ตอนที่ 21-22 หงายไพ่เด็ด
ลินลี่ย์ได้รับเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถพัฒนาหลอมรวมสุดยอดไม้ตายของบรรพบุรุษทั้งสี่ได้ แต่เขาสามารถใช้บางส่วนของเลือดบริสุทธิ์ของมังกรฟ้าเสริมพลังของเขามากขึ้น ลินลี่ย์พบว่า..ร่างของเขาทรงพลังขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด แม้หลังจากที่เขาใช้เลือดบริสุทธิ์ของพญามังกรฟ้า ร่างของเขาก็ถึงขีดจำกัดก็ตามแต่บางส่วนที่เสริมพลังไม่ได้ก็แข็งแกร่งมากมายอย่างเห็นได้ชัด
ร่างของเขาไม่ได้อ่อนแอกว่าสมบัติมหาเทพ และปลายหางของเขาความจริงยังเหนือกว่านั้น
และเสียงหางแทงแหวกอากาศนั้นแฝงไว้ด้วยกฎธาตุดินเป็นสิ่งที่แม้แต่สมบัติมหาเทพไม่สามารถทนได้แน่นอน
“น่ากลัวจริงๆ” หน้าของออกุสตาเปลี่ยนไป เขาจำเป็นต้องใช้อาวุธจอมเทพของตนมาป้องกันอาวุธจอมเทพของลินลี่ย์ และในทันทีนั้นปฏิกิริยาโต้ตอบของเขาก็คือ...
ใช้แขนบังเอาไว้!
แขนของออกกุสตาหวดฟาดง่ายๆเหมือนกับแส้
“ควั่บ!” เขาเหยียดแขนออกอย่างรวดเร็ว และในขณะสุดท้ายออกุสตาปาดฝ่ามือใส่ด้านข้างของปลายหางมังกรลินลี่ย์ แต่ภายใต้การควบคุมของลินลี่ย์ หางมังกรบิดตัวและแทงใส่ฝ่ามือออกุสตา!
“ปัง!”
เกราะขาวเหมือนชั้นเยื่อพลังคลุมเป็นชั้นอยู่บนฝ่ามือของออกุสตา เห็นได้ชัดว่าเป็นสมบัติมหาเทพสำหรับป้องกัน แต่แรงแทงที่ทรงพลังเต็มที่จากหางของลินลี่ย์ทำให้เลือดฉีดพุ่งขณะที่หางแหลมคมของลินลี่ย์แทงทะลุฝ่ามือของออกุสตา
“วูบบบ!” ร่างของออกุสตาถอยฉากหลบห่างออกไปสิบกิโลเมตร
“ฝ่ามือนั่นของเขา..?” ลินลี่ย์ตกใจ “ความแข็งแรงทางร่างกายของออกุสตาก็ทรงพลังขนาดนี้เชียวหรือ
หลังจากหางมังกรแทงใส่สมบัติมหาเทพสำหรับป้องกัน ลินลี่ย์ตั้งใจจะแทงใส่ฝ่ามือให้ทะลุและชอนไชเข้าไปที่ศีรษะของออกุสตา แต่ใครจะคาดคิดกันเล่าว่า...ฝ่ามือของออกุสตากลับแข็งมาก หลังจากแทบทะลุสมบัติมหาเทพและฝ่ามือของเขาพลังที่ปลายหางมังกรของลินลี่ย์ก็ถูกสลายไปหมด
“ออกุสตา! ข้ารู้ว่าวิญญาณของเจ้าทรงพลัง แต่ร่างของเจ้าไม่ควรจะทรงพลังมากขนาดนี้จริงไหม? น่าชื่นชมจริงๆ” เสียงของลินลี่ย์ก้องอยู่ในใจของออกุสตาและจากนั้นลินลี่ย์ไม่ลังเลใจแม้แต่น้อยบุกเข้าหาออกุสตาอีกครั้ง
“ลินลี่ย์,เราสองคนจะต้องจบเรื่องกันที่นี่” ออกุสตาบินหนีด้วยความเร็วสูง
ตอนนี้ออกุสตาทุ่มเทพลังเขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าแต่ก่อน
แม้แต่ลินลี่ย์ก็ไม่สามารถไล่ตามเขาได้ทันที
“ข้าไล่ตามเขาไม่ทันเลยจริงๆทั้งที่อยู่ในร่างมังกรแปลงแล้วก็ตามอย่างนั้นหรือ?” ลินลี่ย์ตกใจ
พลังที่แท้จริงของออกุสตามากกว่าที่ลินลี่ย์คาดเอาไว้หลายเท่านัก
นี่ทำให้ลินลี่ย์และออกุสตามีพลังมากพอๆกัน
แม้ว่าลินลี่ย์จะอยู่ในร่างมังกรแปลงเนื่องจากออกุสตาฝึกฝนมาในกฎธาตุแสง เขาจึงเชี่ยวชาญในเรื่องความเร็ว เมื่อทุ่มเทพลังทั้งหมดแม้แต่ลินลี่ย์ก็ยังไล่เขาไม่ทัน
“เดี๋ยวก่อน” สำนึกเทพที่ทรงพลังของลินลี่ย์รู้สึกได้ชัดเจนว่าออกุสตาเคลื่อนที่ได้เร็วแค่ไหน ปัจจุบันนี้ระยะห่างระหว่างเขากับออกุสตาค่อยๆลดระยะลงเล็กน้อย “แม้ว่าความเร็วของเราจะเสมอกัน แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ข้าค่อนข้างจะไวกว่าเขาเล็กน้อย”
ความแตกต่างในเรื่องความเร็วนี้ถ้าคนที่ไม่สังเกตดูให้ดี เขาจะสังเกตไม่พบอะไร
แต่ระยะห่างระหว่างลินลี่ย์และออกุสตาค่อยๆลดระยะลงอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้าลินลี่ย์ก็จะไล่ทัน
“ลินลี่ย์,ทำไมเจ้าต้องยืนยืนจะสู้ตายกับข้าด้วย?” ออกุสตารีบส่งสำนึกเทพบอก “ข้าได้ฆ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ก็จริง แต่เจ้าเป็นคนรุ่นหลังพวกเขาไม่รู้ต่อกี่รุ่นแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าไม่เคยพบเห็นพวกเขาด้วยซ้ำ ไม่เคยรู้สึกสนิทกับพวกเขา ทำไมเจ้าถึงต้องทำอย่างนี้? นอกจากนี้เหตุผลที่เบรุตกับข้าเป็นศัตรูกัน ก็เพราะเบรุตขโมยประกายมหาเทพทั้งสี่ของข้า เจ้าจะว่ายังไง? ถ้าเจ้ามีข้อขอร้องเราจะคุยกันด้วยความจริงใจก็ได้”
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเย็นชา
“เมื่อครู่นี้เจ้ายังต้องการจะฆ่าข้าอยู่เลย แต่หลังจากข้าแปลงร่างเป็นมังกรแล้วและเจ้าพบว่าเจ้าไม่สามารถจะฆ่าข้าได้ เจ้าก็เลยต้องการเจรจาอย่างนั้นหรือ?” ลินลี่ย์ไม่ให้ความสนใจกับเขา
“ลินลี่ย์! เจ้ายืนยันจะทำอย่างนี้ใช่ไหม?” ออกุสตายิ่งโมโหขึ้นทุกที “ถ้าดึงดันจะทำเช่นนี้ข้าจะบุกเข้าไปในแดนนรกและสังหารตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า! ข้าคิดว่าข้ามีเวลาพอจะทำเช่นนั้น”
แม้ว่าทั้งสองจะอยู่ห่างกันไม่กี่สิบกิโลเมตรซึ่งนับว่าใกล้กันมากสำหรับมหาเทพ ความแตกต่างในเรื่องความเร็วระหว่างทั้งสองเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ลินลี่ย์ยังต้องการเวลาอีกหลายนาทีก็จะไล่ทันออกุสตา
“ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์หรือ? ออกุสตาในแดนนรกมีประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง ข้าคิดว่าท่านก็รู้ว่าประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างมีความสัมพันธ์กับเบรุตและข้าเป็นพิเศษ และในอดีตเขายืมเลือดบริสุทธิ์ของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จากเรานอกจากนี้เขายังยืมสมาชิกของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของข้า ตราบใดที่ข้าบอกเขาผ่านสำนึกเทพ ข้าเชื่อว่าเขาจะหยุดเจ้าได้แน่นอน” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพบอก
ออกุสตาแทบเป็นบ้าเพราะถูกลินลี่ย์ไล่กวด
ระยะห่างระหว่างเขากับลินลี่ย์ยังคงลดลงเรื่อง แต่ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้
“ลินลี่ย์!พลังของเจ้าไม่ได้แข็งแกร่งมากกว่าข้าเท่าใด แค่ความได้เปรียบที่เจ้ามีก็เพราะร่างมังกรแปลงของเจ้าแข็งแกร่งเท่ากับสมบัติมหาเทพและสามารถใช้อาวุธมหาเทพได้ แต่ถ้าข้าทุ่มพลังสู้สุดตัว ก็ยังยากจะพูดได้ว่าใครอยู่ใครตาย” ออกุสตาส่งสำนึกเทพบอก “เจ้ายินดีจะสู้แบบนั้นจริงๆ หรือ?”
หลังจากพวกเขาปะทะกันไปแล้วลินลี่ย์ก็รู้เรื่องนี้ดี
เขาไม่ได้แข็งแกร่งกว่าศัตรูของเขามากนัก ในการต่อสู้ตัดสินเป็นตายอย่างนี้คงยากจะพูดได้ว่าใครจะชนะใครจะแพ้ อย่างไรก็ตาม ในแง่โอกาสลินลี่ย์ควรจะมีถึง 80% ขณะที่ออกุสตามีโอกาส 20%
“ข้ายินดี!”ลินลี่ย์พูดอย่างสงบ
“ก็ได้ เจ้ามันบ้าไปแล้ว!” หน้าของออกุสตาดุร้าย “อย่างนั้นอย่ามาตำหนิข้าในเรื่องนี้ก็แล้วกัน”
ขณะที่เขาพูดทันใดนั้นออกุสตาเปลี่ยนตำแหน่งบินไปอีกพื้นที่หนึ่งด้วยความเร็วสูง
“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยน
ออกุสตาในตอนนี้กำลังบินหนีไปที่แดนสวรรค์ แม้ว่าทั้งสองจะห่างกันสิบกิโลเมตรในตอนนี้ แต่จำเป็นต้องใช้เวลา กว่าลินลี่ย์จะไล่ตามทันออกุสตาก็คงไปถึงแดนสวรรค์
ลินลี่ย์อดรู้สึกสงสัยไม่ได้ว่าทำไมออกุสตาถึงหนีไปทางแดนสวรรค์
“ตามประวัติศาสตร์โลกธาตุมืดศักดิ์สิทธิ์จะเข้ากันกับแดนนรก ขณะที่โลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์จะเข้ากันกับแดนสวรรค์ เป็นไปได้หรือว่าออกุสตาจะไปขอร้องประมุขมหาเทพแห่งชะตาให้ช่วย?” ลินลี่ย์นึกถึงความเป็นไปได้อย่างช่วยไม่ได้ เป็นปกติที่ประมุขมหาเทพจะมีความสัมพันธ์กับประมุขมหาเทพอื่น
“อะไรกัน,เจ้าจะไปหาประมุขมหาเทพวิถีชะตาหรือ?” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพถาม
ขณะที่หนีออกุสตาพูดขู่ “ถูกแล้ว,ข้ากำลังจะไปหาท่านโอล็อฟ! ท่านโอล็อฟเป็นหนี้บุญคุณข้าอย่างหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับกิจการทางโลกก็ตาม แต่ถ้าข้าทวงบุญคุณและขอให้เขาฆ่าเจ้า นั่นจะไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด นี่คือไพ่ตาย..ที่ข้าไม่ยินดีจะใช้เลยจริงๆ อย่าบังคับให้ข้าทำเช่นนั้น!”
ลินลี่ย์ลังเล
“สิ่งที่ออกุสตาพูดเป็นจริงหรือไม่?” ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง
ถ้าเป็นความจริง..เนื่องจากพลังของประมุขมหาเทพวิถีชะตาการที่เขาจะฆ่าลินลี่ย์ได้คงจะไม่เป็นปัญหา ลินลี่ย์ไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้
“บุญคุณ? ทำไมท่านโอล็อฟเป็นหนี้บุญคุณคนอย่างเจ้า?” ลินลี่ย์แค่นเสียง
“ลินลี่ย์, ไม่ต้องมาทำสงสัย เจ้าสามารถไปถามประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างหรือใครๆอื่นในเรื่องที่ท่านโอล็อฟเป็นหนี้บุญคุณข้าได้ พวกเขาทุกคนรู้เรื่องนี้ดี! ไปถามได้เลย และเจ้าจะรู้ว่าข้าโกหกเจ้าหรือไม่” ออกุสตาไม่ยินดีจะใช้ไพ่ตายในลักษณะนั้นเลย
ประมุขมหาเทพวิถีชะตาปกติจะไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร
บุญคุณจากเขา ในการแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือเขาด้วยบางสิ่งบางอย่าง... นั่นสามารถใช้ช่วยชีวิตได้
ถ้าบุญคุณนั้นถูกชดใช้ไปก็จะหักล้างกัน เว้นแต่ออกุสตาจะตกอยู่ในสภาพเสี่ยงตายแท้จริง เขาจะยอมใช้ออกไปได้ยัไง?
ลินลี่ย์ไตร่ตรองอย่างรวดเร็วจากนั้นแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา “โอว,ท่านโอล็อฟเป็นหนี้บุญคุณเจ้าใช่ไหม? ก็ได้ เห็นแก่ท่านโอล็อฟ ข้าจะปล่อยให้เรื่องนี้จบลงแค่นี้ แต่ข้าขอเตือนเจ้า ในอนาคต อย่าได้รบกวนสมาชิกของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของข้าอีก มิฉะนั้น... ต่อให้ข้าต้องทุ่มเทชีวิต ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้”
หลังจากพูดแล้วลินลี่ย์หันหลังและบินกลับแดนนรกทันที
“เฮ้อ” ถึงตอนนี้ออกุสตาค่อยระบายลมหายใจโล่งอก
ออกุสตามองดูขณะที่ลินลี่ย์บินห่างออกไปยังแดนนรกที่ห่างไกล และเขาอดสบถในใจเบาๆ ไม่ได้ “เจ้าลินลี่ย์นี่จู่ๆ ก็มีพลังเพิ่มขึ้นมาขนาดนี้ได้ยังไง? โชคดีที่ความเร็วของเขาพอๆ กับข้า ถ้าข้าต้องการกำจัดเจ้าลินลี่ย์ ข้าจะต้องฝึกจนอยู่ในระดับพารากอน หรือใช้วิธีการที่สอง”
วิธีการที่สองก็คือขอให้โอล็อฟกำจัดลินลี่ย์
“อย่างไรก็ตาม ไม่มีความจำเป็นที่ข้าจะต้องกลัวลินลี่ย์เลย” ออกุสตาจ้องมองในที่ไกลและหัวเราะอย่างใจเย็น “ลินลี่ย์เป็นพารากอน! เขาผสานทักษะศักยภาพของเขาได้แล้ว ส่วนข้าแค่เพียงหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้ห้าเคล็ด และอีกก้าวเดียวก็จะกลายเป็นพารากอน เมื่อวันนั้นมาถึง ข้าจะกลายเป็นพารากอนเช่นกัน ข้าจะสามารถจัดการกับเขาได้ง่าย”
“ครั้งนี้ เมื่อข้ากลับไปข้าจำเป็นต้องสงบจิตใจและมีสมาธิกับการฝึกฝน”
ดังนั้นออกุสตาหันหลังและบินกลับไปที่โลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์
สี่พิภพชั้นสูงล้วนเป็นเพื่อนบ้านกันทั้งหมด ขณะที่เจ็ดโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์ก็อยู่ใกล้กัน
ดินแดนทั้งสิบเอ็ดนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันและใจกลางก็คือสมรภูมิมหาพิภพ
“คาดไม่ถึงเลยว่าออกุสตาจะทรงพลังมากขนาดนั้น” ขณะที่บินผ่านมิติว่างลินลี่ย์หงุดหงิด ถ้าออกุสตาอ่อนแอเพียงเล็กน้อย ลินลี่ย์คงฆ่าเขาไปได้นานแล้ว แต่พลังของออกุสตาแทบจะเท่าเทียมกับเขา เมื่อออกุสตาหนีไปหาประมุขมหาเทพวิถีชะตา อย่างนั้นก็ไม่มีหวัง
ลินลี่ย์ไม่ยอมตายง่ายๆ ถ้าเขาตาย เบรุตและบลูไฟร์จะตกอยู่ในความยุ่งยากเช่นกัน
สาขาพิภพยูลานจะถูกออกุสตาข่มจนโงหัวไม่ขึ้นอีกครั้ง
ดังนั้นลินลี่ย์เลือกถอยชั่วคราว
“ประมุขมหาเทพวิถีชะตาเป็นหนี้บุญคุณเขาจริงๆหรือ? ฮึ่ม..อย่างนั้นข้าจะยอมปล่อยให้ออกุสตามีชีวิตยืนยาวอีกนิดไปก่อน” ลินลี่ย์รำพึงในใจ “ข้าจะกลับไปเพ่งถึงการหลอมรวมกฎธาตุก่อน ถ้าข้ากลายเป็นพารากอน อย่างนั้นโอล็อฟจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ออกุสตาก็เช่นกัน” ลินลี่ย์ถึงชายขอบแดนนรก
ด้วยการตวัดมือครั้งเดียวเขาตัดเปิดรอยแยกมิติสายหนึ่ง
จากนั้นลินลี่ย์กลับเข้าไปใจในแดนนรก!
ในแง่การหลอมรวมกฎธรรมชาติที่ต่างสายธาตุกันลินลี่ย์ในตอนนี้หลอมรวมได้เพียงสามกฎ ต้องเข้าใจว่าเมื่อเพิ่มจำนวนกฎธรรมชาติที่แตกต่างกัน พลังของการหลอมรวมจะเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยเท่า! นอกจากนี้บนพื้นฐานที่ลินลี่ย์เชื่อเมื่อเขาหลอมรวมกฎธาตุทั้งสี่สายได้สวรรค์จะประทานพลังปณิธานให้เขาอีกส่วนหนึ่ง
ดังนั้นลินลี่ย์ยังจะต้องกลัวใคร
ในอากาศเหนือทวีปบลัดลิจแดนนรก
ร่างของลินลี่ย์ทะยานผ่านท้องฟ้าเทียบกับลินลี่ย์อสูรโลหะที่อยู่ใกล้ดูเหมือนจะช้าลงไปในทันทีราวกับมดคลาน พวกเขามีระดับความเร็วที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“ควั่บ!” สำนึกเทพของเขาครอบคลุมไปทั่วทวีปบลัดริจ
ลินลี่ย์พบเจอเบรุตทันที เบรุตอยู่ภายในเทือกเขาสกายไรท์ นี่เป็นร่างแยกของเบรุต
“ปู่เบรุต” ลินลี่ย์สำนึกเทพเรียก
ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเบรุตยังคงรั้งอยู่ภายในแคว้นอินดิโกทวีปบลัดริจตลอด
แคว้นอินดิโก เทือกเขาสกายไรท์ เบรุตพักอาศัยอยู่ชั่วคราวในคฤหาสน์ที่จัดสร้างให้ลินลี่ย์
“หืม?” เบรุตเงยหน้ามีร่างหนึ่งลอยลงมาจากท้องฟ้าและเข้ามาหาเขาราวกับเทเลพอร์ต เป็นลินลี่ย์
“ลินลี่ย์” เบรุตดีใจ “เป็นยังไงบ้าง? เจ้าฆ่าออกุสตาได้หรือเปล่า?” ตาของเบรุตเป็นประกายเต็มไปด้วยความหวัง เมื่อเห็นสีหน้าเบรุตลินลี่ย์อดฝืนหัวเราะไม่ได้
“ข้าล้มเหลว” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ
“เป็นยังไง?” เบรุตตกใจ “เนื่องด้วยพลังที่แท้จริงของเจ้า เจ้าควรจะฆ่าเขาได้ง่าย”
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “ปู่เบรุต ทุกคนถูกออกุสตาหลอก พลังที่แท้จริงของเขาไม่ได้ใกล้เคียงกับที่เราเคยคาดไว้ พลังของเขามากกว่าที่ข้าคิดไว้ถึงสิบเท่า! เขาไม่ได้อ่อนแอมากกว่าข้าแต่อย่างใด แม้ว่าข้าจะสู้เสี่ยงตายกับเขา ก็ยังไม่แน่ใจว่าใครจะพินาศ ที่สำคัญยิ่งกว่า ประมุขมหาเทพวิถีชะตาเป็นหนี้บุญคุณของเขา ท่านเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างไหม?”
“ประมุขมหาเทพวิถีชะตาเป็นหนี้บุญคุณออกุสตา?” เบรุตส่ายหน้า “ข้าไม่แน่ใจเรื่องนั้น ข้าเป็นมหาเทพมาเพียงสองหมื่นปีเท่านั้น”
“ข้ารู้สึกว่าออกุสตาไม่ได้โกหก” ลินลี่ย์หัวเราะจนใจ “ตกลงว่าเราจะรอและอดทนอีกสักหลายปี เราจะรอต่ออีกนิด ตอนนี้ข้าหลอมรวมกับประกายมหาเทพธาตุลม ข้าจะสร้างโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์ของธาตุลมและจะรู้แจ้งเกี่ยวกับธาตุลมให้มากขึ้นบางทีอาจช่วยให้ข้าก้าวหน้าในระดับความเข้าใจเกี่ยวการหลอมรวมกฎธาตุต่างหากก็ได้”
เบรุตพยักหน้า
ดูเหมือนว่านี่เป็นทางเลือกเดียว
อย่างไรก็ตามเบรุตไม่กังวลเนื่องจากศักยภาพของลินลี่ย์ เขามีโอกาสจะเอาชนะได้แม้กระทั่งประมุขมหาเทพสี่วิถีไม่ต่างจากออกุสตา เพียงแต่เขาต้องการเวลา!