ตอนที่ 756 ขวางดาบสู้
รังสีดาบยาวร้อยเมตรกวาดไปข้างหน้าเหมือนกับกำแพงแสง แสงหลากสีสันสว่างเจิดจ้ายิงออกไปในอากาศเกิดรอยแสงในอากาศงดงาม รังสีดาบสองสายปล่อยเสียงคุกคาม
ทุกอย่างเกิดขึ้นฉับพลันและทั้งสองฝ่ายอยู่ใกล้กันเกินไป
เมื่อฉีเซี่ยงตงรู้ตัวรังสีดาบก็ห่างเขาน้อยกว่า15 เมตรทำให้เขาเห็นรังสีดาบเล็กๆ นับไม่ถ้วนแฝงอยู่ในนั้น ทั้งยังเกิดเป็นระลอกอากาศ
ฉีเซี่ยงตงครางร่างของเขากระพริบเปล่งแสง พื้นที่ใต้เท้าเขาบิดเบี้ยว พื้นดินเริ่มยุบและเขาดำลงไปในดิน
ปัง!
รังสีดาบสองเล่มกวาดผ่านศีรษะของเขาไปเหมือนกับดาบฟันเลื่อยที่เต็มไปด้วยรังสีเฉียบขาดกวาดผ่านเขา ทำให้หนังศีรษะของเขาชารังสีอำมหิตที่กวาดตามจากท้ายรังสีดาบทำให้หัวใจของฉีเซี่ยงตงตกวูบ ‘พวกเขาพบข้าตั้งแต่เมื่อใด?’
‘พวกเขาพบข้าได้ยังไง?’
ความสงสัยผุดผ่านในใจเขา แต่ขณะนั้น เขาไม่มีเวลาไตร่ตรองเรื่องนี้ ศัตรูรู้สึกถึงเขาได้ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไร และจู่ๆก็เปิดฉากโจมตี เหมือนซุ่มโจมตีโดยไม่ตั้งใจ
ฉีเซี่ยงตงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ในพริบตา เขากลับกลายจากผู้ล่าเป็นผู้ถูกล่าโดยไม่มีคำเตือนใดๆ เขาไม่รู้ว่าศัตรูรู้สึกถึงเขาได้ยังไง และมีแผนการรบแบบใด ปัจจัยดังกล่าวทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
‘ข้าต้องตอบโต้!’
ในพริบตานั้นฉีเซี่ยงตงกลับคืนสู่ความสงบและตัดสินใจ เมื่อคนถูกซุ่มโจมตี ถ้าพวกเขาหลบหนีอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า พวกเขาก็ได้แต่ทำให้ตัวเองคล่องแคล่วมากขึ้นแต่ถ้าโต้ตอบแทน เขาจะสามารถทำลายจังหวะของคู่ต่อสู้ เปิดโอกาสให้เขาหนีรอดได้
รัศมีกระพริบอยู่บนร่างของเขา, ทันใดนั้นเขาหายไปทันทีและปรากฏอยู่ในท้องฟ้าในครู่ต่อมา
‘นั่นคือ...’
เขาไม่ทันตั้งหลักมั่น แต่ก็รู้สึกถึงรังสีที่อธิบายไม่ได้ตรึงตัวเขาไว้ ม่านตาของเขาหรี่แคบทันที ศัตรูอยู่เหนือเขา
‘อะไรกัน?’
ฉีเซี่ยงตงใจสั่นสะท้าน สายตาของเขาเห็นสีสันหลากหลาย และใจเขารู้สึกเจ็บปวด
ความเสียใจเลือนรางเหมือนกับหมอกจากแผ่ซ่านจากภายในตัวเขา ทำให้สภาพใจของฟุ้งซ่าน
ภาพของสตรีที่จะว่าคุ้นก็ไม่ใช่ ไม่คุ้นก็ไม่เชิงผุดขึ้นในใจของเขา นางเป็นสตรีที่เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะจำได้ เขาคิดว่าเขาทิ้งความเจ็บปวดและความทุกข์ทนทั้งหมดที่เขาได้รับจากนางไปแล้ว เขาปล่อยมันไปกับอดีตไปแล้วและคิดว่านางจะไม่ส่งผลต่อเขาอีกต่อไป
แต่เมื่อภาพของนางปรากฏ ใจของเขาหยุดคิดชั่วคราว
กู้เสวี่ยบินอยู่ในท้องฟ้าอย่างสงบ
กฎธรรมชาติถวิลหาของนางฉายพลังออกทำให้นางรู้สึกถึงพลังที่มากมายอย่างไม่เคยพบมาก่อน นางไม่มีรังสีฆ่าฟันอยู่ที่ใบหน้าแต่อย่างใด มีแต่ความอ่อนโยน
กระบี่ราชันย์ถวิลรักเล่มใหญ่อยู่ในมือของนางเป็นกระบี่เล่มใหญ่ด้ามกระบี่ยาว ขณะที่มือของกู้เสวี่ยเล็กบอบบาง และจำเป็นต้องใช้สองมือถือกระบี่ให้มั่น ด้ามกระบี่คลุมด้วยเชือกเจ็ดสีแตกต่างกันและที่ปลายมีเมล็ดถั่วสีแดง ขอบกระบี่ดูคล้ายกับปีกนกนางแอ่นตัวกระบี่ย้อมไปด้วยสีเจ็ดสีเจ็ดแนวเส้นตรงเคียงข้างกันและกัน
นางชูกระบี่ราชันย์ถวิลรักไว้สูงด้วยมือทั้งสอง รังสีกระบี่สีรุ้งสำรอกออกมาคล้ายกับสายผ้าแพรโบกสะบัดทะลักลงมาจากท้องฟ้า ทั้งหมดแปรเปลี่ยนเป็นรุ้งขนาดยักษ์ฉายออกมาทั่วทั้งสนามฝึก
นี่คือวิชาใหม่ที่นางรู้แจ้ง ‘พลังม่านฟ้าถวิลหา’
กู้เสวี่เกิดมาก็เข้ากับวิชาโจมตีราชันย์ถวิลรักได้อย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากนางมีพลังสายเลือดรุ้งหิมะ ภายใต้การควบคุมของฉินเจิ้น พลังใจและความมุ่งมั่นของนางรุนแรงมากขึ้นและความเข้าใจของนางในวิชาพลังโจมตีราชันย์ถวิลรักของนางเหนือกว่าหวังหย่งในอดีตมานานแล้ว และเมื่อนางหลุดพ้นการควบคุมและเห็นถังเทียน สิ่งที่สั่งสมมาทั้งหมดประมวลเข้าด้วยกันนางจึงรู้แจ้งกฎธรรมชาติถวิลหาทันที เนื่องจากเป็นการสั่งสมที่ยิ่งใหญ่การรู้แจ้งของนางจึงเป็นการรู้แจ้งระดับสูงเข้าถึงผิวกฎธรรมชาติ
พลังม่านฟ้าถวิลหาไม่สามารถต้านด้วยพลังเถื่อนถึงได้ ดาบไม่สามารถตัดผ่านจิตใจที่โหยหาได้ กระบี่สายรุ้งที่งดงามและอบอุ่นไม่ตั้งใจทำอันตรายกับชีวิต แต่จะปลุกความโหยหาในใจส่วนลึกทั้งหมดให้ตื่นขึ้น
พลังม่านฟ้าถวิลหาของกู้เสวี่ยยังใหม่มาก แต่เนื่องจากนางเพิ่งรู้แจ้งในช่วงเวลาสั้นๆ นางสามารถคงไว้ได้เพียงชั่วลมหายใจเข้าออก20 ครั้ง
ในการสู้กันตัวต่อตัว แม้ว่ากู้เสวี่ยจะสามารถตรึงฉีเซี่ยงตงไว้ได้20 ชั่วลมหายใจเข้าออก แต่ยังขาดวิธีการคร่าชีวิตของเขา นางยังคงเป็นฝ่ายแพ้ โชคดีที่กู้เสวี่ยไม่ได้อยู่ตามลำพัง
สวี่อันจงและยอดฝีมืออีกสามคนแยกกันเป็นสี่มุม และในโลกสีเทาของเนี่ยชิว พวกเขาทุกคนเปล่งรัศมีเจิดจ้ากันทั้งนั้นจุดหยางของพวกเขากลายเป็นสว่างขึ้น
สายแสงสีแดงรั่วออกมาจากสมาชิกหน่วยสุญญตาทุกคนภายในกระบวนรบตัดขวางกับเส้นหยิน มันเข้าไปในร่างของคนทั้งสี่ นั่นเป็นพลังงานที่มีรูปบริสุทธิ์ที่สุดของร่างกาย
ทั้งสี่คนรู้สึกฮึกเหิมพลังเพิ่มแต่อให้พวกเขาฝึกมาในผิวกฎธรรมชาติ แต่พลังภายนอกนี้มีประโยชน์ต่อนักสู้ทุกคน ทั้งสี่คนกระตุ้นกฎธรรมชาติของพวกเขาพร้อมกัน จุดหยางทั้งสี่สว่างรับกับกู้เสวี่ยที่ยังสว่างเรืองรองอยู่ในท้องฟ้าทันที
ภายในพลังม่านฟ้าถวิลหา เต็มไปด้วยลม ไฟน้ำและสำนึกกระบี่ทันที
กฎธรรมชาติลมจากเบนสัน กฎไฟจากวิคเตอร์ กฎน้ำจากโรแลนด์ซู กฎสำนึกกระบี่จากสวี่อันจง
ฉีเซี่ยงตงรู้สึกถึงแรงกดดันทันที กระบี่สายรุ้งเจิดจ้าเข้ามาในสภาพใจของเขา เขาไม่สามารถต่อต้านได้ แต่มันไม่มีความสามารถทำร้ายแต่อย่างใด ‘เจ้าต้องการให้ข้าตายจากอารมณ์หดหู่ในใจหรือ?’ ฉีเซี่ยงตงแค่นเสียง
ขณะนั้นกระแสน้ำนับไม่ถ้วนเหมือนอสรพิษน้ำพุ่งออกมาจากม่านฟ้าถวิลหา ฉีเซี่ยงตงคำรามในใจ นี่คือแขนเสื้อวารีของตระกูลโรแลนด์ เป็นวิชาที่ดีจริงๆ แต่น่าเสียดายที่พลังที่โรแลนด์ซูระเบิดออกมายังไม่พอไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้
เขาหมุนร่างกลางอากาศทันทีทำให้แขนเสื้อน้ำทั้งหมดเฉียดผ่านตัวเขาไป ไม่ส่งผลต่อเสื้อผ้าของเขา
ม่านตาเขาหดลีบ สิ่งที่ตามคือกลุ่มไฟที่คล้ายกับดอกไม้ไหลเข้ามาระหว่างแขนเสื้อน้ำและกระบี่สายรุ้ง
ฟีนิกซ์เพลิง!
เทียบกับแขนเสื้อน้ำของตระกูลโรแลนด์แล้วฉีเซี่ยงตงประเมินให้ฟีนิกซ์เพลิงมีระดับที่สูงกว่า กล่าวกันว่าบรรพบุรุษตระกูลโซเบทได้รับการรู้แจ้งกฎแห่งไฟถึง 500แบบและเลือกที่แข็งแกร่งที่สุด 13 แบบผสานเข้ากันเป็นฟีนิกซ์เพลิง
แต่น่าเสียดายที่ตระกูลโซเบทรู้สึกอับเฉา วิคเตอร์มีพรสวรรค์ที่ดี แต่น่าเสียดาย เขาเอาแต่ทำตัวเจ้าสำราญ เขาหงุดหงิดและใจร้อน จึงยากที่เขาจะกลายเป็นคนมีความสามารถไปได้
เขาแค่กางนิ้วออกทำให้อากาศต่อหน้าเขาบิดเบี้ยวทันทีเพลิงที่ลอยเข้าหาเขาทั้งหมดดูเหมือนถูกผลักออกไปด้วยมือที่มองไม่เห็น และลอยออกไป
ขณะนั้นลมกระโชกกลับมาและเป่าให้ฟีนิกซ์เพลิงกลับเข้ามาหาฉีเซียงตงอีกครั้ง
ฉีเซียงตงรู้ทันทีว่าเป็นเบนสัน เขาชื่นชมเบนสัน เมื่อเทียบกับคนอีกสองคน เขาแข็งแกร่งมากกว่า และคนผู้สามารถรู้แจ้งดาบสายลมและพายุดาบได้ย่อมเป็นคนที่แข็งแกร่งทรงพลัง แต่น่าเสียดาย เขาแก่แล้ว
วิชาสายลมของเขาโดดเด่น แขนเสื้อน้ำและฟีนิกซ์เพลิงถูกเขาดันออกไป แต่กลับถูกผลักกลับมารายล้อมเขาไว้อย่างหนาแน่น
‘ถ้าเจ้าคิดว่าแค่นี้สามารถโค่นล้มข้าได้ นับว่าพวกเจ้าใจคับแคบไปแล้ว’
เขาหัวเราะในใจ
จากตื่นเต้นและไม่สบายใจตอนแรกที่เขาเปิดเผยตัวเองแค่เพียงสูดหายใจเข้าออกไม่กี่ครั้งเท่านั้น การโจมตีทั้งหมดดูเหมือนน่ากลัว แต่ในสายตาของเขา พวกเขาไม่สามารถทำให้เขาหวั่นไหวได้มากเท่ากับกระบี่สายรุ้ง เขาคุ้นเคยกับกฎธรรมชาติ พวกเขายังทรงพลัง แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเขา และสายใยกฎธรรมชาติที่พวกเขาแสดงก็ยังน่าสมเพช
ขณะนั้นรังสีกระบี่ดำและขาวลอยออกมาจากภายในแขนเสื้อวารีและฟีนิกซ์เพลิง
กฎธรรมชาติเป็นตาย?
ฉีเซี่ยงตงขมวดคิ้ว รังสีกระบี่เปล่งประกายรังสีเป็นตายเลือนราง แต่เขาได้ยินมาว่าบุรุษคนหนึ่งผู้แหกคอกของตระกูลสวี่ไปเรียนรู้วิชากระบี่แทนที่จะฝึกกฎเป็นตาย
เขาลอบผงกศีรษะในใจ ‘กระบี่นี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง’
‘แต่ก็แค่นั้น’
ฉีเซี่ยงตงแค่น ‘สนุกกันแค่นี้พอแล้ว’
เขาชี้นิ้วไปที่รังสีกระบี่ ด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ ‘กระบี่เป็นตาย แล้วยังไง? สามารถทำลายม่านมิติข้าได้ไหม?’
ขณะนั้นเอง รังสีกระบี่ดำและขาวบิดเบือนไป
ฉีเซี่ยงตงประหลาดใจทันใดนั้นเขาหรี่ตาแคบ ‘เป้าหมายของกระบี่ไม่ใช่ข้าแม้แต่น้อย!’
รังสีกระบี่ยิงออกไปเหมือนกับธนูและแทงเข้าที่ฟีนิกซ์เพลิงและแขนเสื้อวารี
น้ำและไฟเป็นกฎที่อยู่ขั้วตรงกันข้าม ดังนั้นการปะทะกันทำให้เกิดกลุ่มแสงแพรวพราว ขณะเดียวกัน ขณะเดียวกันลมพัดอ่อนพลันกล้าแข็งเหมือนเหล็กทันที
ฉีเซี่ยงตงสีหน้าเปลี่ยน เขาไม่สนใจทุกอย่างและใช้พลังผิวกฎธรรมชาติอย่างเต็มที่ทำให้พื้นที่รอบตัวเขาดูบิดเบี้ยว
ปัง ปัง ปัง!
แรงระเบิดจากรังสีกระบี่เป็นเหมือนโยนถังดินปืนเข้าไปในไฟ ฟีนิกซ์เพลิงที่เต็มไปด้วยความสงบในตอนแรกและแขนเสื้อวารีภายในกำแพงลมปะทะกันจนแก้วหูแทบแตก สว่างโพลนเป็นอันเดียวกัน
รัศมีสว่างแพรวพราวจากแรงระเบิดทำให้สายตาของฉีเซียงตงขาวโพลนไปหมด
กฎตรงกันข้ามปะทะกันก่อให้เกิดระเบิดที่ทรงพลัง นอกจากนี้ยังมีกำแพงลมผนึกเอาไว้
แม้จะมีม่านพลังกฎอวกาศป้องกันไว้ฉีเซี่ยงตงก็ยังได้รับบาดเจ็บ ร่างของเขาสั่นและเลือดไหลออกจากมุมปาก แรงระเบิดนี้ทำให้ผิวกฎธรรมชาติของฉีเซี่ยงตงหายไปถึงหนึ่งในสาม
ผมของฉีเซี่ยงตงยุ่งเหยิง รังสีอำมหิตแผ่ออกจากกาย เขาไม่เห็นพลังของคนทั้งสี่อยู่ในสายตา แต่เขาไม่คาดเลยว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากคนทั้งสี่
‘มาดูกันว่าพวกเจ้าสามารถทนได้แค่ไหน!’
การประสานงานของพวกเขาสมบูรณ์แบบอย่างน่าทึ่ง แต่ก็สิ้นเปลืองพลังของพวกเขาทั้งหมดม่านแสงรุ้งแปลกประหลาดมีพลังอย่างแท้จริง แต่ฉีเซี่ยงตงรู้ว่าพลังยิ่งใหญ่อย่างนั้นสิ้นเปลืองพลังมาก และพวกเขาไม่สามารถคงอยู่ได้นาน
ทันใดนั้น พื้นสั่นสะเทือนเสียงฝีเท้าดังขึ้นในหูเขา เหมือนสัตว์ร้ายวิ่งเข้าหาเขา
กู้เสวี่ยที่อยู่ในอากาศมองเห็นชัดเจน สมาชิกหน่วยสุญญตาทุกคนชูดาบยักษ์และเหมือนกับคลื่นซัด พวกเขาเร่งฝีเท้าตรงเข้าหาฉีเซี่ยงตงจากทุกทิศ พวกเขาเหมือนกับเป็นรูปปั้นของสัตว์ร้าย และเพิ่มดาบขนาดบานประตูเสียงฝีเท้าของแต่ละคนดังจนพื้นสั่นสะเทือน
คนสองสามร้อยคนเร่งฝีเท้าวิ่งตรงเข้ามาดูแล้วไม่ด้อยไปกว่าฝูงสัตว์ร้ายเลย
เมื่อสมาชิกหน่วยสุญญตาที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากฉีเซี่ยงตง100 เมตร เขากระโจนขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเงื้อดาบยักษ์เหนือหัวเขา
“ตาย!”
เสียงคำรามดังพร้อมกันและกล้ามเนื้อทุกมัดในร่างกายเขาชุดเหล็กทองเบาบางมองดูเหมือนกับจะฉีกขาด ขณะที่ตาของเขาจับจ้องดูอยู่ที่เป้าหมาย
เขาฟันใส่ฉีเซี่ยงตงที่ยืนอยู่บนพื้นข้างล่าง
ปัง เศษหินปลิวกระจายไปทุกที่
‘แย่จริง! พลาดเสียได้!’
หนึ่งในสมาชิกคร่ำครวญในใจ แต่เขารู้ว่าไม่ใช่เวลามาหงุดหงิดเขาขยับดาบไปด้านข้าง เขาหมุนตัวไปทางด้านข้าง
“ฆ่า!!”
สมาชิกของเขาที่อยู่ด้านบนคำรามห่างไปห้าก้าวด้านหลังเขา พวกเขากระโจนฟันด้วยเช่นกัน
“ฆ่า” “ฆ่า” “ฆ่า...”
คนแล้วคนเล่า ร่างที่เหมือนสัตว์ร้ายพุ่งมาจากทุกตำแหน่งเหมือนคลื่นทะเลซัดเข้าหาฝั่ง ทุกๆดาบฟันจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของดาบปีศาจ
ไม่ว่าพวกเขาจะฟันถูกเป้าหมายหรือไม่ พวกเขาจะกลิ้งหลบไปเพื่อสร้างพื้นที่
ระยะห่างระหว่างสมาชิกถูกคำนวณไว้อย่างแม่นยำ และเป็นที่เนี่ยชิวต้องการทำ การรุกจู่โจมที่ทรงประสิทธิภาพ ฉีเซี่ยงตงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง การโจมตีต่อเนื่องจากด้านบนไม่มีข้อบกพร่องใดๆ มันหนาแน่นมากจนทำให้เขารู้สึกสิ้นหวัง
ฉีเซี่ยงตงตะลึงอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าพลังของแต่ละดาบจะไม่รุนแรง แต่ก็ยังกินพลังในม่านกฎอวกาศที่เขาใช้ป้องกัน
การโจมตีด้วยดาบแบบต่อเนื่องทำให้เขาไม่มีความสามารถได้คิดโจมตีตอบโต้ พลังของเขาหมดลงไปตลอดเวลาม่านพลังกฎอวกาศของเขาเริ่มมีรอยร้าว บางดาบฟันใส่จุดเดียวกัน พลังที่น่ากลัวทำให้เขารู้สึกเหมือนตกอยู่ภายใต้การโจมตีของสัตว์ร้าย
นอกจากการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ยังมีมีสองกลุ่มขนาบซ้ายและขวา มีการรวมตัวอีกครั้งอย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขาเพิ่งเคลื่อนไหวออกมาครั้งแรก หานปิงหนิงและอาโมรี่
ทั้งสองมองหน้ากันเอง และเคลื่อนไหวพร้อมกัน
ที่ใต้เท้าของพวกเขาเส้นหยินขยายยืดยาวออกล้อมฉีเซี่ยงตงไว้