ตอนที่ 21-10 กระบี่เจตจำนง
ดินไฟ น้ำ ลม สี่กฎธาตุเคล็ดความรู้สี่กฎธาตุที่ลินลี่ย์เลือกขึ้นมาจากกฎธาตุตามลำดับก็คือ ‘เคล็ดชีพจรโลก’ ‘เคล็ดพลังระเบิด’ ‘เคล็ดวังวนอ่อนหยุ่น’ ‘เคล็ดพลังโจมตีมิติ’ บรรดาสี่เคล็ดที่หลอมรวมยากที่สุดก็คือเคล็ดพลังระเบิด
ระหว่างห้าพันปีที่ผ่านมาลินลี่ย์มีความเข้าใจกฎธาตุดินและกฎธาตุน้ำลึกซึ้งมากขึ้น
นี่ทำให้การหลอมรวมเคล็ดชีพจรโลกพลังโจมตีมิติ และเคล็ดวังวนอ่อนหยุ่นที่ลินลี่ย์หลอมรวมได้นานแล้วกลายเป็นหนึ่งเดียว ขณะที่เคล็ดลึกลับพลังระเบิดยังติดอยู่ที่คอขวดในการหลอมรวมกับเคล็ดพลังโจมตีมิติ เมื่อหลอมรวมได้สำเร็จจากนั้นก็เหลือแต่เพียงขั้นตอนสุดท้ายหลอมรวมเคล็ดความรู้ทั้งสี่ให้กลายเป็นหนึ่ง
“ครืน...” คลื่นกระทบผาลาดของภูเขา
ลินลี่ย์ลอยตัวอยู่กับที่ในกลางอากาศ “ตอนนี้ ข้ายังมีอีกสองขั้นตอน ขั้นตอนแรกหลอมรวมเคล็ดระเบิดกับเคล็ดพลังโจมตีมิติให้สำเร็จ จากนั้นต้องหลอมรวมเคล็ดทั้งสี่ให้เป็นหนึ่ง ตอนนั้นเมื่อเคล็ดทั้งสี่หลอมรวมกันหมดได้พลังโจมตีคงจะยิ่งใหญ่เหนือออกุสตา”
และจากนั้นลินลี่ย์สูดหายใจสงบจิตใจขณะมองดูรอบตัว อย่างไรก็ตามไม่มีแสงอาทิตย์ใดๆในโลกหมื่นกิโลเมตรนี้
ลินลี่ย์เงยหน้าจากนั้นพูดคำหนึ่ง “แสง!”
ทันทีนั้นด้วยพลังมหาเทพเป็นแกนหลักอนุภาคนับไม่ถ้วนของแก่นธาตุเริ่มรวมตัวกัน และเริ่มบีบอัดกันอย่างรุนแรงและจากเกิดเป็นดวงกลมลอยอยู่ในกลางท้องฟ้า ดวงอาทิตย์! ดวงอาทิตย์ลอยสูงอยู่ในท้องฟ้า ฉายรัศมีทั่วทั้งพิภพทั้งหมด
แต่ด้วยความคิดหนึ่งลินลี่ย์ต้องการสร้างเยื่อพลังคลุมรอบดวงอาทิตย์ปกป้องเอาไว้
“ปกติ มันจะดึงแก่นธาตุเข้าไปหามันอย่างต่อเนื่อง และหลังจากนั้นมันจะปล่อยแก่นธาตุออกมาในรูปของแสงอาทิตย์ในวงโคจรตลอดไป” ลินลี่ย์ยิ้มและจากนั้นใช้วิชากับอีกพิภพข้างหนึ่งสร้างดวงจันทร์ ภายในพิภพนี้พระอาทิตย์และพระจันทร์โคจรกันอย่างต่อเนื่อง
เมื่อดวงอาทิตย์ตกหายลับขอบภพและไปปรากฏที่ด้านหลังพิภพ ดวงจันทร์จะเริ่มขึ้นมาทอแสง
“ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว” ลินลี่ย์มองดูรอบๆ ตัวเขา มีพื้นดิน ภูเขาทะเล.. แต่ไม่มีชีวิต.. อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ไม่สามารถสร้างชีวิตใหม่ได้ อย่างมากเขาแค่สามารถนำสิ่งมีชีวิตจากที่อื่นมาที่นี้
“แครก...”
รอยแยกมิติขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในท้องฟ้าทันทีและมีร่างสองคนบินเข้ามา หนึ่งในนั้นคือเบรุตในชุดสีดำ ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นบลูไฟร์ในชุดขาว ทั้งสองค่อนข้างประหลาดใจและสงสัย
“ฮ่าฮ่า, ลินลี่ย์ แม้ว่าพิภพศักดิ์สิทธิ์หลอมรวมของเจ้านี้จะเล็กไปหน่อย แต่ในแง่ความเสถียรของพื้นที่ ยังดูเหนือกว่าโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ด และแทบใกล้เคียงกับสี่พิภพชั้นสูงแล้ว” เบรุตโบกมือตัดมิติขาดจากกันจากนั้นประเมิน “และสถานที่นี้ทั้งโลกดินและโลกน้ำมีความหนาแน่นของธาตุมากอีกด้วย”
ลินลี่ย์ถอนหายใจหัวเราะเบาๆ “อย่าล้อข้าเล่นเลย ข้าใช้เวลามากกว่าสี่พันปี แต่ทำได้เพียงพิภพขนาดเล็กเท่านี้ได้”
“เราไม่ได้ล้อเจ้า” บลูไฟร์มองดูพื้นที่รอบๆ จากนั้นหัวเราะ “เราสามารถสร้างพิภพได้ แต่น่าเสียดาย เราไม่สามารถสร้างชีวิตใหม่ได้”
“การสร้างชีวิตใหม่ไม่ใช่ขอบเขตที่เราเหล่ามหาเทพจะเข้าไปก้าวก่ายได้” เบรุตหัวเราะอย่างเยือกเย็น จากนั้นมองดูลินลี่ย์ เขาพูดอย่างคาดหวัง “ลินลี่ย์! เจ้าใช้เวลาห้าพันปีที่นี่ ด้วยความเร็วในการฝึกฝนของเจ้า โดยเฉพาะหลังจากกลายเป็นมหาเทพที่มีสองร่างแยก... ข้าคาดว่าตอนนี้เจ้าคงฝึกฝนได้เร็วกว่าตัวเจ้าก่อนเป็นมหาเทพถึงร้อยเท่า ในช่วงห้าพันปีที่ผ่านมาความก้าวหน้าในการฝึกฝนของเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?”
ตาของบลูไฟร์เป็นประกายขณะที่เขามองดูลินลี่ย์อย่างกระตือรือร้น
“ข้าหลอมรวมห้าเคล็ดลึกลับของกฎธาตุดินและสี่เคล็ดลึกลับของกฎธาตุน้ำ” ลินลี่ย์ถอนหายใจขมวดคิ้ว “อย่างไรก็ตามข้ายังค่อนข้างอ่อนเมื่อต้องหลอมรวมเคล็ดต่างสายธาตุสี่เคล็ดยิ่งข้าฝึกเพิ่มมากขึ้นก็กลายเป็นเรื่องยาก ข้าคิดว่าเพื่อให้ข้าเชี่ยวชาญการหลอมรวมสี่กฎธาตุเหล่านี้ ข้าคงต้องใช้เวลาอีกสองสามพันปี..มันเป็นเวลาที่ไม่แน่นอน”
เบรุตและบลูไฟร์มองหน้ากันเอง
กระบวนการฝึกฝนของลินลี่ย์เป็นไปตามที่พวกเขาคาด ที่สำคัญห้าพันปีของการฝึกในฐานะเป็นมหาเทพเทียบได้กับห้าแสนปีของการฝึกในฐานะเป็นเทพชั้นสูง
สามมหาเทพเพียงแต่ยืนนิ่งในพิภพศักดิ์สิทธิ์หลอมรวมเกิดใหม่สนทนากันอย่างร่าเริง
“ลินลี่ย์,เมื่อไหร่เจ้าจะกลับไปพิภพยูลาน?” เบรุตถามทันที
“ข้าไม่รีบ ร่างหลักของข้ายังคงอยู่ในปราสาทเลือดมังกร ดังนั้นข้าไม่จำเป็นต้องรีบกลับไป ข้าเตรียมตัวจะพัฒนาสิ่งที่จะทำให้ข้าโจมตีได้ทรงพลังมากที่สุด” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น “ตอนนี้ความเข้าใจของข้าในเคล็ดลึกลับของกฎธาตุเพิ่มขึ้นสูงมาก สุดยอดไม้ตายย่อโลกไม่เหมาะสมกับข้าต่อไปอีกแล้ว”
“มีเหตุผล” เบรุตและบลูไฟร์พยักหน้าทั้งคู่
“อย่างนั้นเราจะรอเจ้าอยู่ที่พิภพยูลาน ฮ่าฮ่า..หลังจากเจ้าพัฒนาไม้ตายได้สำเร็จ เจ้าจะต้องเอามาอวดเราด้วย” เบรุตหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขากับบลูไฟร์จึงจากไปพร้อมกัน
พัฒนาไม้ตายที่เหมาะสมกับตนเองคงใช้เวลาไม่นานมาก โดยทั่วไปราวๆ สิบวันก็คงเพียงพอ
เดินไฟ น้ำ ลม, สี่ธาตุเหล่านี้มีเคล็ดลึกลับรวมยี่สิบเจ็ดเคล็ด จะเลือกเคล็ดลึกลับสี่เคล็ดที่เหมาะสมที่สุดออกมาได้เป็นเรื่องแสนยุ่งยาก อย่างไรก็ตามเนื่องจากระดับความเข้าใจของลินลี่ย์ในเคล็ดเหล่านั้นและความจริงที่ว่าเขาตัดสินใจพัฒนาพลังโจมตีวัตถุ เขาเลือกเคล็ดชีพจรโลกเคล็ดพลังระเบิด เคล็ดวังวนอ่อนหยุ่นและเคล็ดพลังโจมตีมิติ
ในบรรดาเคล็ดเหล่านี้ชีพจรโลก พลังระเบิดและพลังโจมตีมิติเป็นเคล็ดลึกลับที่เน้นพลังโจมตีที่ทรงพลังน่ากลัว
การหลอมรวมเคล็ดเหล่านั้นเข้าด้วยกันแทบเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นลินลี่ย์เลือกวังวนอ่อนหยุ่นมาเป็นตัวเชื่อมประสานทำให้เคล็ดลึกลับสามเคล็ดหลอมรวมกันได้อย่างสมบูรณ์
ตามแผนของลินลี่ย์...
ถ้าเขาเลือกพลังที่เน้นการโจมตีมากที่สุดของกฎธาตุทั้งสี่และผสานเข้าด้วยกันพลังก็คงจะถึงระดับที่คาดไม่ถึง
ภายในพื้นที่ว่างกระแสพลังงานปั่นป่วนไหลกระจายไปทุกที่ เกิดเป็นดาวหางนับไม่ถ้วนมีลักษณะที่สับสนและดูสวยงาม
ลินลี่ย์ยืนนิ่งกับที่ภายในมิติว่างมือถือกระบี่เงาลวง บางครั้งเขาจะหลับตาและไตร่ตรองจากนั้นวาดมือเพื่อทดสอบพลังโจมตีเป็นครั้งคราว การทดสอบทุกครั้งทำให้มิติพังทลาย
“แม้ว่าข้าจะหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้สามเคล็ดแล้วก็ตามแต่เคล็ดลึกลับที่สี่ของเคล็ดพลังระเบิดยังหลอมรวมเข้าไม่ได้ นั่นก็ดีแล้ว เคล็ดระเบิดจะทำให้พลังโจมตีของข้ารวมเข้าเป็นจุดเดียวจากนั้นก็ระเบิดพลังออกไปทันที” ถ้ากระแสพลังงานนับไม่ถ้วนถูกรวมกันไว้ในจุดเดียวกันพลังโจมตีนั้นจะมากมายเพียงไหน?
ขณะที่ลินลี่ย์ฝึกไม้ตายที่สมบูรณ์ที่สุดของเขา ทันใดนั้นเขาเกิดประกายความคิดขึ้นมาทันที
“กระบี่?” ดวงตาของลินลี่ย์ทอประกาย “พลังจิตของข้าทรงพลังยิ่งกว่ามหาเทพธรรมดามากมายนัก ทำไมข้าไม่หลอมรวมพลังจิตวิญญาณเข้าไว้ในพลังโจมตีเล่า เมื่อข้าโจมตีด้วยกระบี่ของข้า ข้าจะใช้พลังโจมตีวัตถุและพลังโจมตีวิญญาณได้พร้อมกัน!”
