ตอน 24 - การประลอง (3)
1/3
ตอน 24 - การประลอง (3)
ธาตุทองถูกเจียงหลินทำให้อับอายจนหงอ
เพื่อนร่วมทีมของเขาเห็นแบบนั้นก็ก้าวออกมา พร้อมเอ่ยว่า “อย่ากลัวสิ เธอเก่งก็แค่ต่อหน้าหยางหนานรุ่ยท่านั้น จะสู้ผู้ชายอย่างพวกเราได้ยังไง อย่างฉัน ใช้แค่มือเดียวก็ทำให้เธอสลบได้แล้ว”
ธาตุทองพอได้ยินแบบนั้น ความมั่นใจก็กลับมาทันที หันไปพูดกับเพื่อนร่วมทีมว่า “ถูกของนาย ถ้าพวกเราเอาจริง ฉันว่าเธอคงไม่รอด”
เจียงหลินไม่คิดเปลืองน้ำลายตอบโต้ ในสายตาเธอ ที่พวกเขาพูดไม่ต่างอะไรจากเสียงเห่าหอน มันเหมือนกับเสียงของหมาชิวาวาที่กำลังเห่าต่อหน้าหมาเยอรมันเชพเพิร์ด
“น่ารำคาญ” เจียงหลินวิ่งออกจากโซนพื้นที่ประลอง กระโดดขาคู่ถีบใส่เพื่อนร่วมทีมของธาตุทองที่บอกว่าสามารถทำให้เธอสลบในมือเดียว
ชายคนนั้นไม่ทันตั้งตัว บวกกับใช้พลังไม่ได้ กว่าจะขยับ สองเท้าก็แนบลงบนใบหน้าเขาแล้ว ลมกลิ้งไปกับพื้น
เจียงหลินชิงลุกขึ้นก่อน ก้าวเข้าหาอีกฝ่าย ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนอกข้างซ้ายเขา “เชื่อไหมว่าถ้าฉันกระทืบลงตรงนี้แค่ทีเดียว นายได้ลงไปนอนคุยกับรากมะม่วงแน่ๆ”
“ตอนฉันอายุ 15 คนอื่นๆที่ตัวเท่ากัน ถ้าไม่ใช่นักสู้มืออาชีพจริงๆ ไม่คยมีใครเอาชนะฉันได้เลย แล้วนายมันแค่ตัวอะไรถึงกล้าพูดแบบนั้น?”
ว่าจบ เจียงหลินยกเท้าขึ้นและเตะเข้าชายโครงอีกฝ่ายจนหมดสติ ก่อนหันไปมองธาตุทองกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆที่ไม่กล้าก้าวออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ใครจะเป็นคนต่อไป?”
ธาตุทองกับบรรดาพรรคพวกที่ตอนแรกแหกปากโวยวาย เวลานี้ทุกคนราวกับเป็นใบ้ ฉันมองนาย นายมองฉัน ไม่มีใครกล้าก้าวออกไป
ขณะนี้ พวกเขารู้สึกว่าเจียงหลินเบื้องหน้าเหมือนเสือชีตาห์สีที่กำลังเหยียบศพของเพื่อนร่วมทีม แยกเขี้ยวขู่ พร้อมกระโจนเข้าขย้ำคอพวกเขาทุกเมื่อ
ขณะเดียวกัน ปี่ฉู่ซึ่งกำลังเฝ้าดูการต่อสู้โน้มตัวเข้าไปใกล้กับมู่เย่ชิงและพูดว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันคิดว่าเจียงหลินงดงามมาก สมแล้วที่เป็นแม่สาวสูง 1.8 เมตร!”
