ตอนที่ 21-15 ความละโมบ
“ครืน..” คลื่นทะเลม้วนตัวไล่กันอย่างนุ่มนวล
ลินลี่ย์เงยหน้ากวาดสายตามองออกุสตาและดิยา ประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตาและประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาทั้งคู่มองประสานสายตาลินลี่ย์ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว ลินลี่ย์แค่นเสียงในใจ “ฮึ่ม,ออกุสตาบางทียังคงต้องการฆ่าข้า...หลังจากสู้กันครั้งล่าสุดดิยาอาจจะรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับข้าด้วยเช่นกัน ดิยานั้นข้าสามารถละเลยเขาได้ แต่สำหรับออกุสตา...ข้าจะปล่อยให้เขาดีใจต่ออีกสักระยะหนึ่ง หลังจากมหาเทพอื่นจากไปแล้วข้าค่อยฆ่าออกุสตา!”
ประมุขมหาเทพอื่นคงไม่ยอมแค่มองลินลี่ย์ฆ่าออกุสตาโดยไม่ทำอะไรเลย
เขารอมาหลายพันปีแล้วยังมีเวลาอื่นใดอีก?
“ลินลี่ย์ เบรุต” ขณะนั้นเอง มหาเทพเรดบุดและมหาเทพบลัดริจบินเข้ามาสมทบทั้งคู่พลางหัวเราะและโบกมือให้เขา
“ลินลี่ย์, เจ้าช่างรู้จักก่อเรื่องยุ่งยากจริงๆ” มหาเทพบลัดริจหัวเราะขณะที่เขาพูดกับลินลี่ย์ผ่านสำนึกเทพ “ช่วงเวลาสั้นๆนี้ เจ้าฆ่าเทเรเซียได้อย่างไร”
“ถ้าเจ้าฆ่าเขา ก็ถือว่าเจ้าฆ่าเขาอยู่ดี อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ เจ้าเตรียมหาข้อแก้ตัวเมื่อประมุขมหาเทพซักถามกับเจ้าแล้วใช่ไหม?” มหาเทพเรดบุดมองดูลินลี่ย์
ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า
“ในไม่ช้าเราต้องรบกวนท่านทั้งสองให้ช่วย” เบรุตหัวเราะขณะพูดทางสำนึกเทพกับพวกเขา
“เราไม่สามารถช่วยได้มากนัก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประมุขมหาเทพสี่วิถี คนทางขวามือของเจ้าคือบลูไฟร์ที่เจ้าพูดให้ข้าฟังเมื่อไม่นานนี้ใช่ไหม?” มหาเทพบลัดริจมองดูบลูไฟร์ “บลูไฟร์! ข้าชื่อโบซัน”
“ท่านโบซัน” บลูไฟร์พูดอย่างสุภาพ
มหาเทพเกินกว่าหกสิบจะมีโอกาสมารวมตัวกันทั้งหมดได้บ่อยแค่ไหน? การสนทนากันระหว่างมหาเทพต่างๆ ในตอนนี้ค่อนข้างเป็นไปอย่างคึกคัก
“เอาล่ะ,ได้เวลาพูดคุยเรื่องของลินลี่ย์กันได้แล้ว” เสียงเยือกเย็นดังมาจากด้านบน คนพูดก็คือประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง
คำพูดของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างทำให้การสนทนาทั้งหมดหยุดลงเหลือแต่ความเงียบ
“ทุกท่าน” เบรุตหัวเราะ “ทุกท่าน! เชิญนั่งก่อนหลังจากพวกท่านนั่งแล้วเราค่อยคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างลินลี่ย์และเทเรเซีย”
ขณะที่เขาพูดมีเสียงคลิกแคลก อสูรโลหะที่อยู่ในรูปเรือยักษ์เริ่มเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ดาดฟ้ากว้างเริ่มขยายเพิ่มขนาดและเพิ่มเก้าอี้อีกหลายตัว มีทั้งหมดรวมหกสิบห้าตัวจัดเรียงเป็นรูปวงกลมขนาดใหญ่ เพราะอยู่ในรูปวงกลมจึงไม่มีความต่างในเรื่องสถานะในการจัดที่นั่ง
