ตอนที่ 21-14 ชุมนุมมหาเทพ
“ดิยาผู้นี้ระมัดระวังตัวจริงๆ” ลินลี่ย์รำพึงในใจ
ขณะนั้นเบรุตและบลูไฟร์บินเข้ามาสมทบแต่ไกล เบรุตส่งสำนึกเทพถาม “ลินลี่ย์! เจ้าเพิ่งรั้งพลังกลับมาอย่างนั้นหรือ?” เท่าที่เบรุตและบลูไฟร์รู้ ด้วยพลังของลินลี่ย์การฆ่าดิยานั้นเป็นเรื่องง่าย ที่สำคัญในบรรดาประมุขมหาเทพเจ็ดสายธาตุประมุขมหาเทพแห่งแสงแข็งแกร่งที่สุด
ถ้าเขาไม่สามารถฆ่าดิยาได้ แล้วเขาจะฆ่าออกุสตาได้อย่างไร?
“เมื่อครู่นี้ข้าไม่ได้ใช้พลังมหาเทพหลอมรวม” ลินลี่ย์ตอบกลับ
“ใช่จริงๆ” บลูไฟร์และเบรุตถอนหายใจโล่งอก
“สำหรับตอนนี้เจ้าซ่อนงำพลังไว้ก่อนเป็นดีที่สุด ข้าคิดว่าหลังจากเจ้าฆ่าเทเรเซียประมุขมหาเทพสี่วิถีจะมาถึงในเวลาที่รวดเร็ว ซ่อนพลังของเจ้าไว้ตอนนี้เสียก่อน นั่นจะทำให้ลวงได้ง่ายในเวลาต่อมา” เบรุตส่งสำนึกเทพบอก
ลินลี่ย์ตั้งใจจะทำอย่างนี้โดยตรง
“ข้าไม่ต้องการเผยพลังและขู่ขวัญจนออกุสตากลัวจนหนีไป” ลินลี่ย์จ้องมองอยู่แต่ไกล “ดิยากลับเข้าไปในพิภพลมศักดิ์สิทธิ์แล้ว เราไปกันบ้างเถอะ
“ได้เวลาเผชิญหน้ากับประมุขมหาเทพทั้งหลาย” เบรุตและบลูไฟร์เห็นด้วยเช่นกัน
เขาฆ่ามหาเทพคนหนึ่ง อย่างน้อยเขาต้องมีเหตุผลหรือข้ออ้างสำหรับการนั้น อย่างน้อยที่สุดเขาไม่ได้ฝ่าฝืนละเมิดข้อตกลงมหาเทพ
ถ้าเจ้ามีข้ออ้างแต่หนีไปหลังจากนั้นค่อยยอมรับว่าฆ่า ต่อให้เจ้าทำเพราะมีเหตุผลในสิ่งที่เจ้าทำเป็นไปได้ว่าประมุขมหาเทพสี่วิถีจะโกรธได้ เมื่อถูกกดดันและโจมตีโดยประมุขมหาเทพสี่วิถีนั่นเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส แม้ลินลี่ย์ในปัจจุบันก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะประมุขมหาเทพทั้งสี่ได้
“ควั่บ”
ลินลี่ย์บินตรงไปที่เขตแดนของโลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นฟันเปิดมิติ ลินลี่ย์ เบรุตและบลูไฟร์บินทั้งสามมหาเทพบินผ่านเข้าไป
โลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสามคนดึงอสูรโลหะออกมาและเปลี่ยนรูปเป็นเรือที่ลอยนิ่งอยู่เหนือทะเล ทั้งสามคนพูดคุยกันอย่างสบายๆบนเรือรอคอยการมาถึงของประมุขมหาเทพอย่างสงบ
“ลินลี่ย์กล้ารออยู่ที่นี่จริงๆ” สำนึกเทพของดิยาตรวจพบตำแหน่งลินลี่ย์และในใจของเขา เขารู้สึกโกรธ “ตามเวลาประมุขมหาเทพสี่วิถีควรจะได้รับข่าวนี้แล้ว เนื่องจากความเร็วที่พวกเขาสามารถใช้เดินทาง ในเวลาราวๆ ครึ่งวันพวกเขาจะมาถึงพิภพลมศักดิ์สิทธิ์”
ดิยาในตอนนี้มีความโกรธเต็มที่
ความจริงนี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ประการแรกเขาเป็นประมุขมหาเทพธาตุลม ลินลี่ย์เป็นมหาเทพธาตุลมและยังฝ่าฝืนกฎ ศักดิ์ศรีของประมุขมหาเทพธาตุลมถูกท้าทาย เขาย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดา ประการที่สองเมื่ออยู่ต่อหน้าต่อตาของเขาและแม้ว่าเขาจะตะโกนบอกยังไงก็ตาม แต่ลินลี่ย์ก็ยังฆ่าเทเรเซีย ดิยาจะไม่พอใจได้ยังไง? และประการที่สามเขาต้องการอาวุธจอมเทพ แต่ก็ไม่ได้มันมา ประการที่สี่ พลังของลินลี่ย์ทำให้เขารู้สึกว่าถูกคุกคาม
จุดที่สี่นี้เองเป็นเหตุให้เขารู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อลินลี่ย์!
เพียงแต่...
แม้ว่าเขาจะรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อลินลี่ย์ แต่ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจดิยาแม้แต่น้อย
แดนนรกในบรรดาสี่พิภพชั้นสูง ลึกลงไปในทะเลเชาติค
“ท่านประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างมหาเทพใหม่ที่ชื่อลินลี่ย์ เบรุตและมหาเทพแห่งไฟมาที่พิภพลมศักดิ์สิทธิ์ของเรา ลินลี่ย์ไล่ล่าและโจมตีเทเรเซียตลอดพื้นที่มิติปั่นป่วน เขาฆ่าเทเรเซียและจากนั้นหลอมรวมประกายมหาเทพธาตุลม ลินลี่ย์ละเมิดข้อตกลงที่เราได้ร่างทำไว้ก่อนนั้น”
เสียงดังผ่านไปถึงหมื่นล้านกิโลเมตรและส่งลึกลงไปถึงทะเลเชาติค
“ลินลี่ย์ฆ่าเทเรเซียได้หรือนี่? น่าทึ่ง, น่าทึ่งจริงๆ!” มีร่างที่สวมเกราะดำพุ่งออกมาจากส่วนลึกของทะเลทันที “ข้าไม่ได้พบเจอทั้งสามคนนานแล้ว ได้เวลาดีที่เราจะได้สนทนากันเสียที”
ร่างเลือนรางเหาะตรงไปที่ประตูเทเลพอร์ตที่ใกล้ที่สุด
พิภพแสงศักดิ์สิทธิ์ ในอากาศเหนือทะเลก็อดโกล
“ควั่บ!” แสงรังสีขาวฉายผ่านท้องฟ้ารวดเร็วขนาดที่แม้แต่เทพชั้นสูงก็มองเห็นไม่ชัด
ผมสีทองเป็นประกายของออกุสตาพัดพลิ้วและมีแววร่าเริงอยู่ในดวงตาของเขา “ฮ่าฮ่า, ข้าไม่คาดเลยว่าเบรุต บลูไฟร์และลินลี่ย์จะกล้าออกมาจากพิภพยูลานและยังกล้าไล่ล่าโจมตีเทเรเซีย!นี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ประทานมาให้ข้า”
ออกุสตาเมื่อได้ยินข่าวนี้ก็รีบตรงไปที่ประตูเทเลพอร์ตทันที
“อย่างไรก็ตาม ตามข่าวนี้เทเรเซียถูกฆ่า ลินลี่ย์ผู้นี้..แข็งแกร่งเพียงพอจะฆ่าเทเรเซียได้หรือ?” ออกุสตาค่อนข้างสงสัย
ข่าวที่มาจากพิภพลมศักดิ์สิทธิ์ไม่ระบุว่าลินลี่ย์ครอบครองอาวุธจอมเทพ
“ควั่บ!”
ออกุสตาพุ่งผ่านเข้าประตูเทเลพอร์ต
“ลินลี่ย์กลายเป็นมหาเทพแล้วหรือ?”
“เขาฆ่ามหาเทพและหลอมรวมประกายเทพกับตัวด้วยหรือ?”
มหาเทพผู้ได้รับทราบข่าวนี้ตะลึงกันหมดทุกคนคนแล้วคนเล่า พวกเขาทุกคนรีบเดินทางเร่งความเร็วเต็มที่มุ่งสู่ประตูเทเลพอร์ตรีบไปยังโลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์
พวกที่ได้รับทราบข่าวเร็วที่สุดและผู้ที่เคลื่อนไหวได้เร็วที่สุดตามปกติย่อมเป็นประมุขมหาเทพสี่วิถีต่อมาก็เป็นประมุขมหาเทพอื่น สุดท้ายก็เป็นมหาเทพต่างๆ
มหาเทพโดยปกติแล้วจะค่อนข้างเบื่อ ชีวิตที่ยืนยาวนานของพวกเขาทำให้พวกเขามีเวลาไม่จำกัด สำหรับมหาเทพคนหนึ่งสามารถฆ่ามหาเทพอีกคนหนึ่งได้และจากนั้นยังหลอมรวมประกายมหาเทพได้ด้วยหรือ? ผลก็จะคล้ายๆกับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ ของมนุษย์ ใครจะคาดคิดได้ว่ากลับดึงดูดความสนใจได้มาก
มหาเทพทั้งหมดผู้ได้รับข้อมูลไม่มีการยกเว้นต่างรีบเร่งมุ่งสู่โลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์
พิภพลมศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในสามพื้นที่ประตูเทเลพอร์ตใหญ่บนยอดเขาวายุ
“ครืน...” รัศมีเลือนรางเปล่งประกาย
ร่างเลือนรางปรากฏออกมาจากวงเวทเทเลพอร์ต พร้อมทั้งเปล่งรัศมีที่น่าหวาดหวั่น
“ใครกันนี่?”
ทหารที่รักษาการณ์อยู่โดยรอบต่างกลั้นหายใจรู้สึกถึงแรงกดดันจากรัศมีนี้ พวกเขาทุกคนจ้องมองร่างพร่าเลือนในวงเวทเทเลพอร์ตด้วยความประหลาดใจและหวาดกลัว ทันทีที่แสงเทเลพอร์ตหายไป ร่างนั้นก็ทะยานขึ้นท้องฟ้าทันทีและหายไปในทันที เขาเคลื่อนไหวได้เร็วจนแม้แต่ทหารเทพชั้นสูงที่อยู่ใกล้ๆไม่สามารถเห็นได้ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น
“นี่..คือมหาเทพ! มหาเทพแน่นอน!”
“ความเร็วที่แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถเห็นได้ชัด..คงจะมีแต่มหาเทพเท่านั้น!”
พวกเขาทุกคนร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
ขณะนี้เองในอากาศที่ห่างออกไป ยังมีหญิงสาวงดงาม ผมสีแดงเพลิงอยู่ในอาภรณ์สีม่วงยาว นางจ้องมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นางหัวเราะ มีลักยิ้มน้อยๆปรากฏบนใบหน้าของนาง “ช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่พันปี.. นึกไม่ถึงเลยว่าลินลี่ย์ไม่เพียงแต่กลายเป็นมหาเทพเท่านั้น เขายังฆ่าได้กระทั่งมหาเทพสหายน้อยผู้นี้น่าทึ่ง น่าทึ่งจริงๆ!”
“จากวันที่เขาถือกำเนิดจนบัดนี้ เวลาผ่านไปยังไม่ถึงหมื่นปีความก้าวหน้าของสหายน้อยผู้นี้ต้องบอกว่าเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ” สตรีงามผมแดงยิ้มขณะที่นางรำพึงกับตนเอง
ด้วยอายุของประมุขมหาเทพวิถีมรณะนางสามารถเรียกลินลี่ย์ได้ว่า ‘สหายน้อย’ นับว่าสมเหตุผลแล้ว
“เอ๊ะ?” สตรีงามผมแดงหันไปมอง “ช่างบังเอิญเสียจริง! นางมาถึงประตูเทเลพอร์ตเดียวกันกับข้า”
“เร็วๆ หน่อย” สตรีงามผมแดงส่งสำนึกเทพบอก
“ไม่ต้องรีบร้อน อีกสองคนยังมาไม่ถึง” เสียงอ่อนโยนดังขึ้นและแสงสีเขียวปรากฏขึ้นที่ข้างๆ สตรีผมแดง นี่คือสตรีงามวัยกลางคนสวมชุดยาวสีเขียว คิ้วของนางโก่งดุจจันทร์เสี้ยวขณะที่ดวงตานางเป็นประกายดุจดวงดาว รอยยิ้มของนางเพียงพอทำให้ผู้คนลุ่มหลงมึนเมาได้
สิ่งที่แปลกก็คือนางมิได้เปล่งรัศมีวิญญาณออกมาแม้แต่น้อย รัศมีวิญญาณของนางถูกรั้งไว้ในตัวอย่างสิ้นเชิง ทุกคนคงจะคิดได้ว่าความสำเร็จในเคล็ดลึกลับของนางย่อมเกี่ยวข้องกับวิญญาณ
นางคือหนึ่งในสี่ประมุขมหาเทพของสี่วิถี ประมุขมหาเทพวิถีชีวิต
“ท่านพี่” ประมุขมหาเทพวิถีชีวิตยิ้มและกล่าว “ไม่ได้พบกันนานเลยนะ”
“ใช่แล้ว, ไม่ได้พบกันนานเลยทีเดียว ครั้งสุดท้ายก็ระหว่างสงครามมหาพิภพครั้งก่อนเมื่อล้านล้านปีที่แล้ว จริงสิ วาวาย่า,ข้าขอเตือนเจ้าล่วงหน้าเลย เรื่องนี้เกี่ยวพันกับลินลี่ย์.. ข้ามองดูสหายน้อยผู้นี้เติบมาด้วยตัวเอง เว้นแต่จำเป็นจริงๆ อย่าได้ฆ่าเขา” สตรีงามผมแดงกล่าว
“ไม่ต้องห่วง” รอยยิ้มของประมุขมหาเทพวิถีชีวิตเฉิดฉันท์อยู่เสมอ “อย่างไรก็ตาม,ถ้าการกระทำของลินลี่ย์ล่วงละเมิดข้อตกลง อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรที่ข้าจะทำได้”
“ใช่แล้วข้าจะไม่ทำให้ท่านอยู่ในสถานะที่แย่อย่างนั้น เฮ้, อีกสองคนกำลังจะมาถึงทีละคน อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้มาทางวงเวทเทเลพอร์ตเดียวกันกับเรา” สตรีงามผมแดงมองดูแต่ไกล “มาเถอะ, เราไปกันก่อน
ทันใดนั้นสตรีทั้งสองประมุขมหาเทพสองวิถีบินไปยังที่กลุ่มลินลี่ย์อยู่ด้วยความเร็วสูง
เมื่อพบว่าสี่ประมุขมหาเทพสี่วิถีเข้ามาในโลกธาตุลมศักดิ์สิทธิ์แล้วประมุขมหาเทพแห่งลมดิยาย่อมออกมาต้อนรับพวกเขาเป็นธรรมดา ในแง่ของพลังสี่ประมุขมหาเทพสี่วิถีเหนือกว่าประมุขมหาเทพของเจ็ดสายธาตุมากนัก แต่ในแง่สถานะ ประมุขมหาเทพของสี่วิถีก็ยังเหนือกว่าพวกเขามาก เมื่อประมุขมหาเทพเจ็ดสายธาตุอื่นมาอยู่ต่อหน้าประมุขมหาเทพสี่วิถี พวกเขาจะต้องแสดงความเคารพกันทุกคน
จากตรงนี้ทุกคนคงสามารถระบุได้ว่าสถานะของพวกเขาสูงส่งเพียงไหน
ดิยาจ้องมองรังสีแสงสี่สายที่กำลังบินเข้ามา เขาแสดงความเคารพพวกเขาทันที “คารวะ ท่านประมุขมหาเทพ!”
ผู้มาใหม่ทั้งสี่เป็นสตรีสอง ประมุขมหาเทพวิถีมรณะผู้ดูเหมือนหญิงสาวแรกรุ่นความจริงนางมีอายุพอๆกับอายุของยมโลก ที่สำคัญนางเป็นสิ่งมีชีวิตรุ่นแรกๆ ของยมโลก นี่คือเหตุผลที่ประมุขมหาเทพวิถีชีวิตเรียกนางว่า ‘ท่านพี่’เป็นไปได้ว่าบรรดาสี่ประมุขมหาเทพสี่วิถี มีแต่เพียงประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างที่พอจะเทียบได้กับประมุขมหาเทพวิถีมรณะ
“ดิยา, จงมาพร้อมกับเรา” บุรุษผมขาวชุดขาวหัวเราะอย่างเยือกเย็น
บรรดาประมุขมหาเทพสี่วิถีประมุขมหาเทพวิถีชีวิตและวิถีชะตาสามารถเก็บรั้งรัศมีเทพของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์ ต่อให้ใครปิดตาก็ตาม เขาจะไม่สามารถรู้สึกได้ถึงความคงอยู่ของทั้งสองคนนี้ได้เลย
“ขอรับ” ดิยาติดตามสี่ประมุขมหาเทพสี่วิถีไปอย่างพินอบพิเทา
ที่เหนือทะเล อสูรโลหะที่อยู่ในรูปเรือสั่นสะเทือนทันที
“สี่ประมุขมหาเทพของสี่วิถีกำลังมาถึง” ลินลี่ย์ยืนขึ้นและทอดสายตามองในที่ไกล เบรุตและบลูไฟร์ชะเง้อคอมองดูเช่นกัน
“ประมุขมหาเทพของสี่วิถี พวกเขาสามารรถตรวจสอบสำนึกเทพของเจ้าได้หรือไม่,ลินลี่ย์?” เบรุตส่งสำนึกเทพถาม
“พวกเขาไม่สามารถรู้สึกได้ ข้าเพิ่งใช้พลังมหาเทพหลอมรวมตรวจสอบดูประมุขมหาเทพของสี่วิถีไม่มีปฏิกิริยาเลยแม้แต่น้อย และจากนั้นข้าใช้พลังมหาเทพธาตุดิน ถึงตอนนั้นพวกเขาจึงสังเกตถึงข้าได้” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพตอบ แม้ว่าเขาจะได้เปรียบที่สำนึกเทพ แต่ลินลี่ย์ยังคงระมัดระวังต่อประมุขมหาเทพของสี่วิถี
ในแง่พลังที่น่าห่วง ไม่มีสี่ประมุขมหาเทพวิถีคนใดที่อ่อนแอเลย
“พวกเขากำลังมา!” สายตาของลินลี่ย์เพ่งมองร่างทั้งห้าแต่ไกล
หญิงสาวงามผมแดงบุรุษชุดดำหม่น สตรีงามวัยกลางคนชุดเขียว และผู้อาวุโสผมขาวในชุดขาว
ทั้งสี่คนนี้..เป็นสี่ประมุขมหาเทพแห่งวิถีต่างๆ!
“ประมุขมหาเทพวิถีชีวิตและประมุขมหาเทพวิถีชะตา..รัศมีของพวกเขาถูกรั้งเก็บไว้ได้อย่างสิ้นเชิง และไม่มีร่องรอยรั่วออกมา ดูเหมือนกับว่าพวกเขาทั้งสองคนถึงแค่ระดับเทพพารากอนในแง่เคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธรรมดา” ลินลี่ย์รู้สึกระมัดระวังตัวมาก ตอนนี้มีแนวโน้มว่าเขายังไม่ใช่คู่ต่อกรสำหรับพวกเขา “ประมุขมหาเทพวิถีมรณะเป็นสิ่งมีชีวิตแรกๆในยมโลกทักษะเทพธรรมชาติของนางไม่อ่อนแอไปกว่าของเบรุต ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างมีแนวโน้มว่าไม่ใช่ผู้อ่อนแอที่สุดของประมุขมหาเทพสี่วิถี”
หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ประมุขมหาเทพสี่วิถีแต่ละคนนี้ไม่อาจหยั่งถึงได้
“คารวะท่านประมุขมหาเทพทั้งหลาย” เบรุตแสดงความเคารพทันที
“คารวะประมุขมหาเทพ” ลินลี่ย์และบลูไฟร์แสดงความเคารพเช่นกัน
เมื่อเผชิญหน้ากับประมุขมหาเทพสี่วิถี ต่อให้เป็นประมุขมหาเทพเจ็ดสายธาตุก็ยังจะต้องแสดงความเคารพ ในเวลานี้ลินลี่ย์ไม่ได้แสดงอาการหยิ่งและพยายามตีเสมอกับประมุขมหาเทพสี่วิถี
“ลินลี่ย์! เราพบกันอีกครั้งแล้วนะ” หญิงงามผมแดงหัวเราะขณะมองดูลินลี่ย์ “ครั้งแรกที่เราพบกันที่ภูเขาสิ้นหวัง เจ้าเพิ่งจะเข้าถึงระดับผู้บัญชาการ ครั้งที่สองที่เราพบกันเจ้ากลายเป็นพารากอนแล้ว ครั้งที่สามนี้เจ้ากลับกลายเป็นมหาเทพเสียแล้ว”
“ลินลี่ย์น่าจะฝึกฝนมาไม่ถึงหมี่นปีจนบัดนี้แน่” ผู้อาวุโสชุดขาวเคราขาวของทั้งสี่ประมุขมหาเทพยิ้มให้ขณะมองดูลินลี่ย์ เหมือนกับให้ความเอ็นดู “เจ้ายอดเยี่ยมจริงๆ!”
ลินลี่ย์ไม่คาดเลยว่าทันทีที่เขาพบกับประมุขมหาเทพสี่วิถีมีอยู่สองคนชื่นชมเขา นี่ทำให้ประมุขมหาเทพแห่งลมดิยารู้สึกกังวลและโกรธในใจ
“ประมุขมหาเทพทั้งหลาย ลินลี่ย์ผู้นี้ฆ่าเทเรเซีย...” ดิยารีบกล่าว
สตรีงามผมแดงยิ้มเล็กน้อย “มหาเทพกำลังมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรารอให้พวกเขามาถึงกันหมดเสียก่อนแล้วจึงค่อยว่ากัน”
ขณะนั้นเอง...
มหาเทพอื่นๆก็เดินทางมาถึง
พวกแรกที่มาถึงคือมหาเทพธาตุลม จากนั้นก็เป็นประมุขมหาเทพต่างๆของสายธาตุต่างๆ เช่นออกุสตา จากนั้นก็เป็นมหาเทพอื่น ไม่ถึงชั่วโมงนับแต่พวกเขาพบกันมหาเทพชุดสุดท้ายก็เดินทางมาถึง มีมหาเทพมาถึงมากกว่าหกสิบคน ต้องเข้าใจว่ามหาเทพมีเพียง 77 คนหรืออาจจะพูดตรงๆ ก็คือร่างแยกที่เป็นมหาเทพ ตัวอย่างเช่นลินลี่ย์มีร่างแยกที่เป็นมหาเทพถึงสามร่าง
นอกจากมหาเทพน้อยคนที่อยู่ในพิภพโลกธาตุหรือพิภพศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเอง มหาเทพทุกคนที่ได้ทราบข่าวล้วนมากันทั้งหมด
“มหาเทพมากมายนัก ในอดีตข้าไม่เคยเห็นมหาเทพมารวมตัวกันมากมายขนาดนี้” เบรุตส่งสำนึกเทพพร้อมกับหัวเราะ และลินลี่ย์ก็มองดูรอบๆ เช่นกัน
มหาเทพรวมตัวกันเป็นกลุ่มสองคนบ้างสามคนบ้างลอยตัวอยู่บนอากาศเหนือเรือ