ตอนที่ 757 โจมตีครั้งสุดท้าย
เนี่ยชิวนั่งอยู่ตรงกลางอย่างมั่นคง
ในโลกสีเทาของเขาแนวเส้นหยินและจุดหยางคล้ายกับดวงดาวก่อร่างเป็นโลกที่มีชั้นอย่างสมบูรณ์
สมาชิกที่บุกเข้าโจมตีฉีเซี่ยงตงเหมือนกับกระแสน้ำเชี่ยวเป็นเหมือนเครื่องมือเป็นชั้นๆในโลกของเขา เขาสังเกตทุกอย่างอย่างใจเย็น จังหวะของการรุกยังมีจุดบกพร่อง แต่ค่อนข้างจะมีความชำนาญ
เนี่ยชิวยังคงสงบและใจเย็นส่วนใหญ่ของกลยุทธทั้งหมดจะต้องเผื่อไว้สำหรับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ไม่สำคัญว่าฝีมือจะโดดเด่นเพียงไหน เขาไม่สามารถรับประกันความผิดพลาดหรือความสมบูรณ์แบบได้ นอกจากนี้มีความเปลี่ยนแปลงในสมรภูมิอยู่เสมอ เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงทั้งหมดอาจเกิดขึ้นและกลยุทธที่ไม่เผื่อเหตุการณ์คาดไม่ถึงเอาไว้จะเกิดปัญหาได้
แม้ว่าเนี่ยชิวตั้งความหวังว่าถังเทียนจะสามารถถ่วงเวลาให้หน่วยสุญญตาได้เติบโต แต่เนื่องจากความเป็นนายทหารผู้โดดเด่นของเขาเอง เขาไม่ยินดีจะโยนภาระและความหวังทั้งหมดไปที่ถังเทียน แม้ว่าเขาจะมั่นใจในตัวเขาก็ตาม
‘ถ้ามีอุบัติเหตุหรือสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เราจะไม่สู้ แม้ว่าเราจะฝึกฝนมาไม่พองั้นหรือ?’
เนี่ยชิวคิดเรื่องนั้นและวางแผนยาวไว้สำหรับเรื่องนั้น เขาควรจะทำยังไงเมื่อเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น แผนของเนี่ยชิวง่ายมาก ถ้าพวกเขายังฝึกไม่เพียงพอ พวกเขาจะอาศัยพวกมากเข้าเอาชัย ในการคำนวณของเขาเขายังเหลือขอบเขตพลังเหลือเฟือ และไม่ได้ไล่ตามอย่างหวังผล ขอบเขตพลังที่เหลือยังมาก ที่ 20% ซึ่งก็หมายความว่าถ้า 20% ของจำนวนสมาชิกผิดพลาดกระบวนศึกก็ยังไม่เสียรูป
แน่นอนว่าขอบเขตกำลังคนใหญ่ขนาดนั้นส่งผลต่อพลังของรูปกระบวนได้เป็นธรรมดา แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน การรักษารูปกระบวนศึกยังสำคัญมากกว่าการแสวงหาพลังที่แข็งแกร่งที่สุด
การโจมตีหนักสองครั้งแรกโดยหานปิงหนิงและอาโมรี่ดูน่ากลัว แต่ครึ่งหนึ่งเป็นการหลอกล่อ การยืมพลังของพยุหะหยินหยางการโจมตีจะถูกสร้างโดยการรวมพลังกฎธรรมชาติของสมาชิก ในแดนบาปต้องนับว่าเป็นวิชาต่อสู้ชั้นสุดยอด
แต่เนี่ยชิวใช้เพียงเพื่อล่อหลอก สำหรับเขาสายใยกฎธรรมชาติที่สมาชิกรู้แจ้งไม่นานนี้ และพลังของมันถือว่ายังมีระดับต่ำมากในแดนบาป ต่อให้พวกเขาได้เปรียบที่จำนวนก็ตามแต่ก็ยังยากต่อการเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นได้ในตอนนี้