“เธอคือความงามที่แฝงไปด้วยความดุร้ายและดุดันที่ไม่เหมือนใคร” มู่เย่ชิงชื่นชมอย่างจริงใจ “เหมือนกับตอนที่ฉันพบเธอครั้งแรก ไม่ขลาดกลัว สู้ไม่ถอย ต้องขอบคุณหงโถวที่แนะนำให้ฉันรู้จักเจียงหลิน”
อันหงโถวหัวเราะ “ขอบคุณพลังของฉันดีกว่า เพราะมันสามารถช่วยให้มองเห็นหัวใจของมนุษย์ผ่านการเพ้นท์เล็บ แล้วแสดงออกมา”
ด้านเจียงหลิน เวลานี้เธอระเบิดความอัดอั้นทั้งหมดที่ถูกกระทำออกมา ต้อนทีมของธาตุทองจนจนมุม ทุบตีพวกเขาจนไม่มีใครกล้าหืออีกต่อไป
เพื่อนร่วมทีมของธาตุทองนั้นช่างอ่อนแอเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ ทั้งหมดพอไร้ซึ่งพลังพิเศษ ก็เปราะบางและขลาดเขลา ไม่กล้าตอบโต้ใดๆ
ธาตุทองที่เดิมไร้เทียมทานก็กำลังตื่นตระหนก ตอนนี้เขาก้าวถอยหลังก้าวแล้วก้าวเล่า
นับแต่เกิดวันสิ้นโลก นี่เป็นครั้งแรกที่พลังของเขาถูกลบออกอย่างหมดจด พลังรบที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาจนได้ตำแหน่งหนึ่งในห้าธาตุเมืองหลินไม่อาจใช้งานได้
ถึงจุดนี้ ตัวตนที่แท้จริงของธาตุทองก็ถูกเปิดเผยออกมา ตัวตนที่ขี้ขลาด ไร้ความรับผิดชอบ และคอยสูบเลือดหญิงสาว หลอกใช้งานพวกเธอจนตัวเองไต่เต้าไปถึงจุดสูงสุดของชีวิต!
ธาตุทองที่ถูกบังคับกลับคืนสู่สภาพเดิม เขาแทบไม่อาจข่มความกลัวในใจ พยายามปลอบใจตัวเองว่าคนตรงหน้าเป็นผู้หญิง
แต่ในตอนนั้นเอง เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นผู้หญิง งั้นเธอจะต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆที่ยอมตายและทุ่มเทเพื่อเขาเล่า?
คิดได้แบบนี้ ธาตุทองก็เผยรอยยิ้มที่เขาคิดว่ามันทำให้ตัวเองดูน่าหลงใหลที่สุดออกมา มันคือรอยยิ้มที่ครั้งหนึ่งเคยมัดใจหญิงสาวนับไม่ถ้วน “เจียงหลินใช่ไหม? ขอโอกาสให้ฉันได้อธิบายก่อน นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด”
แน่นอน ไม่เพียงเผยยิ้มโปรยเสน่ห์ แต่ธาตุทองยังไม่ลืมแก้ตัวให้ตัวเอง เขาชี้ไปทางเพื่อนร่วมทีมและหยางหนานรุ่ยที่นอนสลบคาพื้นแล้วพูดว่า “เป็นพวกเขา ... พวกเขาคอยยุยงฉัน บอกว่าเธอร้ายกาจ หน้าตาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอได้เจอเธอจริงๆ ฉันก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่เลย จริงๆแล้วเธอมีเสน่ห์มาก”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่นายกำลังจะจีบฉัน? อยากจะสูบเลือดฉันเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ?” เจียงหลินยิ้มเยาะเย้ย กระชากคอเสื้อธาตุทองแล้วยกขึ้น เหวี่ยงตัวเขาชนกำแพง “แต่จะว่าไป อันที่จริงแล้วมีอย่างนึงที่ฉันชอบในตัวนายนะ”
คำพูดสุดท้ายของเจียงหลินทำให้ธาตุทองเกิดความหวังริบหรี่ “ในเมื่อพวกเราใจตรงกัน ถ้างั้นทำไมไม่ ...”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันเอ่ยจบประโยค เจียงหลินขัดจังหวะเขาด้วยหมัดหนักๆ “ฉันชอบที่นายเป็นกระสอบทราย ช่วยทนไม้ทนมืออีกสักหน่อยนะ อย่ารีบสลบไปซะล่ะ!”
ขณะเดียวกัน ทางฝั่งคนดูโซนเดียวกับผู้นำฐาน จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นในใจฉางห่าว
“ฉางห่าว ในฐานะผู้นำฐาน ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆต่อการตายของซ่งเช่อฉีลูกพี่ลูกน้องของคุณ ในฐานะอดีตหนึ่งในห้าธาตุเมืองหลิน เธอเป็นผู้ใช้พลังที่ยอดเยี่ยมมาก ...”
“แต่น่าเสียดายที่เธอหมกมุ่นอยู่กับความรัก เลยถูกไอ้หนุ่มหน้าขาวนั่นหลอกใช้งานราวกับหมูกับหมา” ฉางห่าวพึมพำตอบอีกฝ่าย เฝ้ามองไปยังขอบสนามทดสอบเบื้องล่าง
ตัวเขาในฐานะเจ้าหน้าที่ของฐาน ย่อมเข้าใจได้ทันทีว่านี่คือพลังจิตของผู้นำฐานที่ถ่ายทอดเข้ามาสนทนากับตน
“คุณเกลียดเขาหรือเปล่า?”
