ตอนที่แล้วบทที่ 49 - จำไว้ ข้าสกุลหยาง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 51 - นี่คือจิตวรยุทธของข้า!

บทที่ 50 - รากฐานของตระกูลหยาง


4/6

บทที่ 50 - รากฐานของตระกูลหยาง

พริบตานั้น หลี่ค่ายค่อยตระหนักถึงความจริงข้อหนึ่ง นั่นคือแม้หยางซือเล่ยจะถูกตระกูลขับไล่ แต่เขาก็ยังเป็นลูกหลานของตระกูลหยาง

แม้กลายเป็นตระกูลสาขา แต่ด้วยความสัมพันธ์ทางสายเลือดของตระกูลหยาง ยังไงก็เหนือกว่าหัวหน้าฝ่ายขนส่งมาก

ถัดจากเขา หลิวฉีและฉินหูที่อยู่ข้างๆก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน

ไม่คาดหวังว่าหยางซือเล่ยกลับมาในครั้งนี้ เขาจะดุเดือดมาก ต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง ลูกตบทั้งสามฝ่ามือเสียงดังได้ใจดีจริงๆ

อย่างไรก็ตาม การกระทำครั้งนี้ เกรงว่าจะทำให้ผู้อาวุโสใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังหลี่ค่ายไม่พอใจ

“อนาคตช่างไม่แน่ไม่นอน ไม่รู้หรือว่านายน้อยหยางของข้ามิใช่คนเดิมอีกแล้ว”

เฉินซีชำเลืองมองที่หลี่ค่าย พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น จากนั้นรีบตามหยางซือเล่ยเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลหยาง

ประโยคนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันได้ทุบทำลายความภาคภูมิใจของหลี่ค่าย

ใบหน้าอ้วนๆของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง มองไปยังหลิวฉีและฉินหู กล่าวด้วยใบหน้าน่าเกลียดยิ่ง “พวกเจ้าทั้งคู่เห็นใช่หรือไม่? พวกเจ้าต้องมาเป็นพยานให้ข้า บอกตำหนักลงทัณ์ของตระกูลให้ไปจับเจ้าขยะเล่ย!”

“หือ? เมื่อกี้มีอะไรเกิดขึ้นรึ?”

“ข้าก็ไม่รู้ พอดีฝุ่นเข้าตา ไม่เห็นอะไรเลย”

หลิวฉีและฉินหู ทั้งสองคนแกล้งทำเป็นบื้อใบ้ ไม่ได้ให้ความสนใจกับหลี่ค่าย

“ประเสริฐ! พวกเจ้ากล้าช่วยขยะเล่ย รอข้าก่อนเถอะ!”

หลี่ค่ายโกรธมาก หันหลังกลับเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยความฉุนเฉียว ลืมเลือนเรื่องที่ผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลฝากฝังไว้สิ้น

...

รูปแบบสถาปัตยกรรมของคฤหาสน์หยาง แบ่งออกเป็นห้าส่วน

ลานส่วนกลางคือพื้นที่หลักที่ใช้อยู่อาศัย และผู้อาศัยล้วนเป็นบุคคลระดับสูงของตระกูล

แต่จุดหมายปลายทางของหยางซือเล่ยในครั้งนี้ คือลานส่วนทิศเหนือ

จากความทรงจำเดิม ทุกคนในตระกูลสาขาจะมารวมกันที่นี่ พักอาศัยตามห้องรับรองแขกที่ถูกเตรียมไว้

และที่นี่ยังเป็นห้องลงทะเบียนเช่นกัน

สำหรับคนจากตระกูลสาขาที่มั่นใจในฝีมือตัวเอง หากต้องการเข้าร่วมงานล่าสัตว์ จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้า

จากนั้นก็จะมีการประลองเพื่อคัดเลือกสามคนที่โดดเด่นที่สุดเข้าร่วมงานแข่งขันล่าสัตว์

ตระกูลหยางมีสมาชิกจำนวนมาก มีตระกูลสาขานับไม่ถ้วน ดังนั้นการคัดเลือกรุ่นเยาว์ 3 คนจากตัวแทนนับร้อย ถือว่าเป็นอะไรที่ดุเดือดมาก

“หือ? นั่นใช่หยางซือเล่ยที่ถูกบังคับให้แยกจากตระกูลหลักเมื่อสองปีก่อนหรือเปล่า?”

“จุ๊ จุ๊ เขายังมีหน้ากลับไปมาตระกูลหยางอีก ไม่กลัวกลายเป็นตัวตลกหรือไร?”

ระหว่างทาง

เห็นได้ชัดว่าคนรับใช้ที่ผ่านไปผ่านมาสังเกตเห็นหยางซือเล่ย อดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกัน

สำหรับเสียงกระแนะกระแหนประชดประชันเล็กน้อยเช่นนี้ หยางซือเล่ยไม่สนใจ

ครู่ต่อมา พวกเขาก็มาถึงบริเวณลานด้านทิศเหนือ

หลังจากก้าวเข้าสู่ประตูลานทิศเหนือ เสียงการฝึกซ้อมที่เร้าใจก็ทำให้หยางซือเล่ยหยุดฝีเท้า เงยหน้ามองไปตาม

เห็นแค่เพียงในลานกว้าง มีกลุ่มชายหญิงรวมตัวกัน ทุกคนเปี่ยมไปด้วยพลัง กำลังฝึกกับเสาไม้สีแดงเข้ม

คนเหล่านี้ ไม่ใช่สมาชิกจากตระกูลสาขาของตระกูลหยาง แต่เป็นคนที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศ เพื่อเตรียมเข้ารับการคัดเลือกในวันพรุ่งนี้

และด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาเลยไม่รู้จักหยางซือเล่ย หลังจากมองมา พวกเขาก็ไม่สนใจอีก

“นั่นมันต้นซวนหยาง!” เฉินซีอยู่ข้างๆเมื่อเห็นเสาไม้สีแดงเข้มเหล่านั้น ดวงตาเขาเป็นประกาย ทอดถอนหายใจอย่างประหลาดใจ “กล้าใช้ต้นไม้ซวนหยางเป็นเป้าฝึกฝน ช่างหรูหราอะไรเช่นนี้”

ต้นซวนหยาง คือต้นไม้ที่งอกเงยจากในพื้นที่บริเวณภูเขาไฟในรอบร้อยปี แฝงไปด้วยพลังวิญญาณธาตุไฟมากมาย

หากโค่นมันแล้วนำไปแช่ในน้ำมันเหล็ก ผิวไม้จะถูกเคลือบเป็นเงางาม แข็งทนยากจะทำลาย  อีกทั้งยังทนต่อน้ำและต้านทานการกัดกร่อน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ฝึกมวย

กระนั้น ราคาของมันก็แพงมากเช่นกัน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเล็กๆสามารถจ่ายได้

จากเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่ารากฐานของตระกูลหยางแข็งแกร่งเพียงใด