ตอนที่ 21-2 สุสานเทพเจ้าชั้นสิบแปด
ท้องฟ้าเหนือทะเลใต้ของพิภพยูลาน เบรุตและคนอื่นๆ กำลังบินผ่านด้วยความเร็วสูง
“กลายเป็นมหาเทพ?” ลินลี่ย์มองดูเบรุตที่อยู่ข้างหน้า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงวันเวลาสั้นๆนี้น่าตกตะลึงมาโดยตลอด ลินลี่ย์รู้สึกมึนชาไปหมด ตอนแรกเป็นเป็นเบรุตแสดงพลังของมหาเทพ จากนั้นบลูไฟร์ก็ยังแสดงพลังของมหาเทพ ตอนนี้หลังจากนั้น เขาพบกับจอมเทพวิถีชีวิต ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนฝันจริงๆ
และตอนนี้เกี่ยวกับเรื่องที่เบรุตพูด ดูเหมือนว่าเขาจะช่วยทำให้ลินลี่ย์กลายเป็นมหาเทพได้
ลินลี่ย์พยายามสงบใจให้เยือกเย็น แล้วเขาจึงพูดออกมา “ลอร์ดเบรุต ทำไมท่านเลือกข้าสำหรับโอกาสที่ล้ำค่าให้กลายเป็นมหาเทพเล่า? แฮรี่, บีบีและคนอื่น..ท่านน่าจะเลือกพวกเขา” ลินลี่ย์พูดอย่างมึนงง ความจริงที่กล่าวกัน ว่าด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดที่สุด แฮรี่และน้องๆของเขาก็เป็นลูกของเบรุตเอง
“พวกเขาน่ะหรือ?” เบรุตหันมามองดูลินลี่ย์ จากนั้นหัวเราะ “ข้าให้โอกาสพวกเขา แต่พวกเขาไม่สามารถฉวยเอาไว้ได้”
“ปู่, ปู่หมายความว่ากระไรไม่สามารถรับเอาไว้ได้?”
บลูไฟร์ที่อยู่ใกล้เลิกคิ้วสีแดง จากนั้นหัวเราะขณะที่เขามองดูในที่ไกลทะเลไร้ขอบเขตข้างหน้าพวกเขา “เอาละเรามาถึงที่ข้างหน้าแล้ว”
“นี่คือ...” ลินลี่ย์แผ่สำนึกเทพไปข้างหน้า “น่าจะมีประตูเทเลพอร์ตอยู่ข้างล่างนี้ ทางเดินเข้าสุสานเทพเจ้าหรือนี่?” ในอดีตลินลี่ย์เคยเข้าไปในสุสานเทพเจ้ามาก่อน ตอนนั้นลินลี่ย์ยังเป็นแค่เซียน หลังจากมีประสบการณ์ทุกข์ยากลำบากนับไม่ถ้วน เขาได้รับประกายเทพ อย่างไรก็ตามครั้งนั้นลินลี่ย์มาหยุดชะงักที่ชั้นที่สิบเอ็ด
“เข้ามา” เบรุตกล่าวพร้อมกับยิ้ม จากนั้นบินลงไปโดยตรง
“ครืน...” น้ำทะเลที่สงบเงียบก่อนหน้านั้นพุ่งสูงขึ้น จากนั้นแยกออกเหมือนกับม่านน้ำทั้งสองด้านมองเห็นอุโมงค์ทอดลึกเข้าไปในทันที
ลินลี่ย์และบีบีติดตามเบรุตและบลูไฟร์ลงไปในทะเลลึกทันที
ลึกลงไปในทะเลเป็นที่เงียบสงัดไร้สรรพสำเนียง ไม่มีร่องรอยแห่งแสง สัตว์ทะเลลึกเคลื่อนไหวช้าๆ กลุ่มของลินลี่ย์สี่คนลงไปถึงก้นทะเลทันทีและเคลื่อนไหวผ่านอสูรเวททะเลลึกหลายตัวโดยไม่ให้ความสนใจกับพวกมัน
พื้นทะเลลึกเต็มไปด้วยพืชทะเลหลากหลายพันธุ์คล้ายกับใต้น้ำในเทือกเขา
แนวปะการังใต้ทะเลบ้างก็ชูยอดสูงถึงพันเมตรบ้างก็หยั่งรากจมลงลึกลงไปที่ก้นทะเลลึก
กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่เดินผ่านพื้นทะเลขณะที่ก้าวไปข้างหน้าทันใดนั้นเบรุตเลี้ยวและเข้าไปในร่องทะเลลึกของแนวปะการังถัดไป กลุ่มของลินลี่ย์สามคนได้แต่ตามไปอย่างเดียว อุโมงค์ที่ลึกไม่สิ้นสุดนี้เหมือนลำไส้สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งมืด เย็นและไม่อาจประเมินได้
“ปู่, เราจะไม่เข้าไปสุสานเทพเจ้าหรือ? ประตูเทเลพอร์ตมิติที่นำเข้าไปสุสานเทพเจ้าก็อยู่ข้างหน้าแท้ๆ เราจะไปที่ไหนกัน?” บีบีถามขณะติดตาม
“ข้าต้องไปเอาของอะไรบางอย่าง” เบรุตพูดพร้อมกับยิ้ม
ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความสงสัยแต่เขายังคงเงียบ และติดตามต่อไป หลังจากเดินลึกเข้าไปหมื่นเมตร ในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงที่สุดด้านล่างของอุโมงค์ลึกเป็นพื้นที่ว่างมีรัศมีหลายร้อยเมตร แต่สิ่งที่แปลกก็คือแม้แต่น้ำทะเลก็ยังถูกกันไว้ข้างนอก
“ปู่! สิ่งนี้คืออะไรกันแน่?” บีบีพูดด้วยความสงสัย
บลูไฟร์ที่อยู่ใกล้ถอนหายใจ“เบรุต! ท่านเตรียมการนี้มาตั้งแต่ในอดีตแล้ว แต่ดูเหมือนว่าการเตรียมการของท่านไม่จำเป็นต้องใช้ประโยชน์อีกต่อไปแล้ว”
เบรุตโบกมือและคลื่นแสงพลังสีเขียวพุ่งออกจากฝ่ามือของเบรุต รังสีเขียวนับสิบล้านสายกระจายเข้าไปในผนังศิลาของถ้ำลึก ผนังของถ้ำซึมซับแสงสีเขียวอย่างเต็มกำลังและทันใดนั้นอักษรเวทรูนเริ่มปรากฏบนผนังช้าๆ
“นี่คือรูปวงเวทหรือนี่?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะที่เขาพูด
“นี่เป็นผนึกวงเวทเฉพาะแบบ” บลูไฟร์หัวเราะขณะพูด “ในอดีต เบรุตวางแผนเอามันมาจากแดนนรก วงเวทผนึกเวทนี้เปลี่ยนแปลงโดยเบรุต ถ้าเจ้าต้องการใช้งานผนึกวงเวทนี้เจ้าจะต้องมีพลังระดับมหาเทพ มิฉะนั้นไม่มีทางที่เจ้าจะเปิดมันออก”
“ลอร์ดเบรุต?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ “วงเวทผนึกนี้ถูกสร้างขึ้นในพิภพยูลาน แต่มหาเทพอื่นไม่สามารถเข้าพิภพยูลานได้ ทำไมต้องระมัดระวังนักด้วยเล่า?”
“ข้าแค่เตรียมรับสถานการณ์ไม่คาดฝัน”
เบรุตถอนหายใจ “ข้ากังวลว่าสักวันหนึ่งข้าจะถูกประมุขมหาเทพแห่งแสงฆ่าตาย และถูกชิงสมบัติของข้าไป ดังนั้นข้าไม่เคยนำมันไปกับข้า แต่ข้ากลับเก็บไว้ที่นี่ในพิภพยูลานแทน ข้ากังวลว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงจะส่งเทพชั้นสูงมาชิงมันไป ดังนั้นจำเป็นว่าต้องมีใครบางคนที่มีพลังของมหาเทพที่สามารถเปิดผนึกวงเวทนี้ผ่านไปได้”
“ถ้าสักวันหนึ่งข้าต้องตายไป สมบัตินี้จะตกอยู่ในการดูแลรักษาของบลูไฟร์” เบรุตกล่าว อุโมงค์ใต้ทะเลลึกค่อยๆสว่างขึ้นจนกระทั่งแสบดวงตา
ทันใดนั้น....
“ปัง!”
ผนังทั้งสี่ด้านของถ้ำและพื้นสั่นสะเทือนทันทีทั้งหมดและจากนั้นสลายกลายเป็นฝุ่นไหลลงมา
“วงเวทผนึกใหญ่?” ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจทั้งหมดแล้ว เบรุตใช้วงเวทใหญ่เพื่อผนึกชั้นหินก้นสมุทรของถ้ำใต้น้ำ ด้วยความสามารถของเบรุตในการติดตั้งวงเวทขนาดใหญ่นี้ถ้าคนภายนอกต้องการจะทำลายผนึกนี้ อย่างน้อยพวกเขาจะต้องแข็งแกร่งเท่าเขา
แต่การติดตั้งผนึกนี้ไม่ใช่งานง่ายๆ
“ลอร์ดเบรุต, ทำไมท่านถึงทำลายผนึกวงเวทใหญ่ในวันนี้เล่า?” ลินลี่ย์พูดอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่มีวัตถุประสงค์ใดๆ ในการใช้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นข้าอาจจะต้องทำลายไปด้วยเช่นกัน” เบรุตยิ้ม จากนั้นโบกมือสายลมกระโชกพัดกวาดเอาทรายออกไปด้านหนึ่งและเผยให้เก็นกล่องสีดำขนาดเท่ากับฝ่ามือ ดวงตาของเบรุตเป็นประกาย และเขาเอื้อมมือไปหยิบกล่องสีดำ
บลูไฟร์ขณะเห็นเช่นนี้ก็หัวเราะเช่นกัน
“ปู่! มีอะไรอยู่ในนี้?” บีบีสงสัย
“เดาสิ?” เบรุตหัวเราะเบาๆ
“เป็นไปได้ไหมว่าเพราะสมบัตินี้ทำให้ประมุขมหาเทพแห่งแสงต้องการฆ่าปู่? สมบัตินี้ก็คือประกายมหาเทพ? หรือว่าเป็นสมบัติที่มีระดับเดียวกับเครื่องรางจอมเทพ?” บีบีเดา
“ฮ่าฮ่าาฉลาดมาก ถูกแล้ว,ได้เวลาที่เราต้องไปสุสานเทพเจ้ากันเสียที” เบรุตหัวเราะ
ลินลี่ย์ตามอยู่ด้านหลังเบรุตบินออกมาจากอุโมงค์ลึกและตรงไปที่ประตูเทเลพอร์ต ประตูเทเลพอร์ตตั้งอยู่บนศิลาดำขนาดมหึมาซึ่งอยู่ในใจกลางเหวทะเลลึก ระลอกมิติที่แปลกประหลาดที่กลุ่มของลินลี่ย์สามารถเห็นได้และรับรู้ได้แต่ไกล
“เปิดตัว” เบรุตได้รับการยอมรับจากมันและประตูมิติเปิดออก
คนทั้งสี่บินเข้าไปทันที
พวกเขาบินผ่านเข้าไปยังอีกฟากหนึ่งของประตูและที่ซึ่งพวกเขามาถึงเป็นดินแดนที่แตกต่าง
“สุสานเทพเจ้า” ลินลี่ย์เคยมาที่นี่ก่อนแล้ว เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังจำกัดของพิภพนี้ และเขาอดมองเบรุตอย่างสับสนมิได้ “ลอร์ดเบรุต พิภพแห่งนี้น่าจะมีระดับที่สูงกว่าพิภพโลกธาตุมาก มันเชื่อมต่อกับพิภพยูลานได้อย่างไร?” ลินลี่ย์เข้าไปในที่นี่เมื่อตอนที่เขายังเป็นเซียน
แม้แต่หนึ่งในเซียนชั้นสูงของทวีปยูลานอย่างเช่นเฟนศิษย์ของเทพสงครามก็ยังถูกจำกัดสำนึกเทพไว้เพียงราวๆสิบเมตร
“นี่คือพิภพที่สร้างขึ้นโดยมหาเทพ” บลูไฟร์หัวเราะอย่างเยือกเย็น “นี่เรียกกันว่าพิภพศักดิ์สิทธิ์ปกติอำนาจในการจำกัดพลังของมันจะยิ่งใหญ่กว่าของพิภพโลกธาตุ”
“อย่างไรก็ตาม เทียบกับแดนนรกอำนาจจำกัดของพิภพนี้ยังด้อยกว่าเล็กน้อย” ลินลี่ย์ประเมิน
เบรุตที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะ “ลินลี่ย์! เมื่อกลายเป็นมหาเทพผู้นั้นสามารถสร้างพิภพได้ อย่างไรก็ตามตามตำนาน แดนนรก ยมโลกแดนสวรรค์และแดนชีวิตถูกสร้างแยกต่างหากจากกันโดยสี่จอมเทพแต่ละตน แน่นอนว่าอำนาจจำกัดพลังย่อมยิ่งใหญ่มาก ขณะที่เจ็ดโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์ดินเหล่านั้นถูกสร้างโดยเจ็ดมหาเทพของแต่ละธาตุตัวอย่างเช่นโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างโดยประมุขมหาเทพแห่งแสงและอีกหกมหาเทพแห่งแสงก็ร่วมกันสร้างด้วย มีความเสถียรและทรงพลังมากกว่าดินแดนของข้าเช่นกัน ที่สำคัญนี่คือดินแดนที่ข้ามหาเทพน้อยสร้างขึ้นด้วยตนเอง”
“เป็นความจริง”ลินลี่ย์สงสัยอยู่แล้วว่าบางทีคงเป็นเบรุตที่สร้างพิภพแห่งนี้ขึ้น
“สร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์? ว้าว... นั่นเหลือเชื่อจริงๆ” บีบีร้องเรียกด้วยความประหลาดใจและยินดี “แต่ปู่,มหาเทพคงสามารถเข้าพิภพศักดิ์สิทธิ์ได้ใช่ไหม?ปู่ไม่กลัวหรือว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงจะมาเยือน?”
“ไม่ต้องห่วง พิภพศักดิ์สิทธิ์นี้เชื่อมโยงกับพิภพยูลาน ถ้ามหาเทพคนอื่นต้องการเข้ามาในพิภพศักดิ์สิทธิ์ของข้าทันทีที่พวกเขาแตะต้องชายขอบพิภพ ข้าในฐานะผู้สร้างพิภพจะต้องรู้ ถ้าประมุขมหาเทพแห่งแสงมา ข้าจะเข้าทวีปยูลานทันที” เบรุตยิ้ม
ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจชมเชย“เบรุตระมัดระวังตัวอย่างแท้จริง”
“สุสานเทพเจ้าอยู่ข้างหน้า” เบรุตชี้ในที่ไกล
น้ำของทะเลลึกทะลักเข้ามา ลินลี่ย์สามารถมองเห็นข้างหน้าได้ชัด มีสุสานยอดแหลมสามยอดสูงเกือบสองหมื่นเมตรและมีพื้นที่สองหมื่นเมตรเช่นกัน ที่ข้างหน้าสุสานยังคงมีรูปสลักมังกรไร้ปีกขนาดใหญ่ขดตัว มีรัศมีประหลาดอย่างแท้จริง
รูปสลักอื่นอีกสามด้านเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์อีกสามตัว
ครั้งก่อนลินลี่ย์ไม่เข้าใจแต่ครั้งนี้ลินลี่ย์เข้าใจทั้งหมด ลินลี่ย์รีบถามอย่างแตกตื่น “ลอร์ดเบรุต บรรดารูปสลักทั้งสี่รูปสลักมังกรยักษ์นี้เหมือนกับเงามายามังกรฟ้าที่ปรากฏขึ้นเมื่อข้าใช้ทักษะเทพธรรมชาติสำหรับรูปสลักของอสูรศักดิ์สิทธิ์อีกสาม ดูเหมือนกับรูปสลักอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าเห็นในเทือกเขาสกายไรท์ในแดนนรก มีอะไรพิเศษในที่แห่งนี้หรือ?”