“ทุกท่าน เชิญนั่ง” สตรีงามชุดม่วงผมแดงสั่งอย่างเย็นชา
คำพูดของประมุขมหาเทพวิถีมรณะทำให้มหาเทพอีกหกสิบกว่าคนบินลงมาจากอากาศและจากส่วนต่างๆของเรือมายังที่นั่ง ทุกคนเลือกที่นั่งของตนเองและนั่งลง ลินลี่ย์ เบรุตและบลูไฟร์นั่งเคียงข้างกัน
“ท่านประมุขมหาเทพแห่งสี่วิถี!” ลินลี่ย์กวาดสายตามองประมุขมหาเทพทั้งสี่
ประมุขมหาเทพสี่วิถีทุกคนนั่งเคียงข้างกันเช่นกัน
“พวกเขาทั้งสามอยู่ที่นี้ทั้งหมดแล้วบังเอิญจริงๆ หลังจากประมุขมหาเทพสี่วิถีกลับไปแล้ว ข้าจะฆ่าให้หมดทั้งสามคน” ออกุสตาชำเลืองมองกลุ่มของลินลี่ย์ขณะพึมพำกับตนเอง
ขณะนั้นมีเสียงอ่อนโยนดังขึ้น “ทุกท่านแม้ว่าสี่จอมเทพจะไม่ได้ห้ามเรามิให้เราฆ่ากันเอง การหลอมรวมประกายมหาเทพเพิ่มก็หมายความว่าได้รับพลังปณิธานเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง ถ้าเราไม่จำกัดการสู้รบในหมู่พวกเราเองเป็นไปได้ว่ามหาเทพน้อยและมหาเทพกลางจะไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นในอดีตประมุขมหาเทพอีกสามวิถีและข้าจึงทำข้อตกลง”
ถ้ามหาเทพระดับต่ำกว่าไม่ได้ล่วงเกินมหาเทพระดับสูงกว่า มหาเทพระดับสูงกว่าต้องไม่มัวเมาในอำนาจและฆ่ามหาเทพระดับต่ำกว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนทำเช่นนี้จะต้องถูกไล่ล่าตามฆ่าโดยเราทั้งสี่”
“มีแต่มหาเทพที่มีพลังระดับเดียวกันอนุญาตให้สู้กันเองได้”
คนพูดคือประมุขมหาเทพวิถีชีวิตในชุดหยก เสียงของประมุขมหาเทพแห่งชีวิตอ่อนโยนมาก แม้เมื่อเวลาคุยเรื่องข้อตกลงเสียงของนางล่องลอยเหมือนกับสายน้ำประพรมทำให้ผู้ฟังรู้สึกสงบ
ลมทะเลพัดพลิ้ว แต่เรือที่อยู่เหนือยอดคลื่นยังคงมั่นคง และประมุขมหาเทพนั่งอยู่เหนือผู้ฟังทุกคน
“อย่างไรก็ตาม วันนี้ลินลี่ย์ฆ่ามหาเทพน้อยธาตุลมเทเรเซีย ประมุขมหาเทพวิถีชีวิตกวาดตามองลินลี่ย์ น้ำเสียงของนางเปลี่ยนไป ”อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ก็เป็นเพียงมหาเทพน้อยเช่นกัน...”
ลินลี่ย์ได้ยินเช่นนี้อดดีใจไม่ได้ ประมุขมหาเทพแห่งชีวิตดูเหมือนจะช่วยเขา
“คารวะประมุขมหาเทพ” ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“หืม?” สายตาอบอุ่นนุ่มนวลของประมุขมหาเทพวิถีชีวิตกวาดมองดูผู้พูด ผู้พูดคือประมุขมหาเทพธาตุลมดิยา
ดวงตาสีทองของดิยายังสำรวมเมื่อมองดูประมุขมหาเทพวิถีชีวิต แต่เขาพูดด้วยความเคารพ “ตามข้อตกลงนั้น การประเมินพลังของคนผู้หนึ่งไม่ใช่แค่แบ่งตามประกายมหาเทพน้อย, กลาง และสูงแต่เกี่ยวกับพลังที่แท้จริงมากกว่า ตัวอย่างเช่น ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นแค่มหาเทพน้อย แต่ถ้าโดยรวมพลังกันแล้วมีพลังเท่ากับระดับประมุขมหาเทพ นี่เป็นเพราะพวกเขาทรงพลัง!”