“แน่นอน” ฉางห่าวตอบตามตรง
“งั้นก็ดี พวกเรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ” น้ำเสียงที่สงบและทุ้มลึกของผู้นำฐานก้องอยู่ในใจฉางห่าว “ถึงเวลาลากเขาลงจากตำแหน่งแล้ว!”
ฉางห่าวตัวแข็งไปสองสามวินาที พอได้สติเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา “แล้วผมต้องทำยังไง?”
“ฉันสามารถใช้พลังจิตช่วยคุณถ่ายทอดภาพความทรงจำแก่ทุกคนในฐานยกเว้นทีมของธาตุทองได้ คุณยินดีที่จะแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองเห็นและสิ่งที่รู้ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาไหม?” เสียงที่สงบและทุ้มลึกยังคงดังก้องในใจฉางห่าว
“ผมเต็มใจ!” ฉางห่าวเข้าใจในทันทีว่าผู้นำฐานหมายถึงอะไร
ผู้นำฐานกำลังคิดจะใช้พลังจิตของตนเชื่อมโยงจิตใจกับทุกคนในฐาน แล้วถ่ายทอดความทรงจำของฉางห่าว แบ่งปันสิ่งที่เขาเห็นและได้ยินถึงการกระทำของธาตุทอง
กล่าวคือเขาสามารถแฉทุกเรื่องไม่ดีที่ธาตุทองเคยทำมาก่อนทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ฉางห่าวพอได้ยินแบบนั้น ก็เริ่มตื่นเต้นอย่างอดไม่อยู่ เดินไปหาผู้นำฐาน
ผู้นำฐานยืนขึ้น ยื่นมือไปยังฉางห่าว
“ยินดีจัดให้ตามที่ขอ!”
...
ย้ายกลับมาทางฝั่งขอบสนามทดสอบ เวลานี้ธาตุทองถูกทุบตีอย่างหนัก โดนลากตัวขึ้นมายังบันได้ชั้นสอง
สภาพยับเยินของเขาถูกประจารต่อหน้าผู้คนมากมาย เหล่าบรรดาแฟนคลับสาวต่างเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ
อย่างไรก็ตาม ความรังเกียจที่ว่านี้มิใช่ความรังเกียจที่เกิดจากใบหน้าปูดบวมด้วยฝีมือของเจียงหลิน แต่เป็นความรังเกียจที่จากการกระทำของธาตุทองเอง
แม้แต่กลุ่มคนที่เฝ้าดูอย่างเงียบๆในตอนแรก เวลานี้เริ่มส่งเสียงเชียร์ “ชกได้ดี! ปล่อยหมัดได้สวยมาก! อัดไอ้ลูกหมานั่นซะ!”
ระหว่างธาตุทองถูกทุบตี เขาพบว่าเพื่อนของตัวเองกำลังคลานหนีไปอย่างเงียบๆ
ปรากฏว่าที่ถูกเจียงหลินอัดจนสลบเมื่อครู่ แท้จริงแล้วแค่แสดงละครและหาโอกาสหนี
ภายใต้สถานการณ์จวนตัว ธาตุทองที่เจ็บปวดทั้งกายและใจตะโกนสบถด่าออกมา และนั่นได้บดขยี้ความรู้สึกดีสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ของบรรดาแฟนคลับเขาให้สลายไป
จนในที่สุด ธาตุทองไม่อาจฝืนทนเจ็บไหว ทั้งคนทั้งร่างหมดสติ แน่นิ่งกับพื้น
เจียงหลินมองธาตุทองและหยางหนานรุ่ย เชิดหน้าขึ้นและพูดว่า “ฉันไม่ใช่ผู้ใช้พลังสายโจมตีก็จริง แต่ฉันก็ยังสู้ได้ รู้สึกยังไงบ้างที่กลายเป็นตัวเองที่อยู่บนเขียง? คิดฆ่าฉัน? ขอโทษที ฉันเก่งกว่าพวกแกเยอะ!”
มีเพียงเจียงหลินเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ในสนาม เธอเดินผ่านคนที่ล้มบนพื้นอย่างใจเย็น มุ่งหน้าไปยังใจกลางสนามทดสอบ แล้วเก็บกล่องทั้งหมดทางฝั่งหยางหนานรุ่ยท่ามกลางสายตาของผู้นำฐานและสี่ธาตุเมืองหลินที่ยังเหลืออยู่