ตอนที่ 766 กาทองปรากฏ
เมืองลี่จ้าว
เมื่อเจ้าเมืองถูไห่และราชาหลิงหวินกลับมายังเกาะสุริยันต์ พวกเขาพบว่ามีนักสู้ปราณฟ้าที่มีรัศมีสว่างเจิดจ้ามาเยือนเกาะสุริยันต์
ตอนแรกเจ้าเมืองถูไห่ยังคิดว่านักสู้ปราณฟ้านี้เป็นคุณชายสามจึงตั้งใจว่าจะเข้าไปทักทายแต่กลับพบว่าไม่ใช่ กลายเป็นผู้เยาว์อีกคนหนึ่ง นักสู้ปราณฟ้าเป็นคนเผ่าภูตบูรพา เพราะระดับความเร็วในการเติบโตที่ต่างกันเผ่าภูตบูรพาจึงแตกต่างจากมนุษย์ เด็กหนุ่มคนนี้คาดว่าอายุราวแปดร้อยปี ไม่น่าเกินพันปี อย่างไรก็ตามลักษณะของเขาดูเหมือนยังอายุยี่สิบปีดูเหมือนเด็กหนุ่มชาวมนุษย์... ถูไห่ไม่ประหลาดใจกับเรื่องนี้ เขารู้ว่าเผ่าภูตบูรพาเป็นเผ่าพันธุ์ที่โตช้า คนเผ่าภูตบูรพาเติบโตช้ามากยังช้ากว่ามังกรโบราณ
มนุษย์เติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มวัยในช่วงไม่กี่ทศวรรษ
อายุขัยร้อยหรือสองร้อยปีก็พอจะให้กำเนิดนักสู้รุ่นหลังได้
ในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหมดมนุษย์มีอัตราเติบโตเร็วที่สุด เผ่ามังกรโบราณไตตันโบราณและเผ่าภูตบูรพาก็ยังทำไม่ได้ มังกรโบราณจะเป็นเด็กเพียงไม่กี่ทศวรรษร้อยหรือสองร้อยปีก็ยังเป็นเด็ก
เผ่าภูตบูรพายังคงมีการเติบโตในอัตราที่ช้ามากแต่กล่าวโดยทั่วไปเป็นเผ่าพันธุ์ที่เติบโตช้าอยู่แล้ว
เผ่าภูตบูรพารุ่นต่อมามีความแตกต่างกันเกือบหลายพันปี ในกลุ่มเด็กแทบไม่มีความแตกต่างกันคือยังเป็นวัยเด็กต้องใช้เวลามากกว่าพันปีจึงจะกลายเป็นผู้ใหญ่ ถ้าจะต้องเป็นผู้ใหญ่เต็มที่จะต้องใช้เวลาหลายพันปี....อัตราความเร็วในการเติบโตของเผ่าภูตบูรพาในแดนสวรรค์นี้พวกมังกรโบราณจะโตเร็ว มีแต่เผ่าไตตันโบราณเป็นที่รู้กันดีว่าโตช้า
เผ่าภูตบูรพาไม่เพียงแต่โตช้าเท่านั้น แต่อัตราการเกิดของประชากรยังอยู่ในระดับต่ำ
ครั้งหนึ่งปราชญ์โบราณเคยพูดล้อเล่นกันว่าถ้าเผ่าภูตบูรพามีความสามารถในการขยายพันธุ์ได้แบบมนุษย์พวกเขาคงครอบครองแดนสวรรค์ไปทั้งหมดแล้ว
ความจริงไม่เพียงแต่เผ่าภูตบูรพาเท่านั้น แม้แต่เผ่าพันธุ์ที่มีอัตราการเติบโตช้าและมีศักยภาพสูง การให้กำเนิดเป็นปัญหาของพวกเขา เผ่าภูตบูรพาและเผ่ามังกรโบราณจะฝึกฝนลูกหลานของตนอย่างขะมักเขม้นไม่เกียจคร้านเหมือนมนุษย์ส่วนใหญ่
“อาคันตุกะผู้มีเกียรติมายังเมืองลี่จ้าว มิทราบว่ามีธุระอันใด?” ถูไห่เกรงเด็กหนุ่มผู้มีรัศมีเหมือนดวงอาทิตย์นี้แค่การมาถึงของคุณชายสามผู้ยากจะเข้าใจก็มีปัญหาแล้ว ตอนนี้มีเผ่าภูตบูรพามาถึงเมืองลี่จ้าว จะมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นหรือ? เมื่อมองดูเผ่าภูตบูรพาผู้นี้มีพลังปราณฟ้าระดับห้าเขาถึงกับใจเต้นเร็วกว่าเดิมถึงสามเท่า
“ท่านเป็นเจ้าเมืองหรือ? ข้าคือองค์ชายอูไห่แห่งหุบเขาแสงอุทัย ตระกูลกาทองสามขาข้ามาตามหาชายารองของข้าที่นี่”
องค์ชายอูไห่พูดว่าถูไห่อาจถูกลงโทษประหารชีวิต
โอวพระเจ้าเดินทางจากหุบเขาแสงอุทัยมายังเมืองลี่จ้าวกี่พันล้านกิโลเมตรกันนี่? นั่นหมายความว่าต้องเดินทางผ่านวงเวทเทเลพอร์ตเดินทางเป็นแรมเดือนเพื่อรับชายาของเขาหรือ? นอกจากนี้แม้ว่าเขาต้องการจะมีสัมพันธ์กับหญิงสาว เขากลับไม่มีความสามารถหาเอาในหุบเขาอาทิตย์อุทัยเพราะหุบอาทิตย์อุทัยยังเป็นมาตุภูมิของเผ่ากาทอง แดนสวรรค์บนประกาศเป็นพื้นที่ต้องห้าม เจ้าเมืองเล็กๆจะเข้าไปในหุบเขาอาทิตย์อุทัยและขโมยชายาของเจ้าชายได้ยังไง?
ไม่มีใครเข้าไปในแดนสวรรค์บน และไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับสวรรค์บนแม้แต่ราชาหลิงหวินก็ยังคิดว่าถูไห่คงรู้และขายหน้าเล็กน้อย
นอกจากนี้ถูไห่เดินทางไปเมืองหลวงและเมืองใกล้เคียงบ้างไม่เคยก่อการร้ายในอาณาจักรหลิงหวิน แม้ว่าถูไห่จะมีสตรีมากราชาหลิงหวินเชื่อว่าต่อให้ถูไห่ควบคุมเกาะสุริยันต์ เขาคงไม่กล้าพาองค์หญิงจากเผ่าภูตบูรพาแน่
ราชาหลิงหวินสอบถามอย่างเคร่งเครียดเล็กน้อย “องค์ชาย! นี่นี่เป็นการเข้าใจผิดหรือเปล่า?”
องค์ชายแปดโบกมือ“ไม่เข้าใจผิดแน่นอน ชายาของเราอยู่ในเมืองลี่จ้าว”
ถูไห่เมื่อได้ยินน้ำตาเขาแทบร่วง ไม่ยุติธรรม!
แม้ว่าเขาจะมีสตรีมากมายหลายคน แต่เขาไม่เคยมีสตรีจากเผ่าภูตบูรพาเลย และเขาไม่เคยกล้าให้ความสนใจเผ่าภูตบูรพา นั่นไม่ต่างอะไรกับการหาที่ตาย
“ทำไมชายาขององค์ชายแปดถึงมาปรากฏตัวในเมืองลี่จ้าวได้?” โชคดีที่ผู้ช่วยเหลือปรากฏตัวทันเวลา เพราะเย่ว์หยางโดยสารรถม้าบินมาถึงจวนเจ้าเมืองบนเกาะสุริยันต์และเห็นคนของเผ่ากาทองสามขายืนอยู่ในอากาศเปล่งรัศมีราวกับดวงอาทิตย์ เขาถามอย่างเปิดเผย
“เจ้าเป็นคนจากเผ่าพันธุ์ไหน รู้สึกว่าเจ้าเหมือนกับพวกเรามาก?” องค์ชายแปดมองดูเย่ว์หยางด้วยความสงสัย
“มนุษย์” เย่ว์หยางยักไหล่
“เป็นไปไม่ได้, ช่างเถอะแม้ว่ามนุษย์ส่วนใหญ่จะอ่อนแอ แต่บางคนก็น่ากลัว เจ้าคงเป็นข้อยกเว้นนั้น” คำพูดขององค์ชายแปดทำให้ถูไห่อดคิดไม่ได้ เขายังคงคิดว่าคุณชายสามไม่น่าจะเป็นมนุษย์แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ครั้งนี้ราชาหลิงหวินลอบมองดูเย่ว์หยางและไม่ยืนขึ้นแนะนำตนเองทันที
“เป็นผู้เยาว์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!” หลังจากมองดูแล้วราชาหลิงหวินชื่นชมอยู่ในใจ
สำหรับการประเมินของถูไห่ก่อนหน้านี้ราชาหลิงหวินยังมีข้อสงสัยอยู่บ้าง เด็กหนุ่มคนนี้ยอดเยี่ยมจริงหรือ?
การจัดหหมากกลสิบหมากจัดได้ว่ายอดเยี่ยมงั้นหรือ? ตอนนี้เมื่อราชาหลิงหวินได้พบเห็นกับตาเขาพบว่าถูไห่พูดถูก
ถ้าไม่มีการเปรียบเทียบความรู้สึกก็คงไม่เข้มข้นชัดเจนมากขนาดนั้น..ตอนนี้องค์ชายแปดแห่งเผ่าภูตบูรพาซึ่งมีความโดดเด่นมากยืนอยู่ต่อหน้าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ทั้งสองมีความแตกต่างกันคือคุณชายสามในฐานะที่เป็นมนุษย์แทนที่จะเปล่งรัศมีพลังนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าเหมือนกับองค์ชายแปดแห่งตระกูลเผ่ากาทองแต่กลับมีสภาพอารมณ์ห่างจากองค์ชายแปดแห่งเผ่ากาทองห่างไกลเมื่อมีหมู่ผู้คนเป็นฉากหลังทำให้ดูโดดเด่นมาก
แม้แต่ราชาหลิงหวินผู้เป็นราชามาหลายพันปีเมื่อเห็นผู้เยาว์นี้ยังมีความรู้สึกว่าตนเองด้อยค่าอย่างช่วยไม่ได้
แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน?
น่าจะเป็นเช่นนั้น
เมื่อได้พบเห็นองค์ชายแปดแห่งเผ่ากาทองราชาหลิงหวินรู้สึกว่านี้คือผู้เยาว์ที่มีศักยภาพยิ่งใหญ่ไร้ขีดจำกัดในอนาคต เขารับมือฝ่ายตรงข้ามด้วยความสุภาพแต่ไม่มีความหวาดกลัวเกี่ยวกับเรื่องนี้อาจพูดได้ว่าราชาหลิงหวินไม่อาจใช้สายตาประเมินคุณชายสามได้คุณชายสามไม่ใช่นักสู้ระดับหอทงเทียนที่ประเมินง่าย แต่มีความรู้ศักดิ์สิทธิ์ของนักสู้ปราณฟ้า
นักสู้ปราณฟ้ายุคโบราณผู้มีญาณศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเรียกกันว่านักสู้ปราณราชันย์
ความรู้แจ้งในญาณศักดิ์สิทธิ์จะมีพลังปณิธานไม่มีใครเทียบได้เข้าใจพลังกฎสวรรค์ซึ่งเกิดจากประกายความรู้ของญาณศักดิ์สิทธิ์ เรียกว่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งนับได้ว่าเป็นเทพเจ้านั่นเอง
สงครามเมื่อหกพันปีก่อนแดนสวรรค์และหอทงเทียนขัดแย้งกันจนกลายเป็นศัตรูกันและยกเลิกคำนำหน้าที่พวกนักสู้หอทงเทียนใช้เสมอว่านักสู้ปราณราชันย์ไปเป็นปราณฟ้าญาณศักดิ์สิทธิ์ ในแดนสวรรค์พวกแดนสวรรค์ล่างจะคุ้นกับคำว่านักสู้ปราณฟ้าผู้ไม่รู้จักญาณศักดิ์สิทธิ์ ต้องเป็นนักสู้ที่มีระดับสูงกว่าปราณฟ้าระดับห้าหรือมีคัมภีร์อัญเชิญจึงจะมีญาณศักดิ์สิทธิ์
ถูไห่ไม่สามารถเข้าแดนสวรรค์บนได้เพราะไม่สามารถเข้าถึงญาณศักดิ์สิทธิ์
อูไห่องค์ชายแปดแห่งเผ่ากาทองราชาหลิงหวินเห็นว่าผู้เยาว์เผ่าภูตบูรพามีความรู้สึกที่เทียบได้กับญาณศักดิ์สิทธิ์เพียงแต่ยังไม่บรรลุเต็มที่ ในอนาคตขององค์ชายแปดผู้นี้ย่อมไร้ขีดจำกัด
เมื่อมองดูคุณชายสามตระกูลเย่ว์อีกครั้ง
ราชาหลิงหวินแน่ใจว่าฝ่ายตรงข้ามคงตระหนักรู้ถึงญาณศักดิ์สิทธิ์แล้วและเริ่มมีพลังปณิธานราชันย์ และอาจจะเข้าใจพลังกฎสวรรค์ที่ยากจะเข้าถึงได้
ในร่างมนุษย์ที่ฝึกฝนบ่มเพาะมายี่สิบกว่าปีจนได้ถึงระดับนี้ราชาหลิงหวินซึ่งมีความเป็นอัจฉริยะยังต้องลอบถอนหายใจ ถ้าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ฝึกฝนมาสักสองร้อยปีแล้วถึงระดับนี้ได้ นั่นก็นับว่าน่ากลัวเหลือเชื่อแล้ว กล่าวกันว่าจักรพรรดิอวี้แห่งหอทงเทียนนับว่าโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเขาฝึกฝนจนเป็นนักสู้ปราณราชันย์ใช้เวลาสามร้อยกว่าปีเมื่อเขากลายเป็นจักรพรรดิอวี้ก็ไม่มีใครต้านทานความยิ่งใหญ่ของเขาได้ แม้ว่าจะได้มาด้วยความช่วยเหลือจากอาวุธเทพทั้งสามที่เขาใช้งานมามากกว่าหกร้อยปี ความเร็วขนาดนี้ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตามความเร็วในการฝึกฝนของจักรพรรดิอวี้นับว่าเป็นประวัติการณ์ใช้เวลาสามร้อยปีก็กลายเป็นจักรพรรดิอวี้นักสู้ระดับปราณราชันย์
ยิ่งมาอยู่ต่อหน้าคุณชายสามเหมือนกับว่าเขาไม่มีอะไรจะพูด
คุณชายสามตระกูลเย่ว์นักสู้ปราณราชันย์ไม่รู้ว่าเขามาจากที่ใดเขาประสบความสำเร็จในวัยยี่สิบ...โชคดีที่เขาไม่ได้มาจากหอทงเทียน มิฉะนั้นในแดนสวรรค์คงต้องเปิดฉากต่อสู้แน่นอน
ตอนแรกราชาหลิงหวินคิดว่าโชคดี
แต่วินาทีต่อมาเขาสงสัย
ตามคำพูดขององค์ชายอูไห่องค์ชายแปดแห่งเผ่ากาทอง ราชาหลิงหวินมั่นใจถึง 80% ว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์มาถึงที่นี่เพื่อติดตามหาร่องรอยเผ่ามังกรทองของเผ่าอสูรอมตะนอกจากเผ่าที่ลึกลับและน่ากลัวนั้นแล้ว คงไม่มีเผ่าที่สองที่จะให้กำเนิดชีวิตที่ผิดธรรมดาอย่างนั้น การฝึกฝนของจักรพรรดิอวี้ไม่เพียงเป็นที่พูดถึงในหอทงเทียนเท่านั้น แม้แต่ในแดนสวรรค์ก็ยังเป็นที่พูดถึงกันห้าอันดับแรก
แดนสวรรค์ในปัจจุบันคนที่สามารถทำลายสถิติความเร็วในการฝึกฝนของจักรพรรดิอวี้ได้มีแต่เพียงหมิงเย่กวงหนึ่งในสามจอมภพแดนสวรรค์
สำหรับคุณชายสามราชาหลิงหวินไม่กล้าที่จะคิด เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้เขากลัว
“เห็นเจ้าแล้ว มีความรู้สึกว่าเจ้าใจดีข้าคิดว่าเจ้าคงมีความเกี่ยวพันบางอย่างกับเผ่าพันธุ์เรา ข้าคือโอรสแห่งราชากาทองมีนามว่าอูไห่ แล้วเจ้าเล่า?” องค์ชายแปดเห็นเย่ว์หยางรู้สึกได้ว่าสะดุดใจเป็นพิเศษทำให้เกิดแรงบันดาลใจอยากทักทาย
“ข้าไตตัน มาจากสกุลเย่ว์” เย่ว์หยางแนะนำตนเองและแนะนำเย่คง, เจ้าอ้วนไห่เสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัวและคนอื่นๆ
ขณะเย่ว์หยางคุยกับองค์ชายแปดอูไห่ ราชาหลิงหวินรีบปรึกษากับเจ้าเมืองถูไห่
ก่อนอื่นเลยราชาหลิงหวินต้องการมั่นใจเต็มร้อยว่าถูไห่ไม่ได้พาตัวชายาของเขามา
สำหรับเรื่องนี้เจ้าเมืองถูไห่สาบานด้วยถ้อยคำหนักแน่น และเขาจริงใจ! ต่อให้กล้าดีแค่ไหนก็ตามเขาไม่กล้าลักพาตัวสตรีขององค์ชายแปดเผ่ากาทองมาแน่!
ราชาหลิงหวินพยักหน้าในเมื่อเป็นการเข้าใจผิด อย่างนั้นก็รับมือได้ง่าย
และนอกจากนี้ยังมีคุณชายสามตระกูลเย่ว์คอยเบี่ยงเบนความสนใจดูเหมือนจะไม่มีเรื่องน่ากังวล จึงเป็นเรื่องดีที่จะได้อธิบายเพื่อขจัดความเข้าใจผิด
ทั้งสองรีบไปข้างหน้าเพื่อแสดงมารยาทกับอีกฝ่ายหนึ่ง หลังจากสอบถามอย่างถี่ถ้วนแล้วราชาหลิงหวินและถูไห่อึ้งไปเล็กน้อย เรื่องกลับกลายเป็นว่าองค์ชายแปดอูไห่ไม่ได้หมายความว่าถูไห่จับชายาของเขาไป แต่เพราะชายาหลวงหึงหวงหาเรื่องผิดเล็กน้อยบีบคั้นให้ชายารองออกจากตำหนักและรอให้องค์ชายอูไห่กลับมาจากข้างนอก แต่ชายารองหนีกลับไปบ้านเกิดนางซึ่งอยู่ที่หุบเขาอาทิตย์ใกล้กับเมืองลี่จ้าว
“เชียวเอ๋อของข้ากำลังตั้งครรภ์ด้วยเรื่องนี้เองทำให้ข้าอยู่เฉยไม่ได้” องค์ชายอูไห่ดูเหมือนจะเป็นเผ่าพันธุ์มากรักถ้าเปลี่ยนองค์ชายอื่นเกรงว่าคงไม่ว่าชายาซึ่งเป็นต้นเหตุให้นางต้องเดินทางไกลกลับบ้านไกลเป็นสิบๆล้านกิโลเมตร
“เมืองลี่จ้าวไม่มีสตรีตามที่ท่านอธิบายถึงเลย” เมื่อได้ยินเช่นนี้พ่อบ้านที่มีความทรงจำดีพูดถึงบุคคลนี้เบาๆ
“แน่นอนว่าไม่มีสตรีตั้งครรภ์เช่นนี้อยู่เลย”พ่อบ้านเจียวซือรีบรายงาน
“นางควรจะอยู่ที่บ้านเกิดไม่ใช่หรือ?หรือว่าจะมีอุบัติเหตุระหว่างทาง? หน่วยคุ้มกันนางส่งสัญญาณบอกว่านางถูกกักตัวส่งไปยังเมืองเล็ก แล้วจะไม่มีใครได้ยังไง? เชียวเอ๋อและลูกที่ยังไม่เกิดของข้า.. ต้องโทษข้า ถ้าไม่ใช่เพราะข้าออกไปข้างนอก เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้น!” หน้าขององค์ชายอูไห่เปลี่ยนไปเพราะรู้สึกเจ็บปวดใจ
“อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ร้ายเกินไปมีทหารคุ้มกันติดตามนาง ไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรง บางทีท่านอาจจะมาเร็วเกินไปนางอาจจะชักช้าอยู่และยังมาไม่ถึงเมืองลี่จ้าวก็ได้” เย่ว์หยางลอบคิดอย่างตื่นเต้นมีทหารของเผ่ากาทองอยู่ด้วย ใครจะกล้าเคลื่อนไหว?
นอกจากนี้สามารถเป็นชายาขององค์ชายแห่งหุบเขาอาทิตย์อุทัยนี่ใช่คนธรรมดาหรือ?
เขาพูดปลอบโยน“ข้ามีสหายผู้คาดการณ์หาร่องรอยเก่ง ข้าจะขอให้นางช่วยหาร่องรอยดู”