เมื่อยอดฝีมือต่อสู้กันการผนึกกำลังกันสู้ไม่ใช่เกิดขึ้นบ่อย
สี่มหาเทพน้อยผนึกกำลังกันแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะมหาเทพกลางได้
แต่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน ดังนั้นระหว่างข้อตกลงนั้นจึงเป็นการก่อตั้งกลุ่มสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มีพลังเทียบเท่ากับระดับของประมุขมหาเทพ
“สำหรับลินลี่ย์ผู้นี้ ในแง่ของพลัง..” ประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาแค่นเสียงหัวเราะเยาะเย้ย “ข้าเกรงว่าพวกท่านจะหัวเราะเยาะข้า แต่ไม่นานนี้ ข้าตั้งใจจะจับลินลี่ย์ผู้นี้ เพื่อส่งให้พวกท่านตัดสิน ท่านประมุขมหาเทพทั้งสี่ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากลินลี่ย์หลอมรวมกับประกายมหาเทพธาตุลม ข้าไม่สามารถข้าไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แม้ว่าเมื่อข้าจะโจมตีเขาเต็มกำลังของข้าก็ตาม”
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง!!”
มีเสียงฮือฮาเพราะความตกใจทันที
เหล่ามหาเทพที่รีบมาที่นี่จากพิภพอื่นทุกคนรู้ว่าลินลี่ย์ฆ่าเทเรเซีย แต่พวกเขาไม่แน่ใจว่าลินลี่ย์สู้กับประมุขมหาเทพธาตุลมดิยา
เหตุผลหลักก็คือเมื่อดิยาสั่งมหาเทพธาตุลมของเขาให้เผยแพร่กระจายข่าวการต่อสู้ระหว่างเขากับลินลี่ย์ยังไม่เริ่ม!
“ต่อให้ลินลี่ย์หลอมรวมประกายมหาเทพธาตุลมเพิ่มขึ้นอย่างมากเขาก็แค่ได้พลังปณิธานเพิ่มขึ้นมาอีกส่วนหนึ่ง แล้วเขาสามารถเอาชนะท่านได้ยังไง ดิยา?”
“ความแตกต่างระหว่างมหาเทพน้อยและมหาเทพชั้นสูงนั้นนับว่ามากมายนัก”
มีเสียงร้องฮือฮาไม่เชื่อถือดังขึ้น มหาเทพเหล่านี้ไม่อาจเชื่อคำพูดของดิยาได้
มหาเทพกลางแข็งแกร่งมากกว่ามหาเทพน้อยร้อยเท่า ความแตกต่างระหว่างส่วนพลังของปณิธาน ขณะที่มหาเทพชั้นสูงและมหาเทพน้อยยิ่งแตกต่างกันมาก
“ลินลี่ย์ไม่ใช่แค่หลอมรวมประกายมหาเทพธาตุลมเท่านั้น ก่อนหน้านี้เขาหลอมรวมประกายมหาเทพสองชนิดก่อนแล้ว!” ดิยากล่าว
“คนผู้เดียวที่หลอมรวมประกายมหาเทพถึงสามชิ้นน่ะหรือ?” แม้แต่บุรุษชุดขาวผมขาวประมุขมหาเทพวิถีชะตาก็อดมองลินลี่ย์มิได้
“เป็นไปได้หรือว่าลินลี่ย์จะฆ่ามหาเทพคนอื่นได้ก่อนหน้านี้?” ผู้คนพูดทันที
“ยังมีมหาเทพอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่มาในวันนี้ บางที...”
ลินลี่ย์เพียงแต่มองดูกลุ่มมหาเทพพูดคุยสนทนากัน ขณะที่ข้างลินลี่ย์เบรุตหัวเราะเสียงใสทันที “ทุกท่าน,ข้าคือเบรุต ข้าเชื่อว่าทุกท่านคงเคยได้ยินเหตุการร์เกือบสองหมื่นปีก่อนได้ ตอนนั้นข้าได้รับประกายมหาเทพมาสี่ชิ้น! ข้าและสุภาพบุรุษที่ข้างข้าผู้นี้ ใช้ประกายมหาเทพคนละประกาย เราให้ลินลี่ย์หลอมรวมประกายมหาเทพสองประกาย ดังนั้นลินลี่ย์จึงได้ประกายชิ้นเดียวจากเทเรเซีย”
มหาเทพหลายคนมองดูเบรุตและพวกเขาได้แต่เงียบ
ข่าวเรื่องสิ่งที่เบรุตกระทำลงไปเมื่อเกือบสองหมื่นปีที่แล้วแพร่กระจายไปทั่วหมู่มหาเทพอย่างรวดเร็ว
“ดิยา, ต่อให้ลินลี่ย์หลอมรวมประกายมหาเทพสามชนิด เขาก็แค่มีพลังปณิธานมากกว่ามหาเทพน้อยธรรมดาสองส่วน และแค่เทียบได้กับมหาเทพกลาง เขาจะเป็นคู่ต่อสู้กับเจ้าได้อย่างไร?” บุรุษผมยาวสีฟ้าและมีเกล็ดปลาที่หน้าผากหัวเราะขณะพูด
“ทุกคน,อย่าลืมว่าลินลี่ย์เป็นพารากอนคนหนึ่ง” มหาเทพบลัดริจยิ้มขณะเตือนพวกเขาทั้งหมด
“แม้ว่าเขาเป็นพารากอนฮึ่ม..อาจจะเป็นมหาเทพระดับกลางที่เป็นพารากอน ยังเอาชนะดิยาได้หรือ?” มหาเทพอีกคนหนึ่งปฏิเสธ
“ทุกท่าน!”ประมุขมหาเทพธาตุลม ดิยาจงใจถอนหายใจ “ข้าใช้พลังโจมตีขั้นสุดยอด แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้ ในความเป็นจริงข้าไม่สามารถบังคับให้ลินลี่ย์ใช้ทักษะเทพธรรมชาติของเผ่ามังกรฟ้าด้วยซ้ำ เหตุผลที่ลินลี่ย์ทรงพลังนักเป็นเพราะเขามีสมบัติจอมเทพตั้งแต่แรก!”
มีเสียงฮือฮาทันที!
“สมบัติจอมเทพ?!”
มหาเทพรวมทั้งมหาเทพหลายคนที่เพียงเฝ้ามองดูอย่างสนุกสนานแต่ไม่พูดอะไรพากันตะลึงทั้งหมด ประมุขมหาเทพรวมทั้งออกุสตาหันไปจ้องมองดูลินลี่ย์
“เป็นความจริง” ลินลี่ย์เผชิญกับสายตาของคนเหล่านี้และพยักหน้ายอมรับ
โยนหินก้อนเดียวก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมไกลพันเมตร!
“เขามีสมบัติจอมเทพจริงๆ!”
มหาเทพที่มีทัศนคติมองดูเรื่องนี้อย่างขบขันเปลี่ยนความคิดทันที
“โดยอาศัยสมบัติจอมเทพ ลินลี่ย์ก็สามารถได้เปรียบดิยาเพียงเล็กน้อย” บุรุษผู้มีเขาสีทองและมีตราสายฟ้าอยู่บนหน้าผากรำพึงกับตนเอง “สำหรับสมบัติจอมเทพตกไปอยู่ในมือของเขานับว่าสูญเปล่าโดยสิ้นเชิง! ถ้าข้าได้รับสมบัติจอมเทพเนื่องด้วยพลังของข้า ข้าจะมีโอกาสเทียบได้กับสี่ประมุขมหาเทพสี่วิถี!”
คนผู้นี้เป็นประมุขมหาเทพธาตุสายฟ้า
ประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้ามีร่างแยกมหาเทพอีกร่างหนึ่ง ทำให้ประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้ามีพลังปณิธานเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นธรรมดา พลังของเขาเหนือกว่าประมุขมหาเทพสายธาตุคนอื่น แต่ประมุขมหาเทพแห่งแสงมีสมบัติจอมเทพ
ดังนั้นในบรรดาประมุขมหาเทพเจ็ดสายธาตุประมุขมหาเทพแห่งแสงเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่ประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้าเป็นอันดับสอง อย่างไรก็ตามความแตกต่างระหว่างพวกเขาไม่ได้มาก ถ้าประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้าได้รับสมบัติจอมเทพ เขาจะมีพลังเหนือกว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงทันทีและสามารถคุกคามประมุขมหาเทพสี่วิถีได้!
“สมบัติจอมเทพ!” ประมุขมหาเทพแห่งแสงไตร่ตรองหาวิธีชิงสมบัติจอมเทพ “เจ้าลินลี่ย์ผู้น้อยนี้ แม้อาศัยสมบัติจอมเทพก็มีแต่เพียงพลังทั่วไป เขายังไม่เป็นภัยคุกคาม!ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือประมุขมหาเทพคนอื่น ข้าต้องชิงสมบัติจอมเทพมาให้ได้! แต่ข้าคิดว่าประมุขมหาเทพอื่นคงไม่ยอมรับเรื่องนี้แน่”
ประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้ากวาดตามองดูประมุขมหาเทพอื่น
ความจริงประมุขมหาเทพอื่นก็ตกใจด้วยเช่นกัน
สมบัติจอมเทพ!
ถ้าพวกเขาได้รับมาบ้างจริงๆพวกเขาจะเหนือกว่าประมุขมหาเทพอื่น!
“ฮึ่ม,พวกเจ้าทุกคนต้องการต่อสู้เพื่อชิงเอาไปหรือ?” ประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตาหัวเราะเย็นชาในใจ “มีข้าอยู่ที่นี่สิ่งเดียวที่พวกเจ้าที่เหลือจะทำได้ก็คือฝันต่อไป อย่างไรก็ตาม...ประมุขมหาเทพสี่วิถีจะเป็นตัวปัญหา” ออกุสตายังคงกังวล กังวลเกี่ยวกับประมุขมหาเทพสี่วิถี
คำพูดเรียบง่ายจากดิยาเปิดเผยความจริงที่ว่าลินลี่ย์ครอบครองสมบัติจอมเทพทำให้ประมุขมหาเทพทุกคนผู้มีคุณสมบัติต่อสู้เพื่อสมบัติตกใจ
“ลินลี่ย์, ข้ายังไม่สามารถฆ่าเจ้าได้, แต่ประมุขมหาเทพอื่นสามารถทำได้” ดิยาดีใจกับสิ่งที่เขาทำ
ลินลี่ย์ไม่กังวลแม้แต่น้อย เขากวาดตามองประมุขมหาเทพทั้งสิบเอ็ด “ข้าคิดว่ามีมหาเทพหลายคนที่ค่อนข้างจะมีความโลภในหัวใจของพวกเขา อย่างไรก็ตาม หลังจากข้าฆ่าออกุสตาข้าคาดว่าประมุขมหาเทพเหล่านี้คงจะตกใจกลัว พวกเขาคงไม่กล้าทำอะไรตามมา” ลินลี่ย์ไม่ได้รู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อย
เขาเพียงแต่เผยพลังที่แท้จริงของเพียงหนึ่งในร้อยเท่านั้น
มหาเทพทุกคนในตอนนี้เข้าใจว่าภารกิจของจอมเทพครั้งที่เจ็ดที่ออกมาตั้งแต่สร้างจักรวาลลินลี่ย์ทำสำเร็จไปแล้ว ระหว่างช่วงเวลาก่อนนั้น มหาเทพต่างๆ ถูกเขาหลอกทุกคนอย่างไรก็ตามไม่มีใครพูดคลุมเครือเกี่ยวกับเรื่องอย่างนี้ ถ้าเทพชั้นสูงหลอกมหาเทพ มหาเทพจะต้องโกรธและล้างแค้นเป็นธรรมดา
แต่พลังของลินลี่ย์ในตอนนี้อยู่ในระดับเดียวกับประมุขมหาเทพ ใครจะกล้าล้างแค้นเล่า?
นอกจากนี้สถานการณ์ปัจจุบันอ่อนไหวมาก
ประมุขมหาเทพส่วนใหญ่ของสิบเอ็ดคนรู้สึกโลภอยากได้สมบัติจอมเทพของลินลี่ย์ แต่ประมุขมหาเทพทุกคนรู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรเช่นกัน! พวกเขากลัวว่าพวกเขาจะเป็นคนแรกที่โจมตี แต่ในที่สุดกลับปล่อยผลประโยชน์หลุดไปให้คนอื่นๆ ดังนั้นทุกคนจึงระมัดระวังตัวกันมาก
“ลินลี่ย์หลอมรวมประกายเทพทั้งสามและเป็นพารากอนทั้งยังมีสมบัติจอมเทพ เขามีพลังพอสู้กับดิยาได้ อย่างไรก็ตาม...” เสียงของประมุขมหาเทพแห่งชีวิตเย็นชาขึ้นและดุร้ายมากขึ้น “แค่เพราะเจ้ามีพลังมากขึ้นเจ้าก็สามารถฆ่ามหาเทพน้อยธาตุลมด้วยหรือ? นี่เป็นการขัดกับข้อตกลงเดิมของเรา”
ลินลี่ย์พูดขึ้น “ประมุขมหาเทพ แต่ก่อนที่ข้าจะหลอมรวมกับประกายมหาเทพธาตุลม ข้าไม่ได้ทรงพลังมาก”
ประมุขมหาเทพวิถีทาลายล้างพูดอย่างสงบ “แม้ว่าก่อนที่เจ้าจะหลอมรวมประกายมหาเทพธาตุลม เจ้าก็มีพลังเหนือกว่ามหาเทพกลางทั่วไปแล้ว การฆ่าเทเรเซียเป็นการละเมิดข้อตกลงของเรา”
“ทุกท่าน” เบรุตที่อยู่ใกล้รีบลุกขึ้นยืน “มีสองเรื่องที่ข้าต้องการพูด เดิมทีเมื่อลินลี่ย์ยังเป็นเทพชั้นสูง เทเรเซียต้องการโจมตีและฆ่าลินลี่ย์ในแดนนรก โชคดีที่มหาเทพบลัดริจโบซันห้ามเขาเอาไว้ เรื่องที่สองก็คือเมื่อลินลี่ย์ผ่านมิติปั่นป่วนกลับจากพิภพโอคาลุนด์ไปพิภพยูลาน ลินลี่ย์ก็เกือบถูกฆ่านานแล้ว เทเรเซียลงมือกับลินลี่ย์ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะลินลี่ย์ลงมือแก้แค้นไม่อาจนับได้ว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงได้”
ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างในชุดดำชำเลืองมองเบรุต “เขาทำร้ายลินลี่ย์ในมิติปั่นป่วน? ใครเป็นพยานในเรื่องนี้”
“เรียนท่านมหาเทพ!” ขณะนั้นเองมีเสียงหนึ่งดังขึ้น “แม้ว่าลินลี่ย์และข้าจะมีความเป็นปฏิปักษ์กันระหว่างเรา ข้าต้องยอมรับว่าตอนนั้นเทเรเซียทำร้ายกลุ่มของลินลี่ย์จริงๆ ข้าเห็นเรื่องนี้ผ่านสำนึกเทพของข้าไม่มีความผิดพลาดแน่นอน”
ลินลี่ย์อดหันไปมองดูไม่ได้
คนพูดคือประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตา!