ตอนที่แล้วตอนที่ 21-14 ชุมนุมมหาเทพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21-16 คำตัดสิน

ตอนที่ 21-15 ความละโมบ


“ครืน..” คลื่นทะเลม้วนตัวไล่กันอย่างนุ่มนวล

ลินลี่ย์เงยหน้ากวาดสายตามองออกุสตาและดิยา ประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตาและประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาทั้งคู่มองประสานสายตาลินลี่ย์ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว  ลินลี่ย์แค่นเสียงในใจ  “ฮึ่ม,ออกุสตาบางทียังคงต้องการฆ่าข้า...หลังจากสู้กันครั้งล่าสุดดิยาอาจจะรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับข้าด้วยเช่นกัน  ดิยานั้นข้าสามารถละเลยเขาได้  แต่สำหรับออกุสตา...ข้าจะปล่อยให้เขาดีใจต่ออีกสักระยะหนึ่ง หลังจากมหาเทพอื่นจากไปแล้วข้าค่อยฆ่าออกุสตา!”

ประมุขมหาเทพอื่นคงไม่ยอมแค่มองลินลี่ย์ฆ่าออกุสตาโดยไม่ทำอะไรเลย

เขารอมาหลายพันปีแล้วยังมีเวลาอื่นใดอีก?

“ลินลี่ย์ เบรุต”  ขณะนั้นเอง มหาเทพเรดบุดและมหาเทพบลัดริจบินเข้ามาสมทบทั้งคู่พลางหัวเราะและโบกมือให้เขา

“ลินลี่ย์, เจ้าช่างรู้จักก่อเรื่องยุ่งยากจริงๆ”  มหาเทพบลัดริจหัวเราะขณะที่เขาพูดกับลินลี่ย์ผ่านสำนึกเทพ  “ช่วงเวลาสั้นๆนี้ เจ้าฆ่าเทเรเซียได้อย่างไร”

“ถ้าเจ้าฆ่าเขา ก็ถือว่าเจ้าฆ่าเขาอยู่ดี  อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ เจ้าเตรียมหาข้อแก้ตัวเมื่อประมุขมหาเทพซักถามกับเจ้าแล้วใช่ไหม?”  มหาเทพเรดบุดมองดูลินลี่ย์

ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า

“ในไม่ช้าเราต้องรบกวนท่านทั้งสองให้ช่วย”  เบรุตหัวเราะขณะพูดทางสำนึกเทพกับพวกเขา

“เราไม่สามารถช่วยได้มากนัก  ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประมุขมหาเทพสี่วิถี   คนทางขวามือของเจ้าคือบลูไฟร์ที่เจ้าพูดให้ข้าฟังเมื่อไม่นานนี้ใช่ไหม?”  มหาเทพบลัดริจมองดูบลูไฟร์  “บลูไฟร์! ข้าชื่อโบซัน”

“ท่านโบซัน” บลูไฟร์พูดอย่างสุภาพ

มหาเทพเกินกว่าหกสิบจะมีโอกาสมารวมตัวกันทั้งหมดได้บ่อยแค่ไหน?  การสนทนากันระหว่างมหาเทพต่างๆ ในตอนนี้ค่อนข้างเป็นไปอย่างคึกคัก

“เอาล่ะ,ได้เวลาพูดคุยเรื่องของลินลี่ย์กันได้แล้ว” เสียงเยือกเย็นดังมาจากด้านบน คนพูดก็คือประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง

คำพูดของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างทำให้การสนทนาทั้งหมดหยุดลงเหลือแต่ความเงียบ

“ทุกท่าน” เบรุตหัวเราะ  “ทุกท่าน! เชิญนั่งก่อนหลังจากพวกท่านนั่งแล้วเราค่อยคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างลินลี่ย์และเทเรเซีย”

ขณะที่เขาพูดมีเสียงคลิกแคลก อสูรโลหะที่อยู่ในรูปเรือยักษ์เริ่มเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ดาดฟ้ากว้างเริ่มขยายเพิ่มขนาดและเพิ่มเก้าอี้อีกหลายตัว  มีทั้งหมดรวมหกสิบห้าตัวจัดเรียงเป็นรูปวงกลมขนาดใหญ่  เพราะอยู่ในรูปวงกลมจึงไม่มีความต่างในเรื่องสถานะในการจัดที่นั่ง

“ทุกท่าน เชิญนั่ง”  สตรีงามชุดม่วงผมแดงสั่งอย่างเย็นชา

คำพูดของประมุขมหาเทพวิถีมรณะทำให้มหาเทพอีกหกสิบกว่าคนบินลงมาจากอากาศและจากส่วนต่างๆของเรือมายังที่นั่ง ทุกคนเลือกที่นั่งของตนเองและนั่งลง ลินลี่ย์ เบรุตและบลูไฟร์นั่งเคียงข้างกัน

“ท่านประมุขมหาเทพแห่งสี่วิถี!” ลินลี่ย์กวาดสายตามองประมุขมหาเทพทั้งสี่

ประมุขมหาเทพสี่วิถีทุกคนนั่งเคียงข้างกันเช่นกัน

“พวกเขาทั้งสามอยู่ที่นี้ทั้งหมดแล้วบังเอิญจริงๆ  หลังจากประมุขมหาเทพสี่วิถีกลับไปแล้ว  ข้าจะฆ่าให้หมดทั้งสามคน” ออกุสตาชำเลืองมองกลุ่มของลินลี่ย์ขณะพึมพำกับตนเอง

ขณะนั้นมีเสียงอ่อนโยนดังขึ้น  “ทุกท่านแม้ว่าสี่จอมเทพจะไม่ได้ห้ามเรามิให้เราฆ่ากันเอง การหลอมรวมประกายมหาเทพเพิ่มก็หมายความว่าได้รับพลังปณิธานเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง  ถ้าเราไม่จำกัดการสู้รบในหมู่พวกเราเองเป็นไปได้ว่ามหาเทพน้อยและมหาเทพกลางจะไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นในอดีตประมุขมหาเทพอีกสามวิถีและข้าจึงทำข้อตกลง”

ถ้ามหาเทพระดับต่ำกว่าไม่ได้ล่วงเกินมหาเทพระดับสูงกว่า มหาเทพระดับสูงกว่าต้องไม่มัวเมาในอำนาจและฆ่ามหาเทพระดับต่ำกว่า  ผู้ที่ฝ่าฝืนทำเช่นนี้จะต้องถูกไล่ล่าตามฆ่าโดยเราทั้งสี่”

“มีแต่มหาเทพที่มีพลังระดับเดียวกันอนุญาตให้สู้กันเองได้”

คนพูดคือประมุขมหาเทพวิถีชีวิตในชุดหยก  เสียงของประมุขมหาเทพแห่งชีวิตอ่อนโยนมาก  แม้เมื่อเวลาคุยเรื่องข้อตกลงเสียงของนางล่องลอยเหมือนกับสายน้ำประพรมทำให้ผู้ฟังรู้สึกสงบ

ลมทะเลพัดพลิ้ว  แต่เรือที่อยู่เหนือยอดคลื่นยังคงมั่นคง  และประมุขมหาเทพนั่งอยู่เหนือผู้ฟังทุกคน

“อย่างไรก็ตาม วันนี้ลินลี่ย์ฆ่ามหาเทพน้อยธาตุลมเทเรเซีย ประมุขมหาเทพวิถีชีวิตกวาดตามองลินลี่ย์ น้ำเสียงของนางเปลี่ยนไป ”อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ก็เป็นเพียงมหาเทพน้อยเช่นกัน...”

