตัวเป็นครั้งคราวเพื่อแสดงความเคารพมหาเทพของพวกเขา บางครั้งในเวลาอย่างนี้พวกเขาจะได้พบกับผู้บัญชาการโบวี่ย์ แม้ว่าโบวี่ย์จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ตนเอง แต่ไม่มีทางจะเปลี่ยนราศีวิญญาณของเขา ดังนั้นเจ้าแคว้นบลูเลียนอย่างออมบาราเฟลนี้สามารถจำแนกสถานะที่แท้จริงของโบวี่ย์ได้ทันที
‘บู’ไม่มีอะไรมากไปกว่าชื่อเล่นที่มหาเทพใช้เรียกโบวี่ย์
เจ้าแคว้นคนอื่นๆโดยทั่วไปจะเรียกเขาว่าท่านโบวี่ย์
“ทำไมโบวี่ย์ถึงมาที่นี่? นอกจากนี้ดูเหมือนเขาจะให้ความเคารพสองคนที่อยู่ข้างๆ เขา เด็กหนุ่มเป็นเทพชั้นสูง ข้าสามารถบอกได้ แต่สำหรับบุรุษผมน้ำตาลหืม..นอกจากนี้เนื่องจากโบวี่ย์เป็นผู้บัญชาการกองทัพชิงยะ เขาจะไม่แสดงความเคารพต่อให้อีกฝ่ายเป็นพารากอนก็ตาม”
เจ้าแคว้นบลูเลียนได้ข้อสุป “หรือว่าคนผู้นี้จะเป็นมหาเทพ?”
ข้อสรุปนี้...สร้างความตกใจให้กับเจ้าแคว้นบลูเลียนอย่างหนัก
“ออมบาราเฟล!เจ้าสู้ไปตามปกติเถอะ” เสียงดังขึ้นในสำนึกของเจ้าแคว้นบลูเลียน คนพูดก็คือโบวี่ย์ โบวี่ย์รู้ว่า...สหายเก่าผู้นี้จำเขาได้
“ท่านโบวี่ย์! คนที่อยู่ข้างท่าน...” เจ้าแคว้นบลูเลี่ยนส่งสำนึกตอบทันที
“ทำเป็นว่าเจ้าไม่พบเห็นอะไร” โบวี่ย์ตอบเขา
เจ้าแคว้นบลูเลียนแน่ใจแล้วว่าคนผมน้ำตาลเป็นใคร
“ข้านึกไม่ถึงเลยว่ามหาเทพจะมายังที่ของข้า! ก็ได้...ชัยชนะนี้จะต้องหมดจด” เจ้าแคว้นบลูเลียนเมื่อรู้ว่ามหาเทพกำลังมองดู ก็มีความตั้งใจต่อสู้ทันที เขามองดูรัสเซลในที่ไกลด้วยสายตาเย็นชาและหัวเราะในใจ
ทันใดนั้น...
“ปัง!”ราวกับว่าอากาศระเบิด เจ้าแคว้นบลูเลียนดูเหมือนกับย่นระยะห่างหลายร้อยเมตรระหว่างพวกเขา หมัดใหญ่มหึมาของเขาพุ่งออกมาก่อนประกายแสงสีดำพุ่งเป็นแนวโค้งราวกับดาวตกจากฟากฟ้าแหวกอากาศพุ่งเข้าหารัสเซล
ดาวตกถล่มโลกา!
นี่คือหนึ่งในสุดยอดไม้ตายของออมบาราเฟลเจ้าแคว้นบลูเลียน
“ฮึ่ม” หน้าของรัสเซลพลันเย็นชา
“ควั่บ!” ดาบส่องประกายเจิดจ้าปลดปล่อยพลังราวกับสายน้ำตกฉีกมิติโดยรอบด้าน
ดาบสีน้ำเงินเขียวฟันใส่หมัดดาวตกโดยตรง
รัสเซลใช้ดาบโค้งสีน้ำเงินเขียวยืมพลังจากแรงปะทะถอยฉากด้วยความเร็วอย่างสง่างาม ประกายสีน้ำเงินเขียวกระพริบวาบเขาถอยห่างออกไปในท้องฟ้าหลายสิบเมตร แต่หลังจากนั้นร่างของรัสเซลเคลื่อนห่างออกไปทีละหลายสิบเมตรด้วยความเร็วอย่างน่าประหลาด
“เร็วอย่างน่าทึ่ง” บีบีถอนหายใจด้วยความทึ่ง
“ยังเร็วกว่าผู้บัญชาการส่วนใหญ่” ตาของลินลี่ย์เป็นประกายเช่นกัน
บูที่อยู่ใกล้ๆส่งสำนึกเทพบอก “มหาเทพ,ทั้งรัสเซลและออมบาราเฟลเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งคู่รัสเซลคือจิ้งจอกวายุเก้าหางย่อมมีพรสวรรค์ที่ความคล่องแคล่วว่องไวนอกจากนี้เขายังฝึกมาทางกฎธาตุลมยิ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เขามีความเร็วสูงอยู่แล้ว นอกจากนี้จิ้งจอกวายุเก้าหางเกิดมาพร้อมกับทักษะสะกดจิตที่ยิ่งใหญ่พลังสะกดของวิญญาณของเขาน่ากลัวมาก เขาจึงยากจะรับมือได้”
“ไม่เลว, ผู้มีคุณสมบัติคนแรกที่ข้าพบเจอดูเหมือนจะยอดเยี่ยมไม่เบา” ใบหน้าของลินลี่ย์มีรอยยิ้ม
เจ้าแคว้นบลูเลียนยืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนป้อมปราการที่มิอาจทำลายได้ ขณะที่รัสเซลเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเปลี่ยนตำแหน่งอย่างต่อเนื่องและคอยโจมตีจากแง่มุมต่างๆ
“ผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่เจ้า เจ้าก็ยังขี้ขลาดเอาแต่คอยหนีคอยวนอยู่รอบๆ” เจ้าแคว้นบลูเลียนแค่นเสียงเย็นชา จากนั้นสายตาเขาค่อยๆ เยือกเย็น “รัสเซล! ข้าไม่มีเวลาจะเล่นกับเจ้า”
“ปัง!” ร่างของเจ้าแคว้นบลูเลียนเริ่มเปล่งประกายแสงสีเหลืองเข้มเจิดจ้าทันที
พลังมหาเทพธาตุดิน
“เจ้ายังมีได้ และคิดว่าข้าไม่มีบ้างหรือ?” รัสเซลหัวเราะเย็นชาเช่นกันและร่างของเขาเริ่มเปล่งรัศมีสีเขียว ในเมื่อเขากล้าท้าทาย รัสเซลย่อมเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าเป็นธรรมดา
จากนั้น...
“ชรีคคคค!”เสียงแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นจากลำคอของรัสเซลทันที
เงามายารูปสุนัขจิ้งจอกสีน้ำเงินเขียวขนาดใหญ่หลายร้อยเมตรปรากฏอยู่ด้านหลังรัสเซล จิ้งจอกเก้าหางขนสีน้ำเงินเขียวโยกตัวอย่างนุ่มนวล ทุกคนที่จ้องมองดูมันรู้สึกมึนงงโดยไม่รู้ตัวเทพที่ชมดูโดยมากร่วงหล่นกับพื้น
ทักษะเทพธรรมชาติ- สนามพลังสะกดใจ!
เงากระบี่ใสเล่มหนึ่งพุ่งออกจากปากของรัสเซลพุ่งตรงเข้าหาเจ้าแคว้นบลูเลียนแต่ไกล
เจ้าแคว้นบลูเลียนเมื่อถูกพลังโจมตีใส่ร่างเซไปเล็กน้อย
“โฮกกกก!” เจ้าแคว้นบลูเลียนเปล่งเสียงคำรามด้วยความโกรธทันที
หมีหิมะสูงขนาดพันเมตรปรากฏทันทีตาของมันสีเขียวหยกจ้องมองรัสเซล หมีใช้ฝ่ามือทุบอกตัวเองอย่างแรง “ปัง!”เสียงปะทะรุนแรงและระลอกแรงระเบิดสีเหลืองเข้มระเบิดออกจากอกของหมีกระจายไปทั่วทุกทิศครอบคลุมพื้นที่หลายกิโลเมตรทันทีรวมทั้งรัสเซลย่อมตกอยู่ในพื้นที่นี้เป็นธรรมดา
ทักษะเทพธรรมชาติ– ถล่มโลกา!