เนื่องจากพวกเขายังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใหญ่ในเชิงคุณภาพได้ พวกเขาคงไม่อาจคุกคามยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งได้จริงๆ เนี่ยชิวเป็นคนสุภาพและเป็นกันเองแต่เพียงภายนอก แต่เขามีความหยิ่งภูมิใจอยู่ภายใน ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมเขาจึงยินดีจากกลุ่มดาวราชสีห์มาเข้าร่วมกับถังเทียนเล่า?ตั้งแต่พวกเขาเข้ามาในแดนบาป เป้าหมายของเขามุ่งไปสู่ที่นักสู้ระดับสูงเสมอ เพราะพวกเขาเป็นตัวแทนพลังสุดยอดในแดนบาป
การโจมตีที่เขาให้ความสนใจก็คือในการฟัน
สมาชิกหน่วยสุญญตาทั้งหมดมีร่างกายแข็งแรง พลังภายนอกที่บริสุทธิ์ของพวกเขาก็เข้ากันได้กับวิชาดาบมารพิฆาตได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากพวกเขาสามารถสร้างพลังโจมตีที่ทรงพลังได้ พลังเช่นนั้นจึงมีความบกพร่องในตัวเอง ตัวอย่างเช่นจำเป็นต้องให้ผู้ใช้พลังนี้เข้าสู้ระยะประชิดหรือถ้าไม่มีพลังสนับสนุนใดๆก็เป็นเรื่องยากที่จะสร้างพลังโจมตีตามหลัง
ไม่เพียงแต่เนี่ยชิวไม่ต้องการให้สมาชิกควบคุมพลังของพวกเขาเท่านั้น แต่เขากลับขอร้องให้ทุ่มเทให้เต็มที่ เขาขอร้องให้สมาชิกทุกคนทุ่มเทพลังภายนอกในการฟันครั้งเดียว
พลังฟันของพวกเขาย่อมทรงพลังอย่างมิต้องสงสัย แม้แต่เบนสันที่นำหน้าเข้าปะทะก็ไม่สามารถแบกรับภาระในการฟันถึงสามครั้ง พลังที่น่ากลัวมีผลสะท้อนรุนแรงเช่นกัน แต่พวกเขามีชุดเหล็กทองจากตระกูลเซวียสามารถกระจายพลังสะท้อนกลับไปทั่วทั้งตัวได้ นั่นคือวิธีที่สมาชิกหน่วยสุญญตาสามารถปลดปล่อยการโจมตีที่รุนแรงได้ แต่ไม่ต้องรับผลสะท้อนจนบาดเจ็บมากเช่นกัน
เบนสันและพวกตกใจจนพูดไม่ออก ขณะที่เนี่ยชิวยังคงเงียบ
ความคิดของเขามาจากการต่อสู้กับหลูเทียนเหวิน พวกเขาสามารถฆ่าหลูเทียนเหวินเนื่องมาจากพลังของถังเทียนเป็นส่วนใหญ่ ในตอนวาระสุดท้ายหลูเทียนเหวินถูกอาโมรี่ฟันใส่ นั่นคือระดับการโจมตีของพวกเขา แม้ว่าจะไม่สามารถก่ออันตรายคุกคามนักสู้ผู้ทรงพลังในทำเนียบนักสู้ได้แต่นั่นก็ยังเป็นการคุกคามอย่างหนึ่ง
สิ่งที่สำคัญก็คือกำลังคนที่เพียงพอ สมาชิก 629คนทำให้เนี่ยชิวมีโอกาสผ่อนหายใจได้เพียงพอ
มดหลายตัวย่อมล้มช้างได้ นั่นคือสิ่งที่เนี่ยชิวคิด
ล่อที่เอาแต่ใจตัวพุ่งเข้าชนโดยตรงก็ยังมีประโยชน์ของมัน ด้วยการใช้พลังชนพลัง คนเดียวย่อมแพ้สิบ และเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถเทียบได้ในเรื่องวิชาฝีมือ อย่างนั้นก็ต้องใช้จำนวนเข้าเอาชัย และด้วยพลังโจมตีใจม่านฟ้าถวิลหาของกู้เสวี่ยจะช่วยให้กระบวนศึกที่ดูเหมือนงี่เง่านี้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์ ควบคู่ไปกับกำแพงลมที่ผนึกสำนึกกระบี่ไว้และแรงระเบิดของน้ำกับไฟ กระบวนศึกนี้แสดงสติปัญญาของเนี่ยชิวออกมาอย่างเต็มที่
ด้านที่ยากที่สุดของกระบวนศึกก็คือพวกเขาต้องทำให้สำเร็จในการจู่โจมภายในช่วงเวลาหายใจเข้าออกสิบครั้ง
พวกเขายังคงห่างจากที่เนี่ยชิวคาดไว้มีอยู่ครึ่งหนึ่งที่ฟันไม่สำเร็จ
แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว
พยุหะหยินหยางเป็นเหมือนใยแมงมุมที่ถูกชักไว้ขนาดใหญ่รอคอยโอกาส การเปลี่ยนแปลงกระบวนศึกที่ดีตามมาด้วยกระบวนศึกหยินหยางที่เนี่ยชิวได้เลือกไว้ เขารู้สึกได้ชัดเจนว่ากฎธรรมชาติของฉีเซี่ยงตงใกล้จะถูกกำจัดอยู่ในกระบวนศึกแล้ว
เขาให้หานปิงหนิงและอาโมรี่โจมตีให้สำเร็จในสามชั่วอึดใจ
ที่ผ่านมา13 ชั่วอึดใจนั้น ฉีเซี่ยงตงต้องทนรับแรงฟันถึง 302 ครั้ง แม้แต่เนี่ยชิวก็ยอมรับนับถือเขาในเรื่องนั้น ในฐานะผู้สร้างกระบวนรบ เขารู้จักแรงฟันชัดเจนมาก
สามารถทนรับแรงฟันได้ถึง302 ครั้งต่อเนื่องโดยไม่ล้มลง ฉีเซี่ยงตงนับว่ามีพลังแน่นอน
เบนสันและยอดฝีมืออีกสามคนผู้ทำหน้าที่ในส่วนของพวกเขาก็ได้รับความเจ็บปวดและหมดแรงกันถ้วนหน้าได้แต่สังเกตการต่อสู้อยู่ห่างๆ ตอนแรกพวกเขาไม่รู้สึกถึงความคงอยู่ของศัตรู จนกระทั่งเมื่อกู้เสวี่ยใช้ม่านฟ้าถวิลหาของนาง พวกเขาจึงได้รู้ตัว โชคดีที่การฝึกฝนของพวกเขาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาไม่สูญเปล่าพวกเขาไม่ทำให้การโจมตีที่น่าทึ่งนี้เสียไป และรู้ตัวได้อย่างรวดเร็ว
ในระหว่างการฝึกพวกเขาไม่มีความรู้สึกถึงพลังพยุหะเลย แต่เมื่อพวกเขาใช้พลังพยุหะในการสู้รบ พวกเขาจึงได้ตระหนักถึง กระแสดาบยักษ์โจมตีและความแม่นยำในการโจมตีสั่นสะท้านใจทุกคน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบนสัน เขาพยายามฟันเองถึงสามครั้ง และฟันโจมตีออกไปนสภาพลำบากทันที
แต่...
สายตาของทุกคนจับตาไปที่ฉีเซี่ยงตงทุกคนต่างตกใจกันทั้งนั้น เขาสามารถทนรับแรงฟันได้ถึงสามร้อยครั้ง แม้ว่าม่านพลังกฎอวกาศรอบตัวเขาเริ่มมีรอยร้าวเต็มไปหมดและใกล้จะแตกสลายและเขาเองก็ซวนเซหลายครั้ง แต่เขายังไม่ล้ม
‘แข็งแกร่งมาก!’
แต่ขณะนั้นเอง พวกเขาไม่มีเวลาจะรู้สึกตื่นเต้น สายตาของพวกเขาเห็นหน่วยเล็กสองหน่วยที่เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว และอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
‘ใกล้ถึงการโจมตีชุดสุดท้ายแล้ว!’
พวกเขาฝึกพยุหะนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่การโจมตีสุดท้ายยังไม่เคยใช้ออก พวกเขาสี่คนตื่นเต้นมากที่ได้เห็นการโจมตีสุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบนสัน เพราะแฝดทั้งสองคนติดตามอยู่ด้านหลังหานปิงหนิงอย่างกระชั้นชิด
ทั้งสองกลุ่มมีคนหน่วยละ50 คน และพุ่งไปข้างหน้าเหมือนลูกธนู
อาโมรี่วิ่งอยู่บนเส้นหยิน เขาก้าวเท้ายาว แต่ละก้าวหนักหน่วงมาก ทุกคนที่ก้าวเท้าออก ความร้อนจะเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งและทะลักออกจากรอยเท้าของเขา รอยเท้านั้นเป็นเหมือนกับเพลิงที่ชอนไชเข้าไปในร่างของเขานั่นคือพลังภายนอกที่บริสุทธิ์
ทุกย่างก้าวจะทำให้เพลิงสุญญตารอบตัวเขาลุกโชนมากขึ้น เปลวเพลิงสุญญตาหมุนเป็นเกลียวรอบตัวเขา และอาโมรี่ในเปลวไฟใช้มือข้างเดียวกวัดแกว่งดาบยักษ์ สีหน้าของเขาเยือกเย็นเหมือนกับเทพสงคราม
ด้านหลังของเขาสมาชิกแต่ละคนมีเพลิงสุญญตาน้อยที่โคจรไปตามดาบยักษ์ เพลิงสุญญตาน้อยลุกโหมเป็นเปลวมีหางตามหลังเช่นกัน พวกเขาเหมือนกับฝูงสัตว์ร้ายที่มีพลังอำมหิตทะลักพุ่งเข้าไปข้างหน้า
กลุ่มเล็กของหานปิงหนิงมีรูปแบบแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
ฝีเท้าของหานปิงหนิงก้าวสั้น แต่ความถี่ในการก้าวไวเหมือนสายฟ้า นางโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย แฝดสองคนด้านหลังติดตามด้านหลังนางอย่างกระชั้นด้านหลังห่างออกไป สมาชิกทุกคนวิ่งด้วยระยะก้าวเท้าสั้น สีหน้าของทุกคนเคร่งเครียด
ความเย็นเสียดกระดูกแผ่กระจายไปทั่วทั้งกลุ่ม รัศมีของพวกเขามีความคมเหมือนกระบี่ที่ลับจนคมถึงขนาดปรากฏขอบที่เย็น
ด้านหนึ่งเป็นเปลวเพลิงที่โกรธเกรี้ยว อีกด้านหนึ่งเป็นความเย็นเฉียบที่คมกล้า รูปแบบที่ขัดแย้งกันทั้งสองรัศมีที่แตกต่างกันสิ้นชิงกลับทำได้เร็วเท่ากันมุ่งมั่นได้อย่างเท่าเทียมกัน
หน้าของเนี่ยชิวเริ่มแดง ร่างของเขาสั่นเล็กน้อยขณะที่เขาใช้พยุหะหยินหยางของเขาจนถึงระดับสูงสุด พลังภายนอกทั้งหมดในพยุหะนี้ก่อตัวมาจากทุกทิศทางกระแสพลังไหลมาตามเส้นหยินและมาบรรจบกันทั้งสองกลุ่ม
รัศมีของทั้งสองกลุ่มยังเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ระยะของพวกเขากับฉีเซี่ยงตงใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
สมาชิกทั้งหมดรอบตัวฉีเซี่ยงตงกระจัดกระจายไปในตำแหน่งต่างๆเหมือนนกแตกตื่นตกใจบางอย่าง
ในสายตาของเขาทุกอย่างชัดเจน
ฉีเซี่ยงตงผู้ที่ยังไม่ฟื้นจากการโจมตียังอยู่ในอาการมึนๆ เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว ม่านพลังกฎอวกาศรอบตัวเขามีรอยร้าวชุดยาวของเขาฉีกรุ่งริ่ง ผมของเขากระเซิงที่มุมปากมีเลือดไหล
เขาไม่เคยพบการจู่โจมที่ไม่มีเหตุผลแบบนั้นฟันใส่อย่างต่อเนื่องไม่ให้โอกาสให้เขาได้พักหายใจแม้แต่น้อย
เขาทำได้แต่เพียงต้านรับโดยใช้ม่านพลังกฎอวกาศและตั้งรับอย่างฝืนทน
มันยังไม่ถูกกำจัดออกไปเพราะเขายังกลัวกระบี่สายรุ้งแปลกประหลาด แม้ว่าเขาจะดิ้นเลิกคิดได้อย่างรวดเร็ว แต่ในแต่ละครั้งต้องจ่ายออกไปด้วยราคาที่หนักหนา และม่านพลังกฎอวกาศไม่สามารถต่อต้านแรงฟันได้แม้แต่น้อยทำให้พลังผ่านเข้ามาในร่างของเขา
แม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน แต่ร่างเลือดเนื้อของเขาไม่ได้แข็งแกร่ง แม้ว่าจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของพลังโจมตีก็ยังทำให้เขาบาดเจ็บหนักได้ ทั้งยังได้รับผลกระทบจากผิวกฎของเขา และยิ่งเพิ่มปริมาณการใช้กฎธรรมชาติของเขา
ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าความเครียดรอบตัวเขาลดลงความอึดอัดกดดันหายไป
‘จบแล้วหรือ?’
เขายังอยู่ในอาการงงและยินดีอยู่ในใจ ‘ในที่สุดข้าก็ผ่านมันไปได้’
ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ฉีเซี่ยงตงถูกกดดันจนอยู่ในสภาพน่าอนาถขนาดนั้น? ใช่แล้ว เขาถูกย่ำยีไล่ต้อนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ถูกข่มอย่างสิ้นเชิง
‘ยอดนักสู้ในทำเนียบนักสู้ถูกกดดันจริงๆหรือ? โดยกลุ่มคนอ่อนแอหรือนี่?’
ขณะนั้นเขาได้ยินเสียงสั่นสะเทือนจากพื้นข้างล่าง ทำให้เขาเรียกความรู้สึกกลับมา
‘นั่น...’
ฉีเซี่ยงตงเพิ่งจะฟื้นตัวได้หรี่ตาอีกครั้งท้องฟ้าต่อหน้าเขามีเงาร่างหลายคน
พวกเขาทุกคนกระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้าเสียงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นเพราะพวกเขากระโดดขึ้นจากพื้น
“ฆ่า!” อาโมรี่คำรามเหมือนสายฟ้า พลังในร่างเขาระเบิดออก ท่าฟันดาบมารที่เขาใช้มีพลังมากกว่าทุกคนที่ฉีเซี่ยงตงเผชิญมา “ฆ่า!” เสียงของหานปิงหนิงเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง ความเย็นยะเยือกระดับสูงสุดกระจายไปโดยรอบรังสีกระบี่เย็นเสียดกระดูกปะทุออกจากทุกคนที่ด้านหลัง และรัศมีรวมกันเป็นหนึ่ง
รังสีกระบี่น้ำเงินและท่ามารพิฆาตฟันตรงผ่าทำลายม่านพลังกฎอวกาศ
ม่านพลังกฎอวกาสแตกกระจายเป็นผุยผงทันที ฉีเซี่ยงตงไม่สามารถแม้แต่จะยกมือเมื่อทั้งตัวของเขาสะท้านเฮือก รังสีกระบี่น้ำแข็งแช่แข็งเขาเหมือนเป็นตุ๊กตาน้ำแข็ง ใบหน้าที่ชะงักค้างของเขายังปรากฏแววเหลือเชื่อจากนั้นเป็นพลังฟันที่ทำให้เขาแตกกระจายเป็นชิ้น!
เมื่อฝุ่นจางหายไปสิ่งที่เหลืออยู่มีแต่หลุมใหญ่ซึ่งไม่มีอะไรอยู่ในนั้น