6 เจอกัน
“เอ่อ...ขอโทษนะคะ! จะได้กินมั้ยค่ะวันนี้ สั่งอาหารตั้งสามสิบนาทีแล้วน่ะค่ะ ถ้าไม่ขายจะได้ไปกินที่ร้านอื่นค่ะ เสียเวลา!!”
เสียงปริศนาดังขึ้นจากด้านหลังเซฟหนุ่มเจ้าของร้าน เสียงหวานๆ เพราะๆ ก้องกังวานสะดุดหูคนฟังจนเขาต้องรีบสะดุ้งตัวลุกขึ้นไปมองหน้าในทันที
“ขอโทษด้วยครับคุณ....”
...
“ขอโทษด้วยครับคุณลูกค้า ไม่ทราบว่าสั่งอะไรบ้างครับเดี๋ยวผมรีบจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย” เจ้าของร้านหน้าแตกเบาๆ เมื่อซันพยายามใช้เสน่ห์ตัวเองให้เป็นประโยชน์และเว้นวรรคช่องไฟเพื่อถามชื่อคู่สนทนา แต่เธอกลับยืนกอดอกทำหน้านิ่ง ทะมึนตึงด้วยความไม่พอใจที่รออาหารนาน มิหนำซ้ำเจ้าของร้านยังถามคำถามที่ชวนหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม “ยังจะถามลูกค้าว่าสั่งอะไรไว้อีกเหรอคะ...โว๊ะ! เสียเวลาจริงๆ เลย”
“เดี๋ยวครับเดี๋ยว! ขอให้ผมแก้ตัวหน่อยนะครับ”
“นี้มันร้าน Fast food หรือ Slow food กันแน่ค่ะเนี้ย”
“พอดีร้านเราเพิ่งเปิดวันนี้วันแรกน่ะครับ” ซันพยายามจะอธิบายสิ่งที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาด เขาเองก็ผิดร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มที่เอาแต่นั่งเม้าท์มอยคุยกับเพื่อนๆ แทนที่จะสนใจลูกค้าหน้าร้าน
“ค่ะ!”
“อ่า....!?” ชายหนุ่มคิดว่าลูกค้าสาวคนนี้อาจจะอวยพรในวันเปิดร้านเพราะเธอดูโมโหหิวมากๆ แถมพ่อครัวยังไม่ทราบออเดอร์ของลูกค้าอีกด้วย แล้วความหล่อระดับพระกาฬก็ไม่สามารถหันเหความสนใจของเธอได้เลย
เจ้าของร้านรูปหล่อเสียอาการที่เขาไม่อาจคอนโทรลลูกค้าสาวคนนี้
“จะได้กินมั้ยคะ”
“รบกวนคุณลูกนั่งรออีกแปบเดียวนะครับ รับรองไม่เกินสิบนาทีได้ทานอาหารอร่อยๆ แน่นอน”
“ขอบคุณค่ะ”
...
(แปลกคน)
เซฟหนุ่มยืนปรุงอาหารไปตาก็เหลือบมองลูกค้าสาวคนนั้นไปพร้อมกับยิ้มมุมปากกรุ้มกริ่มในความคิดพิเรนทร์ๆ ตลอดเวลา
ซันไม่เคยเจอสาวคนไหนที่ไม่หลงเสน่ห์เขาตั้งแต่แรกพบกัน(ไม่รวมไอ้ก้อย) ปกติแล้วสาวๆ จะอายม้วนและเล่นหูเล่นตาโต้ตอบเสมอและเขาเองก็เคยชินกับกิริยาแบบนั้นจนหลงลืมไปว่าผู้หญิงก็ไม่ได้ง่ายมันซะทุกคน
ร้อยวันพันคนจะมีสักหนที่มีคนมาทำให้หัวใจมันได้ออกแรงเต้นระรัว
สามสิบนาทีต่อมา
“เป็นไงครับ”
“ก็ดีค่ะ”
“แค่นั้นเองเหรอ”
“เอาจริงๆ นะคะ รสชาติแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ถือว่าทั่วๆ ไปเลยค่ะ จะพิเศษกว่าคนเขาหน่อยก็ตรงที่...”
“ที่....” เจ้าของร้านรอคำตอบอย่างใจจดจ่อว่าจะได้รับคำชมอะไรกลับมาบ้าง
“พ่อครัวหล่อนะคะ เด็กเสิร์ฟก็สวย แต่บริการถือว่าห่วยและรออาหารนานมาก ถ้าขายอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฟาร์ทฟู๊ดจะรีวิวให้สักสิบดาวอยู่หรอกนะ แต่เจอแบบนี้แล้วอยากจะรีวิวประสบการณ์แย่ๆ มากกว่าแนะนำให้ใครมาทานร้านนี้”
เพล้ง ง ง
คนฟังหน้าชาที่ได้ยินคำวิจารณ์เหยียดยาวเป็นหางว่าว คนเป็นเจ้าของร้านเปิดใจรับฟังความเห็นจากลูกค้าสาว และซันก็แทบหมดความมั่นใจในตัวเองไปเลยตอนนี้
สายตาของเขากวาดมองบนโต๊ะลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ บางคนทานหมดบ้าง บางคนสั่งแต่น้ำเปล่า บางคนก็มาแค่เพื่อเช็คอินและถ่ายรูป ไม่มีใครสนใจหรอกว่าเซฟคนนี้ทำอาหารเก่งแค่ไหน มีประสบการณ์มากมายเท่าไร วัตถุดิบที่เขาใส่ใจและคัดสรรเลือกมาเองกับมือและรายละเอียดในการปรุงทุกขั้นตอนมันมีความหมายรึเปล่า...ไม่มีใครสน
“แต่ไหนๆ ก็เพิ่งเปิดร้านวันแรกก็ขอให้กิจการเจริญรุ่งเรืองนะคะ ดิฉันไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมายถึงได้กล้าติ แค่คิดว่าถ้าตัวเองได้เป็นเจ้าของร้านแบบนี้บ้างจะทำมันให้ออกมาในรูปแบบไหนยังไงเท่านั้นเอง”
“ครับ! ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” ชายหนุ่มยืนไหล่ห่อเมื่อเขาได้รับคำวิจารณ์
การเป็นเจ้าของกิจการมันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่พ่อแม่เคยปรามาสไว้เลย
ณ ตอนนี้พลังล้นเหลือของเซฟหนุ่มไฟแรงมอดลงใกล้จะดับสนิทที่ลูกค้าสาวเรียกคิดเงิน
“เท่าไรคะ”
“แบบนี้แล้วคงไม่กลับมาทานที่นี้อีกแล้วสิครับ”
“ถ้ามาคงไม่ใช่เพราะอยากกินอาหารแหละค่ะ” คนตอบยังพูดติดตลกแต่คนฟังไม่ขำ
ซันเหลือความมั่นใจศูนย์เปอร์เซ็นต์และเขาไม่ก็สนุกกับมุกตลกของลูกค้าสาว
คนตัวสูงร้อยแปดสิบสี่เซนกลายเป็นเจ้าตัวเล็กนิดเดียวเมื่อยืนเทียบกับสาวน้อยช่างวิจารณ์ และเธอก็ทำเขาซะมองเห็นสัจจะความเป็นจริงตรงหน้า ทั้งที่เพื่อนรักสองคนพูดไว้ก่อนแล้วแต่ซันกลับคิดว่าบอยและก้อยแค่อำเล่นตามภาษาคนสนิทที่ปากเสียใส่กันเท่านั้น
“ลูกค้าสาวๆ เขาอยากมาเจอพ่อครัวหล่อๆ ส่วนลูกค้าหนุ่มๆ เขาก็อยากมาดูพริตตี้สาวสวยนมใหญ่ๆ ร้านพี่ไม่เจ๊งง่ายๆ หรอกค่ะ ร้านพี่ยังมีจุดขายที่ดูดดึงลูกค้าได้อยู่” อีกครั้งที่คนวิจารณ์ขยี้ปมที่เจ้าของร้านเห็นตามความเป็นจริงตรงหน้า ซันไม่ได้อยากให้ลูกค้าจดจำที่ความหล่อของเซฟกับความสวยของเด็กเสิร์ฟเท่านั้น
เมนูเดียวกันแต่วัตถุดิบและรสชาติที่ดีกว่าและแตกต่างต่างหากที่ซันอยากให้ลูกค้าได้รับกลับไปไม่ใช่เรื่องฉาบฉวยพวกนี้
“เป็นกำลังใจให้นะคะ” ลูกค้าสาววางแบงก์พันลงในถาดเพราะเจ้าของร้านไม่ยอมวางบิลสักที คืนนี้เธอเหนื่อยมากแล้วและอยากจะกลับไปพักผ่อนบนเตียงนุ่มๆ เพราะเธอยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการกับชีวิต
“ขอโทษนะครับคุณ...”
“หอมค่ะ!”
“ถ้าคุณหอมไม่รังเกียจ ช่วยกลับมาอีกครั้งนะครับ”
“หอมแค่พูดตามที่รู้สึกเท่านั้นค่ะ ถ้าพูดอะไรแรงไปก็ขอโทษด้วยนะคะ อาจเป็นเพราะโมโหหิว อีกอย่าง...ก่อนหน้านี้หอมก็เจอเรื่องเครียดๆ มาด้วย หอมเลยใส่อารมณ์ไปนิด” เธอรับรู้ได้ว่าคำพูดของเธอทำร้ายจิตใจคนฟัง และเธอก็ไม่มีเจตนาเช่นนั้นจึงค้อมหัวลงให้กับคนแก่กว่าเพื่อเป็นการขอโทษ
“นะครับ!” แต่ซันยังคงมุ่งมั่นที่จะตื๊อให้เธอกลับมาอีกครั้งให้ได้
“หอมไม่ได้ติดใจความหล่อของเซฟหรือความสวยของเด็กเสิร์ฟนะคะ หอมจะกลับมาทำไม”
“กลับมาในฐานะหุ้นส่วนร้านได้ไหมครับ ทำให้ร้านนี้ดีอย่างที่คุณหอมอยากให้มันเป็น ผมเชื่อว่าคุณหอมต้องทำให้ร้านนี้ดีขึ้นอย่างแน่นอน”
“พี่ซันให้งานหอมรึค่ะ”
“ให้หอมมาเป็นหุ้นส่วนต่างหากครับ รึอาจจะเป็นเจ้านายพี่เลยก็ได้”
“แต่ว่า...”
“นะครับ! ขอร้อง!”