“ถูกแล้วรูปสลักทั้งสี่นี้คือสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์” เบรุตพูดพลางถอนหายใจ
“ตามข้ามา” เบรุตเหาะตรงไปที่ยอดของสุสานเทพเจ้าทันที
ลินลี่ย์ติดตามไปทันที สุสานเทพเจ้านี้มีทั้งหมดสิบแปดชั้น โดยทั่วไปทุกคนจะต้องเข้าจากชั้นแรก จากนั้นมุ่งหน้าต่อไปเรื่อย แต่ครั้งนี้เบรุตพาลินลี่ย์และคนอื่นตรงไปที่ชั้นบนของสุสานเทพเจ้า และที่ผนังชั้นบนจู่ๆก็มีช่องอุโมงค์ปรากฏขึ้น
เบรุตและบลูไฟร์ก้าวเข้าไปข้างหน้า แม้ว่าลินลี่ย์และบีบีจะรู้สึกสงสัย แต่พวกเขายังคงติดตามมาจากด้านหลัง
นี่คือพื้นที่กว้างใหญ่ที่พวกเขาเข้ามา พื้นทั้งหมดสร้างจากหินสีฟ้ายาวสิบเมตรดูเหมือนจะยืดขยายออกไปไม่มีที่สิ้นสุด
พื้นเป็นสีฟ้า
ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า สีฟ้าล้วนๆ ไม่มีสีอื่นปะปน จึงดูสดใสและชัดเจน
เบรุตลินลี่ย์และคนอื่นปรากฏตัวบนพื้นศิลาสีฟ้า
“นี่คือ...?” ลินลี่ย์จ้องมองดูรอบๆ ด้วยความสงสัย โดยทั่วไปแต่ละชั้นของสุสานเทพเจ้าจะมีผู้พิทักษ์ประจำ แต่ชั้นนี้ไม่มีผู้พิทักษ์แม้แต่คนเดียว
“นี่คือชั้นบนสุดของสุสานเทพเจ้า ชั้นที่สิบแปด” เบรุตยิ้ม
บีบีพูดด้วยความประหลาดใจ “ปู่,ทำไมถึงไม่มีใครในชั้นที่สิบแปดตามตำนานเล่า? ควรจะต้องมีอันตรายที่น่ากลัวไม่ใช่หรือ?”
“ใครบอกว่าชั้นที่สิบแปดมีอันตราย?” เบรุตหัวเราะ
“ไม่ใช่ว่ายิ่งขึ้นไปชั้นสูงๆ ก็ยิ่งมีอันตรายมากขึ้นไม่ใช่หรือ?” บีบีบ่นพึมพำอย่างไม่เข้าใจ “เฮ้, พี่ใหญ่, ท่านจะไปไหน?” บีบีตระหนักได้ว่าลินลี่ย์กำลังเดินไปข้างหน้า
เบรุตเมื่อเห็นเหตุเช่นนี้เขาหัวเราะ “ไปกันเถอะ ลินลี่ย์พบเจอแล้ว”
ลินลี่ย์พบเจอจริงๆ ในอดีตตอนแรกที่เขามาที่สุสานเทพเจ้าก็รู้สึกถึงบางอย่างบนสุสานเทพเจ้ากำลังเรียกหาเขา แต่ตอนนั้น เขายังไม่มีพลังแข็งแกร่งพอ ตอนนี้ลินลี่ย์พบว่าที่ชั้นสิบแปดนี้ที่เรียกหาเขา ดึงเขาให้เข้ามา
“ลอร์ดเบรุต ชั้นศิลาฟ้านี้ ข้างใต้นี้...” ลินลี่ย์หันไปมองเบรุต
“รอสักเดี๋ยว” เบรุตหัวเราะขณะที่เดินเข้ามาหา ตาของเขามองดูพื้นศิลาฟ้า
“ครืดดดด” พื้นศิลาฟ้านับไม่ถ้วนเริ่มขยับเคลื่อนไหวอย่างเป็นระเบียบกระเบื้องสีฟ้าเริ่มยกตัวขึ้นและในพริบตากลายเป็นแท่นขนาดมหึมาด้านบนมีศพมังกรฟ้าขนาดมหึมายาวหมื่นเมตรนอนทอดร่างอยู่ กลิ่นอายที่สนิทคุ้นเคยกำลังเรียกหาลินลี่ย์
“บรรพบุรุษ..พญามังกรฟ้า?” ลินลี่ย์ตะลึงมองเบิกตาค้าง เขาสามารถจดจำได้ทันที
เบรุตเดินเข้ามาหาจากนั้นถอนหายใจ “ถูกแล้ว,สุสานเทพเจ้ามีทั้งหมดสามแห่ง อีกสองแห่งใช้เก็บศพของเทพธรรมดา ขณะที่สุสานแห่งนี้เป็นสุสานยิ่งใหญ่ สุสานเทพเจ้านี้บนชั้นที่สิบแปดมีศพของพญามังกรฟ้า ขณะที่ชั้นที่สิบแปดของตำแหน่งอื่นใช้เก็บศพของพญาหงส์เพลิง, พยัคฆ์ขาวและพญาเต่าดำ”