ตอนที่ 780 ตัวประหลาดหนุ่ม ตัวประหลาดเฒ่า
ในท่ามกลางพายุในที่สุดก็มาถึงท้ายหุบเขาพิรุณ
ที่นี่มีศาลาหลบฝนที่ดูแปลกประหลาด สิ่งก่อสร้างในแดนสวรรค์มีนับไม่ถ้วนเว่ยซู่ไม่เคยเห็นบ้านรูปลักษณ์แบบนี้มาก่อน ด้านทั้งสี่เปิดโล่งมีเสาสี่ต้นค้ำซุ้มหลังคาแปดเหลี่ยม ภายในศาลามีชายชราคนหนึ่งดูเหมือนกำลังนั่งคิด
พอมีคนเข้าไปใกล้จึงรู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติเล็กน้อย
ชายชราผู้นี้ไม่ได้นั่งแต่เป็นกึ่งนั่ง เพียงเพราะร่างของเขาครึ่งหนึ่งกลายเป็นหินตั้งแต่ใต้ขาลงไปยืนไม่ถนัด นั่งลงก็ไม่ได้ มองดูห่างๆ เหมือนกับนั่ง ความจริงในท่าอย่างนี้ไม่สามารถนั่งลงได้จะยืนก็ไม่ได้ ตอนนี้ชายชราคงอยู่ในท่านี้เป็นเวลานาน น่ากลัวคงทรมานยิ่งกว่าตาย
ที่ด้านหน้าชายชราที่ขากลายเป็นหิน มีเหยือกและแก้วหนึ่งใบ
ทุกคนเอื้อมถึง
อย่างไรก็ตามเหยือกและแก้วอยู่ไกลเกินกว่าชายชราจะเอื้อมถึง และแม้แต่เขาจะขยับร่างกายก็เอื้อมนิ้วไปไม่ถึงเหยือกและแก้วน้ำ
จะนั่งก็ไม่ได้จะยืนก็ไม่ถนัด มองเห็นอยู่ว่ามีเหล้าอยู่ข้างหน้า แต่ไม่สามารถรินใส่แก้วและดื่มได้
ดูเผินๆการลงโทษนี้ดูเหมือนกับไม่มีอะไร แต่เมื่อลองคิดดูนี่เป็นการลงโทษที่โหดร้ายที่สุดในโลก เว่ยซู่มองดูและอดลอบถอนใจมิได้ ถ้าทำให้คนต้องเป็นเช่นนี้ ฆ่าตัวตายยังเป็นเรื่องง่ายกว่าแน่นอนว่าเขาเข้าใจว่าสุดยอดนักสู้ผู้ลงโทษชายชรานี้ จะไม่ยอมให้ชายชรานี้มีโอกาสฆ่าตัวตายดังนั้นในกรณีนี้เป็นการมีชีวิตอยู่ที่แย่ยิ่งกว่าตาย ความตายย่อมต้องมีความเจ็บปวดน่ากลัวอย่างแน่นอนแต่ต้องทนทรมานอย่างนี้ตลอดไป เว่ยซู่ยินยอมเลือกความตาย ที่สำคัญความตายผ่านไปเร็ว ขณะที่ความทรมานนี้คงอยู่ตลอดไป
“ผู้เฒ่า! เชิญดื่ม”เว่ยซู่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าขาที่เป็นหินทั้งสองข้างของชายชราถูกจองจำด้วยกฎสวรรค์ไม่เพียงแต่ไม่สามารถโยกย้ายได้เท่านั้น เขาอาจจะกลายเป็นหินก็ได้
อย่างไรก็ตามการรินเหล้าในแก้วน้ำให้ผู้เฒ่า
เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่าย
ถ้าท่านสามารถทำเช่นนี้ได้สามารถได้มาซึ่งข้อมูลการออกไปจากหุบเขาพิรุณในตัวของชายชรายังเป็นเรื่องง่ายมาก
เว่ยซู่ค้อมศีรษะและไม่กล้ามองดูเย่ว์หยางข้างหลังเขา เขารินเหล้าใส่แก้วและส่งให้บุรุษที่ขากลายเป็นหินด้วยมือทั้งสอง
ชายชราคงจะเป็นขี้เหล้าเก่าที่ไม่สามารถได้รับเหล้าพอเขารับเหล้า
ก็รีบกรอกเหล้าลงคอทันที
นั่นแหละ
เว่ยซู่รู้สึกว่าในที่สุดเขาก็ได้แสดงบทบาทเสียที อะไรก็ตามที่เป็นการถือโอกาสรับใช้คุณชายสามต้องไม่พลาดแม้แต่เรื่องการรินเหล้าให้ชายชรา จะช่วยไม่ให้คุณชายสามต้องลงมือเองใช่ไหม?นี่ไม่ใช่นิสัยของตัวเขาเอง ต่อไปก็เป็นวิธีพูดคุยกับชายชราและเอาความลับในการออกจากหุบเขาพิรุณ
อ๊า..อ๊า...อ๊า..
ชายชรากรีดเสียงร้องโหยหวนใบหน้าเปล่งปลั่งของเขากลายเป็นสีดำเหมือนคนตาย
ริมฝีปากม่วงคล้ำ
ทั้งดวงตาและรูจมูกมีเลือดดำไหลออกมาเป็นลักษณะอาการตายที่เกิดจากพิษ
“ไม่นะ, ข้าเปล่าทำ!” เว่ยซู่ตกใจและรีบตรงไปหาเย่ว์หยาง นี่ต้องเป็นฝีมือของหมอปีศาจราชันย์เนตรปีศาจและคนอื่นที่ผ่านทางมาก่อนแล้ววางยาพิษไว้ในแก้ว มิฉะนั้นตัวเขาเองไม่ได้ทำอะไรแล้วชายชราจะต้องพิษได้ยังไง? แต่สิ่งที่ทำให้เว่ยซู่มึนงงก็คือเมื่อเขาเอาแก้วเหล้ามาดูกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าแก้วเหล้าไม่มีพิษ มิฉะนั้นเขาคงไม่ส่งให้ชายชราดื่ม แต่ว่าเขาถูกพิษเมื่อตอนดื่มได้อย่างไร?
“โง่จริง” เย่ว์หยางแค่นเสียงเย็นชา “นี่เป็นพลังแห่งการลงทัณฑ์”
พอเย่ว์หยางพูดเช่นนั้นเว่ยซู่จึงเข้าใจได้ทั้งหมด
ไม่ใช่มือของเขาเองที่มีปัญหา
ทั้งไม่ใช่หมอปีศาจวางยาพิษชายชรา แต่เป็นพลังทัณฑ์สวรรค์กำลังทำงาน ไม่ว่าใครแสดงความเห็นใจชายชราผู้นี้แล้วรินเหล้าให้เขา พอเหล้าล่วงลงลำคอจะกลายเป็นพิษทันที พูดอีกอย่างก็คือแม้ว่าชายชรานี้จะได้ดื่มเหล้าแต่เขาไม่ได้อาการดีขึ้น กลับย่ำแย่และเจ็บปวดมากกว่าเดิม!
พฤติกรรมช่วยรินเหล้าให้ชายชรามองดูอย่างผิวเผินเป็นความปรารถนาดี แต่ผลลัพธ์ที่แท้จริงก็คือทรมานอีกฝ่ายหนึ่งอย่างหนัก
“ใช่แล้วๆๆ ข้าเลินเล่อไปหน่อย”
เว่ยซู่คิดได้ดังนี้รู้สึกอายจนแทบสิ้นสติ
แม้แต่ในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เขาถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่มีปัญญา แต่เรื่องนี้เขาผิดพลาดได้อย่างไร?
ชายชราไออยู่นานและดูเหมือนไอจนปอดแทบกระเด็นหลุดออกมาจากตัว
เป็นเวลานาน
เขาค่อยหยุด
สีหน้าของเขาค่อยดูดีขึ้นมาเล็กน้อย นัยน์ตาเขาค่อยมีประกายขึ้นบ้างไม่เหลือกขาวไร้สีสันเหมือนเมื่อก่อนที่ประกายแตกซ่าน เขายังไอด้วยความเจ็บปวด และโบกมือให้ “ไม่,ไม่เป็นไร เราผู้เฒ่าไม่ได้ดื่มกินมานานแล้ว นานมากจริงๆ มันน่าอึดอัดจริงๆ อย่างไรก็ตาม ข้าไม่อาจตายได้และได้ดื่มสักแก้วนับเป็นเรื่องดีจริงๆ พวกเจ้าแข็งแกร่งและมีประสบการณ์แต่ด้วยพลังความแข็งแกร่งอย่างเจ้ามีอยู่มากมายในอดีต แต่ตอนนี้หาได้ยาก....ต้องการจะผ่านหุบเขาพิรุณเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ตราบใดที่จับนางแอ่นพายุสายฟ้าเป็นๆ กลับมาได้ภายในหนึ่งวันจากนั้นบินขึ้นไปบนยอดศาลาหลบฝน”
นางแอ่นพายุสายฟ้าเป็นอสูรบินชนิดพิเศษที่มีความเร็วมาก
มันบินอยู่ในท้องฟ้าตลอดทั้งปี
ต่อให้มันหลับมันก็ยังไม่หยุดบิน ถ้าไม่มีเหตุการณ์พิเศษมันแทบจะไม่หยุดบินเลย
ในแดนสวรรค์ยังคงรู้จักนกชนิดนี้กันว่านกไร้เท้า แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือแม้ว่าพลังของนกนางแอ่นพายุสายฟ้านี้จะไม่เลวความเร็วในการบินรวดเร็ว แต่มันขี้ขลาดมาก มันมีขนาดเล็กกว่าและอ่อนแอกว่าอสูรหลายชนิด มันจะกลัวจนตื่นหนีอย่างบ้าคลั่งถ้าให้อสูรหรือนักรบไล่จับมัน มันจะกลัวอย่างหนักและอาจตายได้ทันที
แน่นอนว่านักรบแดนสวรรค์หลายคนเรียกมันว่านกไร้ถุงน้ำดี
ด้วยพลังของเว่ยซู่ แม้ว่าในหุบเขาพิรุณนี้จะมีข้อจำกัดแต่ไม่ใช่เรื่องยากกับการจับนางแอ่นพายุสายฟ้า
แต่จะเอามันกลับมาเป็นๆได้อย่างไร และบินขึ้นไปบนยอดหลังคาศาลาหลบฝน มีความยากอยู่เล็กน้อย..เว่ยซู่มองดูเย่ว์หยางและพบว่าเขาไม่แสดงสีหน้าอะไร เขาแค่โบกมือและออกไปค้นหานางแอ่นพายุสายฟ้า
ดูเหมือนว่าไม่เพียงแต่ต้องนำนางแอ่นพายุสายฟ้ากลับมาเท่านั้น แต่ต้องนำมาถึงสอง
อย่างคุณชายสามจะเข้าใจเรื่องการจับนางแอ่นพายุสายฟ้าหรือไม่?
คิดว่าเป็นไปไม่ได้
เว่ยซู่คิดหาว่าจะจับนางแอ่นพายุสายฟ้าเป็นๆได้อย่างไร?
หลังจากเย่ว์หยางและเว่ยซู่เดินออกไป หลังจากไม่เห็นใครแล้วชายชรานั่งบนม้านั่งหินหยิบเหยือกเหล้าและเทใส่ปาก ชายชราเหมือนกับว่าถูกหนอนสุรารบกวนนิ้วของเขาสั่น เมื่อเย่ว์หยางไม่อยู่เขากัดฟันดื่มเหล้าที่เหลืออยู่เพียงครึ่งกาเล็กก่อนที่จะเหือดแห้งไปหมด
“นี่เป็นเหล้าชั้นเลวเผ็ดร้อนบาดคอยากจะดื่มได้” เย่ว์หยางอยู่ต่อหน้าชายชราและเทเหล้าที่เหลือในกาลงบนพื้น
“เจ้าเด็กโง่,นี่คือเหล้าที่หมักจากผลไม้ในแดนสวรรค์ถึงร้อยชนิดเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดเหล้าของแดนสวรรค์เลยทีเดียว ของแบบนี้จะดื่มยากได้ยังไง! นอกจากนี้ถ้ามันดื่มยากนัก แล้วเจ้าเล่า?เจ้าดื่มหรือเปล่าถึงได้ทิ้งขว้างของอย่างนี้!” ชายชรามองเย่ว์หยางเทเหล้าทิ้งกับพื้นรู้หัวใจแหลกสลาย
“ก็ข้าพอใจเสียอย่าง” น้ำเสียงของเย่ว์หยางคล้ายกับคนฟุ่มเฟือย
“ข้ากลัวเจ้าจริงๆ ถ้าเจ้าไม่ต้องการดื่มถ้าเจ้าต้องการจะเททิ้ง มิสู้เทใส่ปากข้าดีกว่าหรือ?”ชายชราทำอะไรไม่ได้นอกจากดึงดันถามเย่ว์หยาง
“ดื่มไปแล้วกลายเป็นยาพิษ ท่านก็เพิ่งได้รับผลร้ายของมันไปหยกๆไม่ใช่หรือ? แล้วจะดึงดันดื่มอีก?” เย่ว์หยางไม่หันมามอง แต่พฤติกรรมเทเหล้าในมือดูเหมือนเป็นสาเหตุให้เขาฟังชายชรา
“เจ้าเห็นแต่แรกแล้ว.. ใช่แล้วข้าไม่ได้ถูกวางยาพิษ ถ้าข้าไม่กินเหล้า ข้าจะต้องแก้พิษวันละสิบครั้ง ข้าจะกินพิษจากเส้นผมและปล่อยให้พิษกำเริบเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามข้าจะไม่ตายเจ้าให้ข้าดื่มเถอะ และคนที่ทรมานจากยาพิษก็เป็นข้า ไม่ใช่เจ้าสักหน่อย!” ชายชราพูดว่าเขาคงไม่ตาย นั่นคือเขาอาจตายได้ แต่บางทีจมน้ำตายอาจจะดีที่สุด
“นั่นใช้ไม่ได้ ข้าไม่คิดจะเอาเปรียบท่าน มีแต่ความเห็นอกเห็นใจ ปกติข้าจะไม่ทำอันตรายผู้คนอยู่แล้ว” เย่ว์หยางพูดอย่างนี้ถ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้ยินคำพูดนี้ นางคงไม่เห็นด้วยเด็ดขาด
“พ่อหนุ่ม!คนที่ไร้เมตตาจึงจะแข็งแกร่งอย่างนี้ได้!” ชายชราให้คำแนะนำ “ให้ข้าดื่มเถอะ อย่างน้อยก็ทำให้ข้ารู้สึกโล่งใจได้!”
“ให้ท่านดื่ม แล้วข้าจะได้อะไรขึ้นมา?” เย่ว์หยางถามอีกครั้ง
เขาบอกได้ว่าคนผู้นี้ไม่ให้ความสนใจก่อนนั้น
เรื่องทำร้ายผู้อื่นสามารถทำได้ แต่ทำร้ายคนอื่นโดยไม่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์? เขาไม่เคยทำ
ชายชราพอได้ยินเช่นนี้ถึงกับตะลึง เด็กคนนี้นิสัยเหมือนกับมีชีวิตมาอย่างยาวนาน ข้าไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อน เห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มผู้กล้าหาญนี้ไม่ธรรมดาสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือทัศนคติของเด็กหนุ่มนี้ดึงดัน และคุยโตดูเหมือนว่าจะจัดการได้ยากกว่าที่คิดมาก แต่ต้องมีความเชื่อมั่น ชายชราให้ความสนใจเย่ว์หยางและไม่พูดถึงเรื่องการดื่มอีกเลย จากนั้นเขาถาม “เด็กน้อย! เจ้าเป็นใคร มาจากตระกูลไหน?”
เย่ว์หยางอวดอ้างหน้าตาเฉย“หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่, ตระกูลเย่ว์”
ชายชราถามด้วยอาการงงงวย“ข้าเคยได้ยินชื่อสี่ตระกูลใหญ่มาก่อน แต่ดูเหมือนจะไม่มีตระกูลเย่ว์อยู่เลย!”
เย่ว์หยางวิเคราะห์“ท่านจะรู้ได้ยังไง? นี่มันปีไหนกันแล้ว?ข้อมูลความรู้ของท่านยังไม่ได้ปรับปรุง ตอนนี้สี่ตระกูลใหญ่เป็นสี่ตระกูลรุ่นใหม่!”
ชายชราพอได้ยินก็ตวาดกลับทันที “กลับกลายเป็นว่าเจ้าไม่ใช่คนของสี่ตระกูลใหญ่ที่แท้จริง ข้าก็คิดไว้อย่างนั้นเช่นกันด้วยคุณภาพของคนจากสี่ตระกูลใหญ่ จะสอนให้คนมีนิสัยแปลกประหลาดได้ยังไง ตัวประหลาดน้อย! เจ้าเป็นตัวปลอม! เฮ่ย..เจ้าไม่ใช่เป็นตัวปลอม เราไม่ต้องพูดถึงปัญหานี้ดีกว่า เจ้ามาจากไหน ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า! แต่ตอนนี้ข้ามีข้อสงสัยเจ้าอายุเพียงยี่สิบปี แต่เจ้าสร้างพลังปราณราชันย์ได้ยังไง? เป็นผู้ใดกัน ที่มีความสามารถยิ่งใหญ่ทำให้เด็กน้อยทรงพลังได้มากถึงเพียงนี้!”
“สุดยอดปราณราชันย์ เกือบถูก!” เย่ว์หยางผายมือด้วยอาการนอบน้อมเมื่อพูดคุยถึงอาจารย์ของเขา “เมื่อพูดถึงอาจารย์ข้า ถ้าพูดถึงอาจารย์ของข้ารับประกันได้ว่าท่านจะต้องกลัวแทบตาย!”
“จริงหรือ? เขาเป็นใคร?” ชายชราพอได้ยินชื่อ เขาหายใจถี่เร็ว หน้าของเขาดูเหมือนจะคาดเดาชื่อได้ไม่กี่คนก่อนจะได้รับคำเฉลย
“อาจารย์ของข้านามว่าสุ่ยตงหลิวรองผู้อำนวยการสถาบันฉางชุนเถิง เขาเก่งในเรื่องการเทเลพอร์ตผ่านมิติ และพัฒนาม้วนเวท และผลึกเวทเทเลพอร์ตผ่านมิติ มาเป็นเวลานานแล้วทำให้เวลาในการเดินทางสั้นลง แต่ระยะทางเพิ่มขึ้น อีกเรื่องก็คือภาพวาดปลุกใจเสือป่าของเขาก็เป็นศิลปะที่ผ่านการวิจัยมาอย่างลึกซึ้ง” ขณะที่เย่ว์หยางเล่าเรื่องชายชราส่ายศีรษะอย่างระอาเจ้าเด็กคนนี้ช่างตลกจริงๆ
“เจ้าไปที่หอทงเทียนมาเมื่อไหร่?แล้วประตูแดนสวรรค์ไม่ใช่ว่าถูกผนึกไปแล้วหรือ?” ชายชราดูเหมือนจะรู้บางเรื่องของอีกโลกหนึ่ง
“ข่าวย้อนหลังไปนานมากแล้วที่ท่านได้ยินมานั้นมาจากปฏิทินยุคเก่า” เย่ว์หยางวิจารณ์และพูดอย่างเป็นกันเอง “ข้าไม่สามารถเดินผ่านประตูแดนสวรรค์ได้แล้วข้าจะกลับมาได้อย่างไร? ตราบใดที่ยังมีคนหนุนหลังอยู่ การกลับมาจึงเป็นเรื่องง่ายและธรรมดามาก”
“มีคนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าหรือ?” ชายชราถามด้วยความแปลกใจ “เจ้ารู้ไหมว่าเป็นใคร? เจ้าเด็กจักรพรรดิอวี้ผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า?เขาสร้างเจ้าขึ้นมาใช่ไหม?”
“.......” เย่ว์หยางเหงื่อหยดเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคนที่ไม่รู้จักเรียกจักรพรรดิอวี้เป็นเด็ก
“เฮ้ เฮ้, เดี๋ยวก่อน ข้ารู้แล้วเจ้าเป็นศิษย์ของแม่หนูเฟ่ยเหวินหลี ใช่แน่นอน แม่หนูนั่นเอาเข็มทิศสามพิภพไปจากมือของสหายเก่าผู้โชคร้ายของข้าถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ามีพลังของเผ่าปีศาจอสรพิษปรากฏออกมาเป็นระยะๆ ข้าคงคาดเดาไม่ออก! ใช่แล้ว ตัวประหลาดน้อยกลับกลายเป็นว่าเจ้าเป็นศิษย์ของเฟ่ยเหวินหลี เป็นคนที่แม่หนูนั่นฝึกขึ้นมานี่เอง เอ่..ไม่ถูก แม่หนูเฟ่ยเหวินหลีถูกผนึกไปแล้วไม่ใช่หรือ? นางออกมาแล้วหรือ? เหลวไหลจริงๆ นี่มันไม่ยุติธรรมเลย ความผิดของข้ายังไม่ได้ครึ่งของนาง นางออกมาได้แล้ว แต่ข้ายังต้องรับโทษอยู่ที่นี่ไม่ยุติธรรมเลย!” ชายชราเริ่มร้องดังขึ้นทุกที
“ถ้าท่านยังร้องอยู่อีก ข้าจะไม่ช่วยท่าน” เย่ว์หยางเพิ่งหายตกใจ แน่นอนแล้วว่า ชายชรานี้คือคนที่เขาคิดไว้ ความคิดของเขาพลุกพล่าน ขณะที่มองดูเหมือนปกติเขาเอาเหล้าฉีหลานที่เก็บไว้ในแหวนซึ่งเป็นเหล้ารสดีออกมาและรินใส่แก้วแล้วสูดกลิ่น
“ข้าไม่ต้องให้เจ้าช่วย.. เฮ้..เจ้าใช้เหล้าแบบไหนกัน กลิ่นหอมเหลือเกิน อา..เจ้าทำให้หนอนสุราของเราผู้เฒ่ากำเริบแล้ว” ชายชราอ้าปากอย่างน่าสงสาร
“ไม่ได้!” เย่ว์หยางปฏิเสธเสียงแข็ง
“เฮ้ย.. เจ้าพูดแบบนั้นได้ยังไงถึงอย่างไรข้าก็ยังเป็นรุ่นอาวุโสของเจ้า นี่เป็นมารยาทที่ผู้เยาว์มีต่อผู้อาวุโสหรือ?”ชายชรารีบอวดอ้างความเป็นอาวุโสทันที
“ผู้อาวุโสจริงเหรอ? งั้นบอก ชื่อ, ภูมิลำเนา,เมือง สัญชาติ วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประชาชน ฯลฯ แจ้งมาให้หมด!” เย่ว์หยางวางมาดราวกะเป็นนายทะเบียนสำมะโนครัวชายชรารู้สึกเหมือนจะเป็นลม
เขาเคยเห็นแต่ผู้อาวุโสถามลำดับกับผู้เยาว์แต่ไม่เคยเห็นผู้เยาว์ซักประวัติจากผู้อาวุโสมาก่อน
วันนี้เขาได้พบเจอในที่สุด
ชายชราหน้าแดงด้วยความละอาย “ตัวประหลาดน้อย,เราผู้เฒ่าก็อยู่หอทงเทียนเหมือนกับเจ้า ถ้าใครตาไม่บอดก็คงมองเห็น เจ้าอย่าทำเป็นงี่เง่ากับเราผู้เฒ่าเลย”
เย่ว์หยางตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เฒ่าประหลาด! ถ้าท่านไม่ยืนยันก็ต้องรู้ไว้นะว่าในโลกนี้มีพวกหลอกลวงโกงทั้งการกิน โกงทั้งเงินทองข้าต้องกำหนดสถานะของท่านก่อน มิฉะนั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าข้าจะได้ข้อมูลไม่ครบว่าต่อไป ขอเลขรหัสลงทะเบียน .. ชื่อ เพศ”
ชายชราทึ้งศีรษะร้องด้วยความเจ็บปวด “ข้าอยากต๊ายย!อยู่มาจนสองหมื่นปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าอยากตาย! ตัวประหลาดน้อย! นี่เจ้าโผล่มาจากไหนกันแน่?”