เขาแปลกใจและลองเริ่มทันที
วันที่สิบหกของการค้นคว้าในมิติที่ว่างเปล่า
หลังจากล้มเหลวและก้าวหน้าทั้งปรับเปลี่ยนแก้ไขนับไม่ถ้วน...เขาทำให้ไม้ตายของเขาบริบูรณ์ยิ่งขึ้น จนถึงจุดที่ลินลี่ย์ไม่สามารถทำให้สมบูรณ์ยิ่งไปกว่านี้อีกได้แล้ว ในที่สุดเขาจึงสร้างสุดยอดไม้ตายที่ทรงพลังที่สุด
“ในที่สุดข้าก็ทำได้อย่างเสร็จสิ้นสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม พลังโจมตีวัตถุและพลังโจมตีวิญญาณจำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดของข้าเพื่อควบคุม ดูเหมือนว่าข้าจะจำเป็นต้องใช้วิญญาณทั้งสองแยกกันควบคุมคนละด้าน” ทั้งพลังโจมตีวิญญาณและพลังโจมตีวัตถุทั้งคู่เป็นสุดยอดไม้ตายทั้งนั้น การใช้พลังโจมตีแต่ละอย่างทำให้ลินลี่ย์ต้องเพ่งสมาธิเต็มที่ไม่สามารถจะฟุ้งซ่านได้
ดังนั้นทางเลือกเดียวของเขาก็คือต้องใช้วิญญาณทั้งสองของเขาแยกกันควบคุมในแต่ละไม้ตาย
“ได้เวลาทดสอบพลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของข้า”
ลินลี่ย์ยิ้มและโบกมือ กระบี่เงาลวงหายไปและสิ่งที่ปรากฏก็คือกระบี่จอมเทพวิถีชีวิต!
เขาถือกระบี่จอมเทพวิถีชีวิตไว้ในมือจ้องมองอากาศว่างเปล่าในที่ไกลเขม็ง
พลังมหาเทพหลอมรวมเติมเต็มกระบี่จอมเทพวิถีชีวิต รัศมีพลังที่น่ากลัวแผ่ออก “วิ้วววววว” กระแสพลังงานปั่นป่วนนับไม่ถ้วนฉีกมิติที่อยู่รอบๆ ด้าน แม้แต่ก่อนที่กระบี่จอมเทพวิถีชีวิตจะปล่อยพลังโจมตี พลังของมันก็ยังรู้สึกได้
“ครืนนน...”
กระบี่เคลื่อนไหว!
เป็นเหมือนกับอัสนีบาตสีเขียว
ปลายของกระบี่จอมเทพวิถีชีวิตเปล่งรัศมีของพลังงานกระบี่ที่แหลมคมฉีกมิติขาดจนไกลสุดสายตา เหมือนกับมังกรยักษ์นับไม่ถ้วน มิติแตกทลายและดึงดูดกันเองทำให้พื้นที่มิติว่างพังทลาย!
พื้นที่พังทลายกว้างถึงร้อยเมตร แต่ความยาวมากกว่าล้านกิโลเมตร
เมื่อพลังโจมตีนี้ถูกปล่อยออกไป รังสีกระบี่มากมายนับไม่ถ้วนจะถูกยิงออกไปและมีกระบี่เงาใสขนาดเล็กเท่าฝ่ามือถูกยิงออกไปพร้อมกันด้วย
“น่าเสียดาย! ข้าไม่สามารถเพิ่มเคล็ดระเบิดเข้าไปด้วยได้ ดังนั้นแนวโจมตีของกระบี่จึงมีความกว้างร้อยเมตร! ถ้าข้าสามารถบังคับให้อยู่ในแนวเดียวได้ อย่างนั้นจึงจะเป็นไม้ตายที่สมบูรณ์แบบ” ลินลี่ย์ประเมิน แต่แม้ว่าเขาจะพูดอย่างนี้ก็ตาม แต่รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา แสดงว่าลินลี่ย์พอใจกับตนเอง
พลังโจมตีนี้ประกอบไปด้วยทั้งพลังโจมตีวัตถุและพลังโจมตีวิญญาณ
“ในเมื่อมันแฝงไปด้วยพลังโจมตีสองรูปแบบแตกต่างกัน อย่างนั้นข้าจะตั้งชื่อว่า ‘กระบี่เจตจำนง’!”
กระบี่เจตจำนงเป็นกระบี่เจตจำนงจริงๆ กระบี่คือพลังโจมตีวัตถุ ขณะที่เจตจำนงคือพลังโจมตีวิญญาณ
“ข้ามองเห็นวันข้างหน้าเมื่องข้าหลอมรวมเคล็ดลึกลับทั้งสี่ได้อย่างบริบูรณ์ พลังโจมตีของกระบี่เจตจำนงของข้าจะเพิ่มขึ้นไประดับไหน? ลินลี่ย์หมุนตัวก้าวเดินผ่านพื้นที่พันกิโลเมตรเข้าไปในพิภพศักดิ์สิทธิ์ที่เขาสร้าง ที่สำคัญมีประตูมิติภายในที่เชื่อมโยงพิภพดินศักดิ์สิทธิ์และพิภพน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่พิภพยูลาน
เขาผ่านประตูมิติภายในและมาถึงพิภพยูลาน
ปราสาทเลือดมังกร พิภพยูลาน
ลมพัดใบไม้แห้งร่วงหล่นเกลื่อนกล่นอยู่ทุกแห่งหน เป็นช่วงท้ายฤดูใบไม้ร่วง ห้าพันปีผ่านไปร่องรอยทางประวัติศาสตร์ยังปรากฏอยู่บนต้นไม้แต่ละต้น กระเบื้องแต่ละแผ่นและก้อนหินแต่ละก้อนภายในปราสาทเลือดมังกร
ภายใต้ต้นไม้ดึกดำบรรพ์ที่มีขนาดใหญ่โตสิบคนโอบลินลี่ย์ เบรุตและบลูไฟร์กำลังสมาคมกันอยู่
มหาเทพทั้งสามก่อตั้งความเป็นกลุ่มเล็กๆตามปกติ
“ปู่เบรุต! ท่านว่ากระไรนะ?” ลินลี่ย์ตกใจอย่างหนัก “เราควรจะออกไปหรือ?”
“ถูกแล้ว” เบรุตยิ้มจากนั้นพยักหน้า
“แต่ระดับพลังปัจจุบันของข้า...ข้ายังไม่มั่นใจความสามารถว่าจะสู้กับประมุขมหาเทพแห่งแสงได้” ลินลี่ย์รีบบอก ที่สำคัญออกุสตามีสมบัติจอมเทพ”
“เมื่อเจ้าสร้างโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์และฝึกฝนอยู่ บลูไฟร์กับข้าพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างระมัดระวังแล้ว” เบรุตหัวเราะ “เจ้าพยายามหลอมรวมเคล็ดลึกลับต่างสายธาตุ นี่จะยากกว่าการกลายเป็นพารากอนในสายธาตุเดียวเสียอีก! แม้ว่าเจ้าจะมีความก้าวหน้ามากในช่วงห้าพันปีที่ผ่านมา แต่ข้ากังวลว่าแม้ว่าเจ้าจะใช้เวลาอีกห้าพันปี บางทีเจ้าก็คงไม่มีความก้าวหน้าใหญ่ตามมา”
ลินลี่ย์ได้แต่เงียบ
การหลอมรวมสี่เคล็ดลึกลับต่างสายธาตุ พลังจะมีอย่างมหาศาล แต่ระดับนั้นจะยากเกินไป ระดับความยากในความเป็นจริงมากยิ่งกว่าการเป็นพารากอนในกฎธาตุเดียวกัน
“ดังนั้น เราตัดสินใจกระทำการอย่างอื่น” บลูไฟร์ร่วมพูดด้วย
“จะทำอะไร?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะที่เขามองดูบลูไฟร์และเบรุต
“เจ้าเป็นมหาเทพหลอมรวม” เบรุตยิ้ม “นอกจากนี้ เจ้ามีถึงสี่ร่างแยก ปัจจุบันนี้เจ้าหลอมรวมสองประกายมหาเทพ ในความเป็นจริงศักยภาพของเจ้ายังไม่ถูกปล่อยออกมาอย่างแท้จริง แผนของเราก็คือไปจากพิภพยูลานและไล่ล่ามหาเทพ! เราจะให้เจ้าหลอมรวมกับประกายมหาเทพอื่น!”
ลินลี่ย์รู้สึกตกใจอย่างช่วยไม่ได้
บลูไฟร์พยักหน้าขณะที่เขามองดูลินลี่ย์เช่นกัน
“ด้วยพลังของเจ้า หลังจากเจ้าหลอมรวมประกายมหาเทพอื่น ความแข็งแกร่งของเจ้าจะยิ่งใหญ่กว่าประมุขมหาเทพธรรมดา อาจจะเหนือกว่าพลังของประมุขมหาเทพแห่งแสงด้วยซ้ำ” ประกายตาของเบรุตร้อนแรง “ถึงตอนนั้นเราสามมหาเทพพิภพยูลานก็จะสามารถออกไปใช้ชีวิตอิสระร่วมในโลกมหาเทพได้”
“การฆ่ามหาเทพจะทำให้มหาเทพอื่นโกรธเกรี้ยวจนมาหยุดยั้งเราได้ไม่ใช่หรือ?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว