ตอนที่แล้วตอนที่ 40 ฮั่นอวี้ฉิงตายแล้ว?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 42 ติงหนานหรงก็มีบันทึกของเจียงมู่

ตอนที่ 41 มาข้างหน้าแล้วหมอบลง


เจียงมู่ ขยับนิ้วของเขา

  คลิก [①ฮั่นอวี้ฉิง (ตัวร้ายหญิง)] เพื่อดูรายละเอียด

  ข้อมูลแผงสถานะก็มีการเปลี่ยนแปลง

  [ชื่อ]: ฮั่นอวี้ฉิง

  【อายุ】: 26 ปี

  【บทบาท】: ตัวร้าย

  【ความสัมพันธ์】: ภรรยาในอนาคตของท่าน

  [ขอบเขตการฝึกตน]:ทะเลปราณ(ขั้นที่เก้า)

  [สถานะ]: ตาย (ฟื้นคืนชีพได้)

  【การกระทำ】: คลิกเพื่อชุบชีวิต

  "มารดาเจ้าสิ!"

  “นางตายแล้วจริงๆ!”

  มุมปากและคิ้วของ เจียงมู่ กระตุกอย่างรุนแรง

  การตายอย่างกะทันหันของ ฮั่นอวี้ฉิง ทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน

  ซ้ำยังรู้สึกกลัว กลัวโครงเรื่องในอนาคตที่ไม่รู้จัก!

  เขากลับชาติมาเกิดมากกว่าเจ็ดสิบรอบ

  อันที่จริงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ตรงกับโครงเรื่องเดิมเกิดขึ้น

  แต่นั่นเกิดจากความตายของเขาเอง!

  ตัวอย่างเช่น เมื่อเขามีปัญหากับติงหนานหรง นางได้ตัดหัวเขา

  ตัวอย่างเช่น การบุกรุกเข้าไปในอาณาจักรปีศาจชายแดนใต้โดยไม่ได้รับอนุญาต จบลงด้วยการถูกกลุ่มปีศาจที่ดุร้ายฉีกและกิน

  ตัวอย่างเช่น การแอบขับเรือเหาะส่วนตัวพยายามที่จะบินข้ามทวีปเก้าแคว้นเพื่อไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ หิมะทางเหนือ เพื่อพิสูจน์ว่าสาวงามอันดับหนึ่งในชางหลิงอย่างไปชีเสวี่ยหลงตัวเองเพียงใด

  อีกตัวอย่างหนึ่งคือการแอบติดตามหลีฮวา เจ้าของศาลาหลีฮวา เพื่อดูอาณจักรเก้าจิ้งจอก และชื่นชมความหมายที่แท้จริงของอาณาจักรสตรี แต่เนื่องจากเขาหล่อเกินไปนางจึงถูกฝูงจิ้งจอกข่มขืน.. .และก็ตาย

  แต่ไม่เคยมีตัวละครสำคัญตายกะทันหันแบบนี้มาก่อน!

  แล้วเขายังติดตามโครงเรื่องด้วยความสงบและพอใจ!

  “สมองข้าชาไปหมดแล้ว...”

  "เป็นไปได้ไหมว่าติงหนานหรงเป็นคนฆ่านาง"

  เจียงมู่ สงสัยว่าเป็น ติงหนานหรง ที่ฆ่า ฮั่นอวี้ฉิง

  แต่ ติงหนานหรง บอกว่านางแค่พบเจอกับฮั่นอวี้ฉิง

  ดังนั้นเขาจึงเชื่อยิ่งขึ้นว่า ฮั่นอวี้ฉิง ถูกฆ่าโดยสัตว์ปีศาจ

  ท้ายที่สุด ติงหนานหรง ไม่เคยโกหก และนางกับ ฮั่นอวี้ฉิง ก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกัน

  "ไม่มีทางอื่นแล้ว ข้าทำได้แค่ชุบชีวิตฮั่นอวี้ฉิง มิฉะนั้นโครงเรื่องต่อไปจะไม่เกิดขึ้น!"

  “ยังไงก็ตาม ข้าต้องถามนางว่านางตายยังไง”

  “แต่ถ้านางฟื้นคืนชีพขึ้นมา นางจะทำให้ข้ารำคาญ... ช่างเถอะ ในเมื่อคนก็ตายไปแล้ว ไม่สำคัญหรอกว่านางจะกวนข้าหรือไม่?”

  "ฟื้นคืนชีพ!"

  เจียงมู่ ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและคลิก [คืนชีพ]

  【ติ๊ง!

  [โฮสต์ใช้: การฟื้นคืนชีพจากความตาย (กฎ)

  [ตัวละครที่ฟื้นคืนชีพ: ฮั่นอวี้ฉิง

  [ตัวละครกำลังฟื้นคืนชีพ โปรดรอสักครู่....

  [...1%...49%...99%

  【ติ๊ง!

  [ ฮั่นอวี้ฉิง ฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ!

  [ฮั่นอวี้ฉิง ได้รับรางวัล: สุญตาซ่อนเทพ (วิชาพลังวิญญาณ)

  [โฮสต์สูญเสียรางวัล: สุญตาซ่อนเทพ (วิชาพลังวิญญาณ)

  หลังจากเสียงระบบจบลง

  กลุ่มแสงพร่างพรายปรากฏขึ้นต่อหน้า เจียงมู่ จากอากาศที่เบาบาง

  บูม!

  หญิงสาวสวยเปลือยกายร่วงลงมาจากลูกแก้วแสงลงบนพื้น

  จากนั้นกลุ่มแสงก็หายไป

  "อะไรวะ?"

  “ทำไมนางไม่ใส่เสื้อผ้า!”

  ดวงตาของ เจียงมู่ เบิกกว้างเมื่อเห็น ฮั่นอวี้ฉิง ที่หลับอยู่บนพื้น

  "ฟู่!"

  “แผลเป็นยังทั่วร่างของนาง...ยังน่ากลัวเช่นเคย”

  เขาเคยเห็นเรือนร่างฮั่นอวี้ฉิงมานับครั้งไม่ถ้วน

  แต่ทุกครั้งที่เขาเห็นขา เอว มือ ขา หลัง... รอยแผลเป็นที่หนาแน่นและน่าเกลียดเหล่านี้

  เขาก็ยังคงตกใจอยู่ดี

  "ตามคาด... ผู้หญิงที่มักทำร้ายตัวเอง!"

  เขาถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ

  เจียงมู่ คุกเข่าลงและอุ้มนางเหมือนเจ้าหญิง

  ตามความคืบหน้าของโครงเรื่องเดิม ทั้งสองยังไม่ได้แต่งงาน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะมีความสัมพันธ์ที่เป็นรูปธรรม

  ยิ่งไปกว่านั้น ตวามบุคลิกตัวร้ายของเขาเองยังคงเกลียดนางอยู่

  ดังนั้น แม้ว่านางจะโผตัวเข้าสู่อ้อมแขนของเขา เขาก็ไม่มีทางทำอะไรข้ามเส้น

  เจียงมู่ กอดนางโดยไม่คิดฟุ้งซ่าน วางนางลงบนเตียงแล้วคลุมนางด้วยผ้านวม

  “อืม ข้าไม่รู้ว่านางจะตื่นเมื่อไหร่”

  “เมื่อข้าตื่นขึ้นมา ข้าไม่รู้ว่านางจะทำอะไรกับข้าหรือเปล่า”

  “ลืมมันไปเถอะ อย่าคิดมาก คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ”

  เจียงมู่ ลูบขมับ เดินไปที่โต๊ะแล้วนั่งลง

  อาจเป็นเพราะความเหนื่อยล้าทางจิตใจหลังจากใช้เนตรสวรรค์

  แถมยังมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นติดๆกัน

  ร่างกายและจิตใจอ่อนล้าเต็มทน

  เขาจึงนอนลงบนโต๊ะและหลับไปช้าๆ

  ...

  อีกด้าน

  หุบเขาไร้คน

  “ท่านเจ้าเมือง นี่คือฐานที่มั่นของกองทัพปีศาจหนอนทราย”

  หลิงอ่าวเทียนชี้ไปที่หลุมยุบขนาดใหญ่ที่มีความลึก 100 เมตรข้างหน้าเขา และพูดกับ เสวี่ยหยวนซาน

  หลังจากที่เขาถูกอาจารย์ เฮยสุยชา ทุบตีอย่างไร้เหตุผลเมื่อเช้านี้ เขาก็ไม่ต้องการล่าสัตว์ปีศาจอีกต่อไป เขาตจึงกลับเรือเหาะ

  ตอนนั้นเขานึกขึ้นได้ว่า เสวี่ยหยวนซาน เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้: "มีฐานที่มั่นของกองทัพปีศาจซ่อนอยู่ในเทือกเขาสัตว์ปีศาจโดยไม่ทราบเจตนา ถ้าใครพบเห็นคฤหาสน์เจ้าเมืองจะตบรางวัลให้อย่างงาม" '

  หลิงอ่าวเทียนตื่นเต้นมาก จึงพาเสวี่ยหยวนซานและพรรคพวกมาที่นี่

  “ท่านเจ้าเมือง”

  "เมื่อวานซืน ข้ามาที่นี่โดยบังเอิญและพบฐานที่มั่นของหนอนทรายกลืนวิญญาณ"

  "ข้ายังได้ต่อสู้กับชาหวู่เหวินที่เป็นผู้นำของฐานที่มั่นแห่งนี้ด้วย"

  "แต่ ชาหวู่เหวินเป็นผู้ฝึกตนปีศาจในขอบเขตแปลงลักษณ์ ซึ่งเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนในขอบเขตหวนคืนสู่ต้นกำเนิดของเผ่าธุ์มนุษย์ของเรา"

  “ส่วนข้าเป็นเพียงผู้ฝึกตนขอบเขตรวบรวมวิญญาณ ดังนั้นข้าจึงไม่อาจต่อสู้ได้”

  "โชคดีที่ผู้อาวุโสหลอมสุญตาคนหนึ่งผ่านทางมา และนางได้ระเบิดฐานที่มั่นแห่งนี้ด้วยพลังขอบเขตหลอมสุญตา"

  "ชา หวู่เหวินได้รับบาดเจ็บแต่หลบหนีไปได้ และข้าก็ได้รับการช่วยเหลือด้วย"

  หลิงอ่าวเทียนอธิบายด้วยความจริงและความเท็จผสมกัน

  เสวี่ยหยวนซาน พยักหน้าแสดงว่าเขาเข้าใจ

  เสื้อคลุมของเขากระพือโดยไม่มีลม และร่างของเขาก็ลอยสูงขึ้น บินขึ้นไปบนฟ้า

  เริ่มตรวจสอบสถานการณ์ของฐานที่มั่นทั้งหมด

  ยิ่งเขามองเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกตกใจ

  "เป็นวิชาพลังวิญญาณที่ทรงพลังจริงๆ!"

  "ความสามารถในทำลายภูเขาสามารถทำได้โดยผู้ฝึกตนหลอมสุญตาทั่วไป"

  "แต่การระเบิดภูเขาจนเป็นหลุมลึก 100 เมตรนั้นไม่ใช่ผู้ฝึกตนขอบเขตหลอมสุญตาธรรมดาอย่างแน่นอน!"

  เสวี่ยหยวนซานลูบเคราและสังเกตหลุมยักษ์อย่างระมัดระวัง

  ดูว่าเขาสามารถค้นหาเบาะแสที่เป็นประโยชน์ได้ไหม

  "ตามข้อมูลจากตำหนักเดือนมืด"

  "ในเทือกเขาสัตว์ปีศาจ มีฐานที่มั่นของกลุ่มปีศาจตั้งอยู่และคงเป็นแห่งนี้"

  "ไม่ทราบเจตนาของฐานที่มั่นนี้"

  "แต่หลังจากไตร่ตรองสักนิด ข้าก็สามารถคาดเดาบางอย่างได้อย่างกล้าหาญ"

  "ฐานที่มั่นนี้อาจใช้ประโยชน์ในช่วงฤดูล่าสัตว์ฉวยโอกาสเพื่อแอบสังเกตและเก็บรวบรวมข้อมูลวิชาวิญญาณของผู้ฝึกตนมนุษย์ วิธีการโจมตี ขอบเขตฝึกตนของศิษย์นิกาย ความขัดแย้งระหว่างนิกายต่างๆ ความขัดแย้งในเมือง...ข้อมูลอื่นๆ"

  “เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงสำหรับวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของการโจมตีหลี่โจวของข้าในอนาคต”

  "และเมืองเสวี่ยของข้าที่อยู่ติดกับเทือกเขาสัตว์ปีศาจจะเป็นจุดแรกที่ถูกโจมตีอย่างแน่นอน!"

  เขาคิดอย่างกระวนกระวายใจ

  ทันใดนั้น เสวี่ยหยวนซาน ก็เห็นหลุมลึกกว้างเท่าคนแห่งหนึ่ง

  เขาระดมพลังวิญญาณของเขาและพุ่งลงไป

  บูม! ดินโคลนหินก็ลอยขึ้นมา

  ร่างกายของเขาจมลงไปในหลุมลึกในทันที

  เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิงอ่าวเทียนก็แอบตกใจ

  "ช่างเป็นพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งจริงๆ! แข็งแกร่งกว่าติงหนานหรง เสียอีก สมควรที่จะเป็นเจ้าแห่งเมือเสวี่ย! สมแล้วที่เป็นผู้ฝึกตนในขอบเขตหวนคืนสู่ต้นกำเนิด!"

  หลิงอ่าวเทียนรู้ว่าเมื่อเขาไปถึงหวนคืนสู่ต้นกำเนิดเท่านั้นที่จะสามารถลอยอยู่ในอากาศได้

  และเมื่อทะลวงขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดเท่านั้นที่จะถูกยอมรับว่าเป็นผู้ฝึกตนที่แท้จริง!

  การฝึกฝนของมนุษย์มีหกอาณาจักร:

  รวบรวมวิญญาณ, ทะเลปราณ, หวนคืนสู่ต้นกำเนิด, หลอมสุญตา,แดนสุญตา และเทพยุทธ

 ขอบเขตรวบรวมวิญญาณเป็นเพียงจุดเริ่มต้น มีวิธีการโจมตีแบบเดียว ส่วนใหญ่เป็นการต่อสู้แบบประชิดตัว เสริมด้วยวิชาวิญญาณ

  ในขอบขอตทะเลปราณ ขั้นที่หนึ่งถึงเก้า ถือเป็นรากฐานที่มั่นคง และวิธีการโจมตีก็ซับซ้อนขึ้น ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับวิชาวิญญาณ เสริมด้วยการต่อสู้แบบประชิดตัว .

  และหวนคืนต้นกำเนิดคือต้นน้ำ!

  หลังจากไปถึงหวนคืนต้นกำเนิดจะสามารถใช้แรงกดดันวิญญาณ บินไปในอากาศ ขี่กระบี่และรักษารูปลักษณ์ ฯลฯ!

  หลิงอ่าวเทียนตรวจสอบร่างกายของเขาอย่างระมัดระวัง

  หลังจากต่อสู้มาหลายวัน

  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังถูกทุบตีอย่างรุนแรงของอาจารย์

  มีสัญญาณของการทะลุทะลวงไปยังทะเลปราณอย่างคลุมเครือ!

  เขามั่นใจว่าตราบเท่าที่เขาต่อสู้อีกครั้ง เขาจะสามารถบุกทะลวงไปยังทะเลปราณได้!

  ในโลกนี้ที่เคารพความแข็งแกร่ง การแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นที่เจ้าจะได้สิ่งที่ปราถนา!

  รวบรวมสาวงาม!

  หลิงอ่าวเทียนกำหมัดแน่นและหัวใจของเขาก็ลุกโชนด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

  สายตาที่เร่าร้อนนั้นอดไม่ได้ที่จะหันไปหาหญิงสาวข้างๆเขา

  หญิงสาวผมยาวถึงบั้นท้าย ดูอ่อนเยาว์และสวยงาม

  ชุดผ้าไหมสีเขียวมรกตนั้นโอบร่างวัยสิบหกปีของนางไว้อย่างไร้ที่ติ!

  เสวี่ยเมิ่งหานสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองเสวี่ย!

  “เหมิงหานจะเป็นของข้าแน่นอน!”

  หลิงอ่าวเทียนคิดอย่างลับ ๆ แสดงรอยยิ้มที่ชั่วร้าย

  เขาต้องการคุยกับ เสวี่ยเมิ่งหานและใกล้ชิดมากขึ้น

  แต่เขายังไม่ได้พูดอะไรก็ถูกขัดจังหวะ

เขาถูกขัดจังหวะโดยเสวี่ยเมิ่งหานที่มีหน้าบึ้งตึง:

  "นายน้อยหลิง ท่านหยุดยิ้มให้ข้าแบบนี้ได้ไหม ข้ารู้สึก... อึดอัดนิดหน่อย"

  “เอ่อ...ฮะ...ฮะ...”

  หลิงอ่าวเทียนรู้สึกอาย ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหัวเราะกลบเกลื่อน

  ณ ขณะนี้เอง

  เสวี่ยหยวนซาน ปีนขึ้นมาจากหลุมลึก และในที่สุดก็ลงจอดข้างๆ เสวี่ยเมิ่งหาน

  ในมือของเขาเขาถือกล่องสีดำ

  “ท่านพ่อ สิ่งนี่คืออะไรเหรอเจ้าคะ”

  เสวี่ยเมิ่งหานก้าวไปข้างหน้าและถามอย่างสงสัย

  กล่องดำนี้มีพื้นผิวใสและมีกระดองแมลงฝังอยู่รอบๆ

  ดูเหมือนว่าจะเปิดได้ยากมาก

  เสวี่ยหยวนซาน พูดอย่างไม่แน่ใจ:

  “บางทีมันอาจจะเป็นของที่ชาหวู่เหวินเผลอทำหล่นตอนที่เขากำลังหลบหนี ไว้ค่อยคุยกันตอนกลับ”

  ...

  ตกดึก

  "ภรรยา."

  “อย่าถูหลังเปล่าของเจ้ามาถูหลังข้า”

  “มาข้างหน้าแล้วหมอบลง”

  "คุกเข่าก็ได้"

  "เจ้าคะ เจ้าคะ"

  “หึ...เชี่ยเอ้ย!”

  เจียงมู่ ละเมอ แต่ทันใดนั้นก็ตื่นขึ้นด้วยความตกใจ

  เขานอนบนโต๊ะตลอดบ่าย

  และตกอยู่ในความฝัน

  "ข้าฝันถึง ฮั่นอวี้ฉิง คนนั้นจริงๆ ...... "

  เจียงมู่ส่ายหัว ขยี้ตา แล้วมองไปรอบ ๆ

  เขาพบว่าเขาเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่

  "เดี๋ยวก่อน!

  “ฮั่นอวี้ฉิงอยู่ไหน!”

  เขาหัวหัวกวาดตาไปทั่วห้องอย่างรวดเร็วและมองลงไปที่เตียง

  แต่สิ่งที่เขาพบมีเพียงผ้านวมบนเตียงท่ถูกพับไว้อย่างเรียบร้อย

  แต่เขาไม่เห็นร่างของฮั่นอวี้ฉิงที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา!

  “เวร!”

  “นางไปไหน!”

  อย่างกะทันหัน

  เขารู้สึกถึงความอบอุ่นจากข้างหลังเขา

  เหมือนมีคน... ไม่สิ ผู้หญิง!

  มีหญิงสาวเปลือยกายโอบหลังเขาอยู่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด