ตอนที่ 780 ตั๊กแตนไล่จับจักจั่น นกกระจิบไล่หลัง
“พี่ใหญ่, เราทันแล้ว!”
เสียงของอาเหล่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และเมื่อได้ยินเขาขุนพลรอบตัวสือเซินมีท่าทีดีใจ
“ตามพวกมันไป แต่ให้ระวัง อย่าทำให้พวกมันสังเกตได้”
สือเซินยังคงสงบ เขาไม่ใช่คนชอบฉลองชัยเร็วเกินไป เขาต่อสู้มาหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับคู่ต่อสู้ที่เจ้าเล่ห์
เหมยเฉินเซิ่วคนที่ชื่อเหมือนผู้หญิง เป็นชื่อที่ทำให้ปิงรู้สึกหงุดหงิด ด้วยการแทรกซึมของทวีปกวงหมิง ปิงหยุดทันทีและถอนแนวป้องกันโดยไม่สนเหมยเฉินซิ่ว
แต่สือเซินไม่ยอมแพ้
ถ้าเป็นแค่เหมยเฉินซิ่วตามลำพัง ยังไม่ต้องใช้ความสามารถมากนัก แต่เบื้องหลังของเหมยเฉินซิ่วคือสตรีผู้นากลัวท่านหญิงโหรวผู้มีความฉลาดในทางการเมือง และมีพรสวรรค์ในการวางแผน
ถ้าทั้งสองแยกกันก็ไม่น่ากังวล
เหมยเฉินซิ่วสู้กับกองทัพแบบสุ่มสู้ กระดูกสันหลังของบริวารของเขาก็คือหัวหน้าโจรสลัดจากทวีปกวงหมิง แต่พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนคุณภาพของโจรสลัดได้ ไม่ว่าโจรสลัดจะโดดเด่นเพียงไหน พวกเขาก็เป็นแค่โจรสลัด ท่านหญิงโหรวคอยวนเวียนสร้างอิทธิพลต่างๆด้วยเงินและอำนาจของนาง นางสร้างการสื่อสารไว้หลายรูปแบบ
ถ้าทั้งสองทำงานร่วมกันก็เพียงพอทำให้คนอื่นกลัว
การโจมตีของทวีปกวงหมิงทำให้มหาอำนาจต่างๆในภูมิภาคใต้แตกตื่น ซึ่งเป็นเรื่องสมบูรณ์แบบให้ท่านหญิงโหรวได้เพิ่มพื้นที่ ขณะที่เหมยเฉินซิ่วและกองทัพโจรสลัดของเขาถ้าเขาต้องหาที่หยั่งเท้า อาจต้องเจอเหล็กไนพิษแรงต่อยหลังพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ปิงจำเป็นต้องพิจารณาถึงภาพรวมเทียบกับภาพรวมแล้ว เหมยเฉินซิ่วและท่านหญิงโหรวไม่ได้เป็นอันตรายโดยตรงและมีแรงกดดันเท่ากับสามกองทัพใหญ่ของทวีปกวงหมิง
สือเซินมีความคิดเป็นของตนเอง
กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวได้รับการเติมเต็มด้วยสายเลือดใหม่ ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาโดยรวมยังไม่ดีขึ้นแต่กลับตกลง ดังนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาขัดเกลาพวกเขาและเคี่ยวเข็นพวกเขาทั้งหมด โจรสลัดขาวของเหมยเฉินซิ่วเป็นหินลับมีดให้เขาอย่างไม่ต้องสงสัย
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือวิถีต่อสู้ของพวกเขา ความถนัดของกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวก็คือซุ่มโจมตีระยะไกลและยืดหยุ่นโจมตีแนวหลังของศัตรู แต่เป็นกลุ่มสำคัญยิ่งสำหรับพันธมิตรใต้ ในสงครามช่วงแรกมีแนวป้องกันที่แข็งแกร่ง
ปิงเห็นด้วยกับคำขอเขา
สือเซินนำกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวไล่ตามพวกโจรสลัดขาว
ความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายทำให้สือเซินต้องระมัดระวังตัวมาก เขารู้ว่าเขามีเพียงโอกาสเดียว และถ้าเขาพลาดท่า อย่างนั้นศัตรูคงจะถูกไล่ตามเป็นครั้งที่สองยาก นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเรื่องเวลาของภารกิจนี้ เมื่อแนวหน้าตกอยู่ในอันตราย เขาต้องนำกองกำลังปีศาจกลับไปเสริมกำลังแนวหน้า
สือเซินเหมือนนายพรานผู้มีประสบการณ์อดทนและระมัดระวังขณะที่เขาไล่ตามสลัดขาว
เหมยเฉินซิ่วไม่เคยคิดว่าจะมีคนไล่ล่าตามหลังเขา
ในการเล่นซ่อนหาก่อนหน้านี้อีกฝ่ายไม่มีปัญญาทำอะไรกับเขาทำให้เขาตื่นเต้นมาก ท่านหญิงโหรวไม่ได้แสดงท่าทีอะไรต่อเขา ดังนั้นเมื่อเขารู้ว่ากองทัพกวงหมิงรุกเข้าภูมิภาคใต้ เขาตกใจแต่ในเวลาอันรวดเร็วเขารู้สึกได้อย่างรวดเร็วว่าเป็นโอกาสที่ดี!
ความจริงเขารู้สึกได้ว่าแรงกดดันบนตัวเขาหายไป
กองทัพใหญ่กำลังกดดันพันธมิตรใต้ทำให้พวกเขาเลิกไล่ล่าเขา
เขาทดสอบพวกเขาโดยทดลองโจมตีสองสามเมือง และไม่พบร่องรอยของเรือรบ เขาไม่คาดเลยว่าสือเซินไม่ได้ใช้เรือรบใดๆทั้งนั้น แต่นำกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวเดินทางผ่านทะเลพลังงานโดยเท้าไล่ล่าใกล้เข้ามาทุกทีโดยไม่ยินยอมเลิกรา
ตามรายงานเกี่ยวกับแนวหน้าเหมยเฉินซิ่วรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แนวป้องกันแรกของพันธมิตรใต้ถูกตะลุยรุกไล่ แม้จะปรากฏว่าเซี่ยอวี่อันจะเป็นแม่ทัพที่โดดเด่นคนหนึ่ง แต่ทั่วทั้งพันธมิตรใต้มิได้มีประสิทธิภาพที่ดี
การบุกใส่แนวป้องกันแรกหมายความว่าความกดดันของพันธมิตรใต้จะเพิ่มขึ้น
เขาจินตนาการถึงแรงกดดันที่รุนแรงที่พวกเขาได้รับ
‘พระเจ้าประทานโอกาสให้แล้ว!’
เหมยเฉินซิ่วยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นทุกทีและความสนใจของพันธมิตรใต้เบี่ยงเบนไปที่แนวหน้า และเบื้องหลังของพวกเขาว่างเปล่าเหมือนสาวน้อยที่ไร้อาภรณ์ปิดบังช่างมีเสน่ห์น่าลุ่มหลงเหลือเกิน
ทำลายล้าง เขาต้องการให้เกิดการทำลายล้างครั้งใหญ่
การทำลายเส้นทางลำเลียงและการฝึกฝนของพวกเขาจะทำให้พันธมิตรใต้บาดเจ็บหนัก แม้ว่าเขาไม่คิดว่าพันธมิตรใต้จะสามารถหยุดกองทัพยิ่งใหญ่ของทวีปกวงหมิงไม่ให้เดินหน้าได้ แต่การกระทำของเขาจะช่วยเร่งให้แผนปราบปรามภูมิภาคใต้ของทวีปกวงหมิงทำได้เร็วขึ้น
นั่นคือสิ่งที่พวกเขาหวัง
เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างขันแข็งหลังจากสำรวจและตื่นเต้นสนใจแล้วเขาจะนำกองกำลังของเขาและหายไปท่ามกลางหมู่ผู้คน ยิ่งแนวหน้ากังวลมากขึ้น ก็ยิ่งต้องการกลับไปแนวหลัง ซึ่งไม่เพียงแต่เขาแค่เพียงจับตาเท่านั้นยังมีแนวร่วมเดียวกับเขาซึ่งกำลังเตรียมจะโจมตีด้วย
สำหรับโจรสลัดความวุ่นวายคือโอกาสดีที่สุด และชอบถือโอกาสจับปลาตอนน้ำขุ่น ไม่ว่าภูมิภาคใต้จะถูกล้อมตีหรือไม่ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขา โจรสลัดจอมละโมบต้องการเพียงผลกำไรจากเหตุการณ์เท่านั้น
เมื่อเวลาผ่านไปกิจการของโจรสลัดจะกระเตื้องขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในท่ามกลางความวุ่นวายและแตกตื่น โจรสลัดขาวของเหมยเฉินซิ่วแทรกซึมเข้าไปเหมือนปลาฉลามลอบโจมตีจากภายในทะเลลึก
เขาค่อยๆเข้าไปในเป้าหมายของพวกเขา ทวีปภูผาเหล็ก
ทวีปภูผาเหล็กไม่ใช่ทวีปใหญ่ แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าทวีปที่ดูเหมือนธรรมดานี้ความจริงเป็นที่ตั้งของสมาคมการค้าสวีจี้ ผู้นำด้านค้าอาวุธในภูมิภาคใต้มีค่ายฝึกอยู่ในนั้น
ทวีปกวงหมิงแทรกซึมอยู่ในภูมิภาคใต้มานานแล้ว และหลังจากรู้เรื่องงานที่เหมยเฉินซิ่วทำข่าวกรองของทวีปกวงหมิงถูกส่งมาสนับสนุนเขาทันทีเป็นรายชื่อเป้าหมายสำคัญ ภายในรายชื่อเป้าหมายนี้ เหมยเฉินซิ่วต้องการได้มานานแล้วและในที่สุดเขาเลือกทวีปภูผาเหล็ก
สมาคมการค้าสวีจี้คือสมาชิกที่สำคัญที่สุดของพันธมิตรใต้ และในฐานที่เป็นนักค้าอาวุธการสนับสนุนอาวุธส่วนใหญ่ก็มาจากพวกเขา
เหมยเฉินซิ่วยังสงบแม้ว่าจะเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น เขาก็ไม่คิดว่าการสู้รบจะจบเร็ว เป็นการสู้รบตีชิงและสำหรับภูมิภาคใต้ซึ่งไม่มีทางถอย พวกเขาจะต้องสู้ตาย
ตั้งแต่สมัยโบราณแล้วการสู้รับเพื่อพิชิตชัยชนะจะได้รับการตอบโต้จากท้องถิ่นอย่างแข็งขันที่สุด
ถ้าพวกเขาสามารถทำลายแหล่งทรัพยากรอาวุธของภูมิภาคใต้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานของพวกเขานั่นจะสร้างความเสียหายหนักอย่างมิต้องสงสัย การโจมตีนี้จะไม่มีผลชัดเจนในระยะสั้น แต่เมื่อการสู้รบถูกลากยาวออกไป พวกเขาจะไม่มีอาวุธสนับสนุน และนี่จะค่อยๆส่งผลต่อสถานการณ์ของสงครามซึ่งคงอยู่เป็นเวลายาวนาน
แหล่งเก็บอาวุธจะไม่สามารถสร้างได้สำเร็จในระยะเวลาสั้นๆ
นั่นเป็นสถานที่นองเลือดอย่างแท้จริง
นอกจากความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์แล้ว ทวีปภูผาเหล็กยังมีการป้องกันที่อ่อนด้อยซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในแผนการของเหมยเฉินซิ่ว ทวีปภูผาเหล็กมีเพียงทหารกองทัพเดียวที่คอยป้องกัน และเป็นทหารที่เป็นของสมาคมการค้าสวีจี้ ในรายงานของทวีปกวงหมิง กองทัพทวีปภูผาเหล็กนี้มีคำอธิบายไว้ว่าเป็นกลุ่มคนรวยที่อุดมไปด้วยเครื่องมือเลิศหรู
‘นี่คือเวลาเติมเต็มให้ตัวข้าเอง’
แค่เพียงคิดถึงกองอาวุธเป็นพะเนินก็ทำให้เหมยเฉินซิ่วน้ำลายไหล โจรสลัดขาวประกอบไปด้วยนักสู้ฝีมือดีของทวีปกวงหมิง แต่อาวุธยุทโธปกรณ์ยังปอนๆ แน่นอนว่าสำหรับโจรสลัดอาวุธในปัจจุบันนี้นับว่าน่าพอใจ แต่สำหรับเหมยเฉินซิ่วผู้ทะเยอทะยานนับว่ายังไม่พอ
เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูการแสดง
เขาหวังว่าอาวุธของสมาคมการค้าสวีจี้จะสามารถใช้กับพวกเขาได้ดีเช่นกัน
ในสายตาของเขาป้อมปากอ่าวพลังเริ่มใกล้เข้ามา พวกเขารุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ป้อมปราการยังไม่ส่งสัญญาณเตือนแต่อย่างใด เหมือนกับว่าอีกฝ่ายไม่สังเกตเห็นพวกเขา
เหมยเฉินซิ่วรู้ว่าพวกเขากำลังทำภารกิจแทรกซึมอยู่ แต่เมื่อเห็นอ่าวพลังงานใกล้เข้ามาทุกคน เขาไม่สามารถห้ามมิให้ใจเขาเต้นแรงได้ เขาต้องควบคุมลมหายใจของตนเองกองเรือรุกหน้าไปเงียบๆ และทะเลพลังงานมืดดำยังคงสงบ มีแต่เพียงประกายแสงเหลืองจางส่งเข้ามาในหน้าต่างเรือรบ
‘นี่อาจเป็นการต่อสู้ที่สำคัญที่สุดของข้าก็ได้’
เป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อย ฝ่ามือของเขาหลั่งเหงื่อ
‘ถ้าเป็นชิวซิ่วหัวเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์อย่างนี้ เขาจะไม่กังวล’
เมื่อคิดเช่นนั้นความกระวนกระวายของเขาลดลงถึงครึ่ง และลมหายใจของเขาสงบลง เขาเข้าใกล้อ่าวพลังงานทุกที แต่ป้อมปราการไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ทำให้อารมณ์ของเขาสงบลงอย่างน่าประหลาด
“ใกล้เข้าไป”
เขาพูดเบาๆราวกับว่ากลัวจะปลุกคนในป้อมปราการ ป้อมปากอ่าวอยู่ห่างหนึ่งกิโลเมตรซึ่งยังห่างพอควรที่พวกเขาจะโจมตี
ทหารมือดีของทวีปกวงหมิงตาเป็นประกายแวววาว พวกเขากระตือรือร้นขึ้นขณะเข้าใกล้
600เมตร
300เมตร
150เมตร
ดูเหมือนเหมยเฉินซิ่วสามารถเห็นร่างที่กำลังหลับอยู่หลังหน้าต่างป้อมเขาอดยิ้มไม่ได้ แต่ยิ้มนี้ไม่มีความอบอุ่น แต่เป็นเหมือนดาบที่เยือกเย็น
“โจมตีเต็มกำลัง!”
ลำแสงหนาแน่นสายฝนระดมโจมตีเป็นกลุ่มยิงออกมาจากกองเรือโจรสลัด
ด้วยความที่ใกล้ขนาดนั้นป้อมปากอ่าวพลังงานถูกทำลายทันที
รัศมีแพรวพราวสว่างวาบจากภายในป้อมผนังที่มั่นคงฉีกขาดกระจุยเหมือนกระดาษทันที ชิ้นส่วนปลิวกระจายไปในทุกตำแหน่งฉากภาพนั้นสว่างเจิดจ้าเหมือนกับกำลังถูกเพลิงเผาผลาญ
แม้แต่พวกโจรสลัดก็ยังตะลึง แรงระเบิดกวาดมาทางกองเรือเหมือนกับพายุหมุน
เหมือนกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นผลักกองเรือทั้งหมดกลับออกมาอีก60 เมตร
เมื่อโจรสลัดตั้งหลักได้ พวกเขามองดูเปลวเพลิงที่น่ากลัวจากป้อมอย่างว่างเปล่าหลังจากเงียบในช่วงเวลาสั้นๆ ค่อยมีเสียงโห่ร้องดีใจดังขึ้น
ปัจจุบันทวีปภูผาเหล็กเป็นเหมือนสาวงามที่เปลือยถึงครึ่งตัวน่ายั่วยวนลุ่มหลง อุปสรรคขัดขวางของพวกเขาเพียงอย่างเดียวก็คือกองพลภูผาเหล็ก
เหมยเฉยซิ่วได้ใจขึ้นมาก ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกท่วมอยู่ในอก แม้ว่าจะมีกลุ่มทหารฝีมือดียืนอยู่ข้างหน้าเขา เขาก็มั่นใจว่าจะชนะ
‘การสู้รบครั้งนี้จะต้องสั่นคลอนพันธมิตรใต้แน่นอน’
‘การสู้รบแรกของแม่ทัพเหมยเฉินซิ่วผู้ลือชื่อคำพูดนี้ช่างน่าตื่นเต้น’
“ลงจอดที่ทวีปภูผาเหล็ก”
เรือรบทั้งหมดทะลักเข้ามาในอ่าวอย่างรวดเร็ว
เมื่อเรือโจรสลัดลำสุดท้ายเข้าทวีปภูผาเหล็ก ทะเลพลังงานกลายเป็นเงียบอีกครั้ง เหลือแต่เศษซากป้อมปากอ่าวที่ถูกไฟไหม้
ใกล้กับป้อมพลังงานที่ไม่เสถียรติดไฟอย่างรวดเร็ว และในพริบตาก็กลายเป็นทะเลเพลิง
ทะเลเพลิงเผาสว่างเจิดจ้าทำให้ภาพทะเลพลังงานดูบิดเบี้ยว
ในระยะห่างออกไปมีหลายร่างปรากฏตัวจากในความมืด พวกเขาผุดขึ้นมาอย่างเงียบงัน