ตอนที่แล้วตอนที่ 783 การสู้รบเพิ่งเริ่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 785 ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ใบไม้ผลิ

ตอนที่ 784 ตราเขาแกะน้ำแข็งเงิน


ในฐานะแม่ทัพนายกองใหม่ หลิงซิ่วไม่มีคุณสมบัติอย่างแน่นอน

เขาขาดความอดทนซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก  และเมื่อถูกขัดใจ เขาจะเริ่มโกรธ  ความต้องการสู้รบของเขามีมากเกินไปและไม่สามารถหาทางเลือกที่เหมาะสมในแต่ละครั้ง บางทีเขาคงจะเหมาะกับหน่วยหน้าทะลวงฟันมากกว่า  แต่ไม่มีทางเป็นแม่ทัพได้เลย  แต่ด้วยกำลังคนที่ไม่เพียงพอ เขาไม่มีทางเลือกได้แต่รับบทบาทนี้

หลิงซิ่วรู้สึกว่าตั้งแต่ออกจากทวีปซางโจวมาอารมณ์ของเขาย่ำแย่

‘โธ่เว้ย,ทุกอย่างไม่ได้ดังใจเลย’

ในช่วงการอบรมการปะทะสั้นๆก็แค่ทำให้หลิงซิ่วจำได้แค่พื้นฐานเท่านั้น และมีแต่สวรรค์ที่ทราบได้ว่าเขาจดจำได้มากแค่ไหน

เมื่อเห็นทุกคนเคลื่อนไหวอย่างสบายๆอารมณ์ของเขาพลันขุ่นมัว กองกำลังภายใต้บัญชาการอาเฮ่อเป็นระเบียบมาก ซึ่งดูแล้วเพลินตา แม้ว่ากองทัพของเขาจะพยายามเต็มที่เพื่อให้เป็นระเบียบแต่ก็ล่มสลายเหมือนกับขนมกรอบแตกหัก ความเข้มแข็งเล็กน้อยสูญสลายไปหมด

ขบวนของพวกเขาเป็นไปได้ไม่ดีและไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าพวกเขาอ่อนแอ แค่การเดินของพวกเขาก็ช้าเกินไป เขารู้สึกอยากฆ่าพวกนี้ด้วยหอกของเขาให้หมดแล้วลุยใส่ทวีปหมิงกวงด้วยตัวเขาเองยิ่งนัก

ถ้าไม่ใช่หวีชิงอี้และพวกที่เหลืออยู่กับเขาด้วย  สถานการณ์คงแย่หนัก หวีชิงอี้และพวกที่เหลือมาจากห้าตระกูลใหญ่เกาะใต้  ดังนั้นพวกเขาคุ้นเคยกับรูปแบบกองทัพและที่ไม่ใช่

ปิงขอร้องให้เขากับอาเฮ่อสร้างกองพลของพวกเขาเอง

ใช้ตระกูลหวีของห้าตระกูลใกญ่เกาะใต้เป็นแกนหลัก ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับมรดกจากกลุ่มดาวแกะหรือไม่  พวกเขาทุกคนต้องเดินร่วมทางกัน  ศิษย์ตระกูลหวีมีเกือบร้อยคนและพวกเขายังไม่เพียงพอจะสร้างกองพลได้ ดังนั้นเขาเลือกคนอื่นที่ค่อนข้างแข็งแกร่งและฝึกวิชาหอกให้พวกเขา  จากนั้นตั้งกองกำลังพวกเขาเอง กองกำลังใหม่นี้มีชื่อว่ากองกำลังน้ำแข็งเงิน  นี่เป็นชื่อเดียวที่เขาคิดออก

‘เพียงแค่นั้น..’

เมื่อเขามองดูว่าพวกเขาย่ำแย่แค่ไหน  เขาอดฝืนหัวเราะในใจไม่ได้  เทียบกับกองกำลังน้ำแข็งเงินในตำนานแล้วกลุ่มของเขาไม่คู่ควรจะหิ้วรองเท้าให้พวกเขาด้วยซ้ำ  ‘ถ้าอาจารย์รู้ว่าข้าเอาชื่อกองกำลังน้ำแข็งเงินมาปู้ยี่ปู้ยำอย่างนี้  ข้าสงสัยว่าท่านคงโกรธจนคลานออกมาจากโลงเป็นแน่’

‘ช่างหัวมันปะไร ใครจะสนกันเล่า’

หลิงซิ่วที่กำลังหงุดหงิดนั่งลงและพาดหอกเงินไว้กับขาของเขา จากนั้นเขามองดูกลุ่มแสงในทะเลพลังงานในที่ไกล การเดินทางด้วยเท้าในทะเลพลังงานไม่ใช่เรื่องง่าย  บางทีอาจจะเข้ากันได้กับหวีชิงอี้และพวกที่เหลือซึ่งมีสมบัติดวงดาวที่ได้ผ่านการฝึกฝนเป็นประจำ ดังนั้นพวกเขาค่อนข้างคุ้นเคยกับทะเลพลังงาน  แต่สำหรับทหารที่รับสมัครเข้ามาใหม่พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนั้น และทุกคนเหนื่อยล้ามากได้แต่นอนระเกะระกะอย่างช่วยไม่ได้

ความเร็วของการเดินขบวนทัพส่วนใหญ่ที่ช้าเป็นเพราะทหารใหม่ซึ่งช้าเป็นเต่าคลาน  แต่หลิงซิ่วพยายามหาวิธีต่างๆไม่ว่าใช้วิธีตะโกน หรือทุบตี อย่างมากก็ได้แค่นั้น

ถ้าเขารู้เร็วกว่านี้  เขาคงใช้ศิษย์จากห้าตระกูลใหญ่  หลิงซิ่วโกรธอยู่ในใจ  แต่ความสำนึกผิดหายไปในทันทีมีแต่เพียงตระกูลหวีที่ฝึกวิชาหอกในห้าตระกูลใหญ่ ตระกูลอื่นไม่ได้ฝึกด้วย ดังนั้นเขาไม่รู้ว่าจะสั่งพวกเขายังไง ดังนั้นเขาเลือกแต่เพียงตระกูลหวี ขณะที่อีกสี่ตระกูลปล่อยให้อาเฮ่อรับมือ

หวีชิงอี้เห็นหลิงซิ่วทำหน้าไม่สบายใจจึงปลอบโยนเขา  “ท่านหลิง,  อย่าเพิ่งหงุดหงิดไปเลยตอนแรกเริ่มมักจะเป็นเช่นนี้เสมอ”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้  หลิงซิ่วหดหู่กว่าเดิม

แม้ว่าจะเป็นครั้งของเขาในฐานะแม่ทัพนายกอง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะรู้สึกอย่างนั้น หลิงซิ่วผู้เต็มไปด้วยความหยิ่งและความภาคภูมิต้องมาแบกความล้มเหลวและความอ่อนแอ  แย่ยิ่งกว่าตายเสียอีก

เขาเหลือบมองหวีชิงอี้อย่างไม่พอใจ  หวีชิงอี้ขยาดและถอยกลับไปด้านข้างทันที  พวกเขาติดตามหลิงซิ่วและฝึกวิชาหอกเข้าใจอารมณ์ของเขาชัดเจน และการกระตุ้นโทสะเขาอาจจะถูกหอกเล็งมาที่พวกเขาก็ได้

หลิงซิ่วตั้งหอกของเขาและโขกหัวตัวเองทันที ทหารรอบตัวเขามองดูเขาและกลืนน้ำลายสับเปลี่ยนตำแหน่งทันที

‘ไม่!  ข้าต้องคิดอะไรบางอย่าง ปล่อยอย่างนี้ไม่ได้’ เขาอาจไม่สนใจชื่อเสียงของกองกำลังน้ำแข็งเงิน  แต่เขาไม่ต้องการเป็นเหตุให้ล้มเหลว  เมื่อคิดถึงดวงตาที่น่ารังเกียจของถังห้าว  หลิงซิ่วรู้สึกว่าเขากำลังจะบ้า

‘เรียกกองกำลังของตนเองว่ากองกำลังน้ำแข็งเงิน  มันไม่ดึงดูดใจเลย’

‘ข้าจะทำยังไงดี?’

เขาคิดเกี่ยวกับอดีตของกองกำลังน้ำแข็งเงินจิตใจของเขาก็ยิ่งตื่นเต้น  ‘ในอดีตพวกเขาฝึกกันได้ยังไง?’

แม้ว่าเขาไม่ต้องการยอมรับ แต่เขารู้ว่าเขาเป็นผู้สืบทอดของกองกำลังน้ำแข็งเงิน  แต่เขาเพียงแต่สนใจเฉพาะวิชาต่อสู้ที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังน้ำแข็งเงิน  และไม่มีความสนใจรูปกระบวนทหารเลย

เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เขาต้องมีกองกำลังเป็นของตนเอง

‘นี่มันน่าโมโหจริงๆ!”

ความคิดเดียวที่เขาสามารถนึกออกก็คือกองกำลังน้ำแข็งเงิน  เขามีสติปัญญาน้อยและพยายามระลึกนึกถึงส่วนต่างที่ได้รับตกทอดที่เขาจะเอามาใช้ได้ทันที  แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามระลึกเพียงใด  ทุกอย่างเป็นภาพเลือนราง

ปัง, หลิงซิ่วโมโหเอาหัวกระแทกด้ามหอกอีกครั้ง

ทันใดนั้น เขานึกอะไรบางอย่างได้  ตราเขาแกะน้ำแข็งเงิน!

ตราเขาแกะน้ำแข็งเงินอยู่ในเงื้อมมือของเขามานานแล้ว  แต่เขาไม่เคยใส่ใจมันเท่าใด เพราะนั่นคือสัญลักษณ์ของกองกำลังน้ำแข็งเงิน  เวลานั้นเมื่อพวกเขาแบ่งสมบัติโจร  ถังเทียนส่งตราเขาแกะน้ำแข็งเงินให้เขา  เพราะมันมีความเกี่ยวข้องกับเขา

หลิงซิ่วผู้ยึดติดกับการสู้รบไม่มีความสนใจอะไรในตราเขาแกะน้ำแข็งเงิน  แต่ขณะนั้นเขาถูกต้อนจนมุม และเขานึกได้ทันทีว่าเขามีสมบัติเช่นนั้นอยู่ด้วย

เขานำตราเขาแกะน้ำแข็งเงินออกมาเพื่อใช้งาน

ตราเขาแกะน้ำแข็งเงินมีรูปแบบง่ายๆ  มีเขาแกะอยู่สองข้างที่ตรงเหมือนกับกระบี่มีตราสัญลักษณ์ของกองกำลังน้ำแข็งเงิน

‘ข้าจะใช้ของแบบนี้ยังไงดี?’

หลิงซิ่วโยนและหมุนดูครั้งแล้วครั้งเล่าไตร่ตรองวิธีใช้มัน แต่ก็ไม่ได้เค้ามูลอะไร

‘เนื่องจากมันเป็นตรา, ข้าน่าจะลองอะไรฟันมันดู’  หลิงซิ่วคิดอย่างไม่มีเหตุผล  ‘แต่ข้าจะฟันมันตรงไหนดี?’  หลิงซิ่วหมุนดูรอบๆ  พวกทหารตกใจกลับการกระทำของเขาอยู่นานและรักษาระยะห่างจากตัวเขา  ดังนั้นระยะ 30 เมตรรอบตัวเขาจึงเป็นที่ว่าง

เมื่อเห็นเช่นนั้น หลิงซิ่วถือตราเขาแกะน้ำแข็งเงินในมือขวาและฟาดมันใส่ฝ่ามือซ้ายของเขา

ประทับตราสัญลักษณ์กองกำลังน้ำแข็งเงินมีหมึกอยู่บนฝ่ามือของเขา

‘ไม่มีอะไร?’

หลิงซิ่วจ้องมองอยู่ครึ่งวัน แต่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรแม้แต่น้อยทำให้เขารู้สึกผิดหวัง

ขณะที่เขาเตรียมจะโยนตราเขาแกะน้ำแข็งเงินเก็บกลับคืน  ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงกระพรวนสั่นเขาอดตะลึงไม่ได้

กระพรวนลมเขาแกะบนหอกเงินเคลื่อนไหวเองโดยไม่มีลมพัด

เสียงกระพรวนที่ชัดเจนเหมือนกับเสียงกังวานผ่านกาลเวลาจนมาถึงตัวเขาระลอกคลื่นเสียงชั้นแล้วชั้นเล่าจากกระพรวนลมเขาแกะเหมือนเป็นศูนย์กลางจุดกระจายเสียง หลิงซิ่วซึ่งจับตาดูกระพรวนลมเขาแกะไม่ทันสังเกตว่าตราประทับกองกำลังแข็งเงินในฝ่ามือของเขาเปล่งแสงเลือนราง

มันค่อยๆ กระเพื่อมไปทั่วทั้งค่าย

ฉากภาพรอบตัวเขาบิดเบือนทุกคนมองดูเหมือนกับต้องมนต์สะกดและตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

พลังที่กำลังตรึงเขาไว้ทรงพลังมาก  หลิงซิ่วพยายามดิ้นรน  แต่เขาไม่สามารถขยับได้สักนิ้ว  เขาไม่ประหลาดใจ  แต่กลับมีท่าทียินดี  ‘ใช่แล้ว,เป็นอย่างนี้นี่เอง’ ทันใดนั้นเขาจำได้ว่าเมื่อเขาฝึกหอกดาราแห่งดาวแกะเขาตกอยู่ในสภาพลวงตาแบบเดียวกัน ภายในภาพลวงตานั้นร่างทั้งหมดเลือนรางจะมีหลายร่างแนะนำเขาถึงวิธีใช้หอกดาวแกะที่แท้จริง

แสงดวงดาวทั้งหมดในทะเลพลังงานหายไป  และพื้นปรากฏอยู่ใต้เท้าของพวกเขา  พื้นยังคงยืดขยายเหมือนกับโคลน ไหลและงอกเป็นยอดเขา

ในพริบตาพวกเขาก็อยู่ในที่ซึ่งเต็มไปด้วยยอดเขา

หลิงซิ่วเคลื่อนไหว  พลังที่ตรึงเขาไว้หายไปไม่เหลือร่องรอย

สายลมอ่อนโยนพัดผ่าน และเสียงกระพรวนเลือนรางดังขึ้นทำให้ผมขนของเขาตั้งชัน  เขาตะโกนทันที “เตรียมตัวรบ”

ทหารทุกคนอยู่ในความตกใจพวกเขาเพิ่งอยู่ในทะเลพลังงาน และพวกเขามาอยู่ในดินแดนต่างถิ่นได้ยังไง?  พวกเขาทุกคนมีความกลัวในสายตา  เรื่องที่เหลือเชื่อเช่นนี้ทำให้ผมขนในตัวพวกเขาลุกชัน

เย่ชิงอี้ตกใจพอกัน  แต่เมื่อได้ยินหลิงซิ่วเตือน  เขาข่มความกลัวและดิ้นรนลุกขึ้นยืน

ทหารผู้มีความกล้าน้อยคนค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

ถ้าอาการสนองตอบเช่นนั้นเกิดขึ้นในเวลาปกติ หลิงซิ่วจะต้องทุบตีพวกเขาเป็นสิบครั้งโดยไม่พูดอะไรสักคำ  แต่ขณะนั้น หลิงซิ่วไม่ใส่ใจกับพวกเขา  เนื่องจากเขาจ้องมองทางลาดเล็กๆข้างหน้าของพวกเขา

เสียงกระพรวนที่คุ้นเคยกำลังดังมาจากทั้งนั้น

‘ตามคาดจริงเป็นอย่างนี้อีกครั้ง!’

หลิงซิ่วไม่สนใจตำหนิทหารของเขาอีกแล้ว  เขากระชับหอกเงินในมือเขาหันและกวาดหอกในมือของเขาใส่พวกทหารที่ยังคงนั่งแช่อยู่กับพื้นทำให้โคลนกระเด็นไปทางพวกเขา

“ลุกขึ้น!”

“พวกเจ้าทุกคน,  จงลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”

……

พวกทหารมือใหม่ที่ยังนั่งนิ่งและกำลังตกใจก็รู้สึกตัวได้ในที่สุดและรีบลุกขึ้นจากโคลน  เทียบกับพวกเขาแล้วศิษย์ตระกูลหวีปฏิกิริยาดีกว่า เนื่องจากพวกเขาผ่านการรบมาครั้งสองครั้งแล้ว  แต่ทหารเกณฑ์มือใหม่ เป็นมือสมัครเล่นจริงๆ

มีร่างที่สวมชุดขาวยาวทยอยกันออกมาพร้อมกับถือหอกเงินอยู่ที่ทางลาดเล็ก

เย่ชิงอี้และพวกที่เหลือทุกคนสูดหายใจหนาวเหน็บ  หน้าของทุกคนซีดขาว  ‘เจ้าสิ่งนี้คืออะไร?’

คนถือหอกเงินชุดขาวขี่อยู่บนแกะเขาดาบ  แต่ไม่มีอะไรอยู่ใต้ชุดขาว มีแต่กลุ่มหมอก  หน้าของพวกเขาก็มีหมอก ไม่มีรายละเอียดไม่มีตา

สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดทำให้ผมขนทุกคนตั้งชันทันที

นอกจากนี้

ทุกคนอดมองดูหลิงซิ่วไม่ได้ เพราะร่างที่สวมชุดขาวถือหอกเงินดูเหมือนหลิงซิ่วอย่างเห็นได้ชัด  แม้แต่หอกเงินที่มีกระพรวนลมเขาแกะ  พวกเขาก็มีเหมือนกัน

“เตรียมต่อสู้!”

หลิงซิ่วคำราม  เขาเตรียมรับมือศัตรูอยู่แล้ว

มีเพียง 50 ร่างที่ลงมาตามทางลาด  แต่รัศมีที่เปล่งออกจาก 50ร่างนั้นเหนือกว่ามือสมัครเล่นที่อยู่ด้านหลังหลิงซิ่ว  50 คนที่กำลังขับขี่ไม่ส่งเสียงใดๆขณะที่พวกเขานั่งอยู่แกะหิมะเขาดาบของพวกเขา

แม้ว่าใบหน้าของพวกเขาจะมีแต่หมอก แต่หลิงซิ่วรู้สึกได้ชัดว่าพวกเขาจ้องมองมาทางเขา  แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีสีหน้าอารมณ์  แต่เพราะเหตุผลบางประการหลิงซิ่วสามารถรู้สึกได้ถึงความรังเกียจที่พวกเขาไม่สนใจปกปิด

ใช่แล้ว การเหยียดหยาม

เหยียดหยามอย่างแท้จริง

หน้าของหลิงซิ่วแดงการเหยียดหยามก็เหมือนกับการตบหน้าเขา

‘บัดซบ!ข้าเคยโดนดูถูกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อใด?’

นักรบที่ขับขี่จากทางลาดเอียงยกหอกเงินในมือพวกเขา  แกะหิมะเขาดาบที่พวกเขาขับขี่เคลื่อนที่ด้วยก้าวสั้นๆมั่นคง

ตาสีส้มของหลิงซิ่วเป็นประกายลุกโชนเขาไม่มีความคิดซับซ้อนใดๆ ในใจอีกต่อไป มีอยู่เพียงอย่างเดียว

ฆ่าให้หมด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด