ตอนที่ 21-18 อสูรศักดิ์สิทธิ์เลเวียธาน
“อะไรนะ?ผสานทักษะเทพธรรมชาติของสี่บรรพบุรุษ?” ลินลี่ย์ทำตาโต
และจากนั้นลินลี่ย์จ้องมองประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างซึ่งยืนอยู่ในมิติว่างเขารำพึงในใจ “สองหมื่นปีที่แล้วประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างได้รับเลือดบริสุทธิ์จากปู่เบรุตไปครึ่งหนึ่ง ใช่แล้วเมื่อห้าพันปีที่แล้วกลุ่มของกัซลีสันทั้งสี่ให้ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างยืมเทพชั้นสูงของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ร้อยคน เป็นไปได้ว่านั่นเพื่อใช้ประโยชน์วิเคราะห์พลังเทพธรรมชาติของอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ และตอนนี้เขาทำได้สำเร็จจริงๆ! เหลือเชื่อจริงๆ ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างนี้เป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ”
ทักษะเทพธรรมชาติไม่มีทางเรียนรู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่มีความหวังว่าจะลอกเลียนทักษะเทพที่คล้ายกัน
ตัวอย่างเช่นคนอย่างประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง ถ้าเขาวิเคราะห์ได้เพียงพอและยังกระตุ้นเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ เขาจะมีโอกาสเลียนแบบได้
ตัวอย่างเช่นลินลี่ย์สนามพลังอะเมทิสต์ของอสูรศักดิ์สิทธิ์อะเมทิสต์เป็นสุดยอดไม้ตายที่ประหลาด ภายใต้การแนะนำของมหาเทพเรดบุด ในที่สุดลินลี่ย์ก็เข้าใจหลักการที่อยู่เบื้องหลัง แม้ว่าพลังจะไม่มากเท่าเมื่ออสูรเทพอะเมทิสต์ใช้ไม้ตายนี้เอง พลังก็ยังมากมายมหาศาลอยู่ดี
ยอดฝีมือระดับประมุขมหาเทพยังคงรู้สึกเงียบขณะจ้องมองการประลองระหว่างสองประมุขมหาเทพวิถี
“แครก...”
แสงสีดำแผ่กระจายออกไประยะพันเมตรและภายในใจกลางแสงดำมีร่างเลือนรางที่น่ากลัวลอยนิ่งกับที่เงียบๆ
“โอล็อฟ! ข้ายืมมาจากพลังเทพธรรมชาติของเผ่าพันธุ์ที่มีอยู่ในแดนนรกทาร์ทาเรียน หลังจากผ่านเวลามานานเป็นอสงไขยปี ในที่สุดข้าก็พบสุดยอดไม้ตายที่สมบูรณ์ที่สุดของข้า วิชานี้ทรงพลังมากกว่าเดิมอีกมาก ครั้งนี้จงดูพลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของข้าอีกครั้ง” เสียงของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างดังก้องไปทั้งมิติว่างเปล่า
“โอว?เท่าที่ฟังดูคงจะยอดเยี่ยมสินะถึงทำให้เจ้าตื่นเต้นได้” โอล็อฟในชุดขาวยังคงยิ้มต่อไป
ชุดสีดำของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างโบกสะบัดขณะที่เขาจ้องมองคู่ต่อสู้ของเขาอย่างเย็นชา เขาโบกมือและ...หอกยาวสีดำสนิทปรากฏในมือของเขา หอกมีความยาวเกือบสองเมตร แม้ว่าเขายังไม่ใช้โจมตี แต่รัศมีที่ร้ายกาจซึ่งเปล่งออกมาจากหอกก็ทำให้กระแสงพลังงานปั่นป่วนโดยรอบสลาย
ลินลี่ย์และผู้สังเกตการณ์คนอื่นประหลาดใจกันหมด
ทุกคนเข้าใจว่าหอกยาวก็คืออาวุธจอมเทพนั่นเอง!
“ครืน....” รัศมีแสงสีดำมหาศาลที่แผ่อยู่รอบพื้นที่จู่ก็ปรากฏออกมาและกลมกลืนไปกับร่างของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง
นี่เป็นเหตุให้ปรากฏความว่างเปล่าที่แท้จริงภายในระยะพันกิโลเมตร ไม่มีพลังงานใดๆ คงเหลืออยู่แม้แต่น้อย
“ครืน....”
เสียงที่แปลกประหลาดเปล่งออกมาจากปากของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง ขณะเดียวกันด้านหลังประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างมีภาพเงามายาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น เงามายามีขนาดน่ากลัวยาวถึงหมื่นกิโลเมตร นี่คือร่างที่ม้วนตัวมองดูคล้ายอสรพิษ ร่างที่ขดม้วนอ่อนหยุ่นของมันคลุมเต็มไปด้วยเกล็ดดำ นอกจากนี้ยังมีกรงเล็บมากกว่าหมื่นกรงเล็บ
มีกรงเล็บมากกว่าหมื่นข้างและมีปีกที่คมกริบมากกว่าหมื่นข้าง
แค่เพียงมองครั้งแรกเกล็ด กรงเล็บและปีกนับไม่ถ้วนดูเหมือนทำจากเหล็กสีดำ
หัวของสัตว์ประหลาดนี้โล้นเตียนโล่ง มีแต่เพียงตาคู่หนึ่ง ข้างหนึ่งขาวข้างหนึ่งแดง
ลินลี่ย์มองดูตะลึงจากระยะไกล ร่างจริงของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างดูน่ากลัวมาก
“อะไรกันนี่?” ลินลี่ย์กระซิบ
สำนึกเทพของลินลี่ย์ถูกกระตุ้นทำงานทันที เพราะเขาหลอมรวมพลังมหาเทพไว้คนอื่นไม่สามารถรู้สึกได้ถึงสำนึกเทพของลินลี่ย์ได้แม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามลินลี่ย์เองสามารเห็นได้ว่าหลังจากประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างปล่อยไม้ตายนี้ออกมาแล้วสายใยพลังงานวิญญาณนับไม่ถ้วนม้วนเข้าหาประมุขมหาเทพวิถีชะตา!
ประมุขมหาเทพวิถีชะตาเป็นเหมือนเหยื่อที่ติดอยู่ในกับดัก
“เจ้าไม่รู้หรือ?” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะชำเลืองมองลินลี่ย์ จากนั้นส่งสำนึกเทพบอก “วอร์เรดเป็นสิ่งมีชีวิตยุคแรกที่เกิดในแดนนรก เขามีชีวิตอยู่ในส่วนลึกของทะเลเชาติค ชื่ออสูรศักดิ์สิทธิ์ของเขาเองก็คือเลเวียธาน
ประมุขมหาเทพวิถีมรณะเป็นสิ่งมีชีวิตยุคแรกที่เกิดในยมโลกมีอายุใกล้เคียงกับประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างที่เป็นสิ่งมีชีวิตแรกๆของแดนนรก บรรดาประมุขมหาเทพสี่วิถีมีทั้งสองนี้ที่อายุมากที่สุด
“อสูรศักดิ์สิทธิ์เลเวียธาน มีทักษะเทพธรรมชาติ ‘กรงวิญญาณ’?” หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะท้าน
ความจริงประมุขมหาเทพสี่วิถีแต่ละตนนั้นล้วนแต่น่ากลัว
“อย่างไรก็ตามทักษะธรรมชาติแบบนี้ไม่ส่งผลต่อประมุขมหาเทพวิถีชะตาเท่าใดนัก ดูสิ...” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะหัวเราะเบาๆ
ลินลี่ย์มองเห็นแล้ว
ขณะที่ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างปลดปล่อยทักษะเทพธรรมชาตของเขากรงวิญญาณไปแล้ว เขาฟาดอาวุธจอมเทพของเขาใส่ด้วยความรวดเร็ว คล้ายกับการเทเลพอร์ตขณะที่เขาบุกเข้าหาประมุขมหาเทพวิถีชะตา
“ครืน....”
เงาหอกดำกลายสภาพเป็นเงาหอกนับไม่ถ้วนทันทีครอบคลุมเต็มพื้นที่หมื่นกิโลเมตรเหมือนอสรพิษฉกนับไม่ถ้วน แต่ละเงาหอกจะฉายแสงรัศมีดำและเงาหอกนับไม่ถ้วนม้วนตัวอยู่รอบประมุขมหาเทพวิถีชะตา และจากนั้นเงาหอกนับไม่ถ้วนดูเหมือนท่วมทับลอบสังหารประมุขมหาเทพวิถีชะตา
“บึ้ม!”
เงาหอกทั้งหมดหายไปทันที
เงาหอกหนึ่งแทงใส่ศีรษะของผู้อาวุโสชุดขาวประมุขมหาเทพวิถีชะตาโดยตรง!
สุดยอดไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดของเขา
ทำลายล้าง!
ตั้งแต่เริ่มจนจบชายชราชุดขาวประมุขมหาเทพวิถีชะตายังคงยิ้มอย่างสบายตลอดเวลา เขาไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด ร่างของเขามีรัศมีดำนับไม่ถ้วนรายล้อมและตกอยู่ภายใต้แรงกดดันยิ่งใหญ่
“หึหึ” ประมุขมหาเทพวิถีชะตาหัวเราะเบาๆ จากนั้นยืดตัวทันที
น่าแปลกที่ว่าแม้ร่างทั้งหมดของเขาจะถูกปกคลุมและบีบอัดโดยรัศมีแสงดำ แต่เมื่อเขายกมือขวาของเขา ดูเหมือนเขาเคลื่อนไหวมืออย่างธรรมดา แค่เพียงพลิกมือฝ่ามือของเขาคลุมเต็มไปด้วยแสงสีทอง เขาเงื้อมือและฟันใส่ข้างหอกดำ มีเสียงทุ้มต่ำดังก้อง..
“ทึ่บ!” อาวุธจอมเทพกระเด็นกลับหลัง
“น่ากลัวจริง” ลินลี่ย์ตะลึงกับพลังโจมตีของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างแล้ว ตอนนี้เขาตะลึงกับการเบี่ยงเบนพลังโจมตีที่เรียบง่ายแต่แข็งแกร่งของประมุขมหาเทพวิถีชะตา
“ท่านประมุขมหาเทพวิถี! ประมุขมหาเทพวิถีชะตาใช้มือเปล่าโจมตีใส่อาวุธจอมเทพได้อย่างไร?” ลินลี่ย์ไม่อาจทำใจเชื่อกับสิ่งที่เขาเห็น เขาอดถามประมุขมหาเทพวิถีมรณะไม่ได้
ประมุขมหาเทพวิถีมรณะหัวเราะเบาๆ “โอล็อฟมีพลังปณิธานเพิ่มส่วนหนึ่งเมื่อเทียบกับเราที่เหลือตั้งแต่ต้น เป็นธรรมดาที่พื้นฐานของเขาย่อมเหนือล้ำ! แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือโอล็อฟเป็นคนบ้าบิ่นอย่างแท้จริง”
“เป็นคนบ้าบิ่น?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ
“ใช่แล้วเขาและข้ารู้จักกันมานานนับปีไม่ถ้วน และข้าเข้าใจเขาเป็นอย่างดี” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะถอนหายใจ “เขาไม่ต้องการต่อสู้หรือทำร้ายคนอื่น เขาไม่โลภ ไม่ข่มเหงคนอ่อนแอ..ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาอาจถูกมองว่าเป็นสุภาพบุรุษที่อารมณ์ดี”
“ถ้าเขานิสัยดีขนาดนั้น ทำไมเขาจึงกลายเป็นคนบ้าระห่ำได้?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ
ประมุขมหาเทพวิถีมรณะส่งสำนึกเทพตอบและหัวเราะ “ลินลี่ย์! เจ้าบอกข้าที เขายืนอยู่ในระดับสุดยอดแล้ว แต่แทนที่จะเพลิดเพลินเก็บเกี่ยวผลที่หอมหวานในการอยู่ในจุดสุดยอด แต่เขามีงานอดิเรกอย่างหนึ่งนั่นก็คือเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตนเอง!”
“เพิ่มความแข็งแกร่งให้ตนเอง?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ “ทำได้ยังไง?”
“ค้นคว้า!” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะถอนหายใจ “ตาแก่ผู้นี้กลายเป็นประมุขมหาเทพวิถีชะตาหลังจากจักรวาลสร้างได้ไม่นานและกลายเป็นพารากอนด้วยเช่นกัน จากนั้นเป็นต้นมาเขาเริ่มค้นคว้าเผ่าพันธุ์เฉพาะต่างๆ ค้นคว้าทักษะเทพธรรมชาติและพลังธรรมชาติต่างๆ เขาวิเคราะห์แหล่งที่มาของความสามารถธรรมชาตินั้นและจากนั้น..ใช้สิ่งเหล่านั้นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองด้วยวิธีอย่างนั้น”
ลินลี่ย์เมื่อได้ยินเช่นนี้ถึงกับตกตะลึง
“เขาสามารถค้นคว้าทักษะเทพธรรมชาติด้วยหรือ?” ลินลี่ย์พูดไม่ออก
“ไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลกเผ่าพันธุ์และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเกิดจากวิญญาณและกายหยาบพลังธรรมชาติโดยทั่วไปจะมีความเกี่ยวข้องกับสายเลือดและวิญญาณ เฒ่าผู้นี้ใช้เวลาวิเคราะห์วิญญาณต่างๆมานานนับปีไม่ถ้วนจริงๆ” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะถอนหายใจ “เขาเป็นคนบ้าคลั่ง เจ้ารู้ไหม?พลังร่างกายของเขาเดิมทีธรรมดามาก แต่พอผ่านการค้นคว้าวิจัยของเขา เขาทำให้พลังร่างกายของเขาไม่ด้อยไปกว่าข้าเลย”
ลินลี่ย์รู้สึกตื่นตะลึงในใจเมื่อได้ยินเช่นนี้
“คนผู้หนึ่งใช้เวลาเป็นอสงไขยปีหมกมุ่นอยู่กับงานค้นคว้าวิจัย ไม่เคยผ่อนปรนผ่อนคลาย และเป็นคนที่ไม่ให้ความสนใจสิ่งเพลิดเพลินทุกรูปแบบและไม่ต่อสู้กับใครๆ เลย เจ้าบอกข้าทีถ้าเขาไม่ใช่คนบ้า และเขาจะเป็นตัวอะไร?” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะถาม
หลังจากได้ยินเช่นนี้ลินลี่ย์อดหันไปมองดูชายชราชุดขาวในที่ห่างไกลมิได้
“เขาไม่มีภรรยา ไม่มีบุตรหรือ?” ลินลี่ย์ถาม
“ไม่มีเลย!” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะส่ายศีรษะ “ข้าบอกเจ้าได้เลยเป้าหมายเดียวของเขาก็คือเพิ่มพลังความแข็งแกร่งให้ตนเอง”
“เขา...เป็นคนบ้าคนหนึ่งจริงๆ” ลินลี่ย์อดรำพึงกับตนเองไม่ได้
แม้ว่าลินลี่ย์เองจะเป็นเช่นนั้น แต่อย่างมากก็แค่ให้ร่างแยกของเขาฝึกฝนหนัก อย่างน้อยเขาจะให้ร่างหลักอยู่กับภรรยาครอบครัวและสหายของเขา แม้ว่าเขาฝันว่าจะไปจนถึงจุดสุดยอดก็ตาม แต่ว่าในใจของเขา ครอบครัวและสหายก็มีความสำคัญพอๆ กัน แต่ประมุขมหาเทพวิถีชะตานี้เล่า?
“บางที...เขาอาจมองว่าการเพิ่มพลังของตนเองเป็นความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง” ลินลี่ย์รำพึงในใจ
นี่เป็นคนบ้าหัวรั้นที่ใช้เวลาเป็นอสงไขยปีไม่ทำอะไรอย่างอื่นนอกจากเพิ่มพลังให้กับตนเอง...ตอนนี้เขาจะน่ากลัวขนาดไหน?
“ต้องขอบคุณอิทธิพลของโอล็อฟทำให้มหาเทพอีกหลายคนเริ่มค้นคว้าวิจัยและวิเคราะห์เผ่าพันธุ์ที่มีทักษะเทพธรรมชาติไม่เหมือนใคร เพียงแต่การค้นคว้าวิจัยเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย? จำเป็นต้องใช้ทั้งความสามารถและความอดทน เจ้าอาจจะต้องใช้เวลาเป็นอสงไขยปี และอาจต้องใช้ความเพียรพยายามไปทั้งหมดโดยไม่ได้อะไร” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะคุยผ่านสำนึกเทพ “ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างวอร์เรดมีความอดทนมากเป็นพิเศษ เขาใช้เวลานานนับอสงไขยปีอยู่ในส่วนลึกของทะเลเชาติค เวลานี้เขาได้สุดวิชามาอย่างแท้จริง และเขาต้องการจะเอาชนะโอล็อฟให้ได้อีกครั้ง”
“สุดยอดวิชาที่แท้จริง”
ลินลี่ย์เข้าใจว่านี่คงจะเป็นพลังโจมตีที่คล้ายกับสุดยอดไม้ตายของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
“ไม่เลว” ประมุขมหาเทพวิถีชะตาในชุดขาวเต็มไปด้วยรัศมีพลังทำการประเมิน “วอร์เรดวิชาทำลายล้างของเจ้าแค่ยืมพลังมาจากทาร์ทาเรียน อืมม..วิชาของเจ้านี้มีพลังโจมตีมากกว่าครั้งก่อนเกือบสามเท่า ทำได้ดีมาก! เอาล่ะ...ปล่อยสุดยอดไม้ตายที่เจ้าเพิ่งพัฒนาออกมาได้แล้ว!”
ผู้อาวุโสชุดขาวดูเหมือนจะเป็นคนบ้าผู้เห็นของที่ชอบอย่างแท้จริง ประกายตาเจิดจ้าของเขาเพ่งมองประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง
ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างยิ้มน่ากลัว “แน่นอน ข้ายังต้องใช้วิชานั้นเพื่อคุกคามเจ้าก่อน” พอพลิกมือหอกยาวในมือของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างก็หายไป และจากนั้นหอกยาวดำที่คล้ายกันปรากฏขึ้นอีกครั้งเพียงแต่หอกยาวนี้ยาวกว่าเล็กน้อย
“อาวุธมหาเทพหรือ?” ลินลี่ย์พูดขึ้นอย่างงงงัน ทำไมประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างถึงเปลี่ยนสมบัติจอมเทพมาใช้เป็นสมบัติมหาเทพแทน?
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจ แต่ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างและประมุขมหาเทพวิถีชะตาต่างเคลื่อนไหวทันที
ยอดฝีมือระดับประมุขมหาเทพอีกสิบคนต่างเพ่งมองดูด้วยความสนใจ ทุกคนรู้ว่าฉากภาพที่น่ากลัวกำลังจะอุบัติขึ้น
“โอล็อฟ” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “วิชาของข้านี้ถูกพัฒนาหลังจากข้าใช้เวลาเกือบสองหมื่นปีวิเคราะห์เลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ข้ายังโชคดีได้รับความรู้แจ้งฉับพลัน ถ้าไม่ใช่เพราะโชคเล็กน้อยนั้นบางทีข้าอาจต้องใช้เวลาเป็นอสงไขยปีจึงจะสำเร็จก็เป็นได้ แต่พลังของวิชานี้...”
ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างหัวเราะขณะที่เขามองดูประมุขมหาเทพวิถีชะตาแต่ไกล “เจ้าต้องระวังตัวให้ดี”
“เข้ามาเลย” ประมุขมหาเทพวิถีชะตานัยน์ตาเป็นประกาย
ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างในชุดดำเงยหน้าและคำรามเสียงดังลั่นเงามายาพญาเต่าดำที่ปรากฏดูคล้ายกับเต่ามังกรเงามายาหงส์เพลิงที่ปรากฏคล้ายกับนกฟีนิกซ์ และเงามายาพยัคฆ์ขาว!
เงามายาสี่ร่างมีขนาดยาวสองสามเมตรแต่ร่างของพวกมันวนรอบตัวประมุขมหาเทพ
เงามายานกหงส์เพลิงอยู่เหนือศีรษะของเขา เงามายาพญาเต่าดำอยู่ที่ใต้เท้าเงามายามังกรฟ้าอยู่ที่ด้านซ้าย เงามายาพยัคฆ์ขาวอยู่ที่ด้านขวา
“ครืน...”
มิติโดยรอบในระยะพันกิโลเมตรเริ่มสั่นสะเทือนในทันใด!
ในขณะนั้นเอง....
ภายในระยะพันกิโลเมตรกระแสพลังงานในมิติปั่นป่วนของมิติปั่นป่วนหยุดชะงักทันที มิติที่แตกฉีกอย่างน่ากลัวถูกแช่แข็ง
“นี่...!” ลินลี่ย์ตกใจ
“เป็นไปไม่ได้!” หน้าของประมุขมหาเทพวิถีมรณะและคนอื่นๆเปลี่ยนไปทุกคน
ยอดฝีมือระดับประมุขมหาเทพทุกคนรู้สึกได้ว่าพื้นที่โดยรอบถูกแช่แข็งไปทั้งหมด ทั้งสิบคนได้ผลจากเศษพลังเท่านั้น แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการจนความเร็วในการเคลื่อนไหวตกลงไป จากตรงนี้ ทุกคนสามารถคิดได้ว่าสถานการณ์ของประมุขมหาเทพวิถีชะตาที่ได้รับผลจากพลังถึง99% จะเป็นเช่นไร
รังสีแสงโปร่งใสยิงออกมาด้วยความเร็วที่น่ากลัวตรงเข้าไปในร่างของประมุขมหาเทพวิถีชะตา
สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเป็นมหาเทพน้อยสามารถคุกคามประมุขมหาเทพด้วยทักษะเทพธรรมชาติของพวกเขา
และประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างพอเอาวิชานี้มาใช้เองนั่นจะทรงพลังมากมายเพียงไหน? แม้ว่าจะไม่สำเร็จสมบูรณ์เท่ากับทักษะเทพหลอมรวมของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม้ตายนี้คงอ่อนกว่าไม่มาก
อย่างไรก็ตามประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างไม่ยอมผ่อนรั้งฝีมือแม้แต่น้อยหลังจากปล่อยไม้ตายนี้ไปแล้ว ทันใดนั้นเอง...
“ควั่บ!”
ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้ายควงหอกดำยาวและพุ่งใส่ประมุขมหาเทพวิถีชะตาและแทงใส่ร่างประมุขมหาเทพวิถีชะตาทันที