ตอนที่ 21-16 คำตัดสิน
“ออกุสตากำลังช่วยข้าหรือ?” ไม่ว่าลินลี่ย์จะใจเย็นยังไงแต่เขาก็ยังรู้สึกตกใจ
แต่ในทันทีหลังจากนั้นลินลี่ย์ก็เข้าใจเหตุผล เขาลอบหัวเราะเย็นชา “ช่วยข้าหรือ? บางทีเขาคงกังวลว่าข้าจะถูกตัดสินให้มีความผิดและถูกประมุขมหาเทพสี่วิถีฆ่าตาย ตอนนั้นประมุขมหาเทพสี่วิถีจะตัดสินใจยังไงกับสมบัติจอมเทพ เขาคงไม่มีโอกาส!”
พอหลังจากที่ออกุสตาพูด...
“ท่านประมุขมหาเทพ” แต่ยังมีอีกคนหนึ่งมหาเทพธาตุไฟผู้มีผมยุ่งเหยิงพูดขึ้น “ในแดนนรก เป็นความจริงที่ว่าเทเรเซียหาเรื่องลำบากใจให้ลินลี่ย์พยายามบังคับให้ลินลี่ย์ส่งมอบมุกวิญญาณทั้งเก้าและโองการจอมเทพ หลังจากนั้นเป็นโบซันมหาเทพบลัดริจที่ปรากฏตัวปกป้องลินลี่ย์ไว้ ข้าเป็นพยานเรื่องนี้ได้เช่นกัน”
ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูประมุขมหาเทพแห่งไฟอย่างงงงวย “เขาเป็นประมุขมหาเทพธาตุไฟข้าไม่มีสัมพันธ์อะไรกับเขา และเขาไม่มีคุณสมบัติจะพยายามและยึดสมบัติจอมเทพ ทำไมเขาจึงต้องช่วยข้าด้วยเล่า?”
มหาเทพทั้งสองพูดทำนองเดียวกัน ประมุขมหาเทพสี่วิถีมองหน้ากันเองและสนทนากันเองผ่านสำนึกเทพ
“ข้าเป็นคนเข้าไปขัดขวางเองดังนั้นข้าจึงเป็นพยานได้ ถือเป็นเรื่องปกติ” มหาเทพบลัดริจโบซันหัวเราะ
“ในเมื่อเป็นแบบนั้น...” ประมุขมหาเทพวิถีชีวิตเตรียมประกาศคำตัดสิน
แต่ในขณะนั้นเอง...
“ท่านประมุขมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่,ตอนนั้นแม้ว่าเทเรเซียอาจทำอะไรเกินเลยไปบ้าง แต่เขาเป็นมหาเทพ ขณะที่ลินลี่ย์เป็นเพียงเทพชั้นสูง” ประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาพูดอย่างไม่สบายใจด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต่อให้มหาเทพใช้กำลังกับเทพชั้นสูงไปบ้างนั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย? นอกจากนี้ลินลี่ย์ไม่ได้ตาย เราเหล่ามหาเทพจะต้องสุภาพอ่อนโยนกับพวกเทพด้วยหรือ? ถ้าเราล่วงเกินพวกเขาไปบ้างเล็กน้อย พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาแก้แค้นเรา?”
“ไม่ว่ามหาเทพจะคุกคามเทพหนักหนามากมายเพียงไหนนั่นเป็นเรื่องปกติและสมควร” ดิยาพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม
มหาเทพทุกคนเงียบ
พวกเขาต้องยอมรับว่านี่เป็นเหตุผลหนึ่งเช่นกัน ในสายตาของมหาเทพพวกเทพไม่มีอะไรมากไปกว่ามด ต่อให้พวกเขาลดตัวเองไปฆ่าเทพก็ตามก็เป็นแค่เรื่องที่มหาเทพรู้สึกสูญเสียหน้าเท่านั้น ไม่มีใครกล้าพูดว่ามหาเทพทำผิด
“หลังจากลินลี่ย์กลายเป็นมหาเทพ เทเรเซียก็ไม่ได้ล่วงเกินเขาอีกต่อไป” ประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาแค่นเสียงเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ลินลี่ย์ย่อมไม่มีข้ออ้างฆ่าเทเรเซีย”
ดิยาเข้าใจว่าโอกาสที่เขาจะได้รับสมบัติจอมเทพนั้นต่ำมาก
ดังนั้นเขาต้องการให้ลินลี่ย์ตายทันที! การตายในเงื้อมมือของประมุขมหาเทพสี่วิถีคงจะเป็นเรื่องดี!