ขณะเดียวกัน
คลื่นกระบี่ใสที่เข้ามาในตัวเจ้าแคว้นบลูเลียนแต่ร่างเจ้าแคว้นบลูเลียนแค่สั่นสะท้าน ดูเหมือนว่าไม่มีผลอะไรมากต่อเขา
“บัดซบ, พลังป้องกันวิญญาณของเจ้าผู้นี้แข็งแกร่งมากขนาดนั้นได้ยังไง? พลังโจมตีสุดกำลังของข้ามีผลจำกัดต่อเขาได้แค่นั้นยังไงกัน?” รัสเซลสบถกับตัวเองด้วยความโกรธ
“ฮ่าฮ่า...” เจ้าแคว้นบลูเลียนบุกเข้าหารัสเซล
“แย่แล้ว” หน้าของรัสเซลเปลี่ยนไปทันที เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถรู้สึกได้ว่าพื้นที่โดยรอบเปลี่ยนไประลอกคลื่นพลังดูเหมือนจะผุดขึ้นเป็นชั้นที่แผ่ออกมารอบตัวเขาและสร้างเป็นสนามพลังโน้มถ่วงเฉพาะแบบที่มีผลรอบตัวเขา
รัสเซลรู้ว่าสถานการณ์แย่ แต่...สายไปเสียแล้ว
“ฮ่าฮ่า...” เสียงหัวเราะบ้าคลั่งดังขึ้นขณะที่เจ้าแคว้นบลูเลียนใช้ไม้ตายโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขาร่วมกับการปลดปล่อยทักษะเทพธรรมชาติ
หมัดคู่ขนาดมหึมาแหวกผ่านท้องฟ้าหมือนกับเขามังกรคู่ทำให้มิติปรากฏเป็นรูปวังวนในขณะที่มิติพังทลาย
“แย่แล้ว” รัสเซลรีบถอยอย่างแตกตื่น แต่ภายในสนามพลังทักษะเทพธรรมชาติ ความเร็วของเขาด้อยกว่าคู่ต่อสู้มากนัก ทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้คือคำรามด้วยความโกรธและกระแทกดาบปะทะอย่างหักโหม
“บึ้ม!” เจ้าแคว้นบลูเลีนคำรามส่งเสียงโกรธเกรี้ยว
หมัดคู่ฉีกผ่านท้องฟ้าระเบิดพลังออกในทันที
“ปัง!” ดาบโค้งแตกหักทีละนิ้วๆและร่างรัสเซลเริ่มสั่นสะท้าน
“เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร...ข้าจบสิ้นแล้ว” รัสเซลรู้สึกแต่เพียงว่าเขาไร้พลัง
ทันใดนั้นออมบาราเฟลเจ้าแคว้นบลูเลียนจ้องมองข้างหน้าอย่างงงงวย “เขา...ไปไหนแล้ว?”
รัสเซลผู้ต่อสู้กับท่านเจ้าแคว้นบลูเลียนอย่างดุเดือดเมื่อครู่นี้หายไปในอากาศเบาบาง
“เขาหายไปไหน? เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”
“เป็นไปได้ว่าเจ้าแคว้นบลูเลียนระเบิดรัสเซลจนหายไปไม่เหลืออะไร?”
เทพผู้ชมดูเป็นล้านจ้องมองตะลึง พวกเขามองเห็นรัสเซลหายไปในอากาศจริงๆ
“ท่านเจ้าแคว้น?” ชายชราชุดดำบินเข้ามาหาทันที และมองดูเจ้าแคว้นบลูเลียน
ออมบาราเฟลเจ้าแคว้นบลูเลียนหันไปมองดูจุดที่ลินลี่ย์อยู่ เพียงแต่ลินลี่ย์และอีกสองคนหายไปแล้ว “เป็นมหาเทพเข้ามาแทรกแซงจริงๆ”
ตอนนี้เจ้าแคว้นบลูเลียนค่อยรู้สึกว่ามีร่างเลือนรางพุ่งผ่านไปก่อนที่เขาจะทันรู้ตัวรัสเซลก็หายไปแล้ว
“ทำไมมหาเทพถึงช่วยรัสเซล?” เจ้าแคว้นบลูเลียนสงสัยแต่จากนั้นเขาชำเลืองมองชายชราชุดดำ “เอาล่ะ, การต่อสู้ครั้งนี้จบแล้ว ประกาศผลได้”
ดังนั้นเจ้าแคว้นบลูเลียนนำกองกำลังของเขาออกไปอย่างยิ่งใหญ่
เจ้าแคว้นบลูเลียนเป็นผู้ชนะศึกนี้
ห่างออกไปล้านกิโลเมตรเหนือทุ่งหญ้า
“ปัง” แค่เพียงโยนตามปกติลินลี่ย์ส่งร่างรัสเซลร่วงลงพื้นหญ้าอย่างหนักหน่วง
ล้านกิโลเมตร ด้วยความเร็วของมหาเทพเต็มกำลังไม่ถึงวินาทีก็เดินทางมาได้ไกลขนาดนี้
รัสเซลรู้สึกแต่เพียงว่าร่างกายสั่น สิ่งที่เขาเห็นต่อมาก็คือรอบตัวเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงไม่มีเหล่าเทพผู้ตามชมดูใกล้ๆ ไม่มีเจ้าแคว้นบลูเลียน ผู้ที่เขาต่อสู้ด้วย รอบๆ พื้นที่มีแต่ความว่างเปล่า ที่อยู่ต่อหน้าเขาก็คือลินลี่ย์ บีบีและบู
“ขอบคุณ, มหาเทพ!” รัสเซลคุกเข่าต่อหน้าลินลี่ย์ทันที
“เฮ้..เจ้ารู้ได้ยังไงว่าพี่ใหญ่ข้าเป็นมหาเทพ?” บีบีหัวเราะสงสัย
รัสเซลพูดด้วยความเคารพ “เมื่อครู่นี้ตอนข้าอยู่ในสถานการณ์คับขัน คนอื่นมองดูอยู่ห่างๆแม้แต่พารากอนก็คงไม่สามารถป้องกันยอดฝีมือระดับผู้บัญชาการได้จากแต่ไกล! มีแต่มหาเทพที่สามารถทำเช่นนี้ได้!” มหาเทพสามารถใช้ความคิดฆ่ายอดฝีมือระดับผู้บัญชาการได้แม้จะอยู่ห่างไปเป็นล้านกิโลเมตรซึ่งไม่ต่างจากห่างไม่กี่กิโลเมตรเลย
อย่างไรก็ตามปกติแล้วพวกเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นกับพารากอน
เมื่อครู่นี้ลินลี่ย์เพียงแต่ส่งพลังปณิธานปล่อยพลังมหาเทพออกไปช่วยรัสเซลเล็กน้อย และจากนั้นใช้พลังรวบตัวรัสเซลจากนั้นพาเขาบีบีและบูมาที่นี่ทันที
“รัสเซล, เจ้ารู้ไหมว่ามีความผิดพลาดอะไรในการต่อสู้นั้น?” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น
รัสเซลพยักหน้าทันทีมีแววมึนงงสงสสัยผุดขึ้นในดวงตาของเขา “เป็นเรื่องแปลกจริงๆ ข้าเตรียมตัวในการต่อสู้นี้มาเป็นอย่างดี ต่อให้ข้าแพ้ ข้าก็คงไม่ตาย แต่...ข้าพบว่าทักษะเทพธรรมชาติของข้าเมื่อผสานกับพลังโจมตีวิญญาณที่ทรงพลังที่สุดก็ยังไม่มีผลมากต่อเขา นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อ”
“นี่เป็นเพราะสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณ” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น
“ท่านมหาเทพ, เขาไม่ใช่ทูต” บูที่อยู่ใกล้ๆ พูดด้วยความสงสัย
“ถูกแล้ว, เขาไม่ใช่ทูต” รัสเซลรีบพูดเช่นกัน “ข้าตรวจสอบเรื่องนี้มานานแล้ว นอกจากนี้ด้วยนิสัยที่หยิ่งยโสของออมบาราเฟล ถ้าเขากลายเป็นทูตมหาเทพ เขาจะต้องประกาศออกไปแน่นอน เขาไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้นานแน่”
“เจ้าคิดว่าสำนึกเทพของข้าจะผิดพลาดอย่างนั้นหรือ?” ลินลี่ย์พูดอย่างเยือกเย็น
รัสเซลกับบูไม่กล้าเถียงต่อไปทันที
“นั่นหมายความว่าข้าไม่มีทางเอาชนะเขาได้ไม่ใช่หรือ?” รัสเซลได้ฝืนหัวเราะ
ลินลี่ย์พูดและหัวเราะตามปกติ “รัสเซลข้าจะทดสอบเจ้า ถ้าเจ้าจะเข้าร่วมมีโอกาสตายเกือบ 90% แต่ถ้าเจ้ายอมรับเจ้าจะกลายเป็นหนึ่งในทูตของข้า ถ้าเจ้ายินดี...อย่างนั้นจงตอบรับและก่อนจะเข้าทดสอบ ข้าจะมอบสมบัติมหาเทพให้ตามที่เจ้าเลือก”
รัสเซลตาเป็นประกาย
สำหรับยอดฝีมือระดับอสูรเจ็ดดาวสมบัติมหาเทพชิ้นหนึ่งนับเป็นของล่อใจมาก
“ข้าขอบังอาจถามมหาเทพ เป็นการทดสอบอะไร?” รัสเซลรีบถาม
“นั่นคือสงครามมหาพิภพ”ลินลี่ย์เริ่มพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับรายละเอียดนี้ทันที แม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับ ‘ชัยชนะต่อเนื่องสิบครั้ง’ เขาก็ยังให้คำอธิบายเต็มที่ว่าสงครามมหาพิภพอันตรายมากมายแค่ไหน “ทุกคนจะได้พลังมหาเทพ เมื่อเข้าไปแล้วเจ้าจะตกอยู่ในอันตรายใหญ่เจ้าสามารถเลือกยกเลิกโอกาสนี้ก็ได้”
รัสเซลลังเลชั่วครู่จากนั้นหัวเราะ “ท่านมหาเทพ! ข้ายอมรับ! ข้าเชี่ยวชาญด้านความเร็วด้วยทักษะเทพธรรมชาติของข้า พลังวิญญาณของข้ายังคงแข็งแกร่งมาก ถ้าข้าได้รับเกราะป้องกันพลังโจมตีภายนอก ข้าคิดว่าพลังของข้าจะเพิ่มขึ้นมีโอกาสรอดอย่างน้อย 30% ข้ายินดีจะเสี่ยงเดิมพันถ้าข้าล้มเหลว อย่างมากข้าก็แค่สูญเสียร่างแยกที่ทรงพลังที่สุด แต่ถ้าข้าชนะ...”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ในการเลือกทูตเขาต้องเลือกคนที่เก่งในแง่พลังโจมตีวิญญาณหรือไม่ก็พลังโจมตีวัตถุวิธีนั้นเมื่อมอบสมบัติมหาเทพให้พวกเขาเขาสามารถชดเชยการขาดแคลนและเพิ่มโอกาสอยู่รอดให้พวกเขา
“อย่างนั้นข้าจะมอบสมบัติมหาเทพประเภทป้องกันพลังโจมตีวัตถุให้เจ้า” ลินลี่ย์โบกมือของเขา และชุดเกราะมหาเทพปรากฏทันที
ตาของรัสเซลเริ่มเป็นประกายร้อนแรง
“ขอบคุณมหาเทพ!” รัสเซลคุกเข่ารับสมบัติมหาเทพทันที
“ดีล่ะ ออกเดินทางกันต่อเลย ไปค้นหาทูตคนต่อไป”ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น
“คนต่อไป?” รัสเซลตกใจ
“เวลานี้เรากำลังเตรียมหาทูตให้ได้หกคน เจ้าเพิ่งเป็นคนแรก” บีบีแค่นเสียง
กลุ่มของลินลี่ย์ทำแบบนี้เหมือนกับเป็นคณะนักท่องเที่ยวขณะเลือกรับผู้มีคุณสมบัติ เมื่อเดินทางผ่านโลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์แล้ว พวกเขาเดินทางต่อไปที่โลกธาตุน้ำศักดิ์สิทธิ์และจากนั้นต่อไปที่โลกธาตุดินศักดิ์สิทธิ์
เวลาผ่านไปอย่างช้า
“ข้าขอมอบสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณให้เจ้า เจ้าจะกลายเป็นทูตคนที่สองภายใต้การดูแลของข้า!” ลินลี่ย์ดึงสมบัติมหาเทพรูปต่างหูออกมาขณะที่กล่าว
“ขอบคุณท่านมหาเทพ!”
บุรุษศีรษะโล้นที่ทั้งตัวเหมือนสร้างจากศิลาสีฟ้าคุกเข่า
“ข้าจะมอบสมบัติมหาเทพประเภทป้องกันพลังโจมตีวัตถุแก่เจ้า เจ้าจะกลายเป็นทูตคนที่สามภายใต้บังคับบัญชาของข้า!” ลินลี่ย์ดึงชุดเกราะมหาเทพออกมาอีกชุด
“ขอบคุณมหาเทพ!”
สตรีผมหยกผู้มีเกล็ดปลาอยู่บนหน้าผากคุกเข่าขณะกล่าว
ทุกคนที่ลินลี่ย์เลือกตัดสินใจเข้ารับการทดสอบดังนั้นกลุ่มเล็กๆ ของลินลี่ย์จึงเริ่มขยายตัวช้าๆ