ตอนที่ 880 จิตใจคนนี่ช่างเป็นพิษเสียจริงๆ

คำพูดของ ชายที่หยาบคาย.. ก็ดูตลกดีเหมือนกัน

มาตอนนี้ทาสสุนัขบางคน ก็ได้ถือว่าสุนัขเป็นบรรพบุรุษของตัวเองจริงๆ แต่คุณจะถือว่าสุนัขของคุณเป็นบรรพบุรุษนั่นมันก็เป็นเรื่องของคุณ แล้วต้องการให้คนอื่นจะต้องกลายมาเป็นเหมือนคุณ นะเหรอ?

ต้องยอมรับว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่มีจิตวิญญาณ ในชีวิตมนุษย์สุนัขก็มักจะมีบทบาทเป็นเพื่อน คนรักสุนัขหลายคนก็ปฏิบัติต่อสุนัข ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ มนุษย์เองเป็นสัตว์สังคม และต้องการเพื่อน และสุนัขก็มักที่จะซื่อสัตย์มาก และไม่ได้มีจิตใจที่ซับซ้อนเหมือนกับมนุษย์ ทั้งยังกลับเชื่อถือได้มากกว่ามนุษย์ อีกครึ่งหนึ่งของคุณอาจคิดคํานวณว่าคุณอาจจะทรยศตัวของคุณเอง ..เนื่องจากผลประโยชน์ต่างๆ แต่สุนัขจะไม่ทรยศคุณแน่นอน สุนัขจะพึ่งพาคุณมากขึ้นในการอยู่ร่วมกัน หรือในความสัมพันธ์ระยะยาว..

อย่างไรก็ตาม...สุนัขไม่ใช่มนุษย์ คุณไม่สามารถขอให้สุนัขปฏิบัติตามกฎเหมือนมนุษย์ได้ ดังนั้นสุนัขก็ต้องมีข้อจํากัดที่มนุษย์สร้างขึ้น, เช่น การพาสุนัขออกไปเดินเล่นโดยไม่มีสายจูง, สุนัขก็จะมีอิสระ และไร้การควบคุม, สุนัขก็จะไปถ่ายอุจจาระทุกที่, เห่าออกมาตลอดเวลา และในสถานที่เช่น แหล่งชุมชน ก็จะมีเด็กจํานวนมาก และบ่อยครั้งที่เด็กมักจะกลัวสุนัขจนร้องไห้ออกมา..

สิ่งนี้ ..นี่ก็เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านคุณภาพของเจ้าของสุนัข เจ้าของสุนัขในตอนนี้มีเป็นพันล้านคน คุณภาพเรียกได้ว่าไม่เท่ากัน ซึ่งมันก็กําลังสะท้อนถึงความซับซ้อนของมนุษย์

เจ้าของสุนัขที่มีคุณภาพ ก็จะพาสุนัขออกไปเดินเล่นโดยที่มีสายจูง เพราะกลัวจะเข้าไปรบกวนคนอื่น..

ส่วนคนไร้คุณภาพ มันก็กลับเต็มไปด้วยเรื่องแปลกประหลาดมาก บางคนได้พาสุนัขออกไปเดินเล่นโดยไม่มีสายจูง นั่นมันเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้อื่น และบางคนก็ละทิ้งการดูแล เลี้ยงดู โดยการปล่อยตามอำเภอใจ นั่นมันก็ยิ่งทำให้สุนัขจรจัดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว..

และก็เห็นได้ชัดว่า ผู้หญิงแบรนด์ดัง คนนี้ คุณภาพแย่มาก แถมเธอยังอาศัยเงินของเธอ เลยทำให้เธอได้แสดงท่าทีที่หยิ่ง เป็นอย่างมาก…

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของผู้คนโดยรอบข้าง ผู้หญิงแบรนด์ดัง ก็ยิ่งโกรธจัดมากขึ้น

“แกกล้าเตะสุนัขของฉันได้ยังไง ในสายตาฉัน แกมันเลวยิ่งกว่าสุนัข! สุนัขของฉันเปรียบได้ดั่งเป็นลูกชายที่ฉันรัก แต่แกล่ะ แกมันเป็นอะไรได้ นอกจากไอ้สารเลวตัวเหม็นจนๆ เท่านั้น!”

ผู้หญิงแบรนด์ดัง ได้กล่าวพร้อมกับได้ชี้นิ้วไปที่จมูกของ ชายร่างใหญ่ แล้วได้ดุด่าสาปแช่งออกไป

“ด่าได้ดี!”

สาว ผิงกั่ว ที่ถ่ายคลิปวิดีโออยู่ก็ได้กล่าวออกมา ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นเป็นเช่นเดียวกันกับ ผู้หญิงแบรนด์ ดัง

ชายร่างใหญ่ ได้พูดไปว่า “แล้วเกิดอะไรขึ้น? ไอ้บ้านี่เนี่ยนะ ลูกชายสุดที่รักของคุณ? แล้วนี่คุณเกิดมันมาเอง หรือคุณไปเอากับหมาเลี้ยงของใครมา?”

ทุกคนได้พากันหัวเราะเสียงดัง พี่ใหญ่ คุณตลกมาก!

ชายร่างใหญ่ กล่าวว่า “ไม่ต้องพูดอะไรอีก ฉันไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับคุณ ทุกคนกำลังดูอยู่ ฉันไม่ได้เตะหมาของคุณ ฉันแค่ผลักมันออกไปเท่านั้น และไม่ได้ทำร้ายมัน แต่คุณ... หมายถึงไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวน้อยนี่ ที่มันได้ทำให้ล้อรถของฉัน ..สกปรก และคุณก็ต้องจ่ายเงินมาให้ฉัน!”

ผู้หญิงแบรนด์ดัง ได้ดุด่าออกไปทันที : “ได้ ฉันจะจ่ายให้แก แต่ไอ้สารเลวอย่างแกคงคิดอยากที่จะแบล็กเมล์ฉันใช่ไหมล่ะ? แม่เฒ่าอย่างฉันมีเงินเป็นพันล้าน แต่ไอ้สารเลวอย่างแกก็อย่าได้แม้แต่จะคิดได้เงินจากฉันไปได้ สักหยวนเดียว! และแม่เฒ่าคนนี้ก็ยังต้องการให้บทเรียนแก่แกด้วย!”

ผู้หญิงแบรนด์ดัง ได้พูดพลางพุ่งปรี่ตัวเข้าไปตบ โดยเล็งไปที่ใบหน้าของ ชายร่างใหญ่…

ชายร่างใหญ่ ได้ยกใบหน้าหลบโดยไม่รู้ตัว และฝ่ามือของ ผู้หญิงแบรนด์ดัง ก็ได้ตบโดนเข้าที่หัวไหล่ของเขา

นี่มันหยาบคายมาก!

ไอ้ผู้หญิงเลวคนนี้กล้าที่จะใช้ความรุนแรงกับเขา กล้าที่จะลงมือกับเขา ใครมันจะไปทนได้ไหวกัน!

ชายร่างใหญ่ ได้ชกหมัดออกไป จนใบหน้าของ ผู้หญิงแบรนด์ดัง สั่น และก็ได้เดินโซเซถอยหลังออกไป ชายร่างใหญ่ ไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ เขาได้เดินตามเข้าไปเตะ ผู้หญิงแบรนด์ดัง จนล้มลงไปกับพื้น

“รวยแล้วยังไง สามารถมาหยิ่งผยองได้งั้นเหรอ? เล่าจื้อ.. เกลียดผู้หญิงปากร้ายอย่างแกมากที่สุด...” ชายร่างใหญ่ ได้สบถออกมาในขณะเดียวกันก็ได้ทุบตี ผู้หญิงแบรนด์ดัง …

“อ่า.. นี่มันคิดจะฆ่ากันชัดๆ ช่วยด้วย!” ผู้หญิงแบรนด์ดัง ได้ร้องตะโกนออกมา เมื่อฟังดูแล้วนี่มันไม่แตกต่างอะไรกับเสียงหมูที่กำลังถูกเชือด

เมื่อเห็นสิ่งนี้ สาวผิงกั่ว ที่อยู่ข้างๆ เธอก็ได้ตื่นตระหนก และได้ร้องตะโกนขึ้นว่า : “มันไม่ดีแล้ว ชายตัวเหม็นคนนี้กำลังทุบตีคน ใครก็ได้เข้าไปช่วยพี่สาวคนนี้ที มีคนถูกทุบตี ..ไม่ดีแล้ว มีคนถูกทุบตี .. …”

สาวผิงกั่ว ได้ส่งเสียงร้องราวกับผีไร้ญาติ แต่กลับถูกทุกคนกลอกตาใส่ และเดิมทีทุกคนก็ไม่พอใจเธอเหมือนกัน..

“ผู้หญิงบ้านี่ ร้องหาอะไรวะ?”

“ใช่! เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็นผู้หญิงปากร้ายนั่นเป็นคนเริ่มก่อน แล้วตอนนั้นทำไมเธอไม่พูดอะไรล่ะ? พี่ใหญ่คนนั้นโต้กลับก็ถูกแล้ว แล้วเธอมาเริ่มโห่ร้องอะไร เหอะ.. ไร้เดียงสาชะมัด!”

“ใช่มันน่ารำคาญมาก! ฉันเองยังอยากเข้าไปทุบตีเธอเลยด้วยซ้ำ!”

ทุกคนโดยรอบก็ได้พากันแขวะ ทั้งไม่มีใครเข้าไปพยายามเกลี้ยกล่อม ชายร่างใหญ่ และยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีใครคิดที่จะเข้าไปช่วย ผู้หญิงแบรนด์ดัง กลับมีแต่ สาวผิงกั่ว ที่ได้ร้องโวยวาย แต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้ขึ้นไป ..แค่เดินวนไปรอบๆ เพื่อถ่ายคลิป..

สุดท้ายก็เป็น ผู้ชายคนนั้น ที่เพิ่งได้ปะทะกับ ผู้หญิงแบรนด์ดัง ที่ได้วิ่งเข้าไปฉุดรั้ง ชายร่างใหญ่ เอาไว้..

“พี่ใหญ่ พอได้แล้ว ใช่ที่ว่าเธอเป็นคนเริ่มก่อน มันก็ได้ถือว่าคุณแค่ป้องกันตัว แต่ถ้าคุณยังทำร้ายเธอต่อไป….” ผู้ชายคนนั้น ได้พยายามพูดเกลี้ยกล่อม

กลายเป็นว่า ผู้ชายคนนั้น ไม่ได้ต้องการเข้าช่วย ผู้หญิงปากร้ายคนนี้ แต่ได้ช่วยคิดแทน ชายร่างใหญ่ นั่นเพราะเขาไม่อยากให้ ชายร่างใหญ่คนนี้ เสียเปรียบจากการป้องกันตัวเอง มากเกินไป..

ชายร่างใหญ่ ที่ได้ทุบตี ผู้หญิงแบรนด์ดัง จนจมูกเขียวช้ำ และก็ดูบวมมาก เขาเองก็ได้ดูโมโหมากในตอนนี้

“ได้! เล่าจื้อ จะยอมหยุดมือก็ได้!” ชายร่างใหญ่ได้หยุดมือ แล้วพูดออกไปว่า “ไอ้ผู้หญิงปากร้ายคนนี้ ไม่ยอมจ่ายเงินให้กับ เล่าจื้อ และนี่มันก็ถือได้ว่าเป็นการชดเชยแล้ว และอย่ามาให้ เล่าจื้อ เห็นหน้าอีกนะ.. ไม่งั้น เล่าจื้อ จะทุบตีแกให้ตาย!”

ชายร่างใหญ่ ได้ถ่มน้ำลาย ใส่ร่างของ ผู้หญิงแบรนด์ดัง จากนั้นเขาก็ได้หันหลัง แล้วขึ้นรถตู้คันนั้นของตัวเอง และจากไปอย่างสง่างาม..

คนหยาบนั้นไม่เกรงกลัวฟ้า กลัวดิน แล้ว.. พวกเขาจะไปสนใจอะไรกับ ผู้หญิงรวย.. และยิ่งกับผู้หญิงที่มีฝีปากร้ายกาจแล้ว ไม่ต้องพูดถึง.. คนจำพวกนี้ไม่มีใครอยากที่จะเข้าไปยุ่งด้วยอยู่แล้ว และยิ่งหากเกิดความขัดแย้งบนท้องถนน คนเหล่านี้ก็กล้าที่จะลงมือ เมื่อถึงเวลาที่จะต้องลงมือ..

ผู้หญิงแบรนด์ดัง ที่ได้ถูกทุบตี เธอนั้นก็ทั้งโกรธ และก็เป็นกังวล “ไอ้อันธพาลตัวเหม็น ไอ้คนจน อย่าหนีนะ! ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแก!”

แต่เธอกลับไม่สามารถลุกขึ้นจากพื้นได้ชั่วขณะ

สาวผิงกั่ว ได้รีบเก็บโทรศัพท์มือถือของเธออย่างรวดเร็ว และแมวในอ้อมแขนของเธอก็ได้ฉวยโอกาสนี้กระโดดลงไปที่พื้น..

สาวผิงกั่ว ได้วิ่งเหยาะๆ ไปหา ผู้หญิงแบรนด์ดัง และได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ : “พี่สาว โอเคไหมคะ?”

ผู้หญิงแบรนด์ดัง ได้รู้สึกน้อยใจขึ้นมา ทําไมถึงไม่มีใครยอมมาช่วยเธอเลย แต่สุดท้ายแล้ว ก็ได้มีคนเข้ามาช่วยเธอ เธอซาบซึ้งใจมากจนใบหน้าของเธอได้แดงขึ้นมา

“ขอบคุณนะ ที่มีคุณ.. ที่ยังคงเป็นคนดีอยู่..” ผู้หญิงแบรนด์ดัง ได้กล่าวขอบคุณ..

สาวผิงกั่ว ได้ใช้สายตากวาดมองไปที่ฝูงชนด้วยความดูถูก และได้พูดขึ้นว่า “ใช่เลย คนพวกนี้ไม่คิดที่จะแยแสอะไร เอาแต่เฝ้าดูเป็นเรื่องตลก! และโดยเฉพาะชายที่ดูยากจนคนนั้น เขาเป็นคนที่หัวเราะดังที่สุด!”

สาวผิงกั่ว ได้ชี้นิ้วไปที่ หลินฟาน..

หลินฟาน เหงื่อตก ที่ไหนกัน.. เขาเนี่ยนะ หัวเราะเสียงดังที่สุด? เขาแค่นั่งกินข้าว และเฝ้าดูละครไปพลาง เขาไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย แบบนี้แล้ว ก็ยังสามารถเล็งปืนมาที่เขาได้อีกเหรอ?

ผู้หญิงแบรนด์ดัง ได้จ้องมองไปที่ หลินฟาน อย่างเย็นชา : “ไอ้พวกคนจนที่ตายไปแล้ว มันช่างไม่มีดีอะไรเลย!”

สาวผิงกั่ว ได้ชำเลืองมองไปที่ หลินฟาน อย่างภาคภูมิใจ..

หลินฟาน ได้เข้าใจขึ้นมาทันที ..และมันก็เป็น สาวผิงกั่ว คนนี้ ที่เห็นได้ชัดว่าเธอยังคงไม่พอใจเขาจากเรื่องในร้านสะดวกซื้อ และคาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเปิดฉากเริ่มโจมตีใส่เขา โดยปล่อยให้ ผู้หญิงแบรนด์ดัง ที่ปากร้ายคนนี้เขามากวาดล้างเขา?

จิตใจคนนี่ช่างเป็นพิษเสียจริงๆ

หลินฟาน ได้หัวเราะอย่างเย็นชาอยู่ในใจ…

สาวผิงกั่ว คนนี้ได้คิดไปว่าเขาจะต้องไปทะเลาะกับ ผู้หญิงแบรนด์ดัง คนนี้ ใช่ไหม? แต่ว่า.. เขากลับมีความคิดที่ดีกว่านั้น

แล้ว.. มันเป็นไปได้ไหมที่ สาวผิงกั่ว กับผู้หญิงแบรนด์ดัง จะหันมาทะเลาะกัน?

ทุกสิ่งอย่างมันก็เป็นไปได้เสมอ และไม่ต้องพูดถึงว่า หลินฟาน มีโชคระดับสุดยอด.. ที่สามารถทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ..เป็นไปได้ขึ้นมา

“โชคระดับสุดยอด เปิดใช้งาน!”

หลินฟาน ได้กล่าวอย่างเงียบๆ ในใจ

จู่ๆ ทันใดนั้นเอง แมว และสุนัข ก็ได้ส่งเสียงร้องดังขึ้นมา ..อยู่ข้างๆ และก็ได้เห็น สุนัขเท็ดดี้ ของผู้หญิงแบรนด์ดัง กับแมวของ สาวผิงกั่ว ที่ไม่รู้ว่ามันมีเหตุผลบางอย่างหรืออะไร จู่ๆ พวกมันก็ได้เริ่มต่อสู้กัน และสัตว์ตัวเล็กๆ ทั้งสอง ก็ได้พุ่งเข้ามากัดกันเอง

ผู้หญิงแบรนด์ดัง และสาวผิงกั่ว ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไป ทั้งสองได้รีบลุกขึ้นยืน และคนหนึ่งก็ได้วิ่งเข้าไปอุ้มสุนัขของเธอ และอีกคนหนึ่งก็ได้วิ่งเข้าไปอุ้มแมวของเธอ..

เมื่อมองในแวบแรก ก็ได้เห็นว่าทั้งสุนัข และก็แมว ต่างก็มีรอยฟกช้ำ และคราบเลือด

ทั้งคู่รู้สึกเป็นทุกข์ และก็โกรธมาก

ผู้หญิงแบรนด์ดัง ได้หันหน้าของเธอกลับมา และชี้นิ้วไปที่ สาวผิงกั่ว และได้ดุด่าออกไป : “คุณดูแมวของคุณยังไง บังอาจกล้ามาข่วนสุนัขของฉัน ฉันจะฆ่าไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวนั้น!”

สาวผิงกั่ว ก็ได้โกรธจัดมาก : “คุณมันพูดบ้าอะไร? ไอ้หมาน่าตายของคุณนั้นแหละ ที่มันป่าเถื่อน!”

ทั้งคู่ได้ดุด่ากันไม่พอ พวกเขาก็เริ่มผลักกัน จากนั้นก็ได้เริ่มตบตีกัน จนล้มพลิกคว่ำลงกับพื้น คนหนึ่งกระชากหนังศีรษะ อีกคนกระชากเสื้อผ้า ฉากนั้นเรียกได้ว่าสุดยอดมาก และผู้คนโดยรอบข้างต่างก็ได้มองด้วยความตกตะลึง

หลินฟาน ได้ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะหันหลังกลับ และเตรียมที่จะจากไป เขาเองได้ซ่อนความสำเร็จ และชื่อของเขาเอาไว้ ..อย่างลึกซึ้ง