ลินลี่ย์ได้ยินเช่นนี้อดดีใจไม่ได้ ประมุขมหาเทพแห่งชีวิตดูเหมือนจะช่วยเขา

“คารวะประมุขมหาเทพ”  ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“หืม?” สายตาอบอุ่นนุ่มนวลของประมุขมหาเทพวิถีชีวิตกวาดมองดูผู้พูด  ผู้พูดคือประมุขมหาเทพธาตุลมดิยา

ดวงตาสีทองของดิยายังสำรวมเมื่อมองดูประมุขมหาเทพวิถีชีวิต  แต่เขาพูดด้วยความเคารพ  “ตามข้อตกลงนั้น การประเมินพลังของคนผู้หนึ่งไม่ใช่แค่แบ่งตามประกายมหาเทพน้อย, กลาง และสูงแต่เกี่ยวกับพลังที่แท้จริงมากกว่า ตัวอย่างเช่น ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นแค่มหาเทพน้อย แต่ถ้าโดยรวมพลังกันแล้วมีพลังเท่ากับระดับประมุขมหาเทพ  นี่เป็นเพราะพวกเขาทรงพลัง!”

เมื่อยอดฝีมือต่อสู้กันการผนึกกำลังกันสู้ไม่ใช่เกิดขึ้นบ่อย

สี่มหาเทพน้อยผนึกกำลังกันแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะมหาเทพกลางได้

แต่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน  ดังนั้นระหว่างข้อตกลงนั้นจึงเป็นการก่อตั้งกลุ่มสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มีพลังเทียบเท่ากับระดับของประมุขมหาเทพ

“สำหรับลินลี่ย์ผู้นี้ ในแง่ของพลัง..”  ประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาแค่นเสียงหัวเราะเยาะเย้ย “ข้าเกรงว่าพวกท่านจะหัวเราะเยาะข้า แต่ไม่นานนี้ ข้าตั้งใจจะจับลินลี่ย์ผู้นี้ เพื่อส่งให้พวกท่านตัดสิน  ท่านประมุขมหาเทพทั้งสี่ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากลินลี่ย์หลอมรวมกับประกายมหาเทพธาตุลม ข้าไม่สามารถข้าไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แม้ว่าเมื่อข้าจะโจมตีเขาเต็มกำลังของข้าก็ตาม”

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง!!”

มีเสียงฮือฮาเพราะความตกใจทันที

เหล่ามหาเทพที่รีบมาที่นี่จากพิภพอื่นทุกคนรู้ว่าลินลี่ย์ฆ่าเทเรเซีย แต่พวกเขาไม่แน่ใจว่าลินลี่ย์สู้กับประมุขมหาเทพธาตุลมดิยา

เหตุผลหลักก็คือเมื่อดิยาสั่งมหาเทพธาตุลมของเขาให้เผยแพร่กระจายข่าวการต่อสู้ระหว่างเขากับลินลี่ย์ยังไม่เริ่ม!

“ต่อให้ลินลี่ย์หลอมรวมประกายมหาเทพธาตุลมเพิ่มขึ้นอย่างมากเขาก็แค่ได้พลังปณิธานเพิ่มขึ้นมาอีกส่วนหนึ่ง  แล้วเขาสามารถเอาชนะท่านได้ยังไง ดิยา?”

“ความแตกต่างระหว่างมหาเทพน้อยและมหาเทพชั้นสูงนั้นนับว่ามากมายนัก”

มีเสียงร้องฮือฮาไม่เชื่อถือดังขึ้น  มหาเทพเหล่านี้ไม่อาจเชื่อคำพูดของดิยาได้

มหาเทพกลางแข็งแกร่งมากกว่ามหาเทพน้อยร้อยเท่า  ความแตกต่างระหว่างส่วนพลังของปณิธาน ขณะที่มหาเทพชั้นสูงและมหาเทพน้อยยิ่งแตกต่างกันมาก

“ลินลี่ย์ไม่ใช่แค่หลอมรวมประกายมหาเทพธาตุลมเท่านั้น  ก่อนหน้านี้เขาหลอมรวมประกายมหาเทพสองชนิดก่อนแล้ว!”  ดิยากล่าว

“คนผู้เดียวที่หลอมรวมประกายมหาเทพถึงสามชิ้นน่ะหรือ?”  แม้แต่บุรุษชุดขาวผมขาวประมุขมหาเทพวิถีชะตาก็อดมองลินลี่ย์มิได้

“เป็นไปได้หรือว่าลินลี่ย์จะฆ่ามหาเทพคนอื่นได้ก่อนหน้านี้?”  ผู้คนพูดทันที

“ยังมีมหาเทพอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่มาในวันนี้  บางที...”

ลินลี่ย์เพียงแต่มองดูกลุ่มมหาเทพพูดคุยสนทนากัน  ขณะที่ข้างลินลี่ย์เบรุตหัวเราะเสียงใสทันที  “ทุกท่าน,ข้าคือเบรุต ข้าเชื่อว่าทุกท่านคงเคยได้ยินเหตุการร์เกือบสองหมื่นปีก่อนได้  ตอนนั้นข้าได้รับประกายมหาเทพมาสี่ชิ้น! ข้าและสุภาพบุรุษที่ข้างข้าผู้นี้ ใช้ประกายมหาเทพคนละประกาย เราให้ลินลี่ย์หลอมรวมประกายมหาเทพสองประกาย  ดังนั้นลินลี่ย์จึงได้ประกายชิ้นเดียวจากเทเรเซีย”

มหาเทพหลายคนมองดูเบรุตและพวกเขาได้แต่เงียบ

ข่าวเรื่องสิ่งที่เบรุตกระทำลงไปเมื่อเกือบสองหมื่นปีที่แล้วแพร่กระจายไปทั่วหมู่มหาเทพอย่างรวดเร็ว

“ดิยา,  ต่อให้ลินลี่ย์หลอมรวมประกายมหาเทพสามชนิด เขาก็แค่มีพลังปณิธานมากกว่ามหาเทพน้อยธรรมดาสองส่วน  และแค่เทียบได้กับมหาเทพกลาง เขาจะเป็นคู่ต่อสู้กับเจ้าได้อย่างไร?”  บุรุษผมยาวสีฟ้าและมีเกล็ดปลาที่หน้าผากหัวเราะขณะพูด

“ทุกคน,อย่าลืมว่าลินลี่ย์เป็นพารากอนคนหนึ่ง” มหาเทพบลัดริจยิ้มขณะเตือนพวกเขาทั้งหมด

“แม้ว่าเขาเป็นพารากอนฮึ่ม..อาจจะเป็นมหาเทพระดับกลางที่เป็นพารากอน ยังเอาชนะดิยาได้หรือ?”  มหาเทพอีกคนหนึ่งปฏิเสธ

“ทุกท่าน!”ประมุขมหาเทพธาตุลม ดิยาจงใจถอนหายใจ “ข้าใช้พลังโจมตีขั้นสุดยอด แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้  ในความเป็นจริงข้าไม่สามารถบังคับให้ลินลี่ย์ใช้ทักษะเทพธรรมชาติของเผ่ามังกรฟ้าด้วยซ้ำ เหตุผลที่ลินลี่ย์ทรงพลังนักเป็นเพราะเขามีสมบัติจอมเทพตั้งแต่แรก!”

มีเสียงฮือฮาทันที!

“สมบัติจอมเทพ?!”

มหาเทพรวมทั้งมหาเทพหลายคนที่เพียงเฝ้ามองดูอย่างสนุกสนานแต่ไม่พูดอะไรพากันตะลึงทั้งหมด ประมุขมหาเทพรวมทั้งออกุสตาหันไปจ้องมองดูลินลี่ย์

“เป็นความจริง” ลินลี่ย์เผชิญกับสายตาของคนเหล่านี้และพยักหน้ายอมรับ

โยนหินก้อนเดียวก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมไกลพันเมตร!

“เขามีสมบัติจอมเทพจริงๆ!”

มหาเทพที่มีทัศนคติมองดูเรื่องนี้อย่างขบขันเปลี่ยนความคิดทันที

“โดยอาศัยสมบัติจอมเทพ  ลินลี่ย์ก็สามารถได้เปรียบดิยาเพียงเล็กน้อย” บุรุษผู้มีเขาสีทองและมีตราสายฟ้าอยู่บนหน้าผากรำพึงกับตนเอง “สำหรับสมบัติจอมเทพตกไปอยู่ในมือของเขานับว่าสูญเปล่าโดยสิ้นเชิง!  ถ้าข้าได้รับสมบัติจอมเทพเนื่องด้วยพลังของข้า ข้าจะมีโอกาสเทียบได้กับสี่ประมุขมหาเทพสี่วิถี!”

คนผู้นี้เป็นประมุขมหาเทพธาตุสายฟ้า

ประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้ามีร่างแยกมหาเทพอีกร่างหนึ่ง ทำให้ประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้ามีพลังปณิธานเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นธรรมดา  พลังของเขาเหนือกว่าประมุขมหาเทพสายธาตุคนอื่น  แต่ประมุขมหาเทพแห่งแสงมีสมบัติจอมเทพ

ดังนั้นในบรรดาประมุขมหาเทพเจ็ดสายธาตุประมุขมหาเทพแห่งแสงเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่ประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้าเป็นอันดับสอง อย่างไรก็ตามความแตกต่างระหว่างพวกเขาไม่ได้มาก ถ้าประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้าได้รับสมบัติจอมเทพ  เขาจะมีพลังเหนือกว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงทันทีและสามารถคุกคามประมุขมหาเทพสี่วิถีได้!

“สมบัติจอมเทพ!” ประมุขมหาเทพแห่งแสงไตร่ตรองหาวิธีชิงสมบัติจอมเทพ  “เจ้าลินลี่ย์ผู้น้อยนี้ แม้อาศัยสมบัติจอมเทพก็มีแต่เพียงพลังทั่วไป เขายังไม่เป็นภัยคุกคาม!ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือประมุขมหาเทพคนอื่น  ข้าต้องชิงสมบัติจอมเทพมาให้ได้! แต่ข้าคิดว่าประมุขมหาเทพอื่นคงไม่ยอมรับเรื่องนี้แน่”

ประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้ากวาดตามองดูประมุขมหาเทพอื่น

ความจริงประมุขมหาเทพอื่นก็ตกใจด้วยเช่นกัน

สมบัติจอมเทพ!

ถ้าพวกเขาได้รับมาบ้างจริงๆพวกเขาจะเหนือกว่าประมุขมหาเทพอื่น!

“ฮึ่ม,พวกเจ้าทุกคนต้องการต่อสู้เพื่อชิงเอาไปหรือ?” ประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตาหัวเราะเย็นชาในใจ  “มีข้าอยู่ที่นี่สิ่งเดียวที่พวกเจ้าที่เหลือจะทำได้ก็คือฝันต่อไป อย่างไรก็ตาม...ประมุขมหาเทพสี่วิถีจะเป็นตัวปัญหา”  ออกุสตายังคงกังวล  กังวลเกี่ยวกับประมุขมหาเทพสี่วิถี

คำพูดเรียบง่ายจากดิยาเปิดเผยความจริงที่ว่าลินลี่ย์ครอบครองสมบัติจอมเทพทำให้ประมุขมหาเทพทุกคนผู้มีคุณสมบัติต่อสู้เพื่อสมบัติตกใจ

“ลินลี่ย์, ข้ายังไม่สามารถฆ่าเจ้าได้, แต่ประมุขมหาเทพอื่นสามารถทำได้” ดิยาดีใจกับสิ่งที่เขาทำ

ลินลี่ย์ไม่กังวลแม้แต่น้อย  เขากวาดตามองประมุขมหาเทพทั้งสิบเอ็ด  “ข้าคิดว่ามีมหาเทพหลายคนที่ค่อนข้างจะมีความโลภในหัวใจของพวกเขา  อย่างไรก็ตาม หลังจากข้าฆ่าออกุสตาข้าคาดว่าประมุขมหาเทพเหล่านี้คงจะตกใจกลัว พวกเขาคงไม่กล้าทำอะไรตามมา” ลินลี่ย์ไม่ได้รู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อย

เขาเพียงแต่เผยพลังที่แท้จริงของเพียงหนึ่งในร้อยเท่านั้น

มหาเทพทุกคนในตอนนี้เข้าใจว่าภารกิจของจอมเทพครั้งที่เจ็ดที่ออกมาตั้งแต่สร้างจักรวาลลินลี่ย์ทำสำเร็จไปแล้ว ระหว่างช่วงเวลาก่อนนั้น มหาเทพต่างๆ ถูกเขาหลอกทุกคนอย่างไรก็ตามไม่มีใครพูดคลุมเครือเกี่ยวกับเรื่องอย่างนี้  ถ้าเทพชั้นสูงหลอกมหาเทพ  มหาเทพจะต้องโกรธและล้างแค้นเป็นธรรมดา

แต่พลังของลินลี่ย์ในตอนนี้อยู่ในระดับเดียวกับประมุขมหาเทพ  ใครจะกล้าล้างแค้นเล่า?

นอกจากนี้สถานการณ์ปัจจุบันอ่อนไหวมาก

ประมุขมหาเทพส่วนใหญ่ของสิบเอ็ดคนรู้สึกโลภอยากได้สมบัติจอมเทพของลินลี่ย์ แต่ประมุขมหาเทพทุกคนรู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรเช่นกัน! พวกเขากลัวว่าพวกเขาจะเป็นคนแรกที่โจมตี แต่ในที่สุดกลับปล่อยผลประโยชน์หลุดไปให้คนอื่นๆ  ดังนั้นทุกคนจึงระมัดระวังตัวกันมาก

“ลินลี่ย์หลอมรวมประกายเทพทั้งสามและเป็นพารากอนทั้งยังมีสมบัติจอมเทพ เขามีพลังพอสู้กับดิยาได้ อย่างไรก็ตาม...” เสียงของประมุขมหาเทพแห่งชีวิตเย็นชาขึ้นและดุร้ายมากขึ้น  “แค่เพราะเจ้ามีพลังมากขึ้นเจ้าก็สามารถฆ่ามหาเทพน้อยธาตุลมด้วยหรือ? นี่เป็นการขัดกับข้อตกลงเดิมของเรา”

ลินลี่ย์พูดขึ้น  “ประมุขมหาเทพ แต่ก่อนที่ข้าจะหลอมรวมกับประกายมหาเทพธาตุลม  ข้าไม่ได้ทรงพลังมาก”

ประมุขมหาเทพวิถีทาลายล้างพูดอย่างสงบ “แม้ว่าก่อนที่เจ้าจะหลอมรวมประกายมหาเทพธาตุลม เจ้าก็มีพลังเหนือกว่ามหาเทพกลางทั่วไปแล้ว  การฆ่าเทเรเซียเป็นการละเมิดข้อตกลงของเรา”

“ทุกท่าน” เบรุตที่อยู่ใกล้รีบลุกขึ้นยืน “มีสองเรื่องที่ข้าต้องการพูด เดิมทีเมื่อลินลี่ย์ยังเป็นเทพชั้นสูง เทเรเซียต้องการโจมตีและฆ่าลินลี่ย์ในแดนนรก  โชคดีที่มหาเทพบลัดริจโบซันห้ามเขาเอาไว้  เรื่องที่สองก็คือเมื่อลินลี่ย์ผ่านมิติปั่นป่วนกลับจากพิภพโอคาลุนด์ไปพิภพยูลาน  ลินลี่ย์ก็เกือบถูกฆ่านานแล้ว  เทเรเซียลงมือกับลินลี่ย์ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะลินลี่ย์ลงมือแก้แค้นไม่อาจนับได้ว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงได้”

ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างในชุดดำชำเลืองมองเบรุต  “เขาทำร้ายลินลี่ย์ในมิติปั่นป่วน?  ใครเป็นพยานในเรื่องนี้”

“เรียนท่านมหาเทพ!”  ขณะนั้นเองมีเสียงหนึ่งดังขึ้น “แม้ว่าลินลี่ย์และข้าจะมีความเป็นปฏิปักษ์กันระหว่างเรา ข้าต้องยอมรับว่าตอนนั้นเทเรเซียทำร้ายกลุ่มของลินลี่ย์จริงๆ  ข้าเห็นเรื่องนี้ผ่านสำนึกเทพของข้าไม่มีความผิดพลาดแน่นอน”

ลินลี่ย์อดหันไปมองดูไม่ได้

คนพูดคือประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด