ตอนที่ 21-29 นักล่าวายุ
โลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์ทวีปชิงยะ ในท้องฟ้ามีอสูรโลหะรูปกระบี่กำลังเดินทางด้วยความเร็วสูง ด้วยความเร็วเหมือนประกายแสง
ลินลี่ย์กับบีบีนั่งตรงกันข้ามกัน
ข้างๆพวกเขาเป็นบุรุษร่างสูงสองเมตร ผมดำของเขาตั้งชันเหมือนเข็มเหล็กกำลังยืนสำรวม บุรุษผมดำกล่าวอย่างนอบน้อม “มหาเทพ!ตามรายงานข่าวกรองกองทัพชิงยะในทวีปชิงยะของเรามีสุดยอดฝีมือที่คู่ควรแก่การพิจารณาของท่านมากกว่าพันคน เราแค่เลือกตำแหน่ง จากนั้นก็ไปเลือกระบุตัวพวกเขา แต่ตอนนี้เรา...”
ลินลี่ย์ชำเลืองมองบุรุษผมดำจากนั้นหัวเราะ “บู! เจ้ารีบหรือเปล่า?”
“ไม่ ไม่เลย” บุรุษผมดำส่ายศีรษะทันที
โลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์มีเก้าทวีปใหญ่ซึ่งแบ่งตามระดับพลังของเจ็ดมหาเทพ มีมหาสมุทรขนาดใหญ่แต่ถูกควบคุมไว้โดยประมุขมหาเทพธาตุลมซึ่งมีทวีปปกครองเป็นของตนเองอยู่ด้านบนสุด มหาเทพน้อยคนอื่นมีการควบคุมปกครองคนละทวีปขณะที่มหาเทพกลางควบคุมคนละสองทวีป
ทวีปที่เทเรเซียปกครองชื่อว่าทวีปชิงยะ
ดังนั้นอาณาเขตปกครองของลินลี่ย์ในโลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นทวีปชิงยะเช่นกัน
ทวีปชิงยะมีกองทัพชิงยะซึ่งเป็นบริวารโดยตรงของมหาเทพชิงยะผู้บัญชาการของกองทัพชิงยะก็คือบูผู้นี้เอง
“มหาเทพผู้นี้เป็นคนที่มีอารมณ์แปลกประหลาด แต่เขาไม่ใช่คนเลว” บูรำพึงในใจ “แต่ว่ามหาเทพลินลี่ย์ทรงพลังขนาดไหนกันแน่? ทำไมดูจากการสนทนากันระหว่างลอร์ดลินลี่ย์กับประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาข้าเหมือนกับจะรู้สึกว่าท่านดิยาจะค่อนข้างเกรงใจลอร์ดลินลี่ย์?ทำไมเขาถึงพูดแสดงความยินดีกับเขา?”
“คนหนึ่งเป็นประมุขมหาเทพขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นมหาเทพ แต่ดูเหมือนว่าสถานะจะกลับกัน” บูเต็มไปด้วยความสับสน
เมื่อมาถึงโลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์ลินลี่ย์ไปตามหาประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาก่อนเป็นธรรมดา
ดิยาเมื่อเห็นว่าลินลี่ย์มาเยี่ยมเขาโดยตรงก็ตกใจกลัวจนสีหน้าเปลี่ยน
ดิยายังจำได้ชัดถึงภาพที่ลินลี่ย์ใช้กระบี่ทำร้ายประมุขมหาเทพสายฟ้าได้อย่างง่ายดายทั้งกำจัดร่างแยกมหาเทพธาตุดินของเขา และสร้างความหวาดกลัวให้กับเขาจนเผ่นหนีไม่เหลียวหลัง ด้วยพลังของลินลี่ย์เป็นเรื่องง่ายที่เขาจะกำจัดประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาได้
สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือลินลี่ย์กับดิยาไม่มีมิตรไมตรีที่ดีต่อกันมีแต่ความเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน เมื่อเห็นลินลี่ย์มาถึง ดิยาย่อมตกใจกลัวเป็นธรรมดา
อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ไม่ได้โจมตีแต่กลับพูดคุยเรื่องดินแดนปกครองกับเขาแทน
ดิยาเสนอมอบดินแดนที่เขาปกครองให้ลินลี่ย์ แต่ลินลี่ย์ปฏิเสธ
จากนั้นดิยาพาลินลี่ย์ไปหาผู้บัญชาการกองทัพชิงยะด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามบูให้ความสนใจกับทัศนคติและท่าทางการพูดของทั้งสองขณะที่พวกเขาพูดคุยกันเขาถึงกับมึนงงทันที
นอกจากนี้ขณะพูดคุยกับลินลี่ย์ดิยาวางตัวเองเหมือนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า
“บู! ไม่ต้องรีบร้อนตอนนี้เราไปเขตบลูเลียนก่อน” ลินลี่ย์พูดและหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“มหาเทพ, ท่านตั้งใจจะ...?” ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจของบู
บีบีที่อยู่ใกล้แค่นเสียง “พี่ใหญ่ของข้าตั้งใจจะไปเขตบลูเลียนเพื่อดูการท้าทายนั้น! เจ้าต้องเข้าใจนะว่าการท้าทายเหลือเพียงอีกหนึ่งเดือนจากนี้ พี่ใหญ่ข้าไม่รีบดังนั้นเราแค่ใช้อสูรโลหะบินไปที่นั่นช้าๆ เราจะไปถึงเขตบลูเลียนได้ทันเวลา”
ด้วยความเร็วในการเดินทางของมหาเทพ พวกเขาสามารถไปถึงเขตบลูเลียนในเวลาราวๆชั่วโมงหนึ่ง
อย่างไรก็ตามลินลี่ย์เลือกใช้วิธีโดยสารอสูรโลหะและเที่ยวไปช้าๆ
ถึงจะเรียกว่าความเร็วในการบินสบายๆแต่ว่าสบายสำหรับมหาเทพ สำหรับเทพชั้นสูงธรรมดาอสูรโดยสารของพวกเขาบินด้วยความเร็วที่น่ากลัว
“พวกมหาเทพมีเวลาเป็นของตัวเองมากมายจริงๆ” บูรำพึงในใจ
“พี่ใหญ่,ท่านตั้งใจจะใช้เวลาในการหาทูตของท่านนานเท่าใด?” บีบีส่งสำนึกเทพถาม “เป็นเวลาหลายปีแล้วตั้งแต่เราออกเดินทาง ครั้งนี้เราต้องใช้เวลาเดินทางนานขึ้นอีกเล็กน้อย”
แม้ว่าพวกเขาจะค้นหาทูตเป็นทางการ แต่ความจริงพวกเขายังคงพักผ่อนไปด้วย
“ไม่ต้องรีบ โลกธาตุศักดิ์สิทธิ์มีขนาดใหญ่โต..เราทั้งหมดจำเป็นต้องค้นหาทูตให้เสร็จสิ้นก่อนสงครามมหาพิภพจะเริ่ม” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ
“ความจริงเป็นเรื่องดีถ้าเราทำได้เสร็จสิ้นหลังจากสงครามมหาพิภพเริ่ม ที่สำคัญในช่วงสงครามมหาพิภพ ยอดฝีมือระดับผู้บัญชาการยังสามารถเข้าไปได้” บีบีแค่นเสียง
ผู้บัญชาการกองทัพชิงยะบูกระพริบตาขณะที่เขาฟัง
พิภพลมศักดิ์สิทธิ์ทวีปชิงยะ แคว้นบลูเลี่ยน
“ท่านมหาเทพ, วันนี้เป็นวันท้าสู้ นักล่าวายุเจ็ดดาวรัสเซลจะท้าสู้ลอร์ดแคว้นบลูเลียนออมบาราเฟล นักล่าวายุเจ็ดดาวรัสเซลผู้นี้มีชื่อเสียงมากในพิภพลมศักดิ์สิทธิ์ และเป็นตำนานในแง่ความเร็วและเล่ห์เหลี่ยม แต่แน่นอนพลังของเขาก็มากเช่นกัน” บูรายงานผ่านสำนึกเทพด้วยความเคารพ
ขณะนี้เองลินลี่ย์และบีบีกำลังเดินเคียงไหล่ขึ้นเขา ขณะที่บูเดินติดตามอยู่ด้านหลัง
“รัสเซล...”
ลินลี่ย์ยังจำผลึกบันทึกที่เครือข่ายหน่วยข่าวกรองของบูนำมารายงาน พวกเขาได้รายงานยอดฝีมือของทวีปชิงยะมากกว่าพันคนแต่ละคนมีพลังอย่างน้อยคือนักล่าวายุเจ็ดดาว และแต่ละคนมีสุดยอดไม้ตายเป็นของตนเอง
“นักล่าวายุเป็นสถานะในโลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์
นี่เหมือนกับสถานะของอสูรในแดนนรก
นักล่าวายุเจ็ดดาวเทียบเท่ากับอสูรเจ็ดดาว
“การต่อสู้วันนี้ลึกเข้าไปในหุบเขา มีคนมากมายที่เดินทางมาดู” บูส่งสำนึกเทพบอก
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
มีร่างหลายร่างบินผ่านพวกเขาไปในอากาศ แม้แต่ถนนบนภูเขานี้จะมีคนสัญจรมากอยู่แล้ว เพียงแต่พวกเทพทั้งหมดจะก้าวเดินด้วยความเร็วอย่างสง่างามแค่เพียงไม่กี่ก้าวก็เดินไปพันกิโลเมตร แม้ว่ากลุ่มของลินลี่ย์สามคนไม่ต้องการทำให้คนธรรมดาประหลาดใจ พวกเขาก็ยังเดินก้าวละหลายสิบกิโลเมตร
“เอ่? บู เว้นแต่ใครบางคนเปลี่ยนตัวเข้ามาท้าทายแทนรัสเซล ข้าคิดว่าเขาอยู่ด้านหลังเรา” ลินลี่ย์พูดและหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“โอว?” บูค่อนข้างประหลาดใจ
ในฐานะมหาเทพสำนึกเทพของลินลี่ย์แม่นยำขนาดไหน? เขาสามารถตรวจพบว่าคนผู้หนึ่งกำลังบินไปข้างหน้าอย่างคล่องแคล่ว ลินลี่ย์ชำเลืองมองรัสเซลด้วยความสงสัย
รัสเซลเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามพอจะทำให้สาวทุกคนหลงรักเขาได้ เขามีลักษณะดูค่อนข้างอ่อนแอและเขามีรอยยิ้มที่สามารถทำให้แม้แต่เทพก็ยังหลงใหลอาจกล่าวได้ว่าถ้ารัสเซลเป็นสตรี เขาอาจทำให้ชาวเทพนับไม่ถ้วนต้องคลั่งไคล้เขา แต่น่าเสียดาย เขาเป็นบุรุษ
แม้ว่าเขาจะดูนุ่มนวลคล้ายสตรีทำให้หลายคนต่างจากเขา เสน่ห์ธรรมชาติของเขาทำให้หลายๆคนรู้สึกเมตตาเขาทันทีเมื่อได้เห็นเขา
“เป็นเวลาหลายปีแล้ว เนื่องจากพลังปัจจุบันของข้าสามารถท้าสู้กับออมบาราเฟลได้ในตอนนี้” รัสเซลบินข้ามป่าเขาขณะรำพึงกับตนเอง “ไม่ว่ายังไง หลังจากข้าฝึกถึงระดับนี้แล้วเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะก้าวหน้าได้อีกต่อไป ข้าไม่อยากจะรออีกต่อไปแล้ว”
มีคนค่อนข้างมากในป่าภูเขานี้
ขณะที่บินเข้ามาสายตารัสเซลเพ่งมองทันที จากนั้นหรี่ตามอง
“นั่นคือ...” รัสเซลตกใจ “บีบี?และพารากอนลินลี่ย์?”
รัสเซลกวาดสายมองคนทั้งสอง เขาไม่รู้จักผู้บัญชาการบูแห่งกองทัพชิงยะมีแต่ลินลี่ย์และบีบีเท่านั้น บูในฐานะผู้บัญชาการยากนักจะปรากฏหน้า มีตำนานมากมายเกี่ยวกับเขาในพิภพลมศักดิ์สิทธิ์ แต่น้อยคนนักที่จะได้พบกับเขา!
สำหรับลินลี่ย์และบีบีช่วงลินลี่ย์เอาชนะแม็กนัสได้ในสงครามมหาพิภพทำให้ชื่อเสียงของเขาแพร่กระจายไป มีคนอยู่มากที่บันทึกภาพการต่อสู้นั้นลงในผลึกบันทึกและแม้แต่บีบีก็ถูกบันทึกไว้คู่กับลินลี่ย์ด้วย
เป็นธรรมดาที่ข้อมูลเกี่ยวกับลินลี่ย์และบีบีจะแพร่กระจายไปยังพิภพต่างๆ
นักสู้ระดับอสูรเจ็ดดาวหรือสูงกว่านั้นทุกคนจะรู้เรื่องเขาตราบเท่าที่พวกเขาไม่ได้ปลีกสันโดษจนไม่รู้เรื่องโลกภายนอก
“ควั่บ!” ร่างของรัสเซลกระพริบวาบขณะบินเข้าไปหากลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสาม
“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์อดหันไปมองดูรัสเซลไม่ได้
รัสเซลผู้นี้หัวเราะเต็มที่และเขากางสนามพลังเทพกันคนอื่นจากภายนอก เขาพูดด้วยความเคารพ “คารวะท่านลินลี่ย์”
“หือ...” ลินลี่ย์ตะลึง
“เจ้ารู้จักพี่ใหญ่ข้าด้วยหรือ?” บีบีค่อนข้างประหลาดใจเช่นกัน
รัสเซลหัวเราะ “ในอดีต เมื่อท่านลินลี่ย์สู้กับแม็กนัสและขับแม็กนัสเข้าไปในมิติปั่นป่วนการต่อสู้ครั้งนั้นได้ถูกบันทึกไว้ ผลึกบันทึกมีการเผยแพร่ไปไกลและสหายข้าบางคนและข้าก็ได้ดูผลึกบันทึกเหล่านั้น และตั้งแต่วันนั้นข้าจำลักษณะของท่านลินลี่ย์ได้ ข้ายังจำบีบีสหายสนิทของท่านลินลี่ย์ได้เช่นกัน”
ลินลี่ย์และบีบีมองหน้ากันเอง
“ข้ามองข้ามตรงนั้นไปจริงๆ” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างจนใจขณะที่เขาเปลี่ยนรูปร่างลักษณะ
หลังจากกลายเป็นมหาเทพแล้วลินลี่ย์ระมัดระวังมากขึ้นในทั่วจักรวาลมีแต่เพียงประมุขมหาเทพสี่วิถีที่ทำให้เขากังวลได้ เขามาถึงโลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์ตั้งใจว่าจะมาท่องเที่ยว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดให้ถ้วนถี่ ถึงตอนนี้เขาจึงตระหนักได้ว่ามีปัญหาที่นี่
“ท่านลินลี่ย์, ท่านเก็บรั้งพลังได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากท่านเปลี่ยนลักษณะคนอื่นไม่สามารถจำท่านได้แล้ว” รัสเซลหัวเราะทันที
“เจ้าสามารถจำข้าได้แค่จากลักษณะเท่านั้นหรือ?” ลินลี่ย์ถามด้วยความสงสัย
“ลักษณะหน้าตาเป็นส่วนหนึ่งส่วนที่สองก็คือความจริงว่ากลิ่นอายของท่านเก็บรั้งไว้ได้อย่างสมบูรณ์เพราะข้าไม่สามารถรู้สึกได้..ก็หมายความว่าพลังของผู้นี้เหนือล้ำข้ามากมายนัก” รัสเซลหัวเราะ “ทำไมคนที่มีพลังระดับนี้จะต้องเบื่อหน่ายถึงกับแอบอ้างเป็นคนอื่นด้วยเล่า? นั่นคือเหตุผลที่ข้าแน่ใจว่าคนที่อยู่ต่อหน้าข้าต้องเป็นท่านลินลี่ย์แน่นอน”
ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าเป็นคนละเอียดรอบคอบดีจริง”
“ฉลาดมาก อย่างไรก็ตาม วันนี้เจ้าจะเป็นท้าทายลอร์ดแคว้นบลูเลียนใช่ไหม?” บีบีหัวเราะเบาๆ “เด็กน้อย! เจ้ามั่นใจว่าจะเอาชนะได้ไหม?”
“ไม่เลย อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่มีทางเอาชนะข้าได้ง่ายเหมือนกัน” รัสเซลหัวเราะอย่างใจเย็น
ลินลี่ย์และบีบีเดินทางออกไปที่หุบเขาลึกพร้อมกับรัสเซลบูที่อยู่ด้านข้างลอบหัวเราะ “รัสเซลเพียงแต่รู้ว่าลอร์ดลินลี่ย์เป็นพารากอน แต่เขาหารู้ไม่ว่า....ลอร์ดลินลี่ย์ตอนนี้เป็นมหาเทพแล้ว! ถ้าเขารู้มีหรือที่เขาจะทำท่าทีปกติได้”
บูเปลี่ยนลักษณะของเขานานแล้วเพียงแต่คนที่คุ้นเคยกับบูจึงจะจำเขาได้
นอกจากนี้ในฐานะผู้บัญชาการกองทัพชิงยะบูไม่ค่อยปรากฏตัวเองจึงมีน้อยคนมากที่รู้จักเขา
ลึกเข้าไปในหุบเขากว้างใหญ่ในเทือกเขามีผู้ชมหนาแน่นมากกว่าล้านคน ทุกคนพูดคุยเงียบๆ ขณะที่ทหารหลายคนเป็นทหารประจำการ
กลุ่มของลินลี่ย์สี่คนเข้าปะปนมาอยู่ข้างหน้าฝูงชน
ชายชราชุดดำคนสอดแนมของรัสเซลมาจากที่ไกล เขาอดตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้ขณะที่เขาเข้ามาทักทาย “ท่านรัสเซลเจ้าแคว้นมาถึงแล้วและกำลังรอท่าน”
“ฮึ่ม, เขามาได้เร็วมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากวันนี้ไปตำแหน่งเจ้าแคว้นบลูเลียนจะตกเป็นของข้า” รัสเซลหัวเราะเย็นชาและมองดูกลุ่มของลินลี่ย์ เขาส่งสำนึกเทพคุย “ท่านลินลี่ย์ ตอนนี้อภัยให้ข้าด้วย ข้าจะออกไปสู้กับออมบาราเฟล”
“เราจะดูอยู่ที่นี่” บีบีหัวเราะ
รัสเซลบินขึ้นไปในท้องฟ้าเข้าไปยังพื้นที่ใจกลางที่ว่างเปล่า
ดวงตาของบุรุษรูปงามของรัสเซลเต็มไปด้วยความเยือกเย็นคมกล้าเหมือนมีด เขากวาดสายตามองพื้นที่จากนั้นหัวเราะเย็นชา ก่อนจะเงียบลง
“รัสเซล!”
“เป็นรัสเซล!”
พวกเทพที่มาชมดูมีมากกว่าล้านคนตื่นเต้นทันที คลื่นเสียงฮือฮาดังขึ้น
“ทุกคน!” เสียงชัดเจนเสียงหนึ่งดังขึ้นกึกก้องอยู่ในหุบเขา ทันใดนั้นผู้ชมทุกคนพากันเงียบเสียง
คนพูดเป็นชายชราชุดดำที่ออกมาต้อนรับรัสเซล ชายชราชุดดำลอยตัวนิ่งอยู่ในกลางอากาศกล่าวด้วยน้ำเสียงแจ่มชัด “การต่อสู้นี้เป็นการสู้ระหว่างนักล่าวายุเจ็ดดาวรัสเซลและท่านเจ้าแคว้นของเรา รัสเซลปรากฏตัวแล้วจากนี้ไปขอให้เราต้อนรับท่านเจ้าแคว้น ลอร์ดออมบาราเฟล!”
ทันใดนั้น....
กลุ่มทหารที่อยู่ไกลๆแยกแถวทันทีมองดูคล้ายระเบียงมนุษย์ บุรุษร่างกำยำสูงสามเมตรในชุดขนสัตว์สีฟ้าเดินเข้ามาทีละก้าว หน้าของคนผู้น้เต็มไปด้วยขนเหมือนกันและตามของเขาแวววาวมีสีเขียวดูน่ากลัว
เจ้าแคว้นบลูเลียน...ออมบาราเฟล!”
ขณะนี้เองเจ้าแคว้นบลูเลียนที่ดูเหมือนอสูรจ้องมองรัสเซล
การต่อสู้กำลงจะเริ่มขึ้น!
“พี่ใหญ่, ท่านคิดว่าใครจะชนะ?” บีบีมองดูการต่อสู้และส่งสำนึกเทพถามลินลี่ย์
“เจ้าคิดว่าข้ารอบรู้ไปทั้งหมดจริงๆ หรือ?” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น “แค่ดูต่อไปนอกจากความท้าทายที่ข้าทำด้วยตัวเองครั้งนั้นหลังจากผ่านการต่อสู้ร้อยศึกครั้งนั้น ข้าไม่เคยเห็นใครท้าทายตำแหน่งเจ้าแคว้นหรือเจ้าปกครองเขตอีกเลย”