“ฮ่าฮ่า...” ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืน จ้องมองดิยา และแค่นเสียงพูด “ดิยา, นี่มันเหตุผลแบบไหนกัน? มหาเทพฆ่าเทพไม่เคยมีความผิดหรือ? การตัดสินใจของท่านแบบนี้แค่มาจากมุมมองของมหาเทพ แต่จากจุดยืนของเหล่าเทพเล่า? ถ้ามหาเทพผู้สูงส่งมาเพื่อฆ่าพวกเขาพวกเขาจะรู้สึกเกลียด รู้สึกไม่พอใจหรือไม่? ไม่ใช่ว่าพวกเทพปฏิเสธจะล้างแค้นให้ตัวเอง เป็นแต่ว่าพวกเขาไม่มีพลังอำนาจมากพอจะแก้แค้นให้ตัวพวกเขาเอง!”
“ฮึ, แม้แต่สัตว์ป่าที่มีสติปัญญาต่ำพอถึงเวลาใกล้ตาย พวกมันยังแว้งกัดได้ พวกเทพก็ไม่ต่างอะไรกัน!”
ลินลี่ย์พูดอย่างเคร่งขรึม “พวกเทพไม่มีพลังพอจะแก้แค้น ดังนั้นพวกเขาย่อมตายไปด้วยใจที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจเป็นธรรมดา แต่ถ้าพวกเขามีพลังจะแก้แค้น พวกเขาจะต้องทำแน่นอน!”
“นอกจากนี้, ข้อตกลงของประมุขมหาเทพสี่วิถีได้พูดถึงปัญหาความเป็นปรปักษ์ที่มีในระหว่างสองฝ่าย ข้าขอถามพวกท่านความเป็นปรปักษ์ระหว่างข้าเองกับเทเรเซียยังมีอยู่หรือไม่?” ลินลี่ย์ถาม
ดิยาได้แต่นิ่ง
“พอได้แล้ว” เสียงชราแต่เป็นกันเองดังขึ้น คนพูดคือประมุขมหาเทพวิถีชะตา “เหตุผลแนวคิดของดิยามีข้อบกพร่อง ศัตรูก็คือศัตรู ความเป็นศัตรูจะแบ่งแยกเวลาและระดับพลังได้อย่างไร? เมื่อฝ่ายหนึ่งต้องทนทุกข์ทรมานเมื่อฝ่ายหนึ่งเป็นผู้อ่อนด้อย เป็นไปได้ว่าหลังจากที่พวกเขามีพลังแข็งแกร่งมากขึ้น พวกเขาจะไม่สามารถล้างแค้นได้หรือ? เรื่องนี้ได้ข้อสรุปเสร็จสิ้นตรงนี้แล้ว สถานการณ์สำหรับข้าถือว่าชัดเจนพอแล้ว ข้ามองว่าลินลี่ย์ไม่ได้ละเมิดข้อตกลงมหาเทพถือว่าไม่มีความผิด!”
คำพูดของประมุขมหาเทพวิถีชะตาทำให้มหาเทพอื่นไม่กล้าโต้เถียงอีกต่อไป
“ข้าก็เหมือนกัน เห็นว่าเขาไม่มีความผิด ทุกคนว่ายังไง?” ประมุขมหาเทพแห่งชีวิตยิ้ม ขณะที่นางมองดูรอบๆ
“ไม่มีความผิด!” ประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตาหัวเราะ
“ไม่มีความผิด!” บุรุษชุดดำผมดำพูดขึ้น
“ไม่มีความผิด!”
……… . .
บรรดาประมุขมหาเทพทั้งสิบเอ็ดนอกจากดิยาแล้วอีกสิบคนมองว่าลินลี่ย์ไม่มีความผิด! ความจริงโดยทั่วไปตราบเท่าที่ประมุขมหาเทพสี่วิถีประกาศว่าลินลี่ย์ไม่มีความผิด แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่พร้อมหน้าประมุขมหาเทพสี่วิถียังจะให้โอกาสประมุขมหาเทพอื่นได้พูดบ้าง
เสียงหัวเราะดังขึ้น เป็นเสียงของประมุขมหาเทพวิถีมรณะในชุดสีม่วง นางกวาดตามองดูทั่วพื้นที่จากนั้นหัวเราะเบาๆ “ในเมื่อทุกท่านเห็นด้วย อย่างนั้นเราก็ได้ข้อสรุปเรื่องที่ลินลี่ย์ฆ่าเทเรเซีย ลินลี่ย์ไม่ได้ละเมิดข้อตกลงมหาเทพ ไม่มีความผิด! เรื่องนี้เป็นอันจบ บัดนี้เชิญทุกท่านแยกย้ายกลับไปได้แล้ว”
ขณะนั้น,ลินลี่ย์ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ลินลี่ย์,เรื่องนี้จบไวกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก วันนี้ประมุขมหาเทพสี่วิถีไม่ได้สร้างความลำบากใจให้เจ้า และนอกจากดิยาประมุขมหาเทพอื่นคงไม่สร้างความลำบากให้เจ้าเช่นกัน แทบไม่มีเสียงคัดค้านเลย” เบรุตส่งสำนึกเทพบอก“เจ้าคงต้องขอบคุณประมุขมหาเทพสี่วิถีที่ช่วยให้เรื่องได้ข้อสรุปได้ง่ายเพียงไหน”
“ข้าเข้าใจ” ลินลี่ย์พยักหน้า
ความจริงในเรื่องอย่างนี้ไม่ว่าจะพบว่าใครผิดหรือไม่ผิดก็ขึ้นอยู่กับประมุขมหาเทพสี่วิถี วันนี้เป็นเรื่องชัดเจนมากว่าประมุขมหาเทพสี่วิถีบางครั้งก็ใช้น้ำเสียงที่จริงจังดุดันแต่ในความเป็นจริงพวกเขาเข้าข้างลินลี่ย์
เรื่องนี้จบแล้วมหาเทพหกสิบกว่าคนต่างอำลากันจากนั้นแยกย้ายกันไปเป็นกลุ่มบ้าง ส่วนตัวบ้าง อย่างไรก็ตามมีเรื่องที่แปลกก็คือไม่มีประมุขมหาเทพแม้แต่คนเดียวที่รีบร้อนจากไป
ดิยาเป็นประมุขมหาเทพธาตุลม สำหรับเขาการรั้งอยู่ในพิภพลมศักดิ์สิทธิ์นับว่าสมเหตุผล
แต่ทำไมประมุขมหาเทพอื่นจึงไม่จากไป?
“ข้าสงสัยว่าลินลี่ย์จะไปที่ไหน? ข้าต้องตามเขาไปดูว่าเขาผ่านเข้าประตูเทเลพอร์ตไหน นั่นจะทำให้ง่ายต่อการติดตามเขา” ออกุสตาวางแผนนี้ แต่ในใจของเขา เขายังรู้สึกว่าไม่มั่นใจ “อย่างไรก็ตามประมุขมหาเทพอื่นรวมทั้งประมุขมหาเทพสี่วิถียังคงรั้งอยู่ที่นี่จริงๆ ไม่มีใครในพวกเขารีบเร่งจากไป เป็นไปได้ไหมว่าประมุขมหาเทพสี่วิถีก็ให้ความสนใจสมบัติจอมเทพ?”
บรรดาประมุขมหาเทพสี่วิถี ประมุขมหาเทพวิถีชีวิต วิถีมรณะและวิถีทำลายล้างมีอาวุธสมบัติจอมเทพที่เหมาะสม มีเพียงแต่ประมุขมหาเทพวิถีชะตาที่ครอบครองสมบัติจอมเทพสำหรับปกป้องวิญญาณ
ที่เหนือดาดฟ้าเรือมหาเทพเรดบุดบินเข้ามาหาจากนั้นพูดผ่านสำนึกเทพเงียบๆ “ลินลี่ย์! โบซันกับข้าจะเดินทางกลับแล้วเรารั้งอยู่ที่นี่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่ดูจากท่าทีแล้ว..ประมุขมหาเทพยังคงรั้งอยู่ เป็นไปได้ว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเขามีความโลภในสมบัติจอมเทพของเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องระมัดระวังให้ดี”
“ข้าเข้าใจ ขอบคุณ” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพบอก
“จะขอบคุณเพื่ออะไร?ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้ ประมุขมหาเทพเหล่านี้.. เนื่องจากพลังของเจ้า เจ้าสามารถจัดการรับมือพวกเขาได้หมดหรือ คนที่เจ้าจำเป็นต้องระมัดระวังมากที่สุดก็คือประมุขมหาเทพแห่งแสงและประมุขมหาเทพวิถีชะตา! ประมุขมหาเทพอีกสามวิถีมีอาวุธจอมเทพอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อให้ได้เพิ่ม อย่างไรก็ตามประมุขมหาเทพวิถีชะตาไม่ค่อยต่อสู้และไม่ค่อยรุกรานคนอื่น เขาอาจจะไม่ร่วมด้วย ดังนั้นเจ้าจำเป็นต้องกังวลอีกสองคนให้มากขึ้น”
“เข้าใจแล้ว” ลินลี่ย์จำข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไว้
“เบรุต บลูไฟร์ ลินลี่ย์ เราจะไปกันก่อน” มหาเทพเรดบุดและมหาเทพบลัดริจอำลากลุ่มของลินลี่ย์จากนั้นกลับไป
ลินลี่ย์และอีกสองคนมองหน้ากันเอง
“ลินลี่ย์! เจ้าจะทำยังไงต่อไป?” เบรุตส่งสำนึกเทพถาม
“เป็นไปได้ยังไงที่ข้าจะมาขลาดเขลาเอาตอนนี้?” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพตอบ “ปู่เบรุต, ท่านบลูไฟร์ เราไปที่วงเวทเทเลพอร์ตในตอนนี้ก่อน ท่านทั้งสองจะต้องกลับพิภพยูลานก่อน ขอให้ปลอดภัยไว้ก่อน หลังจากฆ่าออกุสตา ข้าจะแจ้งให้พวกท่านทราบ”
เบรุตและบลูไฟร์มองหน้ากันเองจากนั้นพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาเข้าใจว่าการรั้งอยู่ที่นี่พวกเขามีแต่จะสร้างผลกระทบให้ลินลี่ย์
“นั่นคงดีที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตามลินลี่ย์,พลังที่แท้จริงของเจ้ายังเหนือว่าประมุขมหาเทพเจ็ดสายธาตุ แต่เจ้าก็ต้องระมัดระวังเอาไว้ ประมุขมหาเทพสี่วิถีทรงพลังมากมายจริง พวกเขายังอยู่ที่นี่เช่นกัน และข้าห่วงใยว่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น ดังนั้นแม้ว่าเจ้าต้องการโจมตีและฆ่าออกุสตา เจ้าต้องระมัดระวังและตื่นตัวอยู่เสมอ” เบรุตส่งสำนึกเทพบอก
เบรุตและบลูไฟร์ไม่ต้องการเห็นลินลี่ย์ถูกประมุขมหาเทพสี่วิถีฆ่าตาย
ที่สำคัญลินลี่ย์เป็นเสาหลักของสามมหาเทพยูลาน
“ไม่ต้องห่วง” ลินลี่ย์หัวเราะ “มาเถอะไปที่วงเวทเทเลพอร์ตกัน”
กลุ่มของลินลี่ย์สามคนบินไปที่ประตูวงเวทเทเลพอร์ตทันที
“ลินลี่ย์ไปแล้ว” ประมุขมหาเทพที่รั้งอยู่ที่นี่ลังเลเล็กน้อยจากนั้นมีสองคนเริ่มตามกลุ่มลินลี่ย์สามคนไปทันที
ออกุสตาจงใจลังเลอยู่ชั่วขณะจากนั้นบินไปที่วงเวทเทเลพอร์ตด้วยเช่นกัน “ด้วยความเร็วในการบินของกลุ่มลินลี่ย์ทั้งสามคน...พวกเขาเคลื่อนไหวได้เร็วเพียงหนึ่งในสิบของความเร็วข้า” ออกุสตา แม้ว่าจะมั่นใจแต่ไม่กล้าประมาทประมุขมหาเทพกฎธาตุอื่น ประมุขมหาเทพเหล่านั้นทุกคนล้วนมีสุดยอดวิชาเป็นของตนเอง
“ในบรรดาประมุขมหาเทพเจ็ดสายธาตุทั้งหมดในแง่ความเร็ว ข้าเร็วที่สุด! ข้าจะมีความได้เปรียบในการชิงสมบัติจอมเทพ” ประมุขมหาเทพสายฟ้าหันไปมองสี่ประมุขมหาเทพวิถี “บรรดาสี่คน มีสามคนที่มีอาวุธจอมเทพแล้วคงไม่เข้ามาแทรกแซง ขณะที่ประมุขมหาเทพวิถีชะตาเนื่องจากนิสัยของเขา บางทีเขาคงไม่ยอมต่อสู้เพื่อชิงสมบัติชิ้นนั้นแน่”
ประมุขมหาเทพสายฟ้าบินตามหลังกลุ่มของลินลี่ย์ไปด้วย
ประมุขมหาเทพทุกคนเริ่มบินจากไปและแม้แต่ประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาก็เริ่มบินกลับไปที่ของตน
มีแต่สี่ประมุขมหาเทพสี่วิถีที่ยังคงรั้งอยู่!
แต่ทั้งสี่คนยังไม่จากไป ขณะนั้นประมุขมหาเทพสี่วิถีกำลังคุยกันส่วนตัวผ่านสำนึกเทพ
วอร์เรดเจ้ามั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ?” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะยิ้มให้ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง
“โอล็อฟ!เจ้าเห็นด้วยหรือเปล่า?” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างมองดูบุรุษผมขาวชุดขาวประมุขมหาเทพวิถีชะตาและจากนั้นประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ถ้าเจ้าเกรงว่าไม่เห็นด้วย อย่างนั้นก็ลืมเสียเถอะ”
“ฮ่าฮ่า, ถ้าพวกเจ้าจะพูดอย่างนี้, และด้วยเงื่อนไขดีๆที่เราตกลงกันไว้ ข้าจะไม่ยอมรับได้ยังไง?” ประมุขมหาเทพวิถีชะตายังคงมีรอยยิ้ม
“ยอดเยี่ยม” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างพยักหน้าเล็กน้อย
“พี่หญิง! ดูเหมือนว่าเรามีเรื่องสนุกให้ดูกันแล้ว” ประมุขมหาเทพวิถีชีวิตมีรอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าของนางเช่นกัน
ขณะที่ประมุขมหาเทพสี่วิถีพูดคุยกันอยู่นั่นเอง กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสามคนบินออกไปไกลมากแล้วและเข้าใกล้วงเวทเทเลพอร์ตที่ภูเขาวินด์โฟลว์
“ภูเขาวินด์โฟลว์อยู่ข้างหน้า ปู่เบรุต ท่านบลูไฟร์ เราแยกทางกันตรงนี้” ลินลี่ย์ลอยตัวในกลางอากาศ
“ระวังตัวด้วย” เบรุตและบลูไฟร์รู้สึกกังวลห่วงใยลินลี่ย์ทั้งคู่
และจากนั้นเบรุตและบลูไฟร์บินตรงไปที่ภูเขาวินด์โฟลว์และเทเลพอร์ตกลับไปพิภพยูลานทั้งคู่ แม้ว่าการต่อสู้กำลังจะเกิดขึ้น แต่ทั้งสองคนไม่มีคุณสมบัติเข้าแทรกแซง เพราะพวกเดียวที่สามารถแทรกแซงได้ก็คือ...คนระดับประมุขมหาเทพ
“ฮึ่ม ทั้งหกคนกำลังติดตามข้า” ลินลี่ย์มองเห็นผ่านสำนึกเทพได้อย่างง่ายดายและรู้สึกว่ามีประมุขมหาเทพหกคนกำลังติดตามเขา “โชคดีที่ประมุขมหาเทพสี่วิถีไม่ตามมา” ลินลี่ย์ถอนหายใจโล่งอก มีแต่เพียงพวกเดียวที่เขากลัวก็คือกลุ่มประมุขมหาเทพสี่วิถี
ขณะต่อมา
คนแรกที่มาถึงก็คือประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้า
“ลินลี่ย์!” ประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้ายิ้มขณะที่เขาบินเข้ามาทักทายลินลี่ย์อย่างเป็นกันเอง
“โอว,เป็นท่านเองท่านประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้า ความเร็วของท่านเร็วมากจริงๆ ข้ากำลังยุ่งพอดี ดังนั้นตอนนี้ข้าคงไม่รบกวนท่าน” ลินลี่ย์ยิ้มขณะที่เขาเคลื่อนตัวห่างบินผ่านประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้า หน้าของประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ลินลี่ย์เฉียดห่างจากเขาออกไปและบินไปหาคนที่สองที่กำลังบินมาสมทบก็คือประมุขมหาเทพแห่งแสง
“ลินลี่ย์” ออกุสตาขมวดคิ้ว เพราะลินลี่ย์จงใจเข้ามาหาเขากระตุ้นความสงสัยของเขา แต่จากนั้นเขาก็เข้าใจ “ฮึ่ม, ใครจะสนใจเล่าว่าเขาต้องการอะไร พลังของลินลี่ย์ก็แค่ทั่วไป ต่อให้เขาทรงพลังมากกว่าที่ข้าคาดเล็กน้อย เขาก็ยังคุกคามข้าไม่ได้”
“ท่านออกุสตา” ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขายิ้มรับเขา
“เจ้าต้องการอะไร ลินลี่ย์?”ออกุสตายังคงตอบอย่างเป็นมิตร
“ต้องการขอบคุณท่านออกุสตาที่เพิ่งช่วยข้าไว้” ลินลี่ย์ยิ้ม
“ข้าทำสิ่งที่สมควร” ออกุสตาหัวเราะ
“ท่านออกุสตา! ข้ามีเรื่องสำคัญจะต้องทำในพิภพแสงศักดิ์สิทธิ์ ถึงตอนนั้นข้าคงต้องการความช่วยเหลือจากท่าน ไม่ทราบว่าท่านพอจะช่วยข้าได้ไหม ท่านออกุสตา?” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ
ออกุสตารู้สึกใจกระตุกวูบ
“เขากำลังจะไปพิภพแสงศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับข้าหรือ?” ออกุสตาตอนนี้รู้สึกมึนงงไปหมด “เป็นไปได้ยังไงที่ลินลี่ย์คิดว่าเขาที่มีพลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจะมีมากพอคุกคามข้า? ฮึ่ม มีเหตุผลแล้ว ในการต่อสู้กับดิยาของเขา เขาไม่ยังไม่ได้ใช้ทักษะเทพธรรมชาติด้วยซ้ำ ในเมื่อลินลี่ย์หาที่ตาย ข้าคงไม่ว่าอะไร”
ออกุสตาหัวเราะทันที “ฮ่าฮ่า แน่นอน ย่อมได้”
“อย่างนั้นเราไปด้วยกันเถอะ” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น